Ep.958 - กลับสู่ภาคพื้นดิน
Ep.958 - กลับสู่ภาคพื้นดิน
ท่ามกลางกระแสคลื่นของเหลวสีแดงส้ม ไป๋หลีเอื้อมมือ พยายามคว้าฉินเฟิง ในแววตาฟุ้งไปด้วยความวิตกกังวล
ฉินเฟิงเหวี่ยงมือแขนของเขา ส่งศพจ่าฝูงตั๊กแตนมิติให้อีกฝ่าย ตัวมันได้กลายเป็นศิลามิติไปแล้ว ดังนั้นไม่สามารถเก็บไว้ในแหวนมิติของฉินเฟิงได้
ไป๋หลีกวาดศพตั๊กแตนใส่พื้นที่มิติของเธอเอง ยื่นมือมาคว้าฉินเฟิงอีกครั้ง พยายามที่จะดึงอีกฝ่าย เพื่อพาเขาเข้าสู่ม่านมิติ
ฉินเฟิงหันหน้าไปมองก้อนเปลวเพลิงซึ่งเป็นแกนกลางของโลก บังเกิดความรู้สึกซับซ้อนในแววตาของเขา
แกนกลางโลกเบื้องหน้า กลับให้ความรู้สึกถึงอ้อมอกมารดาอย่างไม่คาดฝัน ฉินเฟิงตั้งจิตปฏิญาณ ว่าต่อให้เขาต้องหลั่งเลือด ก็จะปกป้องแกนกลางโลกนี้เอาไว้ให้จงได้
ใช้เวลาตั้งสติพักหนึ่ง ฉินเฟิงมองดูมันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเหยียดแขนออกไป คว้ามือของไป๋หลี แสงสีเงินห่อหุ้มฉินเฟิง พาตัวเขาแยกจากการท่วมทับของพลังงานจากแกนโลก
ของเหลวสีแดงส้มที่เล็ดลอดตามเขาเข้ามาในพื้นที่มิติ ค่อยๆสลายไป ดวงตาของไป๋หลียิ้มหยี เธอค่อยๆยื่นนิ้วชี้ออกไปสะกิดหน้าอกฉินเฟิง
ถึงเวลานี้ ฉินเฟิงค่อยตระหนัก ว่าชุดรบบนร่างเขาละลายหายไปสิ้น กระทั่งเสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็หายไป กลายเป็นโป๊เปลือย
แม้เขาจะรู้สึกเสียใจเล็กน้อยกับการสูญเสียชุดเทวะเลเวล S แต่ตลอดมา เสื้อคลุมราชวงศ์แทบไม่มีส่วนช่วยอะไรเขาอยู่แล้ว ดังนั้นแลกกับการที่เขาสามารถเดินทางลึกเข้ามาถึงแกนกลางโลกในครั้งนี้ ถือว่าไม่ขาดทุน
แม้ฉินเฟิงไม่มีความคิดที่จะดูดซับอักษรรูนของแกนกลางโลก แต่อักษรรูนรอบๆยังคงไหลเข้ามาหลอมรวมเข้ากับร่างของฉินเฟิง
--ส่งผลให้เขาสามารถรู้แจ้งอบิลิตี้ไฟเทคนิคใหม่
ด้วยการรับรู้ผ่านพลังสมาธิ มันช่วยให้ฉินเฟิงทราบว่าอบิลิตี้ไฟเทคนิคนี้ถูกเรียกว่า ‘หัวใจเพลิงมรณะ’
แม้จะมีคำว่าหัวใจที่ดูธรรมดา แต่เอาจริงๆแล้ว ศักยภาพของอบิลิตี้นี้ มันเทียบเท่าได้เลยกับเทคนิคหนึ่งดรรชนีแห่งความตาย และเทคนิคเสียงเพรียกแห่งความตาย ยามเปิดใช้งาน จักสามารถปลดปล่อยอำนาจทรงพลัง สังหารผู้แข็งแกร่งได้
การเดินทางในครั้งนี้ ฉินเฟิงรู้สึกว่ามันคุ้มค่า!
“กลับกันเถอะ” ฉินเฟิงกล่าว ไป๋หลีคล้องแขนฉินเฟิง สาดแสงสว่างวาบพาเขาออกจากที่นี่
แม้วิกฤตร้ายแรงจะจบลงแล้ว แต่ไป๋หลีก็ยังไม่คลายความกังวล ดังนั้นค่อยๆเทเลพอร์ตไปทีละนิด พยายามไม่ให้เธอและเขาตกอยู่ในอันตรายใดๆอีก
กว่าจะกลับขึ้นมาบนพื้นพิภพได้ เวลาก็ผ่านไปวันหนึ่งแล้ว ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แค่ผู้ใช้พลังรุ่นใหม่อย่างกลุ่มของไวเซอร์ แต่บริเวณรอบๆรอยแยกยังมีผู้ใช้พลังคนอื่นๆตามมาสมทบเช่นกัน และในกลุ่มที่ว่า มีฟางโจวที่ร่วมมือกับฉินเฟิงรวมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้พลังเลเวล S ที่คอยปกป้องภูมิภาคตะวันตก ส่วนที่เหลือ มีกระทั่งบางคนที่ฉินเฟิงรู้จักดี
แม้จะกล่าวว่ารู้จักดี แต่มิใช่มีความสัมพันธ์อันดี ระหว่างทั้งสองอยู่ในฐานะศัตรู
ใบหน้าของอีกฝ่ายหล่อเหลาทีเดียว ผิวพรรณก็ดูอ่อนเยาว์ มองภายนอกอาจคิดว่าอายุแค่ 20 ปีเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแม้อายุจะมากกว่าที่เห็น แต่ชายคนนี้ก็ไม่ถึงขั้นแก่อะไร สายตาของเขาค่อนข้างคมกริบ ราวกับสามารถปล่อยแสงได้ เพียงเบนหน้าไปมองผู้ใด ผู้นั้นถูกแผดเผา
เจ้าตัวสวมชุดคลุมสีขาวราวหิมะ สลักด้วยลวดลายสะดุดตา คล้ายวาดขึ้นจากรูนสีทอง ปลดปล่อยคลื่นความผันผวนทางพลังวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ของเกราะเทวะเลเวล S ออกมา มิใช่ใครอื่น--
--เป็นตาปีศาจ!
พันธมิตรวู้ดแลนด์ประสบเภทภัยครั้งใหญ่เช่นนี้ แต่ตาปีศาจกลับไม่มีทีท่าว่าจะกลับมา นั่นเพราะตาปีศาจเป็นคนของพันธมิตรองค์กรมืด ดังนั้นแม้เขาจะเป็นตัวตนทรงอำนาจเพียงคนเดียวในพันธมิตรวู้ดแลนด์ แต่ก็ไม่มีจิตใจคิดจะพิทักษ์ดินแดนนี้
ทว่าเมื่อทราบข่าว ว่าจ่าฝูงตั๊กแตนมิติเลเวล S ขุดลึกลงไปถึงแกนโลก ส่งผลให้พลังงานมหาศาลหลั่งไหลออกมาจากบริเวณรอยแยก ตาปีศาจกลับให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เดินทางมาเข้าฌานที่นี่
กล่าวได้ว่าตัวตนทรงอำนาจทั้งแปดคนในปัจจุบัน ทั้งหมดเดินทางมาเพราะรอยแยกนี้เช่นกัน
ฉินเฟิงกับไป๋หลีปรากฏตัวขึ้น คนอื่นๆมองมายังทั้งสอง
“ฉินเฟิง!” ผู้พิทักษ์ภูมิภาคตะวันตกเคยเห็นฉินเฟิงมาก่อน ร้องเรียกออกมา
“ท่านผู้ใหญ่ฮั่นกวงหมิง!” ฉินเฟิงพยักหน้า กล่าวทักทาย นำไปหลีไปยืนต่อหน้าอีกฝ่าย
แม้ทั้งสองไม่เคยพบปะกัน แต่เนื่องจากพวกเขาทั้งคู่ต่างสามารถไปยังเมืองของพันธมิตรมนุษย์ที่แท้จริง ดังนั้นล้วนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกทั้งหมดของพวกเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธมิตรหัวเซี่ย
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามามัวสุภาพ ฮั่นกวงหมิงถามเข้าประเด็นทันที “ฉินเฟิง จ่าฝูงตั๊กแตนมิติเป็นอย่างไรบ้าง? คุณจัดการมันได้หรือไม่ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจโลก?”
สำหรับแก่นพลังของจ้าวเหนือหัว เนื่องจากก่อนเกิดรอยแยกมิติขึ้น มันถูกเรียกว่าหัวใจโลก ดังนั้นหลายคนจึงติดปาก ไม่ได้เปลี่ยนไปเรียกชื่อใหม่
ฉินเฟิงคิดถ้อยคำไว้ล่วงหน้าแล้วก่อนเขากลับมา เอ่ยบอกตามแผน “พลังงานใต้ดินทรงพลังมาก ไม่ใช่อะไรที่พวกเราจะสามารถสัมผัสได้แม้ปลายนิ้ว แต่หลังจากสำรวจได้ไม่นาน จ่าฝูงตั๊กแตนมิติก็โผล่มา ผมกับไป๋หลีเข้าต่อกรกับมัน สุดท้ายเป็นฝ่ายเราที่สามารถสังหาร บรรลุภารกิจ!”
ฉินเฟิงไม่ได้บอกว่าเขาเห็นหัวใจโลก เพราะขนาดเลเวล A อย่างเขายังสามาถเห็นมันได้ แบบนั้นคนอื่นๆอาจคิดว่าการเดินทางไปช่างง่ายดาย สุดท้ายดึงดูดตัวตนทรงอำนาจจากพันธมิตรองค์กรมืดเข้าหมายปอง
“ดี .. บรรลุภารกิจได้ถือว่าดีเยี่ยม!” ฮั่นกวงหมิงกล่าว
ฟางโจวที่อยู่ข้างๆพยักหน้าเห็นด้วย ทว่าไวเซอร์และเลเวล S รุ่นใหม่กลับมีสีหน้าไม่ดีนัก เพราะเครดิตสุดท้ายตกเป็นของฉินเฟิง นั่นหมายถึงอีกฝ่ายได้รับปลาไปเต็มๆ
“แล้วศพของสัตว์ร้ายเล่า? มีหลักฐานรึเปล่า ไม่ใช่ว่าคุณจงใจฮุบเอาเครดิตไปหรอกนะ!” โอโบรันกล่าวด้วยสีหน้ามืดมน
จำได้ไหม ว่าก่อนหน้านี้จ่าฝูงตั๊กแตนมิติกับฉินเฟิงสามารถเข้าสู่ธารลาวาได้ เป็นผลให้โอโบรันคิดกระโจนตามลงไป แต่สุดท้ายถูกระเบิดปลิวกระเด็นออกมา
เพราะเหตุใดกัน? เหตุใดผู้ใช้พลังเลเวล A จึงโชคดีถึงเพียงนี้? โอโบรันไม่มีทางเชื่อ
ฉินเฟิงมองโอโบรัน สีหน้านิ่งสงบไม่เปลี่ยนแปลง ไร้ซึ่งความโกรธใดๆจากการถูกยั่วยุ อีกอย่างสภาพของโอโบรันในตอนนี้ ก็ค่อนข้างดูน่าขบขันนิดหน่อย
ไป๋หลีกล่าว “ฉันจะโชว์หลักฐานให้ดูก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าพอเอาออกมาแล้ว พวกคุณจะใช้กลเม็ดชั่วร้ายอย่างการยกอ้างขอแบ่งสินสงครามหรอกนะ? พวกคุณไม่มีคุณสมบัตินั้น เพราะการโจมตีของพวกคุณ แค่เข้าถึงตัวมันยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”
โอโบรันขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ฉันจะไม่ขอสินสงคราม! ความพยายามของพวกเรา แน่นอนว่าทางพันธมิตรมนุษย์จะออกรางวัลให้ แต่ฉันต้องการศพมายืนยัน!”
“แล้วพวกคุณล่ะ ว่ายังไง? จะยอมรับเงื่อนไขแบบเดียวกันกับเขารึเปล่า” ฉินเฟิงมองไวเซอร์กับวีน่า
โอโบรันประกาศออกมาแล้ว แต่ประเด็นก็คือ ทั้งสองยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับไป๋หลีอยู่มาก เขาและเธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แตกต่างออกไปจากไป๋หลี แต่ตอนนี้ไป๋หลีอยู่กับฉินเฟิง ดังนั้นพวกเขาไม่กล้าสำรวจอะไรมากมาย
“ตกลง พวกเราคิดเห็นเหมือนกัน”
“เอาตามนั้นแหละ แต่ถ้านี่เป็นเรื่องโกหก คงรู้นะว่ามันจะชักนำหายนะใดมาสู่มิติของพวกเรา!”
ฉินเฟิงพอได้ยินคำตอบ ก็หันไปพยักหน้าให้ไป๋หลี ไป๋หลีเปิดพื้นที่มิติ ปล่อยศพจ่าฝูงตั๊กแตนมิติออกมา
เนื่องจากศพถูกละลายจนเกือบหมดแล้ว แถมยังมีสภาพคล้ายเป็นเครื่องเงินถูกละลาย ก่อตัวเป็นศิลามิติขนาดยักษ์ ดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัยในคำพูดของฉินเฟิง
ก็แค่ผลลัพธ์นี้ มันทำให้ไวเซอร์ , วีน่า และโอโบรันที่คิดหาเรื่องฉินเฟิง เสียหน้าไปทั้งกลุ่ม และทำอะไรไม่ถูกในเวลาเดียวกัน
“ประเสริฐ! แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาวิเคราะห์มัน เก็บศพไปก่อนเถอะ!” ฮั่นกวงหมิงบอกไป๋หลี เขาทราบว่าสิ่งนี้คือรางวัลจากการต่อสู้ของฉินเฟิงกับไป๋หลี ดังนั้นแม้เขาไม่ได้รับมัน แต่แน่นอนจะไม่มีทางปล่อยให้คนของพันธมิตรหัวเซี่ยถูกรังแกเด็ดขาด
ไป๋หลีเก็บสินสงคราม ฉินเฟิงมองรอยแยกขนาดใหญ่ที่เปิดออก ดูเหมือนว่าเส้นชีพจรธรณีจะไม่สามารถหุบรอยแยกนี้ได้ หากพลังงานฟ้าดินของโลกยังคงหลั่งไหลเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าคงไม่ดี
“รีบจัดแจงเรื่องอพยพผู้คนเถอะ ส่วนฉันขอรับผิดชอบปิดรอยแยกที่นี่เอง” ฮั่นกวงหมิงกล่าว นั่นคือเหตุผลที่เขามาที่นี่ เพราะเขาคือผู้ใช้อบิลิตี้ดินเลเวล S
เพียงแต่ว่าการตัดสินใจดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย
“เรื่องราวของพันธมิตรวู้ดแลนด์ ไม่ใช่ธุระที่คุณต้องกังวล!” ตาปีศาจเอ่ยปากในที่สุด แสงจรัสจากตัวเขา คล้ายสามารถส่องสว่างไปทั่วทั้งโลก