ตอนที่แล้วEp.974 - เปิดเผย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.976 - ผู้รับใช้ของเทพแห่งความมืด

Ep.975 - พบกันใหม่ในวันหน้า


Ep.975 - พบกันใหม่ในวันหน้า

หากฉินเฟิงคาดเดาไม่ผิด น่าจะเป็นช่วงกลางของแผ่นดินใหญ่ และหากมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ มีแนวโน้มว่าจะนำไปสู่สมองมังกรได้โดยตรง เพื่อไปยังตำแหน่งแก่นอบิลิตี้ของจ้าวเหนือหัว

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องในภายหลัง ที่นี่ยิ่งลึกยิ่งพลังงานยิ่งเปี่ยมล้น ส่งผลให้เกิดเงาแห่งความตายเหมือนช่วงเวลากลางคืน เกรงว่าหากเดินทางต่อไปจนถึงตกดึก คงไม่พ้นมีสัตว์ร้ายน่าหวาดกลัวปรากฏขึ้นมา เฉกเช่นการดำรงอยู่อย่างเจ้าของกรงเล็บแหลมคมก่อนหน้านี้

หากไม่ใช่เลเวล SS การมาที่นี่คงยาก ชนิดที่ว่าหากไม่เตรียมตัวมาให้ดี อาจไม่ได้รับผลกำไรใดๆ

อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงก็ต้องมีโอกาสได้รับโชคเป็นธรรมดา การปรากฏของเลือดมังกรที่ฉินเฟิงได้รับจากภายนอก บางทีที่นี่อาจมีเยอะยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นศิลานรก , เศษกระดูกมังกร ฯลฯ

ระหว่างวิ่ง พลังสมาธิของฉินเฟิงตรวจพบแร่บางอย่างเหมือนกัน แต่นี่ยังอยู่ช่วงปากทางเข้า ขนาดของมันเท่าเล็บมือ ฉินเฟิงเลยไม่สนใจ ยิ่งเพิ่มความเร็วของเขา

ซอร์และเลเวล S คนอื่นๆที่วิ่งตามหลังต่างตกตะลึง แต่ไม่กล้าเร่งความเร็วตาม

“นั่นแกคิดจะทำอะไร?” ซอร์กล่าวด้วยความโกรธ เริ่มคิดว่าฉินเฟิงกำลังเล่นตุกติกอะไรใช่หรือไม่ แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดก็คือ ซอร์ไม่สามารถไล่ทันความเร็วของอีกฝ่าย

นี่ไม่ได้หมายความว่าซอร์จะไม่มีวิธีสังหารฉินเฟิง เพียงแต่เบื้องหลังฉินเฟิงตอนนี้มีเงาแห่งความตายมากเกินไป ถ้าฆ่าฉินเฟิงแล้วใครจะเป็นคนลากเงาแห่งความตายเล่า?

ฉินเฟิงไม่มีความคิดที่จะหยุดฝีเท้าเขา ปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งความมืดปกคลุมไปทั่ว จากนั้นพลังสมาธิเริ่มเคลื่อนไหว แร่ตามรายทางที่มีขนาดใหญ่เริ่มถูกรวบรวมเข้ามาในอุปกรณ์มิติของฉินเฟิงอย่างลับๆ

ผ่านไปได้พักหนึ่ง ฉินเฟิงลดความเร็วลง คนอื่นๆสามารถไล่ตามทัน เวลานี้พลังสมาธิของฉินเฟิงถ่ายทอดออกไป

“ครบระยะ 10,000 เมตรแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนคนแล้วหรือยัง?”

จิตใจของผู้ใช้พลังเลเวล S คนอื่นๆตึงเครียดขึ้นมาทันที เกิดความกลัวว่าพวกตนอาจถูกเลือกเป็นตัวล่อเงาแห่งความตายเหล่านั้น

“ท่านผู้ใหญ่ซอร์ ฉันไม่เห็นว่าเด็กนั่นจะลำบากอะไรเลย เมื่อครู่เขาก็วิ่งเร็วมาก แสดงว่ายังเหลือแรงอยู่ เช่นนั้นปล่อยให้เขาวิ่งต่อไปจะดีกว่า!” เทพวูดูกล่าว

เอาจริงๆซอร์เองก็รู้สึกหงุดหงิดกับฉินเฟิงขึ้นมาบ้างแล้ว อีกฝ่ายเป็นแค่เลเวล A4 แต่กลับเล่นตุกติกต่อหน้าเขา ข้อเสนอของเทพวูดู ตรงกับความตั้งใจของซอร์พอดี

“วิ่งต่อไปเรื่อยๆ แกจะเปลี่ยนตัวได้ก็ต่อเมื่อฉันเอ่ยปากเท่านั้น! อย่าเสียเวลาพล่าม วิ่งต่อไป!”

สีหน้าของฉินเฟิงเรียบเฉย ทว่าภายในใจยิ้มเยาะ เขามองดูจำนวนเงาดำที่อยู่รอบตัว คิดคำนวณแล้วว่าจำนวนนี้น่าจะยังไม่สามารถสังหารซอร์ได้ ดังนั้นตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไป

มีมากกว่า 500 - 600 คนที่เข้ามาในถ้ำไขกระดูกมังกร บางคนวิ่งอยู่ใกล้ๆกับฉินเฟิง หลังจากผ่านไป 10,000 เมตร เลเวล S ก็ไม่อาจฝืนวิ่งล่อได้อีกต่อไป พวกเขาปลดปล่อยพลังสมาธิออกมา

“ไม่ไหวแล้ว ขอเปลี่ยนคนหน่อย!”

“ท่านผู้ใหญ่ ผมถึงขีดจำกัดแล้ว ได้โปรดช่วยผมด้วย!”

“เฒ่าปีศาจ! ถ้าฉันตาย พวกแกก็ต้องถูกกลบฝังไปพร้อมกับฉัน!”

ผู้ใช้พลังเลเวล SS ถัดจากฉินเฟิงพอถูกด่า ก็ลงมือทันที ความว่องไวของเขารวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ ผู้ใช้พลังเลเวล S ที่พูดถูกตัดต้นขาของเขาทันที กลิ่นอายของเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว เงาแห่งความตายโดยรอบกระโจนเข้ารุมทึ้งเขา

เดิมผู้ใช้พลังเลเวล S ก็ไม่สามารถหลบหนีเงาแห่งความตายได้อยู่แล้ว สิ่งที่คนเลเวล SS ลงมือ เท่ากับเป็นการเร่งเวลาตายของเขา

“ไปกันต่อ!” ผู้ใช้พลังเลเวล SS กล่าว เอ่ยเร่งคนข้างหลังเขา เลือกคนใหม่ไปเป็นตัวล่อต่อ

สำหรับเงาแห่งความตายที่ยังคงอยู่ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าถูกดึงดูดไปรวมตัวกันที่เลเวล S ขาขาด

ฉากดังกล่าว ทำให้ผู้คนหวาดผวา เลเวล S คนอื่นๆทุ่มเต็มกำลัง ไม่มีใครอยากตาย

นี่มันโหดร้ายเกินไป พอไม่มีประโยชน์ อีกฝ่ายก็สามารถสังหารพวกตนได้ทันที ใช้เป็นเหยื่อล่อแทน

ฉินเฟิงไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้เลย ดังนั้นไม่คิดเอ่ยปากถามไถ่เรื่องการสลับเปลี่ยนคนอีกต่อไป

ฉินเฟิงวิ่งไม่หยุดเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดมาไกลถึงระยะ 100,000 เมตร เนื่องจากไม่มีการเปลี่ยนตัวเลย เงาแห่งความตายที่อยู่เบื้องหลังเขาจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คาดคะเนด้วยการรับรู้น่าจะมีสัก 4,000 - 5,000 ตัว

เงาแห่งความตายทวีจำนวนเยอะเกินไป ชนิดที่ว่าบางจุดมีหลายตัววิ่งซ้อนทับกัน

ภายใต้การรับรู้ของคนเหล่านี้ เงาแห่งความตายมหาศาลเบื้องหน้า เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน

เทพวูดูกับเช่าไท่มองมันด้วยความตื่นตระหนกยิ่ง ซอร์เองก็เริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี

“เจ้าหนู ความแข็งแกร่งของแกไม่เลวเลย ในเมื่อเป็นแบบนั้น ฉันจะยอมปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่ต่อไป จงอ้อมเส้นทางและวิ่งกลับไปทางเดิมเสีย ส่วนเรื่องที่ว่าจะออกไปได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแกแล้ว!” ซอร์กล่าว

ณ จุดนี้ เขาไม่กล้าใช้วิธีเดียวกันกับเลเวล SS คนก่อนหน้า ที่สังหารลูกน้องตนเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อ มิใช่เพราะซอร์ใจดี แต่เงาแห่งความตายที่ไล่ตามฉินเฟิงมีเป็น 4 - 5 พันตัว แค่ฉินเฟิงศพเดียวไม่เพียงพอล่อพวกมันทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบันพวกเขาได้มาถึงระยะ 100,000 เมตรของหุบเขาไขกระดูกมังกรแล้ว แม้ช่วงต้นของตำแหน่งนี้จะได้รับการสำรวจโดยเลเวล SS มาก่อนแล้วจนแทบไม่เหลืออะไร แต่ลึกเข้าไปมีสมบัติอยู่อย่างแน่นอน ในขณะที่ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงพิสดารเกินไป หากนำไปด้วยซอร์เกรงว่าอีกฝ่ายอาจสร้างปัญหาให้ตน

ฉินเฟิงที่กำลังคิดจะใช้เทคนิคโอบกอดทมิฬพอดี เจ้าตัวสะดุ้งตกใจ ไม่นึกเลยว่าแผนการยืมมือเงาแห่งความตายสังหารซอร์ อีกฝ่ายจะจับความผิดปกติได้ บางทีนี่อาจเป็นสัมผัสที่หกของพวกองค์กรมืด!

แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน มีเงาแห่งความตายมากมาย ถ้าพวกมันทั้งหมดถูกสังหาร พลังงานที่เอ่อล้นออกมา ต้องมากพอให้ฉินเฟิงยกระดับพลังสมาธิไปถึงเลเวล A8 ได้แน่ๆ

ดังนั้นฉินเฟิงจึงไม่ลังเล ถ่ายทอดพลังสมาธิน้อมรับคำสั่งของซอร์

“ขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ที่เมตตาไม่สังหาร แล้วพบกันใหม่ในวันหน้า!”

ที่บอกว่าพบกันใหม่ในวันหน้า มิใช่แค่การพูดลอยๆ แต่ฉินเฟิงจะต้องมาหาเจ้าบ้านี่อีกครั้งอย่างแน่นอน

ซอร์ทำตัวสูงส่ง หยิ่งผยองมานานแล้ว หากไม่มอบของกำนัลให้มันซะบ้าง นั่นคงไม่ใช่นิสัยของฉินเฟิง

ฉินเฟิงวิ่งเบี่ยงเส้นทาง ปล่อยให้พวกซอร์พุ่งผ่านฝูงเงาแห่งความตาย หายไปจากสายตาเขา

เมื่อฉินเฟิงหายไป คนที่เหลือต่างถอนหายใจโล่งอก แต่ก็มีคำถามใหม่เกิดขึ้น นั่นคือใครจะเป็นเหยื่อล่อคนที่สอง?

ฉินเฟิงไม่สนใจคนที่เหลือ หลังจากจากไปพร้อมกับเงาแห่งความตาย พลังการรับรู้ก็ขยายขอบเขตอย่างรวดเร็ว หลังตรวจสอบว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ เขาก็ไม่คิดเก็บงำความสามารถอีกต่อไป

“เทคนิคยุคเยือกแข็ง!”

ศิลาศักดิ์สิทธิ์น้ำแข็งนับไม่ถ้วนเริ่มใช้คุณสมบัติของตน เสริมอำนาจทำลายล้างแก่อบิลิตี้ ปลดปล่อยการโจมตีอันทรงพลังออกมา ฝูงเงาแห่งความตายที่ไล่ตาม ทั้งหมดถูกแช่แข็งทันที

ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์คราม สะบั้นศีรษะศัตรูอย่างรวดเร็ว อักษรรูนมืดและพลังสมาธิไหลเป็นกระแส ถูกดึงดูดเข้ามาหลอมรวมเข้ากับจักรวาลแห่งจิตสำนึกของฉินเฟิง ค่อยๆเติมเต็มเงื่อนไขจนมาถึงขีดจำกัด

ตูมมมม!

จิตสำนึกของฉินเฟิงส่งเสียงกึกก้องอีกครั้ง พลังสมาธิยกระดับไปอีกขั้น

ก้าวขึ้นสู่เลเวล A8!

“มิติของจ้าวเหนือหัว เต็มไปด้วยโอกาสทองให้ไขว่คว้าอย่างแท้จริง!” ฉินเฟิงรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง เกิดความคิดขึ้นมา ว่าถ้าอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพัก การตัดผ่านสู่เลเวล S ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก

หลังจากกวาดล้างเงาแห่งความตายเหล่านี้ ฉินเฟิงก็ไม่คิดซ่อนกลิ่นอายของเขา ในทางตรงกันข้าม เจ้าตัวกลับเลือกปลดปล่อยกลิ่นอายที่เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตของตนออกมา แต่ก็กลัวว่าจะยังไม่เพียงพอ ฉินเฟิงนำผลึกโลหิตออกมา ใส่ไว้ในกระเป๋าของเกราะทมิฬ

ผลึกของอสูรโลหิตท่วมท้นไปด้วยกลิ่นอายแห่งชีวิต ทันทีที่ฉินเฟิงหยิบมันออกมา เงาทะมึนไม่ว่าจะจากข้างบนหรือใต้พื้นดิน ก็ตรงเข้ามา

ฝูงเงาแห่งความตายรวมตัวกัน มุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียว

ฉินเฟิงเริ่มวิ่งอีกครั้ง

วิกฤตที่คนอื่นไม่ต้องการจะเข้าร่วม แต่ฉินเฟิงกลับเต็มใจกระโจนลงไปทำเช่นนั้น เฝ้าหวังว่าเงาแห่งความตายจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงไม่ได้ตรงไปยังทิศทางที่ซอร์จากไป เขายังไม่ต้องการพบพวกนั้นในตอนนี้

วิ่งได้ไม่นาน ฉินเฟิงพลันได้ยินเสียงร้องคำรามลั่น พร้อมกลิ่นอายอันรุนแรงกวาดเป็นคลื่นมาจากต้นทางของเสียง

“สัตว์ยักษ์แห่งความมืด!”

ฉินเฟิงตอบสนองได้ทันที ว่าเจ้าของเสียงคือตัวอะไร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด