Ep.969 -ทำลายทารกปีศาจ
Ep.969 -ทำลายทารกปีศาจ
เจ้าสิ่งนี้ ฉินเฟิงย่อมจดจำมันได้
ความฉลาดของเผ่าพันธุ์มนุษย์กินคนมีจำกัด แต่ความเร็วในการสืบพันธุ์ของพวกมันอยู่ในระดับที่น่าหวาดกลัว บ่อยครั้งที่มักจะมีตัวตนที่แข็งแกร่งถือกำเนิดออกมา ส่วนทารกปีศาจเป็นวิธีการโจมตีที่พบได้บ่อยที่สุดของเผ่ามนุษย์กินคน
ทว่าทารกปีศาจเหล่านี้ แท้จริงแล้วพวกมันคือจิตวิญญาณของเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา
ก่อนฉินเฟิงกลับมาเกิดใหม่ เคยเข้าร่วมการปราบปรามผู้รุกรานผ่านรอยแยกมิติ ครั้งนั้นมนุษย์กินคนบุกมิติโลกมนุษย์ ช่วงเวลาดังกล่าว มีผู้คนในเมืองใกล้เคียงกว่า 4 - 5 เมืองถูกสังหารหมู่ โดนจับมากลั่นเป็นทารกปีศาจ
สำหรับทารกปีศาจทั้งสามตรงหน้า พวกมันอยู่ในระดับนายพลเลเวล S น่ากลัวว่าอีกฝ่ายคงเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาไปนับล้านจิตวิญญาณจึงทำเช่นนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากรูปร่างของพวกมัน ที่สังหารไปมากที่สุด คงไม่พ้นเผ่ามนุษย์อย่างแน่นอน
ความเร็วของฉินเฟิงช้าลงเล็กน้อย กริซในมือเขาสอดกลับเข้าที่เอว ต่อมา ถูกแทนที่ด้วยมีดยาว
ฉินเฟิงถือฝักด้วยมือข้างเดียว อีกข้างค่อยๆชักมีดกษัตริย์ครามออกมา
ฟึ่บบบ!
เสียงลั่นของคมมีดดังฟังชัด ทั้งยังแฝงไปด้วยเสียงคำรามของจิตวิญญาณอันน่าหวาดกลัว
ฉินเฟิงหมุนตัวไปรอบๆ ใบมีดตัดกวาดเป็นรูปแบบเสี้ยวพระจันทร์
ทารกปีศาจอ้าปากกว้าง แสดงท่าทีดุร้าย กัดลงบนมีดกษัตริย์คราม
ทารกปีศาจพวกนี้ ต่อให้มันไม่สามารถทำลายอาวุธศัตรูได้ แต่ตราบใดที่ถูกกัด อาวุธก็จะปนเปื้อนกลิ่นอายของพวกมัน สุดท้ายจิตวิญญาณของอาวุธจะค่อยๆสูญเสียไป ไม่ต่างจากการกัดกร่อน
ฉินเฟิงย่อมทราบถึงเรื่องนี้ แต่มีดกษัตริย์ครามมิใช่สิ่งที่จะถูกกัดกร่อนได้เพียงเพราะมันโดนปนเปื้อน
ทั้งสองปะทะกัน วิญญาณบนมีดกษัตริย์ครามคำรามออกมาทันที นอกจากนี้ยังกัดสวนเข้าใส่ทารกปีศาจ ฉากนี้ราวกับว่ามีสัตว์อสูรยักษ์สองตัวกำลังฉีกทึ้งกันและกัน ฉันกัดหนังคุณ คุณแทะเนื้อฉัน
“แอ๊!!!!”
ทารกปีศาจกรีดร้องน่าสังเวช จากนั้นก็เริ่มถูกวิญญาณบนมีดกษัตริย์ครามกระชากเป็นชิ้นๆ สลายหายไประหว่างสวรรค์และปฐพี
หากให้กล่าวอธิบายอย่างช้าๆ ในความเป็นจริง ฉินเฟิงเพียงกวัดแกว่งมีดกษัตริย์คราม ต่อมาทารกปีศาจก็ถูกหั่นเป็นซาซิมิแล้ว
อ๊อกกก!
มนุษย์กินคนกระอักเลือดคำหนึ่ง ทารกปีศาจถูกหล่อหลอมขึ้นจากเลือดบริสุทธิ์ของมัน เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับจิตสำนึกของตนเองได้ สั่งการได้ดั่งแขนขา แต่ตอนนี้มันกลับถูกสังหารในพริบตา สำหรับมนุษย์กินคน นี่ไม่ต่างจากการถูกหักแขน ผลสะท้อนทำให้มันได้รับบาดเจ็บภายใน
ขณะเดียวกัน ทารกปีศาจอีกสองตัวก็ถูกไล่ทันแล้วเช่นกัน ฉินเฟิงปาดโจมตีจากซ้ายสุดไปขวาสุด มีดกษัตริย์ครามกะพริบไหวอีกครั้ง
เพิกเฉยต่อมิติเบื้องหน้า รังสีคมมีดกรีดผ่านอากาศที่ว่างเปล่า ตัดลงบนร่างของทารกปีศาจสองตนในพริบตา
พรวดดด!
ทารกปีศาจถูกหั่นเป็นสองท่อน!
“อ๊าาาาาา!!” มนุษย์กินคนโหยหวนน่าอนาถ เลือดหลั่งออกจากอวัยวะทั้งเจ็ดของมัน หากทารกปีศาจตายไปตัวหนึ่ง นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมัน ทว่าปัจจุบันทารกปีศาจตายไปถึงสาม นับเป็นเรื่องใหญ่ที่บาดเจ็บร้ายแรงลึกไปถึงกระดูก
การเชือดเฉือนสองครั้งนี้ของฉินเฟิง ส่งผลให้เผ่านกปีกดำหยุดปีกของมัน ไม่คิดบุกมาข้างหน้าอีกต่อไป
หากอีกฝ่ายเป็นแค่ลูกพลับอ่อนนุ่ม มันย่อมโผเข้าจิกอย่างไม่ลังเล แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงเสมือนดั่งแผ่นเหล็กกล้า เผ่านกปีกดำไม่คิดง้างเตะ เหตุใดต้องทำให้เท้าของตนรู้สึกเจ็บปวดด้วยเล่า?
ในเวลานั้นเอง คนจำนวนมากเริ่มตามมาสมทบจากระยะไกล หินดาราเป็นสมบัติที่ดี ทุกคนต้องการมัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนจำนวนมากรวมกลุ่มกัน เห็นได้ชัดว่ามิใช่เรื่องดี
“ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่ ….”
เสียงหัวเราะจากนรกดังสะท้อน เงาแห่งความตายทยอยปรากฏขึ้นทีละตน
ฉินเฟิงเฝ้ามองเงาแห่งความตายปรากฏกายขึ้นด้านหลังมนุษย์กินคน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย เขาก็ไม่คิดทำตัวเป็นคนดีร้องเตือน
“มาได้จังหวะพอดี มือฉันจะได้ไม่ต้องเปื้อนเลือดสกปรก!” ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็นชา
แน่นอน เงาแห่งความตายปรากฏขึ้นเบื้องหลังมนุษย์กินคน นั่นหมายความว่าเบื้องหลังฉินเฟิง ก็ปรากฏขึ้นในทำนองเดียวกัน
ที่นี่มีคนรวมตัวกันเยอะเกินไป บวกกับพวกที่ตามมาทีหลัง ทำให้ตอนนี้มีผู้ใช้พลังถึงสิบคน
เมื่อมีคนรวมตัวกันมาก กลิ่นอายของพลังชีวิตย่อมเข้มข้นเป็นธรรมดา ส่งผลให้เงาแห่งความตายเสมือนฉลามได้กลิ่นเลือด ตรงเข้ามารุมขย้ำ
ทันใดนั้น เงาแห่งความมืดปรากฏตัวมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มจำนวนจนมากกว่าคนในที่นี้ถึงสองเท่า
มีอย่างน้อย 20 เงาแห่งความตาย ทั้งหมดเริ่มออกไล่ล่า
ฉินเฟิงเก็บมีดกษัตริย์คราม ร่างของเขาสว่างวาบ หักเลี้ยวออกไป ฉีกหลบการไล่ล่าของเงาแห่งความตาย
ตัวตนทรงอำนาจเผ่านกปีกดำเห็นฉิงเฟิงไม่สู้เงาแห่งความตาย ก็คาดว่าอีกฝ่ายคงมิอาจรับมือ มันฉวยจังหวะนี้พุ่งหาฉินเฟิงทันที เมื่อเข้าประชิด หมอกหนาสีดำก็ฟุ้งออก ปกคลุมร่างกายมัน
เป็นรูนมืด!
รูนมืดสามารถกลบซ่อนกลิ่นอายของตัวเองได้ รวมไปถึงพลังชีวิตด้วย หลังจากเผ่านกปีกดำกลบซ่อนกลิ่นอาย มันวางแผนว่าเงาแห่งความมืดจะเบนเข็ม หันไปหาสิ่งมีชีวิตอื่น ส่วนตนสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย
“ช่างเพ้อฝัน!”
ฉินเฟิงพบว่าช่างไร้สาระ รอบกายเขา อักษรรูนแห่งความมืดเฉกเช่นเดียวกันถูกปลดปล่อยออกมา
เดิมฉินเฟิงสวมเสื้อคลุมดำอยู่แล้ว เมื่อรูนแห่งความมืดปกคลุมลงไป ก็เหมือนกับเป็นการปิดกั้นการมองเห็นนอกเนื้อคลุมอีกชั้นหนึ่ง กลายเป็นดูลึกลับและคาดเดาไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายในปัจจุบันของฉินเฟิง แม้จะยืนอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ แต่พวกเขาก็ไม่แม้จะสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของคนเป็นอีกต่อไป
ดังนั้น เงาแห่งความตายที่ไล่ล่าเผ่านกปีกดำจึงไม่หายไป รวมไปถึงเงาที่ไล่ตามฉินเฟิงก่อนหน้านี้ ยังหันมารุมโจมตีเผ่านกปีกดำ
“นี่มันเป็นไปไม่ได้!” เผ่านกปีกขนตกใจจนหน้าซีด เดิมตนวางแผนให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับอีกฝ่าย ไฉนสุดท้ายเป็นตัวเองที่รับเคราะห์ ตัวมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่เกิดมาความอบิลิตี้มืด แต่ตอนนี้กลับสู้รูนมืดของฉินเฟิงไม่ได้
เดิมคิดโยนภาระให้ผู้คน ไม่คาดหวังว่าจะเป็นตนที่ตกหลุมซะเอง
เผ่านกปีกดำ สยายปีกบินขึ้นสูงทันที หลบหนีด้วยความสิ้นหวัง
ทวีปบาฮามุดไม่สามารถบินสูงได้ เพราะเบื้องบนกระจายไปด้วยพลังงานรุนแรงบ้าคลั่ง การบินจำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมาก และเมื่อพลังงานในร่างกายไม่เพียงพอที่จะต้านทานผลกระทบจากสภาพแวดล้อม พวกเขาก็จะได้รับบาดเจ็บจากรูนมืด
อาจกล่าวได้ว่า ในทวีปบาฮามุท ทุกช่วงเวลา ทุกคนที่ก้าวเข้ามาไม่ต่างจากกำลังเต้นเร่าอยู่บนปลายมีด
เผ่านกปีกดำหลบหนีไปได้ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ใช้พลังเลเวล S คนอื่นๆในที่นี้ จะสามารถหลบหนีได้
เนื่องจากก่อนหน้านี้มนุษย์กินคนได้รับบาดเจ็บจากฉินเฟิง ดังนั้นไร้กำลังที่จะต่อต้าน ไม่นานเงาแห่งความตายก็บุกเข้าไปในร่างกายของมัน เลือดและเนื้อถูกสูบออกทันที เริ่มเน่าเปื่อย กลิ่นอายแห่งชีวิตค่อยๆจางหาย กลิ่นอายแห่งความตายค่อยๆเข้มข้นขึ้น
ไม่นาน ร่างที่เคยอวบอั๋นของมนุษย์กินคน ก็กลายเป็นผอมโซหนังหุ้มกระดูก
จากนั้น ตัวมันสั่นสะท้านไม่กี่ครั้ง ก่อนฟุ่บลงกับพื้นเสียงดังโครม!
กราววว ….
ไม่ต่างจากโครงกระดูกที่ผ่านลมผ่านฝนมานาน หลังจากแหลกเป็นชิ้นและร่วงลงกับพื้น มันก็ร่วนเป็นผง สุดท้ายกลายเป็นฝุ่น ผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของพื้นดิน
ผู้ใช้พลังเลเวล S กลับตกตายอย่างสิ้นเชิงในสภาพเช่นนี้ น่าเหลือเชื่อนัก
ฉินเฟิงอยู่ในบริเวณใกล้เคียง มิอาจสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ฟุ้งกระจายออกมาจากเลือดเนื้อ เกรงว่าเงาแห่งความตายคงกลืนกินมันไปหมดแล้ว แต่พลังสมาธิของมนุษย์กินคนยังคงเหลือ ยามนี้ระเบิดออกมา ปรากฏหมอกหนาที่แทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าลอยขึ้นจากพื้นดิน
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่หมอกธรรมดา หากแต่เป็นพลังงาน!
“พลังพิเศษดูดกลืน!”
ฉินเฟิงโฉบกายไปข้างๆศพของมนุษย์กินคนทันที อบิลิตี้ติดตัวกวาดกลืนพลังงานนี้ สูดมันเข้าสู่โลกแห่งจิตสำนึกของเขา
การตายของผู้ใช้พลังเลเวล S ปลดปล่อยพลังงานขนาดใหญ่
ฉินเฟิงสามารถรู้สึกได้ถึงพลังสมาธิของเขาที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว จนใกล้ทะลุจุดที่สามารถตัดผ่านได้แล้ว
สายตาของฉินเฟิงเปลี่ยนไปทันที กวาดมองเลเวล S คนอื่นๆที่อยู่รอบๆ พบว่าเวลานี้ ที่เหลือยังคงพัวพันกับเงาแห่งความตาย
พริบตานั้นแต่ละคนสัมผัสได้ถึงกระแสเย็นเยียบผุดขึ้นบนแผ่นหลัง รู้สึกได้ถึงสายตาชั่วร้ายที่จ้องมองมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเผ่านกปีกดำที่เคยคิดวางกับดักฉินเฟิง เจ้าตัวสัมผัสได้ถึงกระแสเย็นเยียบนี้เป็นพิเศษ