ตอนที่ 515 อย่าพูดเรื่องนั้นอีก
เฉียวหรุ่ยอยู่ตรงนั้นกับเธอด้วย
“หยุดร้องไห้.”
พ่อเฉียวพูดอย่างไม่อดทน “เรื่องครอบครัวของเรา ยังน่ารำคาญไม่พออีกเหรอ? หยุดทำให้มันแย่ไปมากกว่านี้ด้วยการเอาแต่ร้องไห้เลยน่า”
หลินฮุ่ยเซินเงยหน้าขึ้นมองด้วยดวงตาบวมของเธอ จากนั้นเธอตอบอย่างเศร้า ๆ ว่า “เฉียวหลุ่ย คุณคิดว่าอันซินเป็นลูกสาวจริง ๆ บ้างหรือเปล่า? จะไม่ให้ฉันร้องไห้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร? อันซินยังไม่ได้สติ คุณไม่กังวลเรื่องเธอแม้แต่น้อยเลยหรือไง?”
พ่อเฉียวขมวดคิ้ว ไม่มีความโศกเศร้าบนใบหน้าของเขาและเขาก็ตอบอย่างไม่อดทนว่า “หมอบอกว่าวันนี้เธอก็จะฟื้น ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ แล้วคุณกังวลอะไร? ผมมีเรื่องอื่นที่สำคัญยิ่งกว่าต้องคิดต้องทำ”
“เฉียวหรุ่ย คุณพูดแบบนั้นออกมาได้อย่างไง? อันซินเป็นลูกสาวของคุณหรือเปล่า หะ? ฉันคิดไม่มีผิด สำหรับคุณก็คงมีเพียงเฉียวเมียนเมียนเท่านั้นสินะ ที่เป็นลูกสาวของคุณ อันกับฉันคงไม่มีค่าอะไรกับคุณเลยล่ะสินะ”
“อันซินน่ะ เป็นลูกสาวที่แท้จริงของคุณนะ เฉียวเมียนเมียนนั่นต่างหากล่ะ เด็กกำพร้าที่คุณเก็บเอามาเลี้ยง คุณจะดูแลเด็กกำพร้าดีกว่าลูกสาวของตัวเองได้ยังไง? แค่นี้คุณคิดไม่ได้หรือไง?”
“หุบปาก” เฉียวหลุ่ยกำลังโกรธ
“ผมบอกคุณไปกี่ครั้งแล้ว? อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก อีกอย่างผมไม่สนใจว่าเธอจะเป็นเด็กกำพร้าหรือไม่ เมียนเมียนน่ะเป็นลูกสาวของผม”
“หึ แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยสินะ”
หลินฮุ่ยเซินรู้สึกโกรธที่เขาปกป้องเฉียวเมียนเมียน
“เฉียวหลุ่ย คุณนี่ก็ช่างซื่อสัตย์เสียจริงนะ ทำงานที่บริษัทนั่นเพียงสามปี ดูสิภักดีต่อพวกเขามากขนาดนี้”
“สามปีของความสัมพันธ์ในการทำงาน คุณถึงกับยินดีรับดูแลลูกสาวของพวกเขา เจ้านายของคุณคงจะรู้ซึ้งถึงความภักดีของคุณงั้นสินะ? อีกอย่าง อย่ามาลากอันซินและฉันไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของคุณล่ะ ถ้านั่นคือเป็นเพียงการตอบแทนพวกนั้น ทำไมเราต้องยอมให้เธอเสมอด้วย?”
“คุณปฏิบัติกับเธอเป็นอย่างดี แถมยังรักเธอมากกว่าลูกสาวแท้ ๆ ของคุณเองอีก แต่ดูสิ เธอตอบแทนความเมตตาของคุณยังไง? เธอก่อเรื่องวุ่นวายที่บ้านกับเหล่าผู้ชายพวกนั้น เธอปฏิบัติกับคุณเหมือนพ่อของเธอหรือเปล่าล่ะ? ถ้าเธอคิดว่าคุณเป็นพ่อเธอ เธอจะทำอย่างนั้นไหม?”
“คุณเสียเงินไปเท่าไหร่ หลังจากที่เธอจากไปกับผู้ชายคนนั้น คุณต้องยอมสละบ้านพักตากอากาศของคุณเพื่อเป็นหลักประกันเสียด้วยซ้ำ บางทีเธออาจเป็นคนที่อยู่เบื้องต้นเรื่องนี้ก็ได้ เธออาจจะร่วมมือกับคนอื่นมาทำร้ายครอบครัวตัวเอง”
“ถ้าไม่ใช่เพราเธอ อันซินก็คงไม่ทะเลาะกับซูเจ๋อ แล้วอันซินก็คงไม่แท้งลูกด้วย หลานที่น่าสงสารของฉัน เขาเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก”
เธอเริ่มน้ำตาไหลอีกครั้ง
บนเตียงในโรงพยาบาล
เฉียวอันซินยังคงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเธอตื่นขึ้น
เธอได้ยินที่หลินฮุ่ยเซินกับเฉียวหรุ่ยพูดกันทั้งหมด แม้จะไม่ชัดเจน เพราะยังไม่รู้สึกตัวเต็มที่
ทว่าเมื่อได้ยินคำว่า ‘แท้ง’ เท่านั้น ทำให้เธอลืมตาตื่นในทันที
เธอตกใจมาก อยากจะลุกขึ้นมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอเจ็บปวดอย่างรุนแรงในขณะที่เธอขยับตัว
ความเจ็บปวดทำให้เธอหงายหลังนอนลงบนเตียงตามเดิม