ตอนที่แล้วบทที่ 353
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 355

บทที่ 354


สายลมพัดพาควันพิษสีม่วงเข้าใกล้เมืองอย่างช้าๆ ด้านหลังมีอสรพิษนับแสนตัวเลื้อยคลานพร้อมกับคนจากพรรคสุขาวดีฟ้าดินนับพันที่ร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นเช่นสัตว์อสูรทั้งหมด สือตี้จงแสยะยิ้มยืนอยู่บนหลังสัตว์อสูรค้างคาวตัวใหญ่บนท้องฟ้า ร่างกายที่ปรับแต่งแก้ไขจนเกินขีดสุดผิวหนังถูกห่อหุ้มด้วยเกร็ดบางอย่างถึงสามชั้นเขาด้านบนหายไปเหลือเพียงศีรษะที่โล่งเตียน ดวงตาเช่นสัตว์อสูรของเขาหรี่มองผู้คนในเมืองเพื่อหาชายหนุ่มผู้หนึ่ง ชั่วน้ำเดือดประตูเมืองถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งมัดผมหางม้าผมสีดอกเลาในมือถือดาบเล่มหนึ่งสวมชุดสีฟ้าก้าวเดินออกมาด้านหน้าของเมือง ดาบในมือขวาสั่นสะท้านน้ำในคลองสั่นสะเทือนตาม ชายฉกรรจ์ค่อยๆยกดาบในมือขวาขึ้นช้าๆชูเหนือศีรษะ สามลมหายใจต่อมาเขาฟาดฟันดาบในมือลงมาอย่างรวดเร็ว ปราณดาบสีเขียวขนาดใหญ่พุ่งหายเข้าไปในควันพิษ เปรี้ยง ตูม เสียงปะทะดังสนั่น

ควันพิษถูกแหวกเป็นช่องเพราะปราณดาบอสรพิษนับหมื่นตกตายลงในการโจมตีเดียว สือตี้จงถึงกับตื่นตกใจทวนเหล็กปรากฏในมือขวาเข้าซัดมันลงไปที่ชายฉกรรจ์ด้านล่าง เคร้ง แต่ทว่าทวนเหล็กสกัดกั้นโดยแท่งเหล็กหนึ่งแท่งกระเด็นร่วงลงพื้น ชายฉกรรจ์อีกผู้หนึ่งรูปร่างอ้วนหัวโล้นในมือถือแท่งเหล็กก้าวเดินออกมาจากประตูเมือง สือตี้จงยกมือขวาชี้นิ้วออกไปเสียงโห่ร้องดังลั่นมาจากด้านหลังคนจากพรรคสุขาวดีพุ่งทะยานเข้าประชิดพร้อมกับอสรพิษที่เหลืออยู่ ยอดฝีมือนับพันปรากฏกายขึ้นที่บนกำแพงเมืองกำชับอาวุธในมือแน่น ไม่ถึงสามลมหายใจทั้งหมดก็พุ่งทะยานเข้าปะทะ ปราณดาบและกระบี่ปลิวว่อนที่ด้านหน้าของเมือง เนี่ยฟงแอบอยู่บนกำแพงถึงกับตื่นตกใจจ้องมองดูการปะทะด้านล่างอสรพิษพุ่งลงไปในคลองหวังข้ามไปอีกฝั่ง วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีเขียวปรากฏขึ้นที่พื้นทันใดนั้นปราณดาบมากมายพุ่งทะยานขึ้นมาจากคลองสังหารอสรพิษด้านล่าง ทันใดนั้นเองเขาก็รีบพุ่งลงไปด้านล่างเพราะหลบทวนเหล็กที่พุ่งซัดเข้ามาจากท้องฟ้า

สือตี้จงแสยะยิ้มเมื่อพบเห็นชายผู้เป็นเป้าหมาย ค้างคาวรับรู้ความต้องการของผู้เป็นนายพุ่งลงมาด้านล่างอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเองปราณดาบสีเขียวพุ่งเข้าปะทะค้างคาวเสียงดังสนั่น เปรี้ยง สือตี้จงกระเด็นร่วงลงไปที่พื้น ชายร่างอ้วนพุ่งซัดแท่งเหล็กในมือทั้งสองโจมตี สือตี้จงระเบิดพลังปราณ ตูม แท่งเหล็กถูกสกัดกั้นด้วยปราณสีม่วงควันพิษพวยพุ่งออกจากร่าง สือตี้จงถีบเท้าพุ่งเข้าประชิดกับชายร่างอ้วน

“ไม่คิดว่าช่างตีดาบขี้เมาอย่างเจ้าจะมีฝีมือเช่นกันเหลียงจี้อัน”

เหลียงจี้อันถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเพราะพิษร้ายที่มาจากปราณสือตี้จง ทั้งสองปะทะกันอยู่นานเกือบครึ่งเค่อเป็นเหลียงจี้อันที่ตกตายเพราะพิษร้าย ร่างกายของสือตี้จงไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

เนี่ยฟงเมื่อลงมาถึงด้านล่างเข้าพุ่งทะยานไปตรงกลางของจุดปะทะ วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏขึ้นที่พื้นดินนับสิบ ไม่ถึงสามลมหายใจก็ซัดฝ่ามือทั้งสองลงพื้น เปรี้ยง ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากพื้นโจมตีอสรพิษและคนจากพรรคสุขาวดีฟ้าดิน เปรี้ยง เปรี้ยง หลายสิบคนตกตายลงอย่างรวดเร็ว เกราะสายฟ้าปรากฏเป็นฐานเนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งทะยานขึ้นบนท้องฟ้าสะบัดมือขวากำชับดาบในมือฟาดฟันออกไปด้วยทักษะตัดสายฟ้า ปราณดาบสีฟ้าแปดเล่มพุ่งเข้าปะทะ เปรี้ยง เปรี้ยง เนี่ยฟงจ้องมองดาบในมือถึงกับขมวดคิ้ว

“ดาบที่ได้มาใหม่ก็ไม่สามารถรองรับพลังปราณของข้าได้ หรือข้าต้องใช้ดาบดับอสูรจริงๆขอรับท่านลุ่ยกง”

“เหตุใดเจ้าไม่ใช้กงล้อสะท้านฟ้า”

เนี่ยฟงได้แต่ส่ายศีรษะไปมา

“ข้าต้องการเก็บมันไว้ใช้ยามจำเป็นเท่านั้น”

ประกายสายฟ้าพุ่งออกจากมือขวา เปลวไฟพุ่งพวยออกมาจากมือซ้าย เนี่ยฟงทำได้เพียงต่อยหมัดทั้งสองด้วยทักษะตัดสายฟ้า ปราณหมัดสีฟ้าและแดงพุ่งเข้าปะทะเสียงดังสนั่นทันใดนั้นเองเขาก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะรับรู้ว่ารอยสักที่แขนซ้ายเข้มขึ้นอีกอย่างมีชายผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาหาตนจากด้านหลัง สือตี้จงปรากฏกายอย่างรวดเร็วจ้วงแทงทวนเหล็กในมือออกไป เนี่ยฟงก้มตัวหลบหมุนไปทางซ้ายต่อยหมัดขวาออกไป เปรี้ยง สือตี้จงแสยะยิ้มยกมือซ้ายคว้ารับ

“เหตุใดเจ้าถึงไม่ใช้ดาบดับอสูรละไอ้หนู เป็นเจ้าไม่ใช่รึที่ชิงดาบดับอสูรจากข้าไป”

ยอดฝีมือจำนวนมากที่อยู่ใกล้เคียงต่างได้ยินในสิ่งที่สือตี้จงกล่าวหันไปมองชายหนุ่มสวมชุดสีเทาผู้หนึ่งอย่างไม่วางตา เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วได้แต่สบถด่าในใจกระทืบเท้าขวากระโดดแทงเข่าเข้าไปที่ชายโครงด้านซ้าย เปรี้ยง ถอยออกมา

“ชาวยุทธ์มากมายต่างรับรู้ว่าดาบดับอสูรอยู่กับท่าน เหตุใดถึงกล่าววาจาเช่นนั้น ตัวข้าเป็นเพียงชายหนุ่มผู้หนึ่ง”

สือตี้จงแสยะยิ้มกระอักเลือดออกมาตัวสั่นสะท้านกุมไปที่ชายโครงด้านซ้ายเอ่ยวาจาออกมาเสียงดังลั่น

“ร่างกายที่ปรับแต่งมาใหม่ยังไม่สามารถต้านทานพลังจากดาบอสูรจากเจ้าได้อีกรึ”

สิ้นเสียงกล่าวสือตี้จงก็ถีบเท้าถอยออกไปด้านหลังตะโกนออกมาอีกครั้ง

“ถอย”

อสรพิษที่เหลือและคนจากพรรคสุขาวดีฟ้าดินได้ยินเสียงตะโกนของสือตี้จงต่างถอยหลบออกมา เนี่ยฟงถึงกับตื่นตกใจคิดจะพุ่งทะยานกลับเข้าเมืองแต่ถูกชายฉกรรจ์มัดผมหางม้าผมสีดอกเลาขว้างทางเอาไว้

“เจ้าเป็นใครกันไอ้หนู”

เนี่ยฟงก้มคารวะ

“ตัวข้ามีนามว่าเนี่ยฟงขอรับ มาที่นี่เพื่อ”

ชายฉกรรจ์ยกมือขึ้นห้าม

“ข้าไม่ต้องการทราบว่าเจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร แต่ข้าอยากรู้ว่าสิ่งที่สือตี้จงกล่าวคือเรื่องจริงหรือไม่ หากเป็นจริงจงมอบดาบดับอสูรออกมาซะ”

เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้ว เขาหันไปมองรอบด้านพบชาวยุทธ์ที่เหลือต่างยืนล้อมตัวเขาเอาไว้ ชิงเสี้ยวและหยวนอันหลงรีบพุ่งทะยานเข้ามาหวังช่วยเหลือแต่ถูกชายฉกรรจ์สามคนขว้างทางเอาไว้ เช่นเดียวกับกลุ่มของหลิวหยูฟาง

“ท่านหัวหน้าตระกูลทังจือเทียนชายหนุ่มผู้นี้คือคนที่ข้ากล่าวถึงเขาเป็นคนช่วยเหลือข้า ข้ายืนยันได้ว่าน้องชายเนี่ยฟงเพียงแค่ถูกใส่ร้าย”

เนี่ยฟงหันไปมองตามเสียงพบเห็นเป็นเทียนซินหยางก้าวเดินออกมา ทังจือเทียนแสยะยิ้มกล่าววาจาออกมาเช่นกัน

“ถึงแม้เขาจะเป็นคนช่วยเหลือคุณชายก็จริง แต่ข้าก็อยากพิสูจน์เช่นกันว่าสิ่งที่สือตี้จงกล่าวออกมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เช่นนั้นข้าขอค้นสิ่งของที่อยู่ในแหวนของเจ้าได้หรือไม่ไอ้หนู”

ทังจือเทียนหาได้สนใจเทียนซินหยางเขาจ้องมองแหวนในมือทั้งสองของชายหนุ่มด้านหน้า

“เรื่องนั้นคงเป็นไปไม่ได้ขอรับ ถึงแม้ท่านจะเป็นใหญ่ในเมืองแห่งนี้ก็ตาม”

ทังจือเทียนขมวดคิ้วหันไปมองรอบด้าน

“ตัวข้าหาได้อยากได้สิ่งของในแหวนของเจ้าไอ้หนู เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่นำของในแหวนออกมาแสดงให้เราดูละ หากเจ้าไม่มีดาบดับอสูรอยู่ในครอบครองตามที่สือตี้จงกล่าว”

“เรื่องนั้นก็เป็นไปไม่ได้ขอรับ หากข้าเป็นผู้ครอบครองดาบดั่งที่สือตี้จงกล่าวข้าคงนำมาใช้สังหารเขาแล้ว ถึงแม้ตัวข้าจะครอบครองดาบดั่งที่สือตี้จงกล่าวจริง ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบแหวนในมือของข้า อีกอย่างข้าไม่จำเป็นที่จะต้องนำของในแหวนออกมาให้พวกท่านดู”

หลายคนเริ่มจ้องมองชายหนุ่มนามเนี่ยฟงอย่างไม่วางตารวมไปถึงชาวยุทธ์ที่เหลือบนกำแพงด้วยเช่นกัน ทังจือเทียนแผ่ลมปราณเข้ากดดันเนี่ยฟงหวังบีบบังคับแต่ทว่าตัวชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งไม่แสดงอาการใดๆ เนี่ยฟงเองเร่งโคจรลมปราณเข้าต้านรับ

“พวกท่านอายุเท่าไหร่กันแล้ว เหตุใดถึงบีบบังคับค้นแหวนของชายหนุ่มผู้หนึ่งเพราะคำพูดของคนจากพรรคมารเช่นสือตี้จง ข้าเทียนซินซานละอายใจยิ่งนัก”

ทังจือเทียนหาได้หันไปมองผู้ใดสายตาจับจ้องไปที่เนี่ยฟงอย่างไม่วางตา ไม่ถึงครึ่งลมหายใจเขาป็พุ่งเข้าประชิดจ้วงแทงมือขวาออกไปหวังคว้าจับมือขวาของเนี่ยฟง เนี่ยฟงสะบัดมือขวาปัดป้องพร้อมกับถีบเท้าถอยออกมา

“เหอะ การกระทำของท่านช่างน่าละอายยิ่งนักหัวหน้าตระกูลทังจือเทียน น่าเสียดายที่ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสที่ตั้งตัวอยู่ฝ่ายธรรมะ เพียงคำพูดของสือตี้จงไม่กี่คำถึงกับต้องกระทำเช่นนี้ หากสือตี้จงกล่าวหาว่าข้าสังหารบิดาของท่าน ท่านคงคิดที่จะสังหารข้าแล้ว หรือว่าท่านกับสือตี้จงแอบร่วมมือกันลับหลัง”

ทังจือเทียงหาได้สนใจในสิ่งที่เนี่ยฟงกล่าวถีบเท้าพุ่งเข้าประชิดอีกครั้งพร้อมกับจ้วงแทงมือทั้งสองข้างออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด