Ep.956 - รอยแตกของแมกมา
Ep.956 - รอยแตกของแมกมา
สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล S ทั้งสาม เดิมพวกเขาต้องการได้รับชื่อเสียง แต่ไม่นึกฝันเลยว่าตนกลับมาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
จะเลือกทางไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น พันธมิตรมนุษย์น่ะเป็นกลุ่มใหญ่ แถมภารกิจขอกำลังเสริมในครั้งนี้เป็นที่รู้กันทั่ว หากพวกเขาล้มเหลว เกรงว่าคงถูกคนทั้งพันธมิตรมนุษย์หัวเราะเยาะ
นี่เองคือสาเหตุที่พวกเขาลังเลไม่กล้าจากไป
ตอนนี้ พวกเขารู้สึกราวกับว่า ตนกำลังถือมันร้อน
ฉินเฟิงไม่สนใจคนเหล่านี้ กลับไปเข่นฆ่ากองทัพสัตว์ร้ายต่อ
เนื่องจากระหว่างการต่อสู้ที่ผ่านมา จ่าฝูงตั๊กแตนมิติได้ทำลายดวงวิญญาณที่ถูกจองจำไว้บนมีดกษัตริย์ครามไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นตอนนี้ฉินเฟิงเลยสามารถดูดซับพวกมันได้อีกครั้ง ในความคิดของฉินเฟิง จ่าฝูงตั๊กแตนมิติถือเป็นหินลับคมที่ดี
และมันก็เป็นอย่างที่ฉินเฟิงคิดเช่นกัน จ่าฝูงตั๊กแตนหลังจากถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส มันก็ตัดสินใจเก็บตัวเงียบ บางทีอาจกำลังรักษาบาดแผล ไม่กล้าปรากฏตัวให้ผู้คนพบเห็น
เทพีแห่งท้องทะเลกับคนอื่นออกตามหามันเป็นเวลากว่าสามวันสามคืน ระหว่างที่พวกเธอกำลังจะยอมแพ้ จ่าฝูงตั๊กแตนมิติก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง อาละวาดทำลายเมือง
ฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนที่รุนแรง
“ไปดูกัน!”
ไป๋หลีเปิดช่องว่างมิติ วิสัยทัศน์โดยรอบเปลี่ยนไป ฉินเฟิงปรากฏตัวห่างออกมาพันเมตรจากตำแหน่งของจ่าฝูงตั๊กแตน เมืองที่ถูกสัตว์ร้ายโจมตีเต็มไปด้วยความวุ่นวาย พื้นดินเบื้องล่างแตกร้าว แหวกออกเป็นช่องว่างขนาดใหญ่
สถานที่แห่งนี้ มองไปช่างคุ้นเคยนัก!
เป็นภูเขาดอกไม้ไฟ!
สถานที่แห่งนี้ เดิมเป็นภูเขาไฟ แต่เมื่อปีที่แล้วหลังจากถูกฉินเฟิงกลืนกินพลังงานไฟ รวมไปถึงเส้นชีพจรธรณีของที่นี่ มันก็กลายเป็นภูเขาไฟที่มอดดับ ไม่มีการปะทุใดๆอีก
อย่างไรก็ตาม พลังงานวิญญาณของเส้นชีพจรธรณีค่อยๆฟื้นตัวทีละเล็ก ทีละน้อย บวกกับการต่อสู้ของฉินเฟิงที่ได้เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่นี่ไป ทำให้มีผู้คนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
ก็เหมือนกับกรณีของเมืองกรีนไลท์ ฉินเฟิงกวาดล้างพวกองค์กรมืด ผู้คนหลั่งไหลเข้ามา สุดท้ายกลายเป็นสถานชุมชนขนาดใหญ่
แต่ตอนนี้ สถานชุมชนขนาดใหญ่ที่ว่า ได้ถูกบุกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง
ภูเขาดอกไม้ไฟถูกขุดพื้นกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ ไม่เพียงแค่นั้น แต่จ่าฝูงตั๊กแตนมิติยังพยายามมุดเข้าไป ขุดลึกลงใต้ดินอย่างต่อเนื่อง สร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ใต้พื้นดิน
สำหรับเมืองใกล้เคียงที่อยู่ถัดไป การกระทำของมันไม่ต่างจากแผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์ ตึกรามพังทลาย คนธรรมดาถูกเศษหินเศษปูนทับตายคาบ้าน ผู้ใช้พลังก็มิอาจยืนหยัดได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นแรงกดดันของเลเวล S ทำให้พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวอย่างองอาจ มากสุดได้แค่คลานไปกับพื้น
ฉินเฟิงยืนอยู่ในอากาศเบื้องบน เฝ้ามองจ่าฝูงตั๊กแตนมิติขุดอุโมงค์ พอลองนึกดูดีๆแล้ว ฉากนี้มันเหมือนกับรอยแยกที่นำไปสู่เบื้องล่างของเกาะมังกรเลย
ฉินเฟิงตกใจ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นอย่างที่เขาคิดหรือเปล่า
“ช่างเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์อะไรแบบนี้!” ไป๋หลีอุทานขึ้นอย่างกะทันหัน
ระหว่างจ่าฝูงตั๊กแตนมิติกำลังขุดอย่างเมามัน มุ่งหน้าลึกลงไปในรอยแยก ปรากฏว่ามีพลังงานแพร่กระจายออกมา ดูเหมือนว่าพลังงานวิญญาณของเส้นชีพจรที่ฉินเฟิงดูดซับ จะไม่ได้หายไป ปัจจุบัน มันเริ่มเกิดการแพร่กระจายครั้งใหญ่
“รีบหลบเร็ว!”
ฉินเฟิงคว้ามือไป๋หลี ลากเธอฉีกหลบออกไปด้านข้าง
ตูมมมมม!
ลึกลงไปในรอยแตกเกิดการระเบิดอย่างกะทันหัน ภูเขาไฟที่เดิมตายไปแล้วกลับมาสร้างความปั่นป่วน ปะทุขึ้นอีกครั้ง พ่นลาวาสู่ท้องฟ้า ไม่ต่างจากดอกไม้ไฟ
และลาวานี้ มีกลิ่นอายน่าพรั่นพรึงเช่นเดียวกับที่พบในเกาะมังกร มันเปี่ยมไปด้วยพลังทำลายล้าง
หากให้เทียบเปรียบกัน ความหนาวเย็นครั้งก่อนคือความเงียบสงบ เช่นนั้นความร้อนแรงครั้งนี้คือการอาละวาดโหมกระหน่ำ
ฉินเฟิงเคยเห็นฉากนี้มาก่อนที่เกาะมังกร เมื่อพลังงานระเบิด สายตาของทุกชีวิตที่กำลังเฝ้ามองก็แปรเปลี่ยนไป แต่ฉินเฟิงทราบดี ว่าหากไม่มีเรือใหญ่ลำนั้น พวกเขาคงไม่สามารถมุ่งหน้าลึกเข้าไปถึงแกนกลางได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแผ่นดินแยกแล้ว ทั้งยังแตกต่างจากคราวก่อน นั่นคือความอุดมสมบูรณ์ของพลังงาน ความรุนแรงของมันน้อยกว่าเกาะมังกรมากนัก
ถึงกระนั้น พลังงานที่ระเบิดออกมา ยังทำให้ผู้คนรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามาก
ผู้ใช้พลังเลเวล S คนอื่นๆตามมาสมทบ จ่าฝูงตั๊กแตนมิติสังเกตเห็นฉินเฟิง
“กี๊!”
จ่าฝูงตั๊กแตนมิติลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจกระโจนลงไปในสระลาวา
สีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนแปลงไป
“ไม่ใช่ว่าพวกตั๊กแตนมิติกลัวไฟหรอกหรอ มันเข้าไปได้ยังไง?”
“เพราะพลังงานของดาวเคราะห์ดวงนี้อ่อนแอเกินไป เลยยังพอสามารถใช้อบิลิตี้กางม่านป้องกันได้”
“งั้นพวกเราก็ตามมันไปเถอะ”
“รับทราบ!”
ร่างของฉินเฟิงกับไป๋หลีถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีเงิน จากนั้นจมดิ่งลงไปในสระลาวา
ไม่ว่าจะเป็นมหาจักรพรรดิไวเซอร์ , เทพีแห้งท้องทะเลวีน่า , เทพสายฟ้าโอโบรันต่างมาถึงแล้ว เมื่อเห็นพื้นดินเอ่อล้นไปด้วยลาวา สีหน้าของทั้งหมดพลันซีดลง
“หรือว่ามันกำลังจะบุกเข้าไปในแกนกลาง!” ไวเซอร์คิดตามลงไป แต่สุดท้ายอดกลั้นเอาไว้ เพราะนั่นไม่ใช่สถานที่ที่เขาจะไปได้
สำหรับวีน่า หากให้พูดกันตามตรง แม้น้ำมีคุณสมบัติดับไฟ แต่ไฟนี้รุนแรงเกินไป สามารถระเหยน้ำจนแห้งได้อย่างสิ้นเชิง
เธอตัดสินใจนั่งขวาทับซ้าย เริ่มเข้าฌาน ดูดซับพลังงานที่กระจัดกระจายจากทุกทิศทางแทน
แม้พวกเธอจะทราบ ว่ายิ่งพลังงานนี้เล็ดลอดออกมามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเท่ากับอายุขัยของโลกสั้นลงเรื่อยๆ แต่ถ้าตนเองไม่ดูดซับ สุดท้ายก็จะถูกคนอื่นๆแย่งไป!
ทว่าโอโบรันกลับกัดฟัน ตัดสินใจกระโจนเข้าสู่ทะเลเพลิงหนืดโดยตรง
อย่างไรก็ตาม เพียงเข้าไปใกล้ ลาวาก็ผุดฟองส่งเสียงโผล๊ะ ปะทุเสาลาวาสวนขึ้นมา
โอโบรันถูกเสาลาวาสกัด ปลิวกระเด็นออกไป
“อ๊อกกก!!” โอโบรันกระอักเลือด ตามร่างกายเขาถูกเผาไหม้จนเป็นสีดำ มิอาจดิ่งลงไปเบื้องล่างได้
“ทำไมกัน? เช่นนั้นทำไมพวกเขาถึงสามารถลงไปได้!” เห็นได้ชัดว่าโอโบรันไม่อยากยอมรับ
ที่ฉินเฟิงกับไป๋หลีสามารถลงไปได้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะรูนอบิลิตี้มิติ หรือก็คือใช้เทคนิคมิติกางม่านป้องกันไว้นั่นเอง
แต่ขณะเดียวกัน นั่นหมายความว่าต่อให้ฉินเฟิงเข้าสู่ที่นี่ ดิ่งลงไปในสภาพแวดล้อมที่เปี่ยมไปด้วยพลังงาน แต่พอมีมิติขวางกั้น ก็ไม่สามารถดูดซับพลังงานได้
รอบตัวเขาเป็นชั้นลาวาสีแดงเข้ม จ่าฝูงตั๊กแตนมิติยังคงมุ่งไปข้างหน้า
“โจมตีมัน!”
“นั่นก็ได้อยู่หรอก แต่อย่าลืมนะ ว่าระหว่างโจมตีฉันจะไม่มีสมาธิป้องกัน จังหวะนั้นมันก็สามารถโจมตีพวกเราได้เหมือนกัน!” ไป๋หลีกล่าว
“เรื่องนั้นไม่ต้องกลัว!”
บนร่างของฉินเฟิง เปลี่ยนไปสวมเสื้อคลุมราชวงศ์เพลิง แทบจะในทันที ปรากฏชั้นเขตแดนเล็กๆขึ้นรอบตัวเขา
ไป๋หลีพอเห็นฉินเฟิงพร้อมรบเช่นนี้ ก็เหยียดมือออกทันใด ระเบิดรังสีสีเงินจี้หลังจ่าฝูงตั๊กแตน
ในพริบตา อักษรรูนเกิดการระเบิด ชั้นมิติที่ห่อหุ้มจ่าฝูงตั๊กแตน ระลอกสีเงินกระเพื่อมเป็นคลื่น จ่าฝูงตั๊กแตนถูกไป๋หลีผลักออกจากพื้นที่มิติอย่างฉับพลัน
วินาทีต่อมา ลาวาร้อนเข้าแผดเผาร่างกายของมัน
“กี๊!”
จ่าฝูงตั๊กแตนมิติกรีดร้อง ร่างสีเงินคล้ายเกิดปฏิกิริยาหลอมละลาย
แต่ต่อมา ปรากฏชั้นมิติปกคลุมร่างของมันอีกครั้ง สร้างเป็นวัตถุทรงลูกบาศก์ ห่อหุ้มตนเองเอาไว้
มันตัดสินใจขังตัวเองอยู่ในมิติ เพื่อป้องกันการรุกรานของลาวาหนืด
จากนั้น มันเปิดใช้งานเทคนิคมิติอีกที เตรียมผสานเข้ากับความว่างเปล่า
แต่ทันใดนั้นเอง ลูกบาศก์สีดำจู่ๆก็หายวับไป จ่าฝูงตั๊กแตนหันมามองฉินเฟิงกับไป๋หลีด้วยความเกลียดชัง
พลังสมาธิของฉินเฟิงถ่ายทอดคำพูดตรงเข้าหามัน
“ออกไปจากที่นี่ซะ ไม่อย่างนั้น … ตาย!”
นี่คือมิติโลกมนุษย์ที่ฉินเฟิงอาศัยอยู่ เขาจะปล่อยให้สิ่งมีชีวิตอื่นมาแตะต้องได้อย่างไร!
แต่สิ่งที่ตอบฉินเฟิงกลับมา คือเสียงกรีดร้องกราดเกรี้ยวของจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ อักษรรูนสีเงินพุ่งสาดเข้าใส่หน้าเขา
คราวนี้ เป็นฝ่ายฉินเฟิงกับไป๋หลี ถูกโจมตีกระเด็นหลุดออกจากพื้นที่มิติของตัวเองบ้าง
เขตแดนขนาดย่อมที่คอยห่อหุ้มฉินเฟิงลุกโหม เข้าต่อต้านลาวาหนืดที่อยู่รอบๆ บางทีอาจเพราะเป็นรูนธาตุเดียวกัน เปลวไฟเลยไม่ถูกหลอมละลายในทันที เพียงพอที่จะฝืนได้สัก 5 วินาที
อย่างไรก็ตาม เมื่อไร้ซึ่งอบิลิตี้มิติคอยปิดกั้น พลังงานมหาศาลจากโดยรอบก็โถมเข้าหาฉินเฟิง