Dual Cultivation บทที่ 710 เลือดกิเลนม่วง (ฟรี)
Dual Cultivation บทที่ 710 เลือดกิเลนม่วง
หลังจากบีบปราณหยางหยดสุดท้ายของเขาลงในร่างกายของซีซิงฟางแล้ว ซูหยางก็ถอดกระบองศักดิ์สิทธิ์ของเขาออกจากช่องรักของเธอ ก่อนที่จะปิดผนึกด้วยยันต์เพื่อกักเก็บปราณหยางไว้ในร่างกายเธอ เพื่อรับประกันการปฏิสนธิ
"ซูหยาง..." ซีซิงฟางมองเขาด้วยสายตาหลงใหลขณะที่เธอนอนอยู่บนฟูกด้วยร่างกายอ่อนล้า เปล่งประกายระยับไปด้วยหยาดเหงื่อ
"เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง" ซูหยางถามขณะที่เขานอนลงข้างๆเธอ
"เหมือนข้ากำลังฝัน ..." เธอพูดเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่นบนใบหน้า
ซูหยางหัวเราะเบาๆกับคำตอบของเธอ ก่อนที่จะป้ายเลือดของตนเองลงบนผนึกตระกูลที่ปรากฏบนร่างกายของซีซิงฟาง
"ข้าจะฝึกฝนวิชาชั่วครู่" จากนั้นซูหยางก็พูดกับเธอ
ในเวลาต่อมากระแสพลังที่ลึกล้ำก็ได้เปล่งออกมาจากร่างกายของซูหยาง เมื่อเขาได้ก้าวไปถึงระดับที่เก้าเขตอัมพรวิญญาณ
"เจ้าสามารถพักอยู่ที่นี่ต่อ ในขณะที่ข้ารอกิเลนม่วง ตอนนี้ข้ามีร่างพันพิษมิกรายเช่นกันแล้ว ข้าไม่ต้องกังวลเรื่องหมอกพิษอีกต่อไป" เขาพูดกับซีซิงฟาง
และก่อนที่จะจากข้างกายเธอไป ซูหยางก็ได้สร้างค่ายกลปกปิดรอบๆเรือเหาะเพื่อให้ซีซิงฟางได้พักผ่อนอย่างเป็นสุข
หลังจากกลับไปที่รังของกิเลนม่วง ซูหยางก็หาที่นั่งลงฝึกวิชาต่อไป แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีร่างพันพิษจากการรับความบริสุทธิ์ของซีซิงฟาง แต่เขาก็ยังต้องควบคุมและค่อยผสานมันเข้ากับร่างกายของเขา เพื่อที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายในภายภาคหน้า และเนื่องจากเขาเคยทำสิ่งนี้มาแล้วมากกว่าแสนครั้งกับร่างสวรรค์นับแสน ขั้นตอนนี้จึงเสร็จสิ้นอย่างง่ายดายราวกับหายใจ
แน่นอน เนื่องจากร่างพันพิษเดิมทีเป็นของซีซิงฟาง และเขาเพียงแค่ดูดซับพลังของมันบางส่วน มันจึงไม่ได้ทรงพลังเท่า 'ร่างพันพิษมิกราย' และมีประสิทธิภาพเท่าร่างร้อยพิษมิกรายเท่านั้น
ถ้าซูหยางต้องการความแข็งแกร่งดั้งเดิมของร่างพันพิษมิกรายจริงๆ เขาจะต้องใช้วิชาการฝึกยุทธที่ชั่วร้ายเพื่อบีบเอาร่างสวรรค์ของซีซิงฟางมาเป็นของตัวอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม นั่นจะส่งผลให้ซีซิงฟางสูญเสียร่างสวรรค์ของเธอ และมีเพียงผู้ฝึกฝนที่ชั่วร้ายเท่านั้นที่จะใช้กลวิธีที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้
จากที่กล่าวมานั้น แม้ว่าร่างพันพิษของเขาจะไม่ทรงพลังอย่างที่ควรจะเป็น แต่นั่นก็เกินพอที่จะต้านทานหมอกพิษภายในพนาหลงลืม
หลังจากรออีกสองชั่วโมง ทันใดนั้นซูหยางก็ลืมตาขึ้น
วินาทีต่อมา โลกก็สั่นสะเทือนและเสียงคำรามก็ดังก้องอยู่เหนือตัวเขาเมื่อกิเลนม่วงได้ปรากฏขึ้น
"ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้วงั้นรึ" ซูหยางพึมพำขณะที่เขายืนขึ้นและมองไปที่กิเลนม่วงที่กำลังเปล่งพลังที่จุดสูงสุดของเขตอัมพรวิญญาณ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่ซีหวังประมาณไว้มาก
โฮกกกกกกกกกกก
กิเลนม่วงส่งเสียงร้องเสียดหูอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ามีมนุษย์บุกเข้ามาในอาณาเขตของตนซึ่งเป็นที่ตั้งของลูกในครรภ์อีกด้วย
"เรามาจบเรื่องนี้กันดีกว่า ข้าไม่ชอบอากาศในที่นี้มันมีกลิ่นเหมือนอึ" ซูหยางเข้าใกล้กิเลนม่วงอย่างใจเย็น พร้อมกับปราณกระบี่ที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา
กิเลนม่วงพุ่งเข้าหาซูหยางทันทีพร้อมกับอ้าปากกว้าง ก่อนที่มันจะพ่นน้ำลายพิษออกมาจำนวนมากเข้าใส่เขา
ตูม
ปราณกระบี่รอบซูหยางระเบิดออก ทำลายน้ำลายพิษก่อนที่มันจะมาถึงตัวเขา
"ช่างน่าขยะแขยง" ซูหยางส่ายหน้าและโบกแขนเสื้ออย่างลวกๆ
หวีด
ทันใดนั้นแสงกระบี่ก็วาดเป็นวงโค้งขนาดมหึมาบินตรงไปที่กิเลนม่วง
และในขณะที่ปราณกระบี่กำลังจะหั่นกิเลนม่วงเป็นสองซีก มันก็กระโดดถอยหลังและหายไปในช่องว่างมิติหลบปราณกระบี่ไป
ซูหยางเลิกคิ้วเมื่อเห็นสิ่งนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก
หลังจากเงียบและนิ่งอยู่ชั่วขณะ ทันใดนั้นซูหยางก็หันกายกลับพร้อมกับแกว่งแขน
หวีด
อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com
คมปราณกระบี่อีกกระแสหนึ่งก็บินออกจากแขนของเขา แต่ว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ในทิศทางที่เขาเพิ่งโจมตีไป
แต่ทว่า ในวินาทีต่อมา ช่องว่างมิติก็ปรากฏขึ้นยังตำแหน่งที่ปราณกระบี่กำลังพุ่งเข้าหา และในขณะที่กิเลนม่วงโผล่หัวออกมาจากช่องว่างมิติ ปราณกระบี่ก็อยู่ตรงหน้ามันแล้ว
ฉั่วะ
กิเลนม่วงถูกตัดหัวในทันที และส่วนที่เหลือของร่างกายก็หลุดออกมาจากช่องว่างมิติในวินาทีต่อมา
ซูหยางรีบดึงขวดหลายขวดออกมาจากแหวนมิติของเขาทันที เพื่อรวบรวมเลือดกิเลนม่วงจนกระทั่งเขามีเลือดกิเลนม่วงกว่าร้อยขวดซึ่งมากเกินความต้องการในการรักษาอาการของซีซิงฟาง
เมื่อเขาเก็บเลือดกิเลนม่วงได้เกือบหมดแล้ว ซูหยางก็ตรงไปเก็บไข่ใบใหญ่ในรังก่อนจะกลับไปที่ข้างกายซีซิงฟาง
"เจ้ามีเลือดกิเลนม่วงแล้วรึ" ซีซิงฟางถามหลังจากเห็นเขา
"เรียบร้อยแล้ว เจ้าพร้อมที่จะกลับบ้านหรือยัง"
เธอพยักหน้า
หลังจากเก็บที่นอนกลับเข้าไปในแหวนมิติแล้ว ซูหยางก็ควบคุมเรือบินทำการบินกลับไปที่เมืองหิมะโปรย โดยมีซีซิงฟางนั่งข้างๆเขาและพิงศีรษะไปที่ไหล่เขา ดูเหมือนคู่รักที่สนิทสนม
ในเวลาต่อมาพวกเขาก็กลับไปหาคนอื่นๆ
"ซูหยาง ซิงเอ๋อร์เจ้ากลับมากันแล้ว พวกเจ้ามีเลือดกิเลนม่วงหรือไม่" ซีหวังทักทายพวกเขาด้วยใบหน้าเป็นกังวล
"ใช่พวกมันอยู่ที่นี่" ซูหยางเปิดขวดให้เขาดู
"อาฮ่าฮ่าฮ่า สุดยอด ตอนนี้ซิงเอ๋อร์ก็จะสามารถรักษาได้ในที่สุด" ซีหวังหัวเราะด้วยความตื่นเต้น
ในขณะเดียวกันเจ้าซีก็จ้องมองไปที่ซีซิงฟางอย่างเงียบๆด้วยสีหน้าสับสน
'เป็นแค่ข้าคิดไปเองหรือมีอะไรที่แตกต่างไปเกี่ยวกับซิงเอ๋อร์' เขาคิดสงสัยในใจ
จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าซีซิงฟางยืนอยู่ใกล้ซูหยางมากกว่าปกติที่เธอทำในอดีตมาก ใกล้มากจนเกือบจะแนบชิดกัน
ส่วนหญิงสามคนที่มีผนึกตระกูลของซูหยางนั้น พวกเธอรู้ได้ถึงสถานการณ์ในทันทีที่พวกเธอเห็นซีซิงฟาง และสัมผัสถึงความเชื่อมโยงกับอีกฝ่าย
'ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับความรู้สึกในใจของเจ้าแล้วสินะ' เหลียนลี่พูดในใจพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า