ตอนที่แล้วEp.954 - เจ้าเล็กจ้อยเลเวล A
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.956 - รอยแตกของแมกมา

Ep.955 - จ่าฝูงตั๊กแตนมิติ


Ep.955 - จ่าฝูงตั๊กแตนมิติ

ท่าทีหยิ่งผยองของไป๋หลี สร้างความไม่พอใจแก่เทพีแห่งท้องทะเล แม้บนใบหน้าของเธอยังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม แต่ในหัวใจกำลังแยกเขี้ยวขู่ไม่ต่างจากงูพิษ

“เหอะ ในเมื่อเตือนแล้ว แต่พวกคุณไม่ฟัง ก็รับผลจากการตัดสินใจของตัวเองให้ได้แล้วกัน!”

ไป๋หลีหัวเราะเย็นชา ลูกโลกในมือพรั่งพราวไปด้วยรังสีแสงสีเงิน

แสงสีเงินนี้ ตรงเข้าปะทะชั้นป้องกันของจ่าฝูงตั๊กแตนทันที

มหาจักรพรรดิไวเซอร์และคนอื่นๆตกตะลึงไปชั่วขณะ นั่นเพราะรูนอบิลิตี้ที่ไป๋หลีปลดปล่อย มันมิใช่สิ่งที่พวกเขานึกฝันว่าจะพบเจอ

เป็นรูนมิติ!

ต้องรู้นะว่า รูนนี้ยากนักที่จะค้นพบ ในหมู่มวลมนุษย์จวบจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครได้ครอบครองมันเลย

ในขณะที่ฝั่งสัตว์ร้าย มีการดำรงอยู่มากมายที่ครอบครองรูนมิติ เรียกรวมๆกันว่าสัตว์ยักษ์มิติ

รูนมิติของไป๋หลี กระทบชั้นป้องกันของจ่าฝูงตั๊กแตน บังเกิดระลอกคลื่นสีเงินก่อตัว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆ

“ที่แท้ก็ใช้ไม่ได้!” มหาจักรพรรดิไวเซอร์ปากเอ่ยประชดประชัน แต่ในหัวใจกลับรู้สึกโล่งอก โชคดีจริงๆที่ไม่ได้ผล ไม่เช่นนั้นเขาคงโดนหักหน้าอีกรอบ

แต่ในเวลานั้นเอง ฉินเฟิงผู้ยังมิได้เคลื่อนไหว กระโจนเข้าไปข้างหน้า

เขาไม่สามารถทำลายม่านป้องกันของจ่าฝูงตั๊กแตนได้ ดังนั้นหน้าที่สลายมันมอบให้ไป๋หลี เพราะท้ายที่สุดแล้วอีกฝ่ายคือสัตว์เทวะเลเวล S ในขณะที่ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิง อยู่ในระดับเทวะเลเวล A เท่านั้น

กล่าวได้ว่าห่างกันหนึ่งช่วงใหญ่

อย่างไรก็ตาม กำลังภายในของฉินเฟิงอยู่ในเลเวล S ทั้งครอบครองดาราถึงเก้าดวง พลังโจมตีของเขา ไม่ใช่ธรรมดา!

“ปลดปล่อยเก้าดารา!”

“ทักษะลับกลืนดารา : ปลดปล่อยแรงผลัก!”

“กระบวนท่าวิญญาณสะบั้น : ล้านสับสังหาร!”

กำลังภายในของฉินเฟิงอัดฉีดลงในมีดกษัตริย์ครามเต็มพิกัด หมู่มวลวิญญาณน่าสยองขวัญที่ถูกดูดซับมาจากกระแสกองทัพสัตว์ร้าย ทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมา

เมื่อเหล่าวิญญาณที่แข็งแกร่งและอ่อนแอปะปนกันไปมารวมตัวกัน ก็สามารถสร้างกองทัพอันน่าหวาดกลัวได้!

พริบตาที่พลังอำนาจนี้ระเบิดออกมา เสียงร่ำไห้โหยหวนก้องกังวานไปทั่วทุ่งล่า ผู้ใดสดับฟังต่างรู้สึกขนลุก

จ่าฝูงตั๊กแตนที่กำลังมุ่งไปข้างหน้าไม่สนใจสิ่งใด พลันถูกกระชากสติ ส่งเสียงร้องแหลม ตอบสนองทันที

ในพริบตา รอยแยกขนาดใหญ่แหวกชั้นอากาศที่ว่างเปล่า จ่าฝูงตั๊กแตนเตรียมหลบหนี ทว่าแทบจะในทันที คลื่นพลังงานอีกกระแสหนึ่งปรากฏขึ้น บังคับปิดรอยแยกรอยนั้น

สามเลเวล S สังเกตเห็นได้ ว่าพลังที่เพิ่งปิดรอยแยกมิติไป แท้จริงแล้วถูกส่งมาจากหญิงสาวในชุดขาวคนแรก

ล้านสับสังหารของฉินเฟิง ฟาดฟันลงบนร่างของจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ

จ่าฝูงตั๊กแตนถอยวูบ แผนแรกใช้ไม่ได้ย่อมมีแผนสอง สีบนร่างกายมันคล้ายจืดจางลง คาดว่ามุดหายเข้าไปในพื้นที่มิติ เช่นนี้เกรงว่าการโจมตีของฉินเฟิงจะสูญเปล่าแล้ว

อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา ทุกคนคล้ายสัมผัสได้ถึงคู่กรงเล็บที่มองไม่เห็น คว้าจ่าฝูงตั๊กแตน และกระชากมันออกมาจากพื้นที่มิติอย่างไร้ปรานี ลากเข้าหาการโจมตีของฉินเฟิง

ล้านสับสังหารของฉินเฟิงใกล้เข้ามาแล้ว มิอาจหลบเลี่ยงได้อีก จ่าฝูงตั๊กแตนโกรธแค้น มันร้องคำรามลั่น เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่โจมตีสวนกลับไป

ในพริบตาที่ล้านสับสังหารเข้าปะทะ ปีกของจ่าฝูงตั๊กแตนกระพือไหว บดขยี้กองทัพวิญญาณที่คิดหมายกัดกินมัน

ในความเป็นจริงแล้ว จิตวิญญาณจากกระบวนท่าวิญญาณสะบั้น จำนวนของมันไม่ค่อยสม่ำเสมอ มีโอกาสถูกผลาญไปกับการต่อสู้ ตอนนี้ด้วยการตอบโต้ของจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ ส่งผลให้จิตวิญญาณบางส่วนถูกทำลาย สลายหายไปอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม ยังมีจิตวิญญาณอีกหลายดวงที่ไม่ดับสูญ วิญญาณเหล่านี้คือสัตว์ร้ายระดับราชันย์และจักรพรรดิ มีกระทั่งระดับเทวะ

สิ่งมีชีวิตในระดับที่กล่าวมานี้ ฉินเฟิงได้ออกไล่ล่าและเก็บสะสมพวกมันไว้อย่างน้อยก็นับหมื่นตัว ขณะนี้ พวกมันทั้งหมดโฉบหลบเทคนิคจากปีกศัตรู กรูกันไปด้านข้างจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ โจมตีเปลือกชั้นนอกของมัน

ห้ามลืมนะว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่วิญญาณ แต่พวกมันยังแฝงไปด้วยรังสีคมมีดของท่าวิญญาณสะบั้น

ช่วงวินาทีที่วิญญาณสัมผัสลง ในภาพรวมจริงๆจะเทียบเท่ากับรังสีคมมีดสับเข้าโจมตี เพียงเสี้ยววินาทีเดียว เปลือกแข็งที่ห่อหุ้มจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ ปรากฏรอยถูกฟันทิ้งเป็นร่องลึกเอาไว้

การโจมตีระลอกต่อไปตามมาติดๆ จิตวิญญาณหมาป่าสองตัวที่ดุร้ายที่สุดในมีด พุ่งเข้าชนร่องลึกที่ถูกเปิดออกในคราวเดียว

จ่าฝูงตั๊กแตนมิติส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ด้วยการโจมตีเพียงหนึ่งกระบวนท่าของฉินเฟิง สามารถทำร้ายจ่าฝูงตั๊กแตนได้

มหาจักรพรรดิไวเซอร์และคนอื่นๆไล่ตามจ่าฝูงตั๊กแตนมาตลอดสองวันเต็มๆ แต่กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ แต่เมื่อฉินเฟิงมาถึง เขากลับสามารถหยุดศัตรูเอาไว้ได้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม เพราะการฟาดฟันนี้ ทำให้อีกฝ่ายเดือดขึ้นมาแล้ว ช่วงเวลาถัดมา อากาศที่ว่างเปล่าโดยรอบเริ่มล่มสลาย อำนาจมิติอันน่าหวาดกลัวกดดันฝูงชน

ตัวตนทรงอำนาจทั้งสามตระหนักถึงพลังที่ไม่อาจหยุดยั้ง  ตัดสินใจล่าถอยออกมาทันที

เหลือเพียงฉินเฟิงที่รั้งอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบ แต่ท่าทีของเขายังสงบ จิตใจไม่สั่นคลอน ทั้งคนทั้งร่างถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงสีเงิน

--ไป๋หลีกำลังปกป้องเขาจากการโจมตีโดยอบิลิตี้มิติเหล่านั้น

มีดกษัตริย์ครามปลดปล่อยท่าวิญญาณสะบั้นออกมาอีกครั้ง

จ่าฝูงตั๊กแตนมิติพ่ายแพ้อีกคราว จำต้องถอยร่นครั้งแล้ว และครั้งเล่า

เนื่องจากมันเป็นเผ่าแมลง ฉะนั้นโดยทั่วไปแล้วจึงอ่อนแอกว่าสัตว์ร้ายสายพันธุ์ เอาจริงๆธรรมชาติของเผ่าแมลง ตามปกติมักจะเน้นการชนะด้วยจำนวนมากกว่า

ดังนั้นแม้จ่าฝูงตั๊กแตนมิติจะทรงพลัง และมีระดับทุกอย่างเท่าเทียมไป๋หลี แต่ยังคงเป็นไป๋หลีที่ชิงความได้เปรียบ ในสายตาของคนนอก อาจดูเหมือนเป็นการโจมตีของฉินเฟิง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไป๋หลีต่างหากที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจยิ่งกว่า สกัดกั้นการโจมตีของจ่าฝูงตั๊กแตนเอาไว้

กระบวนท่าวรยุทธของฉินเฟิง ยิ่งใช้ยิ่งลดทอนอานุภาพลง แม้เขาครอบครองดาราถึงเก้าดวง แต่อย่างไรไม่กล้านำมันออกมาใช้มากเกินไป

หลังจากต่อสู้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยถึงสามชั่วโมงเต็ม ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง กลิ่นอายของฉินเฟิงยิ่งมืดยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่ว่าเมื่อตกกลางคืน ฝีเท้าแต่ละย่างก้าวของเขากลับดูแปลกไป บางครั้งจ่าฝูงตั๊กแตนมิติก็ยังจับทางไม่ได้

ตอนนี้ ร่างของจ่าฝูงตั๊กแตนเต็มไปด้วยรอยแผลใหญ่ เลือดสีเงินที่หลั่งรินสู่พื้นดิน ค่อยๆแข็งตัวกลายเป็นหิน ก่อตัวเป็นศิลามิติได้อย่างกะทันหัน

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จ่าฝูงตั๊กแตนมิติคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย

จ่าฝูงตั๊กแตนดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าผลลัพธ์ในอนาคตจะจบลงเช่นไร บังเกิดความลังเลใจสะท้อนในดวงตาของมัน สุดท้ายหันหลัง ตัดสินใจหลบหนี

“มิติปิดล้อม!” ไป๋หลีปลดปล่อยอบิลิตี้ของเธอ หยุดจ่าฝูงตั๊กแตน

แต่ครั้งนี้ จ่าฝูงตั๊กแตนตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องจากไปให้จงได้ มันโค้งตัวลง เอาศีรษะพุ่งเข้ากระแทกสุดกำลัง สลายอบิลิตี้ของไป๋หลี การกระทำนี้เล่นเอามันเลือดท่วมไปทั้งหัว แต่ก็สามารถสลัดหลุดออกมาได้สำเร็จ

จังหวะนั้นมันไร้ซึ่งความลังเลใดๆ อักษรรูนบนร่างจ่าฝูงตั๊กแตนวูบไหวต่อเนื่อง กระพริบแต่ละที พุ่งไกลออกไปนับพันเมตร

ท่าเทเลพอร์ตดังกล่าว ไป๋หลีมักนำมาใช้กับฉินเฟิงเป็นประจำ เนื่องจากอยู่ในระหว่างต่อสู้ จ่าฝูงตั๊กแตนจึงไม่สามารถสร้างประตูมิติได้ แต่การตัดสินใจใช้ท่าเทเลพอร์ตก็เป็นความคิดไม่เลว เพราะหากเป็นคนธรรมดาย่อมไม่สามารถไล่ตามทัน

ตัวตนทรงอำนาจทั้งสามที่ถูกบีบให้ถอยร่นในตอนแรก และไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ เวลานี้ตกใจสุดขีด

“อย่าปล่อยให้มันหนีไปแบบนี้!”

“เร็วเข้าสิ รีบตามมันไป!”

ทั้งสามกระวนกระวาย

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงกลับหยุดฝีเท้า ไม่มีความคิดจะไล่ตามไป

“ไม่จำเป็นต้องไล่ตาม!” ฉินเฟิงกล่าว หยุดไป๋หลีที่เตรียมปลดปล่อยอบิลิตี้

“ทำไมถึงไม่ไล่ตามมันไป? คุณเกือบจะฆ่ามันได้อยู่แล้ว!” โอโบรันเถียงทันที

“งั้นคุณก็ไปเองสิ ได้ยินว่าธาตุสายฟ้าว่องไวมาก บางทีคุณอาจไล่ตามมันทันก็ได้” ฉินเฟิงกล่าว

หากสัตว์ยักษ์มิติต้องการหลบหนี ย่อมไม่มีใครสามารถหยุดมันได้ ฉะนั้นแทนที่จะไล่ตาม จะดีกว่าไหมหากรอให้อีกฝ่ายปรากฏตัวแล้วค่อยทุ่มโจมตีสุดกำลัง?

“นาย! นายนี่มันไม่รู้จักมองภาพรวมเอาซะเลย สิ่งมีชีวิตแบบนั้น จะปล่อยให้วิ่งพล่านไปทั่วได้ยังไง ต่อไปจะมีมนุษย์อีกกี่คนที่ถูกฆ่า?” เทพีแห่งท้องทะเลตำหนิฉินเฟิง เธอไม่เห็นด้วย

“งั้นพวกคุณก็ช่วยตามหามันให้หน่อยแล้วกัน ถ้าเจอเมื่อไหร่ อย่าลืมโทรบอกผมด้วย อ้ออีกอย่าง ไม่ใช่พวกคุณคิดว่าเลเวล A อย่างผมมันไร้ประโยชน์หรอกหรือ เก่งนักก็ไปจัดการมันเองสิ!” ฉินเฟิงประชด ก่อนหันไปพยักหน้าให้ไป๋หลี

ไป๋หลีเปิดประตูมิติ ทั้งสองหายวับไปจากสถานที่เดียวกัน ทิ้งสามตัวตนทรงอำนาจให้ยืนอึ้งอยู่ในจุดเดิม จะหนีก็ไม่ได้ ให้ไล่ตามไปก็ลังเล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด