ตอนที่ 6 กวาดถนน
ตอนที่ 6 กวาดถนน
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ฮันเป่าเม่ยก็ออกมาสนทนากับคุณย่าเพื่อสร้างความคุ้นเคย เธอทำกิจวัตรตามปกติ และกลับเข้าห้องนอนตั้งแต่หัวค่ำ
สำหรับเจ้าแมวน้อยกำลังนอนรอเธออยู่ในห้องอย่างใจจดใจจ่อ
"ช้าจัง นอนรอจนเบื่อแล้วเนี่ย!"
"ข้ารีบสุดชีวิตแล้ว... มาเริ่มกันเลยดีกว่า" หญิงสาวกล่าวอย่างรีบร้อน
หลังจากปรุงยาแล้ว พวกเธอก็ทำเพียงรอเวลาให้ทุกคนเข้านอนจนหมด ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี จากนั้นสิ่งมีชีวิตทั้งสองชนิดก็ค่อย ๆ ย่องออกมาอย่างแผ่วเบาที่สุด
"เอาไงดี?" หญิงสาวเอ่ยถาม
"ก่อนอื่นต้องร่ายคาถาห้วงภวังค์" เจ้าแมวน้อยแนะนำ
"ตกลง!"
สำหรับผู้ที่ตกอยู่ในอำนาจของคาถานี้จะหลับใหลไม่ได้สติจนกว่าแม่มดจะยกเลิกคาถา และที่ต้องทำเช่นนี้ก็เป็นเพราะ พวกเขาเกรงว่า หากมีใครตื่นขึ้นมากะทันหันตอนดึกอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้
เนื่องจากตามกฏของแม่มดหากมีผู้อื่นที่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกันเห็นเธอตอนที่กำลังร่ายมนตร์ แน่นอนว่าจะต้องมีอันตรายร้ายแรงเกิดขึ้นกับคนคนนั้น ซึ่งบางทีอาจถึงกับเสียชีวิตได้
จากนั้นเด็กสาวเริ่มพิธีรักษาอาการป่วยของคุณพ่อฮันเป่าเม่ยที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ
หลังจากซัดผงยาไปทางร่างของผู้ป่วยแล้ว เป่าเม่ยก็เริ่มร่ายมนตร์
"โอม...ด้วยอำนาจแห่งเวทมนตร์อาการเจ็บป่วยจงหายไปในฉับพลันทันใด... นับตั้งแต่บัดนี้"
หญิงสาวร่ายเวทย์พร้อมกับใช้นิ้ววาดคาถาในอากาศที่ว่างเปล่าอย่างพลิ้วไหวและสบัดนิ้วทั้งห้าไปยังผู้ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนเจ้าแมวตัวแสบก็กล่าวว่า
"ร่ายคาถาห้วงภวังค์ย้อนกลับด้วยสิ! เดี๋ยวชาตินี้ก็ไม่ต้องตื่นกันพอดี"
"เออใช่.. เกือบลืม.. ขอบใจนะ"
จากนั้นเมื่อได้เวลาตีสามครึ่งเธอก็รีบเตรียมตัว เนื่องจากแม่มดสาวต้องการออกไปทำงานกับมารดาเพื่อเรียนรู้ว่า มนุษย์บนโลกใช้ชีวิตกันอย่างไร
มารดาของเธอทำหน้าที่กวาดถนนในเมืองนี้ และต้องเริ่มงานตั้งเเต่ตีห้าไปจนถึงเวลาสามโมงเย็นอย่างเหน็ดเหนื่อยทุกวัน ซึ่งนิยามของเธอคือ เงินเดือนน้อยนิด แต่ต้องทำงานหนักจนแทบจะสิ้นชีวิต
แต่วันนี้เมื่อมารดากับบุตรสาวเดินทางมาถึงตำแหน่งที่จะทำงาน ผู้เป็นมารดาได้กล่าวว่า
"รอแม่ตรงนี้เดี๋ยวเดียว แม่ขอไปห้องน้ำนะ... ปวดท้องอึขั้นรุนแรง...โอ๊ย..ข้าศึกบุกแล้ว!"
เมื่อมารดาเดินจากไป หญิงสาวก็เริ่มร่ายเวทมนตร์เพื่อทำความสะอาดถนนทั้งเมืองนี้ด้วยคาถาเพียงบทเดียวเท่านั้น
"โอม! ขยะมูลฝอย… สิ่งสกปรกที่เกลื่อนกลาดอยู่บนท้องถนนจงพุ่งตัวเข้าไปอยู่ในถังขยะ ณ.บัดนี้"
จากนั้นนิ้วมือที่พลิ้วไหวผสานเข้ากับสายลมที่พัดผ่านมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้ถนนทั้งเมืองสะอาดเอี่ยมในชั่วพริบตา โดยไม่มีผู้ใดต้องเหน็ดเหนื่อย
เมื่อมารดากลับมาหลังจากเวลาผ่านไปประมาณสิบนาที เด็กสาวก็กล่าวว่า
"แม่! หนูกวาดเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ! เรากลับบ้านกันเถอะ!"
"จริงเหรอ! ล้อเล่นกับแม่หรือเปล่า?" มารดาเอ่ยถามด้วยความงุนงง
"ก็ดูสิคะ… ถนนสะอาดแล้ว!"
“โอว! ทำได้ยังไงกันเนี่ย?”
"ก็หนูเก่ง" เธอกล่าวพร้อมกับยกคิ้วข้างซ้ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่ถึงเวลาเลิกงานมารดาของเธอย่อมไม่สามารถกลับบ้านได้ ดังนั้นที้งสองคนจึงนั่งเล่นอยู่บริเวณนั้น
ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว ดังนั้นทั้งสองคนจึงเริ่มหิวน้ำ
"เดินไปซื้อน้ำเปล่าให้หน่อย!" มารดากล่าวพร้อมกับยื่นธนบัตรใบละยี่สิบเหรียญให้บุตรสาว
"ซื้อ แปลว่าอะไร?… แล้วเอากระดาษนี้ให้หนูทำไมคะ?"
หลังจากได้รับฟังคำอธิบายจากมารดาแล้ว เด็กสาวก็เดินไปที่ร้านค้า
"ซี้อน้ำค่ะ"
เมื่อเหลือบไปเห็นบลูเบอร์รี่ชีสเค้กในตู้กระจก หญิงสาวก็รู้สึกสนใจจึงกล่าวว่า
"เอาไอ้นี่ด้วย"
"ทั้งหมดเจ็ดสิบเหรียญค่ะ!"
หลังจากเห็นว่าในมือตนเองมีเงินเพียงแต่ยี่สิบเหรียญจึงรีบวิ่งออกไปพร้อมกับตะโกนว่า
"รอเดี๋ยวนะ"
เธอรีบเด็ดใบไม้มาหนึ่งใบและหาที่ลับตาคนเพื่อร่ายเวทย์ หลังจากถูมือไปมา ในทันใดสิ่งที่อยู่ในมือก็กลายเป็นธนบัตรใบละห้าสิบในพริบตา และรีบวิ่งกลับเข้าไปหาพนักงานคนเดิม
"นี่ค่ะเงิน"
หลังจากพนักงานรับเงินแล้ว เพียงไม่ถึงนาทีเธอคนนั้นก็ล้มหัวฟาดจนเลือดนองท่วมพื้นอย่างน่ากลัว แต่เด็กสาวยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความงุนงง ขณะที่ได้ยินเสียงคนรอบข้างร้องตะโกนเอะอะโวยวายด้วยความโกลาหล
"เรียกรถพยาบาลด้วย… เรียกรถพยาบาลด้วย!!!"
เด็กสาวได้แต่บ่นพึมพำว่า
"อดกินเลยเรา.."
และที่มันเป็นเช่นนั้น มันเป็นเพราะเธอทำผิดกฏของแม่มดโดยไม่รู้ตัว!
**********