Ep.957 - การชำระล้างของธาตุไฟ
Ep.957 - การชำระล้างของธาตุไฟ
“พลังพิเศษดูดกลืน!”
พลังงานรอบข้างคล้ายถูกปากใหญ่ที่มองไม่เห็นเข้ากัดกิน ดูดซับจนเกลี้ยง
“เทคนิคพื้นที่มิติ!” ไป๋หลีกางอบิลิตี้อีกครั้ง แยกลาวาอันร้อนแรงออกจากตัวเธอและเขา
เบื้องหน้าทั้งสอง จ่าฝูงตั๊กแตนเห็นว่าไม่สามารถหยุดฉินเฟิงได้ จึงตัดสินใจมุ่งหน้าต่อไป
“ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจอีก!”
ยิ่งลึกลงไป ไป๋หลียิ่งสัมผัสได้ถึงความน่าหวาดกลัวของพลังงานนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าจ่าฝูงตั๊กแตนมิติจะไม่ยอมแพ้
อันที่จริงไป๋หลีพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เนื่องจากมิติแห่งนี้ใกล้จะล่มสลาย อำนาจของจ้าวเหนือหัวลดทอนลงถึงขีดสุดแล้ว ขอแค่มันสามารถบุกไปถึงตำแหน่งใกล้เคียงกับแกนกลางได้ ก็สามารถใช้อบิลิตี้มิติของตัวเอง ชิงเอาแก่นพลังของจ้าวเหนือหัวจากไป เทียบกับการที่กำลังเสี่ยงตอนนี้แล้ว ยังถือว่าคุ้มค่า
พลังงานที่แก่นพลังของจ้าวเหนือหัวปลดปล่อยออกมารุนแรงมากก็จริง ลาวารอบๆเป็นตัวอย่างที่ดี แต่นั่นคือความรุนแรงที่เกิดจากการสะสม ค่อยๆปลดปล่อยออกมาในแต่ละวัน เดือน ปี แต่หากชิงไปแค่แก่นพลังของจ้าวเหนือหัวเพียงอย่างเดียว มันจะเหมือนกับกรณีของศิลาศักดิ์สิทธิ์ ยังพอสามารถควบคุมได้
ฝั่งฉินเฟิง แม้เขายังไม่รู้ว่าจ่าฝูงตั๊กแตนคิดทำอะไร แต่อีกฝ่ายครอบครองเทคนิคมิติอันทรงพลัง หากมันสามารถเข้าสู่แกนกลาง ก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้แก่นพลังของจ้าวเหนือหัวให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อแกนกลางโลกถูกทำลาย ผืนดินและแผ่นฟ้าของโลกคงพังทลายลงอย่างไม่ต้องสงสัย และฉินเฟิงจะไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้น!
“เร็วเข้า พวกเราต้องเร็วกว่านี้!”
ในใจของฉินเฟิงวิตกกังวลยิ่ง ยังไงก็ตาม แม้ปากเขาจะไม่เอ่ยย้ำเช่นนั้น แต่ไป๋หลีก็พยายามเร่งความเร็วขึ้นอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้งสองต่างเป็นสัตว์ยักษ์มิติ ทั้งอยู่ในระดับเทวะ สภาวะการไล่ล่าจึงคล้ายอยู่ในสภาพชะงักงัน
ก่อนหน้านี้ในมิติของพระเจ้า จากตำแหน่งพื้นธารน้ำแข็งของเกาะมังกรมุ่งหน้าสู่ใจกลางโลก มันใช้เวลามากกว่า 10 วัน แต่เวลานี้ทั้งสองฝ่ายต่างกำลังใช้เทคนิคเทเลพอร์ต ความไวจึงเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน ก็เข้าสู่ชั้นลาวา
สภาพแวดล้อมในปัจจุบันเบื้องหน้าพวกเขา สว่างไสวพรั่งพราว
ของเหลวโปร่งแสงสีแดงส้ม ลอยล่องอยู่เต็มไปหมด
มันคือการดำรงอยู่ของสิ่งหลอมเหลวชนิดหนึ่ง เมื่อหลอมรวมเข้ากับพลังงาน ยามเคลื่อนไหวจึงเหมือนคลื่นยักษ์รูปแบบหนึ่ง แต่ใครๆก็รู้ ว่าของเหลวนี้น่าหวาดกลัวขนาดไหน
จนถึงตอนนี้ ฉินเฟิงไม่กล้าปล่อยให้ไป๋หลีโจมตีอีกฝ่ายสุ่มสี่สุ่มห้าอีกต่อไป
เพราะหากจ่าฝูงตั๊กแตนมิติโจมตีคืนขึ้นมา แล้วฉินเฟิงกระเด็นออกนอกพื้นที่มิติ เขาเองก็ไม่ทราบว่าตนจะทานทนมันได้หรือไม่
“แกไม่มีทางฝ่ามันไปได้ ถ้ายังไม่รีบยอมจำนน อย่าหาว่าฉันไม่ปรานี!” ฉินเฟิงส่งผ่านพลังสมาธิด้วยความโกรธ
ทว่าจ่าฝูงตั๊กแตนเพิกเฉยต่อฉินเฟิง มันยังคงเทเลพอร์ตไปข้างหน้า
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ไป๋หลีก็ได้แต่ตามไป
การไล่ล่าดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนในที่สุด ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งก็ปรากฏสู่สายตา
มองจากระยะไกล ดาวดวงนี้มีขนาดใหญ่มาก แต่กลิ่นอายของมันให้ความรู้สึกถึงความชราภาพ อักษรรูนไฟที่ปลดปล่อยก็ไม่ได้พริ้วไสวดุเดือดอะไร
ดาวเคราะห์เบื้องหน้ามีรูปลักษณ์เป็นแก่นสีแดงเพลิง ความรู้สึกที่ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงมัน น่าแปลกที่ไม่ร้อนเลย แต่ค่อนข้างอบอุ่น
ทั้งยังบังเกิดความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งเข้ามา มันเป็นความรู้สึกคล้ายผูกพันธุ์ทางสายเลือด
เขาเติบโตมาบนดาวเคราะห์ดวงนี้ และแก่นพลังของมัน ยอมรับตัวตนของฉินเฟิง
ฉินเฟิงเกิดมาก็ไม่เคยเจอแม่ แต่ความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นนี้ คล้ายเป็นความอบอุ่นที่ได้กลับคืนสู่อ้อมอกมารดา
แต่รู้อะไรไหม ฉินเฟิงตอนนี้อยู่ในพื้นที่มิติของไป๋หลี ทั้งๆที่อุณหภูมิใดๆ เขาไม่น่าจะรู้สึกถึงมันได้แท้ๆ บอกตามตรงว่าไม่เข้าใจจริงๆ
แต่ความรู้สึกแปลกๆนี้ มันชัดเจนมาก
ยิ่งใกล้เข้าไปเท่าไหร่ ฉินเฟิงก็ยิ่งสามารถมองเห็นดาวเคราะห์ดวงนี้ได้ชัดเจนขึ้น ดาวเคราะห์น้ำแข็งบนมิติของพระเจ้า มีเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 300 เมตร แต่ดาวเคราะห์ดวงนี้ หดเหลือขนาดแค่ 10 เมตรเท่านั้น!
แก่นพลังงานดังกล่าว หากเวลานี้มิได้ถูกห้อมล้อมด้วยพลังงานอันน่าหวาดกลัว เกรงว่าต่อให้เป็นผู้ใช้พลังเลเวล S ก็ยังสามารถสั่นคลอนมันได้
หรืออีกความหมายนึงก็คือ จ่าฝูงตั๊กแตนมิติสามารถทำได้เช่นกัน
และนั่นแหละจุดประสงค์ที่มันมุ่งหน้ามาที่นี่
มองไปยังจ่าฝูงตั๊กแตนมิติที่กำลังเข้าใกล้แกนกลางโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ฉินเฟิงอดทนต่อไปไม่ไหว ออกคำสั่งทันที
“โจมตีมัน!”
ไป๋หลีไร้ซึ่งความลังเล ปลดปล่อยรูนมิติโจมตีจ่าฝูงตั๊กแตนทันที
จ่าฝูงตั๊กแตนไม่คาดคิดเลย ว่ากระทั่งในเวลาแบบนี้ ไป๋หลียังกล้าลงมืออย่างกะทันหัน เมื่อได้รับน้ำใจมา มันก็ตอบแทนกลับไปในทำนองเดียวกัน
รูนมิติของศัตรูผุดพรายในพื้นที่มิติ แต่เสี้ยววินาทีต่อมา ฉินเฟิงกลับผลักไป๋หลีออกไป
ไป๋หลีปลิวไปหลายร้อยเมตร พื้นที่มิติเคลื่อนตามเธอ ส่วนฉินเฟิงถูกโจมตีแทน พื้นที่มิติของฉินเฟิงกับจ่าฝูงตั๊กแตน ถูกทำลายลงพร้อมกัน จมหายลงไปในของเหลวสีแดงส้ม
เพียงพริบตา ฉินเฟิงรู้สึกได้ถึงกระแสไออุ่นไหลท่วมทับร่างกายเขา แทรกซึมเข้าไปในทุกเซลล์ผิว
ตูมมมม!
บนร่างของฉินเฟิงลุกโชนด้วยเปลวเพลิงขนาดยักษ์
แต่แทบจะในทันที เสื้อคลุมราชวงศ์เพลิงของเขา ก็มอดไหม้ตาม สลายหายไป
ชุดรบทั้งหมดที่ฉินเฟิงสวมใส่ก็มอดไหม้เป็นไฟเช่นกัน เหลือแค่เพียงศิลามิติที่ลอยล่องอยู่ในคลื่นน้ำ ส่วนมีดกษัตริย์คราม มันกำลังถูกหลอมละลายอย่างคาดไม่ถึง
ดวงตาของไป๋หลีเบิกกว้าง ฟุ้งไปด้วยความตื่นตระหนกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ฉันไม่เป็นไร!” ลึกลงไปในจิตวิญญาณของเธอ เสียงๆหนึ่งดังขึ้น
วินาทีต่อมา ฉินเฟิงที่อยู่ใจกลางคลื่นของเหลวสีแดงส้ม ก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาเก็บมีดกษัตริย์ครามลงในแหวนมิติวงหนึ่งของตนอย่างรวดเร็ว จากนั้นฝืนทนแช่อยู่ในพลังงานสีแดงส้มนี้
เซลล์ของเขากำลังถูกเผาไหม้ มันเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้ แต่กระบวนการนี้ ระหว่างแผดเผาเซลล์เก่า มันกลับช่วยเสริมสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นไปพร้อมๆกัน
ธาตุไฟมีคุณสมบัติทำลายล้าง แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็มีคุณสมบัติชำระล้างเช่นกัน ช่วยให้เซลล์ของฉินเฟิงถือกำเนิดใหม่
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิงทรงพลังอย่างจริงแท้แน่นอน แต่ในขณะนี้ มันกลับถูกทำลาย เพื่อเสริมสร้างไปอีกขั้น ใส่ส่วนของเนื้อหนังเขามิได้วิวัฒนาการ แต่ในส่วนของศักยภาพทางร่างกาย ดูเหมือนมันจะได้รับการยกระดับขึ้นอย่างไม่มีที่สุดสิ้น
เพียงแต่เขาไม่มีเวลามาสนุกกับความรู้สึกนี้ พุ่งฉีกออกไป
“ก้าวทะลวงมิติ!”
ฉินเฟิงเคลื่อนย้ายพริบตา มาถึงร่างของจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ คว้าปีกมิติของมัน
“แกหนีไม่พ้นแล้ว!”
“กี๊--” จ่าฝูงตั๊กแตนกรีดร้องน่าสังเวช เมื่อเทียบกับฉินเฟิง ตั๊กแตนมิติได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เปลวไฟลุกโชน หลอมเหลวเปลือกสีเงินชั้นนอกของมัน จนอ่อนนุ่ม
ฉินเฟิงไม่ได้ชักมีดกษัตริย์ครามออกมา เพราะ ณ จุดนี้ เขารู้สึกได้ ว่าสิ่งที่ทรงพลังที่สุดคือร่างกายของเขาเอง!
แคว่กก!
ฉินเฟิงใช้มือเปล่ากระชากปีกมิติของจ่าฝูง เลือดสีเงินทะลักออกมา แข็งตัวแปรสภาพเป็นศิลามิติอย่างรวดเร็ว
หากเป็นสัตว์ร้ายธรรมดา น่ากลัวว่าถูกทำร้ายถึงจุดนี้พวกมันคงตายไปแล้ว แต่ตั๊กแตนมิติมีสถานะเป็นสัตว์ยักษ์มิติ ดังนั้นมีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่งต่อรูนธาตุทั้งสิบ
เพียงแต่ว่า ภูมิคุ้มกันดังกล่าว อย่างไรย่อมมีขีดจำกัด
ฉินเฟิงยื่นมือออกไป คว้าจับอีกปีก เริ่มฉีกทึ้งทีละข้าง
จ่าฝูงตั๊กแตนถูกท่วมทับไปด้วยของเหลวสีแดงส้ม บวกกับถูกโจมตีจากฉินเฟิง มันคิดจะเปิดรอยแยกมิติ ทว่ากลับพบพลังสายหนึ่งหยุดมันไว้ ไม่ยินยอมให้จากไป
ฉินเฟิงเหยียบลงบนร่างตั๊กแตนมิติ ย่ำผ่านแผ่นหลังมัน ตรงมาถึงส่วนหัวด้านบน
ช่วงเวลาถัดมา กำปั้นเขาง้างสูงขึ้น ซัดเปรี้ยงจากหลังหัวของมัน กระแทกเข้าใส่ช่วงบนของศีรษะ
เปรี๊ยะ!
บังเกิดเสียงใสกิ้งดังคมชัด หมัดของฉินเฟิง จมลึกเข้าไปในหัวอีกฝ่าย
กึ้ง กึ้ง กึ้ง กึ้งงง!
ฉินเฟิงซัดกำปั้นต่อเนื่อง ทุบทำลายหัวนี้ให้แหลกเป็นชิ้นๆ จนร่างของเขาจมลึกเข้าไปข้างใน
ของเหลวสีแดงส้มไหลตามเข้าไป ห่อหุ้มรอบตัวจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ ลมหายใจแห่งชีวิตของมันเหือดหาย สุดท้ายจ่าฝูงตั๊กแตนแปรสภาพกลายเป็นศิลามิติก้อนใหญ่!
ตูมมมมม!
พลังสมาธิของฉินเฟิงสั่นสะท้าน ยกระดับไปอีกขั้น
ก้าวขึ้นสู่เลเวล A6 !