สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 55
ตอนที่ 55 บ้านใหม่, และคดีแรก
ทั้งสองขอบคุณมิลลี่ก่อนที่จะพากันออกจากที่ทำงานของพวกเขาไป
ทางกรมตำรวจให้เวลาพวกเขาสามวันในการเลือกที่พักและจัดเตรียมข้าวของที่จำเป็นต้องใช้จำพวกอาวุธและเครื่องป้องกันตัวให้แล้วเสร็จก่อนที่พวกเขาจะเริ่มงานอย่างเป็นทางการ
ที่ทางกรมให้เตรียมตัวก่อนเริ่มงานเพราะว่าแผนกอาชญากรรมหลักของที่นี่นั้นมีงานค่อนข้างมากกว่าที่อื่นๆ และถึงแม้เทียบกับแผนกอื่นก็มากกว่า เพราะฉะนั้นถ้าพวกเขาเริ่มทำงานอย่างเต็มรูปแบบแล้วพวกเขาจะไม่มีเวลาที่จะมาจัดของแน่นอน กระทั่งเวลาพักผ่อนก็ยังคงไม่มีให้พวกเขาเลยด้วยซ้ำ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทางกรมจะมอบช่วงเวลาพักผ่อนอันแสนสบายให้กับพนักงานใหม่ก่อนที่จะเผชิญกับงานมากมายที่รุมเร้าอย่างไม่หยุดหย่อน
ลุคและเซลิน่าไม่รอช้า พวกเขาใช้เวลาตลอดครึ่งวันในการไปดูบ้านทั้งแปดหลังจากการคัดเลือกเป็นอย่างดีและเห็นตรงกัน ในที่สุดพวกเขาก็เลือกที่อาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์สองห้องนอนใกล้ๆ กรมตำรวจ
อันที่จริงเหตุผลสำคัญที่พวกเขาเลือกอพาร์ตเมนต์หลังนี้เพราะว่าคำนึงถึงความเงียบสงบของพื้นที่เป็นหลัก ที่นี่ไม่ได้มีการจราจรหนาแน่นหรือมีประชากรจำนวนมากใกล้เคียง ถนนเส้นเดียวที่อยู่ใกล้กับอพาร์ทเมนต์เป็นถนนเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านหลังของอาคาร
ตัวอาคารของอพาร์ตเมนต์ค่อนข้างเก่า แต่ทว่ายังสะอาดดี ห้องที่พวกลุคเช่ากินพื้นที่ทั้งหมดขนาดประมาณ 50 ตารางเมตร แบ่งเป็นห้องนอนสองห้องมีขนาดค่อนข้างเล็กประมาณห้องละ 10 ตารางเมตร ห้องนั่งเล่นเองก็ไม่ได้ใหญ่มากนักกินพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร
โชคดีที่ค่าเช่าอพาร์ทเมนต์ห้องนี้ค่อนข้างถูกอยู่แล้วและเป็นเพราะทั้งคู่แชร์ค่าเช่ากันจึงทำให้มันถูกลงไปอีกมาก
หลังจากพวกเขาเซ็นในสัญญาเช่าเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็เริ่มขนย้ายสิ่งของจากรถเข้าไปในอพาร์ตเมนต์
ท้ายรถกระบะและเบาะหลังเต็มไปด้วยสัมภาระซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นของเซลิน่า
ลุคไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเซลิน่าถึงนำเสื้อผ้าและรองเท้ามามากมาย อันที่จริงส่วนใหญ่แล้วพวกเขาสวมเครื่องแบบตำรวจทั้งวันอยู่แล้ว
เซลิน่ากลอกตาเมื่อได้ยินคำถามนี้มาจากลุค ซึ่งเธอคิดว่าเป็นคำถามงี่เง่ามากๆ “ลุค พวกเรากำลังทำงานกับแผนกอาชญากรรม ดังนั้นส่วนใหญ่เราไม่ใส่เครื่องแบบเวลาออกไปสืบกันหรอก และอีกอย่างนะไหนๆ พวกเราไม่ต้องใส่เครื่องแบบแล้วทำไมฉันจะเตรียมชุดดีๆ ไว้ไม่ได้หา?? นายจะให้ฉันออกตรวจด้วยกางเกงยีนส์ขาดๆ รึไง??”
คำตอบของเซลิน่าทำให้ลุคอึ้งจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว
ลุเอาเสื้อผ้าชุดรำลองติดตัวมาเพียงไม่กี่ชุดและตอนออกจากบ้านเขามาพร้อมกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวด้วยซ้ำ
สำหรับเซลิน่าเธอมีกระเป๋าเดินทางทั้งหมดห้าใบ ซึ่งตัวเธอเองพยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะลดจำนวนกระเป๋าของเธอลง อันที่จริงก่อนหน้านี้เธอมีกระเป๋าทั้งหมดถึงแปดใบซึ่งในกระเป๋าจะเต็มไปด้วยเสื้อผ้าของเธอทั้งหมด
หลังจากย้ายของเข้าอพาร์ทเมนต์เสร็จแล้ว ในตอนนี้ลุคก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะออกไปหาเมื้อเย็นกินจากข้างนอกดังนั้นพวกเขาจึงสั่งอาหารแทน
หลังจากรับประทานอาหารแล้วพวกเขาก็พักสักครู่ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
ในอพาร์ตเมนต์มีเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ถ้าพวกเขาอยากได้อะไรเพิ่มพวกเขาจะต้องซื้อเข้ามาเอง
ลุคไม่ได้รู้สึกอยากจะซื้ออะไรเพิ่มเติมนัก แตทว่าเซลิน่านั้นคิดต่างไปจากเขาอย่างสิ้นเชิง เธอซื้อของเยอะมาก
หลังจากที่เธอจ่ายเงินค่าของทั้งหมดเสร็จแล้ว เซลิน่าก็จ้องใบเสร็จในมือพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซึมเศร้า “นี่มันมากกว่าเงินเดือนของฉันทั้งสัปดาห์ซะอีก”
ลุคทำได้เพียงนิ่งเงียบ
ลุคควรจะไม่เสนอตัวจ่ายของพวกนี้ให้เซลิน่าใช่ไหม?
เพราะถ้าลุคกล้าเสนอตัวจ่ายค่าใช้จ่ายพวกนี้ คงจะทำให้เซลิน่าคิดว่าเขาพยายามจะจีบเธอจริงๆ แน่
เพราะของที่เธอเลือกซื้อมีแต่เครื่องสำอางของเธอทั้งนั้น ไม่มีเพื่อนร่วมงานที่ไหนซื้อเครื่องสำอางให้หญิงสาวหรอกจริงไหม??
ผ่านไปไม่นานลุคก็หันไปมองรถเข็น กลับพบว่ารถเข็นเต็มไปด้วยของใช้ต่างๆ ของเซลิน่าในรถเข็นมีกระทั่งผ้าอนามัย คนในซุปเปอร์มองดูลุคกับเซลิน่าราวคู่สามี ภรรยา มาซื้อของเข้าบ้าน
หลังจากช๊อปปิ้งกันเสร็จแล้วพวกเขาก็กลับอพาร์ทเมนท์ พวกเขาไม่ได้ทำความสะอาดเพิ่มเติมเท่าไรนัก พวกเขาแค่ขนสัมภาระของตัวเองเข้าไปในห้องของตัวเองเท่านั้นก่อนที่จะอาบน้ำและเข้านอน
เมื่อเช้าวันใหม่ได้มาถึง พวกเขาก็รีบมุ่งหน้าไปที่กรมตำรวจ
เมื่อพวกเขามาถึงแผนกสืบสวน ก็พบนักสืบประมาณสองสามคนในห้องนั่งพักของแผนก บางคนมาถึงที่นี่เพื่อรอเวลาเริ่มทำงาน ในขณะที่พึ่งออกเวรหลังจากที่ทำงานตลอดทั้งคืน
มีเพียงคนสองคนเท่านั้นที่พยักหน้าทักทายพวกลุค
ครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงเวลาทำงานบร็อคก็มาถึง
เมื่อบร็อคเห็นว่าทั้งสองมาถึงก่อนเวลาทำงานและดูพร้อมทำงานด้วยความกระปรี้กระเปร่า บร็อครู้สึกดีกับพวกลุคมากขึ้น
การมาทำงานตรงเวลาเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งที่สามารถบอกได้คร่าวๆ ว่าอย่างน้อยสองคนนี้ก็ไม่ใช่คนก่อปัญหาและยังทำตามระเบียบและกฏบังคับในที่ทำงานเสมอ โดยทั่วไปแล้วบุคคลมีความสามารถมากกว่าคนปกติพวกเขามักมีแนวโน้มที่ชอบไม่ปฏิบัติตามกฎมากขึ้นเท่านั้น
ในความเป็นจริงภายในแผนกบร็อคก็พอจะมีนักสืบที่มีความสามารถบ้างสองสามคน แต่เจ้าพวกเจ้าเล่ห์พวกนั้นทุกคนก็จะปฏิบัติตามขั้นตอนการทำงานของตำรวจในขั้นต่ำที่จำเป็นที่สุดเท่านั้นเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง นอกจากนั้นพวกเขาก็จะทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนกับงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาโดยตรงนอกเสียจากว่าจะได้รับคำสั่งจากหัวหน้างานโดยตรงเท่านั้น
แน่นอนว่าสาตุส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของแผนกที่ค่อนข้างจะให้อิสระในการทำงานของสมาชิกภายในแผนกอาชญากรรมหลักค่อนข้างมาก และส่วนใหญ่เมื่อมีงานยุ่งและเร่งด่วนเข้ามาพวกเขาจะต้องทำงานติดต่อกันหลายวันโดยไม่ได้พักผ่อน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เวลาทำงานของพวกเขาจะไม่ได้เหมือนเวลาเข้างานปกติเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่น ๆ
บร็อคกวักมือเรียกให้ลุคและเซลิน่าไปที่ห้องทำงานของเขา
บร็อคพูดทันทีหลังจากที่ลุคและเซลิน่าก้าวเท้าเข้าไปในห้องของเขา โดยปกติแล้วบร็อคก็เป็นคนที่ยุ่งมากๆ เช่นเดียวกันกับทุกคนภายในแผนก บร็อคค้นบางอย่างโต๊ะของตัวเองสักพักก่อนจะหยิบแฟ้มออกมาแล้วโยนให้ลุค “เคสเป็นของพวกคุณแล้ว รายงานให้ฉันทราบเมื่อมีความคืบหน้า หากพวกคุณพบปัญหาที่พวกคุณไม่สามารถแก้ไขได้ ก็มาหาฉันได้เสมอ มีอะไรจะถามอีกไหม?”
เซลิน่าอยากจะลองดูข้อมูลในแฟ้ม แต่ทว่าลุคยิ้มและพูดว่า “ครับ ท่าน”
บร็อคโบกมือ “เอาเถอะต่อนี้ไปพวกคุณทำงานให้ฉันทำเหมือนกับคนอื่น ๆ ไม่ต้องมากพิธีเรียกฉันว่า หัวหน้าก็พอ”
ลุคพยักหน้าตอบรับก่อนที่จะเดินออกไป เซลิน่าก็ทำเช่นเดียวกัน
บร็อครำพึงภายในใจของเขา“ชัดเลย ไอ้เจ้าหนุ่มนี้เป็นผู้นำ”
แต่ที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้แปลกเท่าไรนัก
เมื่อคู่หูประกอบด้วยชายหญิง ผู้ชายมักจะเหมาะที่จะเป็นผู้นำมากกว่า ส่วนผู้หญิงเหมาะสำหรับการสนับสนุน อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วผู้หญิงมักจะมีทักษะทางการทูตที่ทำได้ดีกว่าผู้ชาย ในขณะที่ผู้ชายมีความสามารถในการสู้รบได้ดีกว่าและอย่างน้อยรูปร่างหน้าตาก็ใช้ข่มขู่คนร้ายได้มากกว่า
แต่ทว่าในครั้งนี้ ลุคดูเด็กเกินไป เขาจะสามารถข่มขู่คนที่พวกเขาต้องรับมือได้งั้นหรือ? แต่บร็อคก็เลิกคิดถึงเรื่องนี้และปล่อยมันไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เขาเป็นผู้บังคับบัญชาไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก พวกเขาจะต้องแก้ปัญหานั้นด้วยตัวเอง หากว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้พวกเขาก็ควรลาออกจากแผนกอาชญากรรมน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
เมื่อลุคและเซลิน่ากลับไปที่โต๊ะทำงานพวกเขา ลุคนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองในขณะที่เซลิน่าเข้ามานั่งบนที่พักแขนของเก้าอี้ เพื่อที่ทั้งสองจะได้อ่านเนื้อหาของไฟล์ที่พึ่งได้รับมา
เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นในอพาร์ตเมนต์เลขที่ 39, 107A Street, Westside เหยื่อเป็นผู้หญิง
แผนกได้รับคดีนี้เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ลุคและเซลิน่ามาถึง
กองบังคับการก่ออาชญากรรมหลัก สามารถพูดได้เต็มปากเลยไม่มีใครว่างงานเลย ในแง่ของกำลังคนต่อเคสใหม่ๆ ที่พวกเขาต้องรับผิดชอบไม่เหมาะสมกันเลย ดังนั้นเมื่อมีนักสืบเข้ามาใหม่สองคนในทีม บร็อคจึงตัดสินใจที่จะไม่รบกวนคนอื่นด้วยคดีใหม่คดีนี้ เขาจึงมอบให้ทั้งคู่จัดการแทน
หลังจากอ่านแฟ้มทั้งหมดลุคก็หยิบแจ็คเก็ตขึ้นมาสวมก่อนจะพูดว่า“ไปดูที่เกิดเหตุกันเถอะ”
ลุคไม่ได้อยากที่จะรอรายงานการชันสูตรพลิกศพเท่าไรนัก เนื่องจากในเมืองใหญ่เช่นนี้แผนกนิติเวชคงจะยุ่งมากไม่แพ้กัน เป็นเรื่องปกติมากที่รายงานอาจใช้เวลาประมาณหนึ่งหรือสองเดือนหากเคสที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดกับบุคคลสำคัญเท่าไรนัก ถ้าแย่ที่สุดอาจจะใช้เวลานานถึงครึ่งปี
แน่นอนว่าความจริงเหล่านี้พวกตำรวจไม่เคยคิดจะเปิดเผยกับสื่อ
ยิ่งไปกว่านั้นตามสถิติแล้วมีจำนวนคดีน้อยมากที่สามารถใช้ผลนิติเวชเพื่อบ่งบอกตัวคนร้ายได้โดยตรง
โดยส่วนใหญ่แล้วคดีต่างๆ ได้รับการแก้ไขและระบุสาเหตุจากการทำงานลงพื้นที่ของนักสืบ และใช้รายงานนิติเวชเพื่อเป็นหลักฐานสนับสนุนเท่านั้น
โดยทั่วไปหากตำรวจไม่มีหลักฐานที่สามารถใช้เป็นการพิสูจน์หรือเชื่อมโยงไปถึงผู้กระทำความผิดหรือเบาะแสเพิ่มเติมที่นำไปสู่การใช้ค้นหาหลักฐานใหม่ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะไปทำเคสอื่นๆ ก่อน
พวกเขาได้แต่หวังว่าเมื่อคนร้ายเริ่มก่อเหตุในครั้งต่อไปจะทิ้งเบาะแสใหม่ไว้เบื้องหลัง ถ้าไม่อย่างนั้นก็เลิกหวังที่จะไขคดีให้สำเร็จไปได้เลย
ทั้งสองไปที่ลานจอดรถและเข้าไปในรถตำรวจที่พวกเขาพึ่งได้รับกุญแจมาจากมิลลี่
โดยปกติแล้วนักสืบตำรวจของของกรมแผนกสืบสวนหลักที่นี่มักจะใช้รถตำรวจแทนรถส่วนตัวกันเลยทีเดียว แต่เนื่องจากบร็อคยังไม่ได้ยอมรับลุคและเซลิน่าอย่างเต็มที่ พวกเขาจึงไม่สามารถนำรถไปใช้ได้อย่างเปิดเผย การขับรถของกรมกลับบ้านเป็นครั้งคราวยังคงพอทำได้ แต่ถ้าทำทุกวันก็จะมีการร้องเรียนเกิดขึ้นแน่นอน
พวกเขาตั้งสองคนใช้เวลาขับรถไปทั้งหมดกว่า 40 นาทีก่อนที่จะถึง บ้านเลขที่ 39 ที่ถนน 107A.
เมื่อถึงที่สถานที่เกิดเหตุ ลุคและเซลิน่าก็เริ่มตรวขสอบสภาพแวดล้อมรอบๆ ทันที แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรนักสำหรับเคสแบบนี้ แต่ตำรวจนักสืบจำเป็นที่จะต้องละเอียดรอบคอบเพื่อที่จะพยายามหาหลักฐานหรือเบาะแสแม้ว่าจะมีโอกาสน้อยมาแค่ไหนก็ตาม มันคงจะแย่มากๆ ถ้าพวกเขาพลาดหลักฐานสำคัญที่อาจจะช่วยปิดคดีนี้ได้จากการที่พวกเขาไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบ
จากที่ลุคสังเกตุลักษณะที่เกิดเหตุ เขาคาดว่าอาคารมีอายุประมาณ 30 ปี ที่ผนังของอาคารมีรอยร้าวและสีอาคารมีบางจุดด่างกระจายตัวอยู่ทั่วกำแพงรวมถึงหน้าตาของอาคารก็ดูเก่าแก่ แค่มองด้วยภายนอกลุคสามารถระบุได้เลยว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่พักอาศัยของคนที่มีฐานะแน่นอน
.
B_R : ปุกาศ ปุกาศ !!!!!!!!!
ช่วงนี้จะช้าหน่อยนะครับผู้อ่านทั้งหลาย
แต่จะพยายามเร่งให้ได้อ่านกันไวๆ นะครับ
.
.
เรามีเพจแล้วน้าเข้าไป Follow กดถูกใจ พูดคุย ติดตามข่าวสารกันได้น้า ….
https://www.facebook.com/สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ-SDFW-105519611538127