Ep.972 - ร่างเงามังกรดำ
Ep.972 - ร่างเงามังกรดำ
“ร่างมนุษย์สดใหม่ที่พวกแกพูดถึงก่อนหน้านี้มันไปอยู่ที่ไหน? ทำไมยังไม่มาเสียที? แต่ก็ไม่เป็นไร ใช้พวกแกแทนก็ได้! ตามมากับฉัน พวกเราจะไปหุบเขาไขกระดูกมังกร!”
สีหน้าของเทพวูดูกับเช่าไท่ แปรเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
สถานที่เช่นหุบเขาหุบเขาไขกระดูกมังกร หากบุกเข้าไปด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา มันจะไม่ตายเอาหรือ?
แต่มานึกเสียใจเอาตอนนี้คงสายไปแล้ว พวกเขาไม่มีทางขัดขืนซอร์ได้
ตอนนี้ ในที่สุดทั้งสองก็เข้าใจ ว่าการสมคบคิดกับเสือ ต้องพบจุดจบอย่างไร!
…
ณ ภาคกลางของบาฮามุท ฉินเฟิงอยู่ในภูเขาหิน ในที่สุดก็ค้นพบศิลานรก
“แค่ตำแหน่งนี้ก็สามารถขุดหาศิลานรกได้แล้ว ไม่เลวเลย ดูเหมือนว่าจากนี้ไปคงยิ่งได้กำไรมากขึ้น” ฉินเฟิงใส่ศิลานรกเข้าไปในจักรวาลแห่งจิตสำนึก
เขาเริ่มเดินทางต่อ แต่ไม่นาน เจ้าตัวก็เห็นร่างสองร่างปรากฏเหนือยอดเขาสองลูกเบื้องหน้า
เพียงแต่ว่า .. เจ้าของร่างทั้งสองนี้ ไม่ใช่เผ่ามนุษย์
หนึ่งในนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีปีกสีดำอยู่บนแผ่นหลัง ไล่ลงมาเป็นหาง คือเอกลักษณ์ของเผ่ามังกร
อีกหนึ่งสูงสี่เมตร มีแขนแปดคู่อยู่ตามแนวแผ่นหลัง สิบหกมือถืออาวุธที่แตกต่างกัน ดูสง่างาม เอ่อล้นไปด้วยแรงกดดัน
ฉินเฟิงต้องการสำรวจพื้นที่ต่างๆ การปรากฏตัวของสองร่างเท่ากับเป็นตัวปัญหา เดิมฉินเฟิงใช้กลิ่นอายความมืด ร่วมกับรูนมืดปกปิดตัวตนของเขา แต่เมื่อเห็นสองคนตรงหน้า ฉินเฟิงร่ายเทคนิคซ่อนเงาซ้อนทับอีกชั้นทันที ผลุบตัวหายลงไปอย่างไร้ร่องรอย
‘มีแขนแปดคู่ นั่นน่าจะเป็นเผ่าหัตถ์วังวนเลเวล SS!’
พอสามารถระบุความแข็งแกร่งฝ่ายแรกได้ ฉินเฟิงก็เหลือบมองไปยังเผ่ามังกรอีกครั้ง การที่สามารถต่อกรกับแขนทั้งแปดคู่ได้โดยลำพัง บ่งบอกว่ามังกรตัวนี้ก็เป็นเลเวล SS เช่นกัน
เพียงแต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ทั้งสองจึงอยู่ในสภาวะชะงักงันเช่นนี้
ท้องฟ้าเบื้องบน กำลังจะมืดลงในไม่ช้า
“นูฮะ ในเมื่อพวกเราไม่ว่าใครก็ไม่สามารถรับสมบัติชิ้นนี้ได้ เช่นนั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนเป็นอย่างไร? หุบเขาไขกระดูกมังกรกำลังจะเปิดแล้ว ถ้าพวกเรามัวแต่ทำแบบนี้ คงไม่มีใครได้ประโยชน์!” เผ่ามังกรเอ่ยปาก
“วาจาน่าฟังนัก แต่ทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย? จะมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณจะไม่ย้อนกลับมา?”
“ด้วยชื่อเสียงหลงอ่าว(มังกรอ่าว)ของข้า ยังไม่เพียงพอหรือ?”
“แน่นอนว่าไม่พอ!”
“งั้นเจ้าต้องการเช่นไร?”
“เอาเป็นว่า พวกเราสองคนเดินทางไปหุบเขาไขกระดูกมังกรด้วยกันเลยเป็นไง? ร่วมมือกันสู้ในครั้งนี้ นอกจากไม่ต้องคอยระแวงว่าจะมีใครแอบมาขโมยแล้ว บางทีพวกเราอาจสามารถคว้าโอกาสจากข้างในนั้นก็ได้”
มังกรอ่าวใคร่ครวญสักพัก ก็พบว่าความคิดนี้เข้าท่าเหมือนกัน บางทีนูฮะอาจกำลังหาคนร่วมมืออยู่ก็ได้ แต่ดันบังเอิญมาเจอกับตนเข้า
“ตกลง”
ทั้งสองต่างเห็นพ้อง บรรยากาศไม่เคร่งเครียดอีกต่อไป จากนั้นร่วมมือกัน ปิดผนึกหุบเขาเอาไว้ ฉินเฟิงสามารถรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกเขา ภายใต้การรับรู้ เนินเขาที่เตี้ยกว่ายอดเขาทั้งสองเล็กน้อย ได้หายไปจากการตรวจจับผ่านพลังสมาธิ
จากนั้น ทั้งสองก็จากไป
แต่ทิศทางที่พวกเขากำลังมุ่งหน้า มันมิใช่ทางทิศเหนือซึ่งเป็นจุดสั่งสมของพลังงาน แต่เป็นทางทิศใต้ที่ฉินเฟิงจากมา
รอจนแน่ใจว่าทั้งสองจะไม่หันหลังกลับมา ฉินเฟิงจึงออกจากที่ซ่อน จากนั้นมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่พวกเขาปิดผนึกบางสิ่งบางอย่างเอาไว้
“สมบัติอะไรกัน ที่กระทั่งสองผู้ใช้พลังเลเวล SS ก็ยังไม่สามารถครอบครอง?”
“นอกจากนี้ หุบเขาไขกระดูกมังกรมันเรื่องอะไรกัน?”
“อันดับแรกต้องลองไปตรวจสอบดู!”
ฉินเฟิงเดินไปยังสถานที่ที่ทั้งสองปิดผนึก กลไกของที่ทั้งคู่วางไว้ไม่เลวเลยจริงๆ มีกระทั่งใช้งานอักษรรูนมืด ซ่อนเนินเขานี้เอาไว้
อย่างไรก็ตาม กลไกดังกล่าวในสายตาของฉินเฟิง ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด เพราะอักษรรูนที่ฉินเฟิงครอบครอง ไม่ด้อยไปกว่าพวกเขา ที่แตกต่างกันมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือพลังสมาธิ
“เทคนิคโอบกอดทมิฬ!”
ร่างของฉินเฟิงกลายเป็นหมองหม่น หลอมรวมเข้ากับความมืดมิด ก้าวผ่านกำแพงอุปสรรคที่ทั้งสองร่ายไว้อย่างง่ายดาย เข้ามาข้างใน
เมื่อก้าวเข้ามา ฉินเฟิงก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายในได้อย่างชัดเจน
เนินเขาเล็กๆลูกนี้ แท้จริงแล้วถูกสร้างขึ้นโดยอบิลิตี้มืด มีรูปร่างและลักษณะคล้ายมังกรยักษ์นอนหมอบพื้น
คล้ายกับว่าสามารถรับรู้ได้ถึงการมาเยือนของฉินเฟิง ร่างมังกรที่ก่อตัวขึ้นจากความมืดตนนี้ ล็อคเป้าลงบนร่างของฉินเฟิงทันที เสี้ยววินาทีต่อมา มันอ้าปากพ่นพลังแห่งความมืดอันน่าสะพรึง
“โฮกกกกก!!”
ฉินเฟิงถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะโล่ปราณกำลังภายใน , โล่แห่งความมืด ล้วนถูกเรียกออกมาใช้งาน
โล่แห่งความมืดชั้นแรกล้มเหลวในการผสานเข้ากับพลังแห่งความมืดสายนี้ สลายหายไปในพริบตา โล่ปราณกำลังภายในเข้ารับหน้าแทน
หึ่ง หึ่ง!
“จงหยุดมัน หยุดมันให้ได้!”
ดาราทั้งเก้าปรากฏขึ้นเบื้องหลังของฉินเฟิง โล่ปราณกำลังภายในหนาขึ้นเก้าชั้นทันที
เดิมโล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงหนาสิบเซนติเมตร พริบตาเดียวมันหนาเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งเมตร สร้างกำแพงที่มิอาจทำลาย
อย่างไรก็ตาม พลังอำนาจจากเสียงคำรามนี้ยิ่งนานยิ่งรุนแรง เริ่มหลอมละลายโล่ปราณของฉินเฟิง
ทว่าก่อนที่โล่ปราณกำลังภายในจะละลายหายไปอย่างสิ้นเชิง ปรากฏมือคู่หนึ่งยื่นออกมาจากในความว่างเปล่า จากนั้นลากฉินเฟิงหนีหายวับไป
ในวินาทีเดียวกันนั้นเอง รังสีแสงทมิฬกวาดกลืนตำแหน่งที่ฉินเฟิงเคยยืนอยู่ ทันใดนั้นความมืดมิดก่อตัวขึ้นทั่วบริเวณ
ภายในพื้นที่มิติ ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงเหงื่อเย็นผุดพรายขึ้นบนแผ่นหลังเขา นับแต่เกิดใหม่จนถึงวันนี้ ฉินเฟิงเคยคิดว่าการโจมตีของเลเวล S มันก็แค่นั้นแหละ ไม่ได้เกินความสามารถของเขา แต่ไม่คาดฝันเลยว่า--
“--ไม่สิ ... เมื่อกี้ไม่น่าใช่อบิลิตี้เลเวล S เพราะมันไม่มีทางทรงอานุภาพถึงขนาดนี้!”
เช่นนั้นก็เหลือเพียงคำตอบเดียว!
เมื่อครู่คือพลังที่ถูกปลดปล่อยโดยผู้ใช้พลังเลเวล SS! ยิ่งไปกว่านั้น ความรุนแรงดังกล่าว มิใช่อะไรที่ใครนึกจะปล่อย ก็ปลดปล่อยได้ง่ายๆ
เฝ้ารอจนกระทั่งทุกอย่างสงบลง ก็ผ่านไปกว่าสิบนาที สิ่งที่แปลกก็คือ นอกจากบรรยากาศมืดมิดที่ก่อตัวขึ้นแล้ว อย่างอื่นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ร่างเงามังกรดำตัวนี้ เกรงว่าคงจะเป็นเงาแห่งความตายเช่นกัน นี่คงไม่พ้นเป็นจิตสำนึกของจ้าวเหนือหัว!” ไป๋หลีกล่าว
ฉินเฟิงพอได้ยิน สมองที่สับสนว้าวุ่นของเขาบรรลุแจ้งทันที กระทั่งแววตายังทอประกายเจิดจ้า
หากเจ้าสิ่งนั้นเป็นเฉกเช่นเดียวกับเงาแห่งความตาย ถ้าอย่างนั้นมันไม่ได้หมายความว่า การสังหารมังกรดำตัวนี้ จะเท่ากับการได้รับอบิลิตี้เทคนิคใหม่หรอกหรือ?
“ตอนนี้ถอยกลับพื้นที่มิติก่อน แล้วค่อยเข้าไปตรวจสอบมันอีกครั้ง”
“รับทราบ”
ทั้งสองถอยกลับเข้าไปในพื้นที่มิติขนาดย่อม มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่นูฮะและมังกรอ่าวปิดผนึกเอาไว้ การที่สร้างผนึกเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าพวกเขายังมิได้แตะต้องสิ่งที่อยู่ข้างใน
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มังกรดำยังไม่ถูกทั้งสองกำจัด
ฉินเฟิงตรวจสอบอย่างรอบคอบ เขาพบว่ารูนที่สร้างเจ้ามังกรดำตัวนี้ อักษรรูนบ้างก็ออกจากตัวมัน บ้างก็มีอักษรรูนกลับเข้าไปเติมเต็ม
ภาพนี้ทำให้ฉินเฟิงย้อนนึกไปถึงเมื่อครั้งเขาอยู่ในสถานที่รับสืดทอดมรดกของหญิงหิมะ อบิลิตี้ที่เขาได้รับ ล้วนเป็นอักษรรูนที่ถูกสลักไว้บนเสาหิน แม้ในที่นี้จะไม่มีหลากหลายเผ่าพันธุ์ต่อสู้แก่งแย่ง แต่สถานการณ์ในตอนนี้นับว่าคล้ายคลึงกัน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉินเฟิงก็เริ่มแผ่พลังสมาธิของเขาออกมาอย่างระมัดระวัง จากนั้นเปิดใช้งานพลังพิเศษดูดกลืน
พลังสมาธิเมื่อสัมผัสกับรูนที่กำลังร่ายระบำในอากาศ ราวกับสามารถหว่านแหถูกเหยื่อชั้นดี อักษรรูนเหล่านี้ถูกเกี่ยว ไหลมาตามพลังสมาธิของฉินเฟิง
ด้วยความพยายามอย่างค่อยเป็นค่อยไป ฉินเฟิงสามารถนำรูนมืดกลับมาได้มากถึง 1,000 อักษร แม้ฟังดูค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับมังกรดำ นี่ไม่ต่างจากขนเส้นหนึ่งบนตัววัว
อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนรูนดังกล่าว มันช่วยให้จิตวิญญาณของฉินเฟิงเริ่มตื่นตัว
พลังพิเศษดูดกลืน เริ่มทำผลงานของมันอีกครั้ง
“ดูดกลืน!”
อักษรรูนถูกรวมเข้ากับจักรวาลแห่งจิตสำนึกของฉินเฟิง ฉินเฟิงปลดปล่อยพลังสมาธิของเขาอีกครั้ง ไล่ควานหาอักษรรูนในอากาศ โดยที่ไม่ให้มังกรดำรู้ตัว