Ep.945 - สัตว์ร้ายรุมล้อม
Ep.945 - สัตว์ร้ายรุมล้อม
หลังจากขุดก้อนน้ำแข็งมาได้สักพักหนึ่ง พวกเขาก็เตรียมตัวที่จะขนพวกมันบางส่วน นำกลับไปมอบให้สมาชิกที่รั้งอยู่เบื้องหลังใช้ก่อสร้าง
“ผมขออาสาไปเอง รบกวนท่านผู้ใหญ่หูปกป้องพวกเขาด้วย” ฉินเฟิงกล่าว
“ไปเถอะ ที่เหลือฉันจัดการเอง” หูซานกล่าว ต่อให้ฉินเฟิงไปคนเดียว ก็ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหลง ส่วนเรื่องพลาดท่าเจอสัตว์ร้ายระหว่างทางยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง
ฉินเฟิงรวบรวมอุปกรณ์รูนมิติอย่างน้อยร้อยชิ้น มุ่งหน้ากลับเส้นทางเดิม
ระหว่างทางไม่พบเจออันตรายใดๆ นอกจากนี้ ปัจจุบันฉินเฟิงครอบครองอบิลิตี้ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมของมิติ อันได้แก่อบิลิตี้ลมและน้ำแข็ง ส่งผลให้สภาพอากาศเลวร้ายบนเกาะมังกร ไม่มีผลกระทบต่อเขาอีกต่อไป
เขาว่องไวเป็นอย่างมาก ใช้เวลาเพียง 5 นาที ก็สามารถกลับมาถึงที่เดิม แต่การกลับมาครั้งนี้ ฉินเฟิงไม่ได้ให้หุ่นเชิดแห่งความตายเข้ามาใกล้ เพื่อป้องกันมิให้ผู้คนตื่นตระหนก
ฉินเฟิงหยุดหุ่นเชิดแห่งความตาย ปล่อยพวกมันเว้นระยะออกมาราวๆ 100 เมตร และเดินหน้ามายังรอยแยกมิติ แต่ผลปรากฏว่า ที่นี่มีศพนอนกองอยู่อย่างกะทันหัน โดยมีกลุ่มคนบางส่วนกำลังนั่งชำแหละมัน
“พวกคุณถูกโจมตีงั้นหรอ?” ฉินเฟิงถาม
หนานกงซีหมิงกล่าว “เป็นแค่หมาป่าตัวเล็ก คิดว่ามันคงหลงฝูง แต่หมาป่าตัวน้อยตัวนี้แข็งแกร่งไม่เลวเลย เอาจริงๆมันมีความแข็งแกร่งในระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A แต่ลูกน้องของคุณลงมือฉับไว เลยจบปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว”
ฉินเฟิงมองไปยังทิศทางของวังเฉิน เห็นอีกฝ่ายยังคงอยู่ในเกราะจักรกล สื่อสารกับคนอื่นๆผ่านลำโพงภายนอกของหุ่น แต่เวลานี้ คนรอบข้างเขาล้วนเป็นเลเวล A แถมท่าทีที่พวกเขากำลังแสดงออกมา ไม่มีใครดูถูกวังเฉินอีกเลย ตรงกันข้าม กลับให้ความรู้สึกเกร็งๆอยู่หลายส่วน
ฉินเฟิงปล่อยก้อนน้ำแข็งออกมาพื้นที่มิติ มอบให้แก่คนเหล่านั้นสร้างเป็นฐาน พร้อมแจกกาวที่กลุ่มเฟิงหลีจัดเตรียมเอาไว้ สร้างห้องโถงขนาดใหญ่ขึ้นชั่วคราว จากนั้นล้อมด้วยกำแพงเมือง
เนื่องจากที่นี่ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อใช้สำหรับให้ผู้คนอยู่อาศัยเกินความจำเป็น ดังนั้นพิมพ์เขียวที่ออกแบบมา จึงเป็นการสร้างรูปแบบทรงกลม มีรัศมีราวๆ 400 เมตรเท่านั้น
หลังแจกจ่ายก้อนน้ำแข็งจนทุกคนไม่เว้นว่าง ฉินเฟิงก็เดินไปติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณ จากนั้นติดต่อหาวังเฉินข้างในหุ่นรบ
“ก่อนหน้านี้ทำอะไรลงไป?”
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่คนพวกนี้ไม่ยอมรับให้ฉันมาประจำการที่นี่ ดังนั้นพอสัตว์ร้ายปรากฏตัว ฉันเลยตัดสินใจยิงปืนใหญ่ออกไปด้วยระดับพลังสูงสุด ข่มขวัญพวกเขาซะเลย”
นี่เป็นเกราะจักรกลเพียงหนึ่งเดียวที่กำลังถูกพัฒนาโดยกลุ่มเฟิงหลี แม้จะเรียกว่าเป็นหุ่นรบเลเวล A แต่กำลังรบของมันมิใช่สิ่งที่ผู้ใช้พลังเลเวล A จะเทียบได้
พลังโจมตีสูงสุดที่มันระเบิดออกมา น่าจะใกล้เคียงกับการโจมตีอย่างเต็มรูปแบบของผู้ใช้พลังเลเวล A9 สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การโจมตีแบบเต็มกำลังเมื่อครู่ ขอเวลาแค่ห้านาที ก็สามารถระบายความร้อนของจักรกลได้แล้ว จากนั้นจะสามารถยิงได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้งานมัน คือแก่นราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล A
แต่หลังจากที่วังเฉินสังหารสัตว์ร้ายตัวนี้ลง เขาได้รับแก่นจักรพรรดิสัตว์ร้ายของหมาป่ามาแทน นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า
“ทำได้ดีมาก!” ฉินเฟิงเองก็พอทราบถึงความกังวลของวังเฉิน เห็นอีกฝ่ายมั่นใจขึ้นมากก็พอใจมาก
จากนั้น ฉินเฟิงเปิดอุปกรณ์รูนมิติ กล่องดำถูกปล่อยออกมาทีละกล่อง กล่องแล้ว กล่องเล่า ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่ง กล่องดำเหล่านี้ จู่ๆแยกแขนแยกขา กลายเป็นหุ่นยนต์
แต่หลังจากป้อนคำสั่ง พวกมันจะปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างดี ซึ่งอำนาจสั่งการส่วนกลางทั้งหมดถูกมอบให้วังเฉินดูแล
ในมิติธารโลหิต ฉินเฟิงมีหุ่นยนต์กว่า 3,000 ตัว ทว่าครั้งนี้เขานำมาแค่ 300 ตัวเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับผู้ใช้พลังเลเวล C ที่ยากต่อการทนทานในสภาพอากาศเช่นนี้แล้ว กองทัพหุ่นยนต์ของฉินเฟิง ถือเป็นหน่วยแรงงานชั้นดี
“ฉินเฟิง ฉันว่าจะปล่อยผู้ใช้พลังเลเวล C กลับไปก่อน อยู่ที่นี่พวกเขาไม่มีประโยชน์อะไรเลย!” หนานกงซีหมิงกล่าว
“ครับ เรื่องทางนี้ผมขอมอบให้คุณจัดการ ส่วนผมจะขอเดินทางกลับไปเก็บวัสดุ แล้วขนกลับมาให้”
“รบกวนแล้ว!”
ฉินเฟิงออกจากตำแหน่งป้อมปราการ มุ่งหน้าไปยังภูเขาน้ำแข็งอีกครั้ง
หลังจากใช้เวลาขนส่งไปกลับเช่นนี้หนึ่งวันเต็มๆ ก้อนน้ำแข็งที่ต้องใช้ก็มีเพียงพอแล้ว นอกจากนี้ กำแพงชั้นนอกก็ถูกสร้างแล้วเช่นกัน ปืนใหญ่พลังงานแก่นสัตว์ร้ายที่สามารถรับมือกับสัตว์ร้ายเลเวล A ถูกติดตั้งเอาไว้อย่างแน่นหนาบนกำแพงเมือง
และยังมีการติดตั้งโล่พลังงาน เมื่อไหร่ที่พวกมันถูกกางออก ก็จะกลายเป็นเกราะสองชั้น สามารถแยกภายในจากการโจมตีภายนอกของพายุพลังงานได้
ถึงจุดนี้ผู้คนมากมายค่อยตระหนัก ว่าฉินเฟิงครอบครองอุปกรณ์น่าทึ่งเป็นจำนวนมาก
หลังก่อสร้างเสร็จสิ้น พวกผู้ใช้พลังเลเวล C ก็ถูกส่งกลับไป แต่ผู้ใช้พลังเลเวล B ยังต้องการอยู่ต่อ
ด้วยพลังของพวกเขา แน่นอนว่าไม่สามารถล่าสัตว์ร้ายได้ แต่พลังงานบนเกาะมังกรอุดมสมบูรณ์มาก เหมาะแก่การฝึกฝน
“ถ้าอยากอยู่ก็อยู่เถอะ แต่อันดับแรกช่วยสร้างที่พักก่อน ฝากเรื่องนี้ให้ผู้ใช้อบิลิตี้ดินเป็นคนจัดการ!” หูซานออกคำสั่ง
วังเฉินแม้เป็นเลเวล C แต่แน่นอนว่าเขาต้องการรั้งอยู่ อีกอย่างเขาเป็นคนแรกด้วยซ้ำที่มีห้องพัก ภายในเต็มไปด้วยเครื่องจักร ที่ต้องคอยให้วังเฉินแก้จุดบกพร่องและสับเปลี่ยนอุปกรณ์เข้าแทนที่ตลอดเวลา ฉินเฟิงเองก็ช่วยศึกษาค้นคว้ามัน
“ก่อนหน้านี้ ฉันเคยควบคุมเมืองลอยฟ้า ยามจิตสำนึกหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมัน ช่วยให้ฉันสามารถมองได้ไกลเป็นร้อยๆไมล์ เห็นทุกหนแห่งบนพื้นดินและท้องฟ้า แต่ตอนนี้ เมื่อเข้ามาในมิติของพระเจ้า ทุกอย่างกลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ปัจจุบันฉันเหมือนกลายเป็นคนตาบอด วิสัยทัศน์เบื้องหน้ายังแทบมองไม่เห็น มันยากที่จะปรับตัวจริงๆ ที่สำคัญฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย ท่านประธาน ได้ยินมาว่าที่นี่มีสัตว์ร้ายเลเวล S …”
“ใช่ ยอมรับว่าที่นี่มีจริงๆ แต่ขอแค่คุณไม่ออกไปข้างนอก ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อีกอย่าง ถ้าโชคร้ายเจอมันจริงๆ ก็จงจำไว้ว่าต้องวิ่งหนีทันที!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีปัญหา เรื่องประสิทธิภาพการหลบหนีน่ะ เกราะจักรกลชิ้นนี้นับว่าเป็นเลิศ!”
เวลานั้นเอง เกิดเสียงเปรี๊ยะๆดังมาจากทางวังเฉิน ดูเหมือนเขาจะซ่อมแซมเครื่องจักรเสร็จแล้ว แต่แทบจะในทันที บนเครื่องสแกน จุดสีแดงเข้มทั้งเล็กใหญ่พลันปรากฏขึ้น
สีหน้าของวังเฉินแปรเปลี่ยนไป แทบไม่อยากเชื่อภาพในสายตา
“นี่ใช่ไหมที่เรียกว่าชิบหาย? ทำไมถึงได้มีสัตว์ร้ายมากมายขนาดนี้!”
แถมพวกมันยังไม่ใช่สัตว์ร้ายธรรมดา แต่ละตนมีความแข็งแกร่งต่ำสุดในระดับราชันย์
“ผมจะไปตรวจสอบดู” ฉินเฟิงรู้สึกว่านี่ไม่น่าใช่ปัญหาที่เกิดจากเครื่องสแกน แต่มีสัตว์ร้ายเริ่มตีกรอบเข้ามาล้อมฐานพวกเขาจริงๆ
สัตว์ร้ายเหล่านี้อาจไม่เคยพบเห็นกำแพงเมืองมาก่อน หรือบางทีพวกมันอาจรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ภายในป้อมปราการ ดังนั้นตัดสินใจขยับเข้ามาปิดล้อม มิได้โจมตีผลีผลาม
ฉินเฟิงวิ่งขึ้นไปบนกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้พลังที่กำลังรักษาการณ์คือคนที่เดินทางไปยังภูเขาน้ำแข็งกับฉินเฟิง ฉะนั้นทราบดีถึงพลังของผู้มาเยือน ไม่กล้าที่จะล่วงเกิน
“จอมพลฉิน ไม่ทราบมีธุระอะไรที่นี่หรือ?”
“สถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง?” ฉินเฟิงถาม
ผู้ใช้พลังได้แต่ส่ายหัวและกล่าว “พายุหิมะรุนแรงมาก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตรวจสอบระยะไกล แต่ดูจากสภาพการณ์แล้ว ไม่น่าจะมีสัตว์ร้ายปรากฏตัวขึ้นมา!”
แน่นอน วิสัยทัศน์ข้างนอกต่ำเกินไป จะมองไม่เห็นก็ไม่แปลกอะไร
ทว่าภายในเสียงหวีดหวิวของสายลม คล้ายมีเสียงแปลกๆสอดแทรกแฝงเข้ามา เมื่อได้ยินมัน สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไป ร้องตะโกนทันที “ระดมพลเตรียมสู้ศึก! มือปืนจงก้าวขึ้นมาควบคุมปืนใหญ่พลังงานแก่นสัตว์ร้าย พร้อมโจมตีทุกเมื่อ!”
เสียงนี้สนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าร้อง ทุกคนภายในป้อมปราการล้วนได้ยินมัน เลเวล S ทั้งสามก็เดินออกจากห้องเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
คนเหล่านี้คิดก้าวเข้ามาถามไถ่ฉินเฟิง แต่ฉินเฟิงกระโดดออกจากป้อมปราการไปซะแล้ว มุ่งหน้าหายเข้าไปในพายุหิมะ
“โบร๊ว ….”
ยิ่งก้าวไปข้างหน้าเท่าไหร่ เสียงก็ยิ่งชัดเจนเท่านั้น ที่แท้เป็นเสียงหอนของหมาป่า!
ฉินเฟิงก้าวต่อไป ในสายตาของเขา สัตว์ร้ายหมาป่าที่มีขนสีขาวราวหิมะทั้งตัวปรากฏขึ้น
หมาป่าตัวนี้สูงกว่าสองเมตร ยาวสี่เมตร กลิ่นอายบนร่างของมันบ่งบอกว่าเป็นราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล A
เพียงแต่ว่า ขณะที่ฉินเฟิงเห็นหมาป่าสีขาวตัวแรก อีกตัวหนึ่งก็ก้าวออกมาในหิมะ อีกตัว และอีกตัว!
ทุกตนล้วนมีสีขาวราวหิมะ
ฝูงหมาป่าล้อมฉินเฟิงเอาไว้แล้ว!
“โบร๊วววว!”
สิ่งมีชีวิตจากเบื้องหลังส่งเสียงกระตุ้นพวกมัน วินาทีถัดมา กลุ่มหมาป่าสีขาวนับสิบตัวที่อยู่รอบๆ--
--ทั้งหมดกระโจนเข้าหาฉินเฟิง!