สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 56
ตอนที่ 56 แม่มด, ศพที่หายไป และกล้องวงจรปิดเพี้ยน
เมื่อดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของอาคารแล้ว เป็นไปได้ว่าที่นี่ไม่มีกล้องวงจรปิดในอาคารเก่าๆ แบบนี้แน่นอน
ระบบการรักษาความปลอดภัยเดียวที่อพาร์ตเมนต์นี้มีคือหญิงสูงวัยที่เฝ้าตรงประตูทางเข้าหลัก เธอเป็นหญิงสูงอายุ มีอายุประมาณ 60 ปีแต่ทว่าเธอยังดูแข็งแรงดีแม้ว่าเธอจะอายุมากแล้วก็ตาม
เมื่อเห็นหยฺงชราคนนี้ทำให้ลุคนึกถึงคุณยายลูซี่ทันที แต่ลุคพนันได้เลยว่าคุณยายคนนี้ไม่น่ากลัวเท่าคุณยายลูซี่แน่นอน
เซลิน่าเข้าไปหาหญิงชราพร้อมแสดงตราของกรมตำรวจในกระเป๋าสตางค์ของเธอ ซึ่งที่ด้านหนึ่งของกระเป๋าสตางค์จะมีตราตำรวจในขณะที่อีกด้านหนึ่งจะเป็นบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งตราเหล่านี้จะออกให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีสิทธิในการแต่งกายด้วยชุดพลเรือนในขณะปฎิบัติงาน
หญิงชราไม่ได้ตกใจเมื่อเห็นตำรวจนอกจากนี้เธอยังออกจะแสดงออกว่าเป็นมิตรกับพวกลุคด้วยซ้ำ เมื่อเธอได้ยินว่าพวกลุคต้องการกุญแจสำรองเพื่อเปิดห้อง ที่เกิดเหตุฆาตกรรมหญิงชราจึงหยิบกุญแจจากบอร์ดแขวนกุญแจที่อยู่ด้านหลังเธอและส่งให้เซลิน่า “นี่เป็นกุญแจสำรองอันเดียวที่ฉันมี อย่าลืมคืนฉันหล่ะเมื่อพวกคุณทำงานเสร็จแล้ว”
เซลิน่าขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่ทั้งสองจะเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ
แน่นอนเลยว่าอาคารเก่าๆ แบบนี้ไม่ได้ลิฟท์แน่นอน
เมื่อพวกเขามาถึงที่ห้อง 305 พวกเขาเห็นที่ประตูกั้นไว้ด้วยเทปสีเหลืองของหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง เซลิน่าแกะเทปออกและเปิดประตูด้วยกุญแจที่พึ่งได้รับมา
และทั้งคู่ก็เข้าไปในห้อง
อันที่จริงแล้วถ้ามีเทปเหลืองพันไว้ด้านหน้าทางเข้าหรือรอบๆ ที่เกิดเหตุและไม่มีใครอยู่ภายในสถานที่เกิดเหตุนั่นก็สามารถพอจะอนุมานได้ว่าพวกกองพิสูจน์หลักฐานได้ทำงานของพวกเขาไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นลุคและเซลิน่าจึงไม่จำเป็นต้องสวมถุงมืออีกต่อไป แต่พวกเขาจำเป็นต้องระวังว่าจะไม่ย้ายตำแหน่งสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในห้อง
เมื่อมองไปที่ร่องรอยรูปร่างคนสีขาวที่วาดเอาไว้แสดงถึงจุดที่เหยื่อเสียชีวิตบนพื้นลุคกล่าวขึ้นว่า “เซลิน่า คุณลองตรวจสอบแถวๆ นี้นะ เดี๋ยวผมจะลองไปดูที่ห้องนอนก่อน”
หลังจากที่เซลิน่าพยักหน้า ลุคก็ไปที่ห้องนอน
เนื่องจากว่าพวกตำรวจเข้ามาพบศพอยู่ที่ห้องนั่งเล่น และห้องนอนก็แยกกับห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ดังนั้นห้องนอนก็ยังคงเหมือนเดิมเป็นส่วนใหญ่
ลุคสแกนรอบๆ ห้องก่อนจะตะโกนเรียก “เซลิน่า”
เซลิน่าเดินเข้าไปที่ห้องนอนและเมื่อเธอเห็นห้องนอนเธอก็ค่อนข้างตกใจเช่นกัน
“คุณเคยเจอเคสที่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนแบบนี้รึเปล่า” ลุคถามด้วยสีหน้าแปลก ๆ
เซลิน่าส่ายหัว “ไม่เคยนะ เมืองของเราไม่ค่อยมีคนที่เชื่อเรื่องราวอาถรรพ์ลี้ลับอะไรแบบนี้”
“แล้วคุณพอจะรู้ไหมว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร??” ลุคถาม
เซลิน่ามองรอบๆ ห้องก่อนจะส่ายหัว “ไม่รู้สิ แต่ว่ามีบางอันที่น่าจะเกี่ยวข้องกับพวกหมอผี (วูดู) แต่ฉันไม่แน่ใจว่าของอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ คืออะไร แต่ฉันมั่นใจว่าสิ่งของที่อยู่ที่นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับลัทธิหรือศาสนาทั่วๆไปแน่นอน”
ลุคพยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นว่า "เอาหล่ะ ดูเหมือนเหยื่อของเราจะเป็นแม่มดนะเซลิน่า”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันโทรศัพท์ของลุคก็ดังขึ้น ลุครับโทรศัพท์และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า "เข้าใจแล้ว" ก่อนจะวางสาย
เซลิน่าถามว่า “มีอะไรเหรอ??”
ลุคตอบว่า “ไปกันเถอะ ดูเหมือนว่าศพแม่มดหายไปแล้ว”
เซลิน่าพูดว่า “อะไรนะ?”
เมื่อพวกเขากลับลงไปชั้นล่างเซลิน่าก็คืนกุญแจให้กับหญิงชราผู้เฝ้าที่ชั้นล่างซึ่งเธอยังอยู่ที่เดิมเหมือนกับก่อนพวกขึ้นไปด้านบนนอกจากนี้เซลิน่ายังส่งนามบัตรและบอกให้โทรหาเธอหากเจอเบาะแสอะไรเพิ่มเติม จากนั้นทั้งสองก็กลับเข้าไปในรถ
เมื่ออยู่ในรถเซลิน่าก็ถามว่า "เกิดอะไรขึ้น? ศพหายไปได้ยังไง”
“เจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรศพกำลังจะเริ่มทำการชันสูตรศพ แต่ทว่าก่อนที่จะเริ่มพวกเขาไปเข้าห้องน้ำและหลังจากที่กลับมาก็พบว่าศพที่นอนอยู่บนเตียงก็หายไปแล้ว” ลุคตอบคำถามเซลิน่า
เซลิน่าถามต่อว่า “แล้วกล้องวงจรปิดหล่ะจับภาพได้ไหม”
“ไม่รู้สิ แต่ถึงยังไงเราจะต้องตรวจสอบสถานที่ด้วยตัวเองแหล่ะ เพราะว่าบร๊อคโทรหาฉันเมื่อกี้ เขาบอกให้เราดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับศพที่หายไปด้วย เพราะการหายไปของศพอาจเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมของเรา” ลุคตอบเซลิน่าตามข้อมูลเท่าที่เขามี
เซลิน่าดูค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยพร้อมพูดขึ้นว่า “เฮ้อ ฉันนึกว่าเธอฟื้นคืนชีพแล้วท่องคาถาอะไรสักอย่างก่อนที่เธอจะเทเลพอร์ตหายไปซะอีกนะเนี่ย”
ลุคตอบว่า “ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ผมว่าเราไม่สามารถเก็บคดีไว้เป็นของพวกเราได้แล้วหล่พ”
เซลิน่าถามว่า“แล้วใครจะรับช่วงคดีนี้? เอฟบีไองั้นรึ?”
ลุคมีสีหน้าแปลก ๆ ขณะที่เขาพึมพำ“ไม่หรอก ชิลด์ต่างหาก”
เซลิน่าถามว่า“อะไรนะ??”
ลุคตอบว่า “เปล่าๆ เซลิน่ามองถนนด้วย”
เมื่อพวกเขามาถึงศูนย์นิติเวชทั้งสองก็เข้าไปหลังจากแสดงบัตรประจำตัวของตำรวจแล้ว
เมื่อพวกเขามาถึงห้องเก็บศพพวกเขามองหาเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพที่ชื่อว่า ทอม ก่อนที่จะบอกว่าเหตุผลที่พวกเขามาที่นี่
ทอมเป็นชาวคอเคเชี่ยนผิวขาว วัยกลางคนและเขาชอบพูดค่อนข้างเบา แม้ว่าร่างกายเขาจะดูใหญ่โตพอสมควร
แม้ว่าทอมจะต้องให้ข้อมูลกับนักสืบสองคนที่เห็นได้ชัดว่าเป็นมือใหม่ แต่ทอมก็ไม่ได้ข่มหรือกวนพวกลุคแต่อย่างใด ทอมเลือกที่บอกเขาทุกอย่างที่เกิดขึ้น
อันที่จริงแล้วข้อมูลจากทอมก็ไม่ได้มีอะไรใหม่เพิ่มเติมเข้ามามากนักแทบจะเหมือนๆ ที่บร็อคบอกกับลุค ลุตใช้เวลาเพียงแค่สามนาทีเท่านั้นในการฟังทอมเล่า
เมื่อเช้าทอมดื่มกาแฟก่อนที่จะเริ่มทำงาน พอดื่มไปได้ซักพักทอมก็รู้สึกถึงศัตรูที่บุกเข้ามาดังนั้นทอมจึงไปที่ห้องน้ำ เมื่อเขากลับมา เขาพบว่าศพที่อยู่บนโต๊ะชันสูตรศพได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ลุคยังคงนิ่งเงียบและปล่อยให้เซลิน่าถามคำถามกับทอมต่อไปเรื่อยๆ
ลุคบอกได้เลยว่า ทอมแลดูจะมีความสุขที่ได้สนทนาร่วมกับผู้หญิงสวย ๆ อย่างเซลิน่า แทนที่จะคุยกับผู้ชายอย่างลุค
“มีบันทึกกล้องวงจรปิดไหม??”
ทอมตอบว่า“เมื่อคืนนี้กล้องวงจรที่นี่มันปิดพังหน่ะ และก็มีช่างเข้ามาที่นี่เพื่อซ่อมพวกมันในช่วงเช้านี้แหล่ะ เพราะงั้นกล้องมันยังเสียอยู่ตอนที่ศพหายไปหน่ะ”
ลุคพูดแทรกขึ้น “แล้วช่างซ่อมกล้องไปอยู่ไหนแล้ว??”
ทอมนิ่งไปล็กน้อยเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ลุคถามคำถามเขาตั้งแต่พวกลุคมาถึง
แต่ทอมก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่แน่ใจเหมือนกัน แผนกโลจิสติกส์เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ คุณลองถามพวกเขาดูได้นะ”
จากนั้นเซลิน่าก็เก็บสมุดบันทึกของเธอลงในกระเป๋าของเธอและก่อนที่จะยิ้มให้กับทอม “ขอบคุณนะคะ ทอม”
รอยยิ้มของเซลิน่าทำให้ทอมนิ่งค้างไปซักพักก่อนที่ทอมจะรีบพยักหน้ารับอย่างประหม่า“อ๊ะ อ...ครับ ไม่ได้รบกวนอะไรผมเลย ผมยินดีมากๆ ครับ”
จากนั้นสาวลาตินคนสวยก็โบกมือให้ทอมก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เซลิน่าวิ่งเหยาะๆ ตามลุคไปพร้อมกับพูดคุยกับเขา“นายคิดว่าไง??”
ลุคตอบว่า“อย่างแรกเราไปดูกันก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับกล้องวงจรปิด มันบังเอิญเกินไป คุณยังจำสิ่งที่โรเบิร์ตบอกเราได้ไหม”
เซลิน่าเอียงหัวอย่างครุ่นคิดพร้อมกับพูดขึ้นว่า“ถ้าเกิดกำลังไขคดีแล้วมีเหตุการณ์บังเอิญเกิดขึ้นหลาย ๆ อย่างพร้อมกันมักจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ?”
ลุคพยักหน้า “ดังนั้น เราต้องให้ได้ว่าทำไมกล้องวงจรปิดถึงเสีย”
หลังจากที่เซลิน่าถามทางกับคนสองคนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงแผนกโลจิสติกส์ ก่อนที่เซลิน่าจะแนะนำตนเองและบอกเหตุผลว่าทำไมเธอกับลุคถึงอยู่ที่นี่ในตอนนี้
ผู้รับผิดชอบแผนกนี้คือตำรวจหญิง ดังนั้นเซลิน่าจึงปล่อยให้ลุครับผิดชอบการซักถามในครั้งนี้
ทั้งสองเข้าใจกันในเรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มเป็นคู่หูกันใหม่ๆ แล้ว
โดยทั่วไปแล้วเซลิน่าจะรับผิดชอบในการสื่อสารกับผู้ชายเมื่อเห็นได้ว่าเป้าหมายนั้นไม่ได้มีท่าทีอันตรายหรือคุกคามความปลอดภัย และลุคจะรับผิดชอบในการสื่อสารกับหญิงวัยกลางคนและวัยชรา นั่นเป็นงานของเขาเพราะใบหน้าที่หล่อเหลาและอ่อนโยนของเขา
ลุคคุยกับตำรวจหญิงพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าและบอกเธอว่าพวกเขามาทำไม
เมื่อตำรวจหญิงเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลายิ้มกว้างต่อหน้าเธอเธอก็รู้สึกประทับใจเล็กในตัวเขา
หลังจากดูตรานักสืบของลุคแล้วเธอก็บอกชื่อ บริษัทที่ดูแลรักษากล้องวงจรปิดให้ลุครู้
Wales Dalick Electronic Communications Co., Ltd. คือชื่อของบริษัทที่ทำสัญญาซ่อมบำรุงรักษากล้องวงจรปิดในอาคารนี้
ลุคขอใช้โทรศัพท์ของสำนักงานที่นี่และโทรไปที่บริษัทดังกล่าว
หลังจากที่ลุคแนะนำตัวของตนเองแล้ว ลุคเริ่มทำการซักถามปลายสายสองสามข้อก่อนที่จะรอและฟังคำตอบที่ ซึ่งคำตอบทำให้ลุคทำสีหน้าสีหน้าแปลก ๆ
หลังจากคุยสายเสร็จแล้ว ลุคกล่าวขอบคุณตำรวจหญิงอีกครั้งก่อนที่เขาและเซลิน่าจะจากไป
เซลิน่าถามว่า "เกิดอะไรขึ้น??"
ลุคตอบว่า“คนในสายบอกผมว่าพวกเขายังไม่ได้รับโทรศัพท์จากแผนกนิติเวช เลยว่าจะให้เข้าซ่อมกล้องวงจรปิดเพราะมันเสีย เพราะงั้นพวกเขาก็ไม่ได้ส่งใครมาที่นี่ในวันนี้”
เซลิน่า:“หือ?”
ลุคยิ้ม “น่าสนใจแฮะ. ผมว่าเรา…”
.
B_R : ปุกาศ ปุกาศ !!!!!!!!!
ช่วงนี้จะช้าหน่อยนะครับผู้อ่านทั้งหลาย
แต่จะพยายามเร่งให้ได้อ่านกันไวๆ นะครับ
.
.
เรามีเพจแล้วน้าเข้าไป Follow กดถูกใจ พูดคุย ติดตามข่าวสารกันได้น้า ….
https://www.facebook.com/สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ-SDFW-105519611538127