Ep.954 - เจ้าเล็กจ้อยเลเวล A
Ep.954 - เจ้าเล็กจ้อยเลเวล A
ตัวตนทรงอำนาจหลายคนที่บุุกเข้ามายังพันธมิตรวู้ดแลนด์ พวกเขาคือเลเวล S ของจริง หรือความหมายก็คือ เวลาของพวกเขามีค่ามาก ดังนั้นไม่สนใจจะล่ากองทัพสัตว์ร้ายซึ่งเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สุดของพันธมิตรวู้ดแลนด์
ดังนั้นนอกจากในกรณีที่เห็นพวกมันผ่านตา และสังหารง่ายดายราวปัดรังควานด้วยหลังมือแล้ว ก็ไม่คิดกวาดล้างใดๆอีก ส่วนเป้าหมายของตัวตนทรงอำนาจเหล่านี้ มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือตั๊กแตนมิติตัวใหญ่ที่สุด หรือจ่าฝูงเลเวล S
สองวันที่ผ่านมา ทั้งสามร่วมมือกัน เข้าพัวพันกับตั๊กแตนเลเวล S ทว่าก็ยังไม่สามารถโค่นอีกฝ่ายได้ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างยากลำบาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาร่วมมือกันพยายามแทบตายเพื่อจัดการกับตั๊กแตนมิติเลเวล S นี่เป็นภารกิจที่อันตรายมาก แต่กลับไม่มีใครให้ความสนใจหรือสำนึกบุญคุณพวกเขาเลย ตรงกันข้าม ชาวเมืองทั้งหมดกลับไปเคารพบูชาฉินเฟิง ผู้ซึ่งทำแค่เพียงเก็บกวาดสัตว์ร้ายอ่อนแอ แต่ไฉนได้ชื่อกลายเป็นผู้กอบกู้พันธมิตรวู้ดแลนด์แต่เพียงผู้เดียวไปได้?
เรื่องนี้ทำให้เลเวล S กลุ่มนี้รู้สึกไม่พอใจมาก ทุกคนร้องเรียนให้พันธมิตรหัวเซี่ยส่งคนมาช่วยเหลือบ้าง จะได้ร่วมกันกำจัดตั๊กแตนมิติเลเวล S
เพราะตราบใดที่จ่าฝูงของตั๊กแตนมิติตาย สถานการณ์ก็จะคลี่คลายลงเอง
ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ตัวตนทรงอำนาจเลเวล S เหล่านี้ คิดว่าคนของพันธมิตรหัวเซี่ย ไม่รู้จักมองในมุมมองภาพรวมเอาซะเลย
เดิมที่หลงถิงอนุมัติให้ฉินเฟิงกระทำการตามอิสระ เพราะในความคิดของเธอ จะอย่างไรฉินเฟิงต้องไปล่าหัวจ่าฝูงตั๊กแตนมิติอย่างแน่นอน
แต่หลงถิงคาดไม่ถึงเลย ว่าฉินเฟิงกลับไม่มีความตั้งใจเช่นนั้นแม้แต่น้อย
เพราะสำหรับฉินเฟิง ตั๊กแตนมิติสร้างปัญหาใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งดี ยิ่งพวกมันลากเอาสัตว์ร้ายต่างมิติมายังที่นี่ เขาก็ยิ่งสามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้น ตรงกันข้าม หากจ่าฝูงตั๊กแตนมิติตาย เกรงว่าฝูงตั๊กแตนมิติตัวอื่นๆคงหลบหนีไป
แต่ตอนนี้เลเวล S อีกสามคนที่ช่วยกันปิดล้อมมันอยู่กำลังลำบาก ฉินเฟิงไม่อาจหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผลที่จะปฏิเสธได้
‘อีกอย่าง พอนึกถึงวัตถุดิบเลเวล S ของจ่าฝูงตั๊กแตนมิติ อา! ฉันต้องการมัน จะปล่อยให้คนอื่นคว้าไปไม่ได้!’
มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิงยังขาดวัสดุหลัก หากนำกะโหลกของจ่าฝูงตั๊กแตนมิติมาใช้ คงได้ผลดีไม่น้อย
“ท่านผู้นำหลงถิงโปรดวางใจ ผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!” ฉินเฟิงกล่าว
“อืม แต่อย่าลืมเน้นความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก อะไรที่คิดว่าไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน ชีวิตคุณสำคัญกว่า!” ฉินเฟิงคือความหวังของพันธมิตรหัวเซี่ย หลงถิงไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุใดๆกับฉินเฟิง
ฉินเฟิงวางสายสื่อสาร พลังสมาธิกวาดปกคลุมทั่วทั้งพันธมิตรวู้่ดแลนด์ จ่าฝูงตั๊กแตนมิติซ่อนกลิ่นอายของมันเอาไว้ในพื้นที่มิติตน ดังนั้นไม่อาจตรวจพบ แต่กลิ่นอายของตัวตนทรงอำนาจเลเวล S ทั้งสาม เสมือนภูเขาไฟปะทุท่ามกลางความมืดมิด ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งอันเปี่ยมล้น
ฉินเฟิงสามารถระบุตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ทันที ไป๋หลีเปิดประตูมิติ ทั้งสองก้าวออกจากที่นี่
ในทุ่งล่า จ่าฝูงตั๊กแตนมิติลอยอยู่ในอากาศ สำหรับคนที่ไม่ทราบข้อมูลของมัน คงคิดว่าจ่าฝูงตั๊กแตนถูกผลักดันมายังที่รกร้างแห่งนี้โดยผู้ใช้พลังเลเวล S เพื่อป้องกันไม่ให้พลังมหาศาลของมันทำลายเมือง
แต่ในความเป็นจริง เป็นจ่าฝูงตั๊กแตนมิติเองที่บินมา ไม่มีใครสามารถบังคับมันได้
มหาจักรพรรดิไวเซอร์คำรามเกรี้ยวกราด อาวุธเทวะขวานยักษ์ในมือสับลงสุดแรงเกิด
เพียงแต่ก่อนเข้าถึงตัวจ่าฝูงตั๊กแตน พลันปรากฏประกายแสงสีดำขึ้น ขวานยักษ์ราวกับฟันถูกอากาศที่ว่างเปล่า จมลงไปในต่างมิติ
“บ้าเอ๊ย!” เหตุการณ์ราวๆนี้เคยเกิดขึ้นกับมหาจักรพรรดิไวเซอร์หลายครั้ง แต่เขาไม่เคยแก้มันได้สักที
“ไม่จำเป็นต้องเสียแรงเปล่าแล้ว นายตัวใหญ่ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ จะไม่ใช่อะไรที่พวกเราสามารถรับมือได้ตั้งแต่แรก คงต้องตามผู้ใช้พลังเลเวล SS มา ไม่ใช่ว่าในหัวเซี่ยมีคนแบบนั้นอยู่หรอกหรอ? ให้พวกเขาจัดการเองก็แล้วกัน!” เทพีแห่งท้องทะเลวีน่าท้วงขึ้น
“ฉันแจ้งเรื่องกับทางหัวเซี่ยแล้ว แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาดันส่งเจ้าหนูเลเวล A มา เฮ้อ!” โอโบรันไม่พอใจสุดๆกับการตัดสินใจของพันธมิตรหัวเซี่ย
พวกเขารู้ว่าคนที่ปรากฏตัวในพันธมิตรวู้ดแลนด์ไม่ใช่หูซาน แต่เมื่อสอบถามไปว่าคนที่สามารถปลดปล่อยเทคนิคอบิลิตี้เลเวล S และหยุดกระแสกองทัพสัตว์ร้ายไว้คือใคร พวกเขาก็ทราบว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายเป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล A
เรื่องนี้ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ที่แท้ก็เป็นเลเวล A เล็กจ้อยไร้ประโยชน์ ทำได้แค่ต่อสู้กับพวกสัตว์ร้ายอ่อนแอ!” มหาจักรพรรดิไวเซอร์กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
“ดูเหมือนทุกท่านจะไม่ต้อนรับผมนะ” น้ำเสียงหนึ่งถ่ายทอดเข้ามาผ่านพลังสมาธิ ร่างสองร่างแหวกมิติออกมา
ผู้ใช้พลังเลเวล S ทั้งสามสะดุ้งตกใจ
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่อาจสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายใดๆของผู้มาเยือนเลย แถมการปรากฏตัวเมื่อครู่นี้ มันอยู่ในระยะใกล้มาก ผู้มาเยือนรุกคืบเข้ามาในรัศมี 1,000 เมตร หากอีกฝ่ายไม่ถ่ายทอดพลังสมาธิ แต่ตรงเข้าสังหารพวกเขาแทน บางอาจเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นก็ได้
ทันทีที่ฉินเฟิงมาถึง คนเหล่านี้ก็คล้ายถูกคำพูดของตัวเองตบหน้า
สีหน้าของมหาจักรพรรดิไวเซอร์เปลี่ยนไป เพราะเขาเพิ่งเอ่ยปากว่าเลเวล A เล็กจ้อยไร้ประโยชน์ แต่อีกฝ่ายกลับสามารถเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ นี่ทำให้เขารู้สึกใบหน้าร้อนฉ่า
พลังสมาธิของฉินเฟิงกวาดเข้าตรวจสอบผู้ใช้พลังทั้งสาม เขาพบว่าความแข็งแกร่งของทั้งสามมิใช่อ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้นทั้งหมดเพิ่งยกระดับขึ้นสู่เลเวล S ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ยังอายุไม่มากเกินไป มีอุดมการณ์ความคิดเหมือนกับพวกวีรบุรุษที่เพิ่งถือกำเนิดใหม่ พร้อมออกท่องโลกกว้าง
เรียกง่ายๆว่าแตกต่างจากตัวตนทรงอำนาจอย่างฟางโจวอย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพีแห่งท้องทะเลวีน่า เธอเป็นเหมือนดาราซะมากกว่า มีแฟนคลับเป็นจำนวนมาก และทุกคนเต็มใจบุกน้ำลุยไฟเพื่อเธอ
โอโบรันก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะเขามีพี่ชายแท้ๆชื่อว่าโอเบอร์ ฉินเฟิงเคยเจออีกฝ่ายมาก่อนที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เขาเป็นผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าเลเวล A
เพียงแต่ว่า ความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนี้ เทียบกับจ่าฝูงตั๊กแตนมิติแล้ว ยังด้อยกว่ามาก
จ่าฝูงตั๊กแตนมิติ จากหัวจรดเท้า มองยังไงก็เป็นสัตว์เทวะอย่างสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่าได้เลยกับไป๋หลีในปัจจุบัน
ในขณะที่ความแข็งแกร่งของมนุษย์ค่อนข้างอ่อนแอ เว้นแต่จะปรากฏการดำรงอยู่ในระดับเทวะ จึงจะสามารถต่อกรกับสัตว์เทวะในระดับเดียวกันได้
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีความแข็งแกร่งถึงระดับนั้น หากจ่าฝูงตั๊กแตนมิติเอาจริงขึ้นมา พวกเขาคงไม่มีสามารถหลบหนีได้ด้วยซ้ำ
บางทีอาจเป็นเพราะคนกลุ่มนี้ไม่แม้จะสามารถสร้างอาการบาดเจ็บหรือคันแก่จ่าฝูงตั๊กแตนมิติ ดังนั้นมันเลยไม่สนใจทั้งสาม
สรุปแล้วในความคิดของฉินเฟิง ที่ทั้งสามกำลังช่วยกันอยู่นี้ เปล่าประโยชน์ซะจริงๆ
แต่ในสายตาของไวเซอร์และคนอื่นๆ การปรากฏตัวของฉินเฟิงต่างหาก ที่เปล่าประโยชน์
เป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล A มันจะไปทำอะไรได้?
มหาจักรพรรดิไวเซอร์รู้สึขุ่นเคืองฉินเฟิงในใจ เหลือบสายตามองแถบตรา และอักษรบนอกฉินเฟิง ทันใดนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แล้วฉันพูดอะไรผิดรึไง? นายมีคุณสมบัติอะไรให้พวกเราต้องต้อนรับ? เป็นแค่เลเวล A แท้ๆ ระหว่างที่ฉันกำลังอารมณ์ดี รีบไสหัวไปซะ! อีกเดี๋ยวถ้าจ่าฝูงตั๊กแตนมิติโจมตี จะไม่มีใครช่วยนายได้!”
ไป๋หลีทำเสียงจิ๊จ๊ะ “ตอนนี้เป็นคุณต่างหากที่ควรหนีไป มิฉะนั้นจ่าฝูงตั๊กแตนโจมตีขึ้นมา ฉันกลัวว่าคุณจะหนีไม่พ้น!”
เมื่อไวเซอร์ได้ยินคำพูดของไป๋หลี ก็เดือดดาลขึ้นทันใด เขาไม่สามารถหยุดจ่าฝูงตั๊กแตนมิติได้ แล้วเลเวล A จะทำได้หรือ?
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ผู้ใช้พลังเลเวล A หยิ่งยโสได้ถึงขนาดนี้?
“พวกแกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม” ขวานยักษ์ในมือไวเซอร์ถูกอัดฉีดไปด้วยพลังงาน คล้ายเตรียมพร้อมจะสับออกไปทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตาม วีน่าเข้าสกัดไว้อย่างรวดเร็ว “สหายเอ๋ย อย่าทำแบบนั้นเลย พวกเรามาที่นี่เพื่อแก้ปัญหา ไม่ได้มาเพื่อก่อความขัดแย้ง ในเมื่อเด็กน้อยสองคนต้องการจะสู้ เราก็ให้โอกาสพวกเขา แต่ส่วนเรื่องที่ว่าจะตายหรือไม่ ไม่ใช่ความผิดของพวกเรา!”
เทพีแห่งท้องทะเลเอ่ยอย่างสุภาพ แต่ในหัวใจของเธอ ปรารถนาให้ฉินเฟิงและไป๋หลีตายไปให้พ้นๆ