สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 52
ตอนที่ 52 Houston, การโยกย้าย และ ปิดการทำงาน
แน่นอนว่า สิ่งที่ลุคตั้งสมมุติฐานเอาไว้มันก็เป็นจริงตามนั้น
แต่ลุคจะสามารถพิสูจน์ได้เพิ่มเติมก็ต่อเมื่อเขาเจออาชญกรและจัดการจับกุมคนร้ายแทนที่จะฆ่าเพื่อให้ได้รับสกิลเพิ่มขึ้นตามที่คาดการไว้ และหลังจากนั้นก็สังเกตุถึงความโชคร้ายของคนเหล่านั้นเพื่อพิสูจน์ข้อสันนิฐานที่เขาคิดไว้
แน่นอนว่าเมื่อความโชคร้ายได้หายไปจากโรเบิร์ตแล้ว โรเบิร์ตก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเขาได้มากเป็นพิเศษ
และแล้วก็มาถึงวันที่ลุคได้ทำงานอยู่ที่นี่ครบสี่เดือน โรเบิร์ตเรียกก็ได้เรียกลุคและเซลิน่าเข้าไปในห้องทำงาน
หลังจากที่ลุคเข้าไปและปิดประตู โรเบิร์ตก็หยิบเอกสารสองฉบับขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะและเลื่อนมันมาที่ตรงหน้าของทั้งสองคน
ลุคเปิดดูเอกสารอย่างคร่าวๆ ก็ก่อนจะพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ “เร็วจังแฮะ?”
เซลิน่าก็ตกใจมากเช่นกัน “แผนกอาชญกรรมหลักประจำเมืองฮุสตันตะวันตกงั้นรึ? หัวหน้า คุณ… คุณทำได้ยังไงเนี่ย???”
โรเบิร์ตไม่ได้ตอบคำถามของพวกเขา “พวกคุณสองคนพร้อมแล้วหรือยัง”
ลุคมองไปที่เซลิน่า “โอ้เซลิน่า คุณก็จะย้ายไปที่ฮุสตันด้วยหรอ?”
เซลิน่ายิ้มเยาะลุคและตอบกลับไปอย่างหยอกเหย้า “ดูเหมือนนายจะผิดหวังนิดหน่อยนะที่ไม่สามารถกำจัดฉันออกไปจากชีวิตได้ ?”
“ไม่ๆ.. ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมแค่คิดไม่ถึงว่าคุณจะย้ายออกจากที่นี่” ลุคตอบพลางส่ายหัวอย่างรุนแรง
เซลิน่าแสดงออกแปลกๆ เล็กน้อย “นี่เรากำลังพูดถึงฮุสตันเลยนะ มันเป็นเมืองที่ใหญ่มากอันดับ 4 ของประเทศ และที่สำคัญเงินเดือนมันมากกว่าที่นี่มากๆ”
คำตอบของเซลิน่านั้นทำให้ลุคไร้ซึ่งคำพูด
แน่นอนว่าโดยปกติคนทั่วไปต้องการความก้าวหน้าในชีวิตอละเลือกสิ่งที่ดีให้กับชีวินตัวเองเสมอ และย้ายไปในที่ๆดีกว่า นั่นเป็นเรื่องที่ปกติมาก
เมื่อทั้งสองคนพูดคุยกันเสร็จ โรเบิร์ตก็พูดขึ้น “เอาล่ะๆ ฉันไม่มีอะไรจะพูดมากนักหรอก แต่เมื่อพวกคุณไปทำงานอยู่ที่นั่นก็ทำให้ดีที่สุดและอย่าให้ฉันขายหน้าก็แล้วกัน”
“แล้วกำหนดการย้ายของพวกเราไปเมื่อไรหละ?” เซลิน่าถาม
“ไปตอนไหนก็แล้วแต่พวกเธอเลย แต่ต้องไปรายงานตัวที่นั่นภายใน 5 วันหลังจากนี้ พวกเธอคงจะไม่ทำให้หัวหน้าในอนาคตรอนานหรอก ใช่ไหม?” โรเบิร์ตตอบ
“แน่นอน ไม่มีปัญหา ฉันใช้เวลาเก็บของก็ราวๆ 3 วันได้” เซลิน่าหัวเราะก่อนจะตอบกลับ และหันไปมองที่ลุค
ลุคลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า “โอเค เก็บของสามวันผมได้อยู่แล้ว”
เมื่อไม่มีใครถามอะไรอีก โรเบิร์ตจึงโบกมือและบอกให้พวกเขาออกไปจากออฟฟิศ
ในมือของพวกเขาทั้งสองถือคำสั่งการย้ายตำแหน่ง ขณะที่ทั้งคู่เดินออกมาจากกรมตำรวจและขึ้นรถ
เซลิน่ามองไปที่ลุคที่ดูเหมือนกำลังเหม่อลอยอยู่ “นายคิดอะไรอยู่?”
ลุคสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรวบรวมสติกลับมาให้เป็นปกติ “ไม่ได้คิดอะไร... แค่ไม่คาดไม่ถึงว่าโรเบิร์ตสามารถที่จะทำเรื่องย้ายได้ไวขนาดนี้”
“นั่นสิ ในตอนที่เขาบอกให้ฉันเตรียมตัวสำหรับการย้ายไปที่รัฐอื่น ฉันคิดว่าน่าจะเป็นหลายเดือนหลังหรือไม่ก็ครึ่งปีเลยด้วยซ้ำ” เซลิน่าพยักน่าเห็นด้วย
“ปกติมันจะใช้เวลานานขนาดนั้นเลยหรอ?” ลุคถาม
เซลิน่ายิ้ม “ก็ถ้าเป็นการย้ายไปในตำแหน่งของตำรวจธรรมดาๆ เช่น ตำรวจจราจร ก็น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 อาทิตย์ แต่ที่พวกเราจะย้ายไปเป็นแผนกอาชญกรรมร้ายแรง เงินเดือนของที่นั่นมากกว่าปกติค่อนข้างมากทีเดียว ดังนั้นปกติแล้วมันก็จะใช้เวลานานมากๆ”
“สรุป…แล้วคุณก็คิดแต่เรื่องเงินเดือนสินะเนี่ย” ลุคถามพร้อมยิ้มหัวเราะ
ในค่ำคืนหลังจากนั้น ก็มีการจัดงานเลี้ยงอำลาสำหรับพวกเขา เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกอิจฉามากนัก เพราะถึงยังไงพวกเขาส่วนใหญ่เติบโตมาจากการเป็นตำรวจในเมืองนี้และไม่สนใจที่จะย้ายไปไหนอยู่แล้ว
การที่ย้ายไปเมืองใหญ่มีทั้งข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ในเมืองที่ใหญ่กว่าการทำงานเป็นตำรวจจะมีอันตรายและงานยุ่งกว่าเมืองเล็กมาก และการแข่งขันที่นั่นก็จะสูงขึ้นด้วยนั่นทำให้เกิดความเครียดมากขึ้นเช่นกัน
สภาพแวดล้อมการทำงานในเมืองใหญ่ จะแตกต่างจากที่นี่โดยสิ้นเชิง สำหรับเมืองไกลปืนเที่ยงเช่นนี้ พวกเขาแทบไม่ต้องทำงานล่วงเวลาด้วยซ้ำและตราบใดที่พวกเขาระมัดระวังและไม่ทำพยายามไปเหยียบตีนใครเข้า พวกเขาก็สามารถเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เป็นเวลานานเท่าที่เขาอยากจะเป็น
อันที่จริงแล้ว ลุคและเซลิน่าไม่ได้ถูกโยกย้ายโดยคอนเนคชั่นของของโรเบิร์ตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
พวกเขาสองคนทำผลงานได้ดีมากในช่วงที่แก๊งคาร์ลอสบุกมาที่เมืองนี้
สามารถป้องกันการบุกของอาชญกรมากกว่า10 คนที่ในมือถือปืน AK แล้วยังสามารถรอดมาได้พร้อมทั้งจัดการผู้บุกรุกได้ทั้งหมด
แม้ว่าเซลิน่าจะไม่ได้มีส่วนร่วมกับผลงานทั้งหมดมากเท่ากับลุค แต่อย่างน้อยเธอก็ได้ฆ่าคนร้ายที่อาวุธครบมือได้คนหนึ่งและยังยื้อเวลาต่อสู้กับอาชญกรมากกว่า 8 คนเป็นระยะเวลานานพอสมควรจนกำลังเสริมตามมาช่วยได้
ในสถานการณ์เช่นนั้น ตำรวจที่พึ่งบรรจุใหม่ส่วนมากมักจะทำตัวตื่นสนามและทำอะไรไม่ค่อยถูก บางคนถึงขนาดกลัวจนฉี่ราดกางเกงเลยทีเดียว แม้กระทั่งตำรวจที่มีประสบการณ์บางคนยังไม่ทำตัวกล้าหาญมากพอที่จะยื้อเวลากับคนร้ายพร้อมอาวุธครบมือเลยด้วยซ้ำ
สำหรับลุคนั้น การแสดงออกของเขาเป็นสิ่งที่ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์ตั้งแต่เกิด ลุคเป็นตำรวจที่เพิ่งเข้าร่วมกองกำลังเพียงสองเดือนเท่านั้น แต่ได้สังหารมือปืนในระหว่างปฏิบัติการเพียงคนเดียวถึง 13 คนรวมถึงหัวหน้าที่ควบคุมการบุกของพวกมันด้วย
ไม่มีคนร้ายแม้แต่คนเดียวที่จะรอดเงื้อมือลุคไปได้ แม้กระทั่งพวกที่บาดเจ็บลุคยังไม่ยังเลที่จะปลิดชีพพวกมัน
แค่เหตุผลนี้เพียงข้อเดียวก็ทำให้ลุคโดดเด่นมากกว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนในกรมตำรวจ แน่นอนว่าต้องยกเว้นโรเบิร์ตเอาไว้หนึ่งคน
แต่ถึงยังไงลุคเป็นลูกของโรเบิร์ต ไม่มีใครสามารถที่จะพูดอะไรได้เกี่ยวกับการที่โรเบิร์ตจะย้ายลูกของตัวเองไปทำงานที่อื่น
ดังนั้นในกรมตำรวจของพวกเขาแล้ว ลุคเหมือนเป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดและยังมีคอนเนคชั่นที่ดีด้วย ทำให้ไม่มีใครสามารถหรือพูดเกี่ยวกับการย้ายตำแหน่งของลุค แม้ว่าอาจจะมีบางคนไม่พอใจเล็กน้อยแต่พวกเขาจะพูดไรได้กับเรื่องนี้นอกจากทน
ลุคไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ในกรมมากมายนัก แต่ลุคยังคงพูดคุยปลอบโยนแคทเธอรีนและน้องๆ ของเขาเกี่ยวกับการย้ายครั้งนี้
เพราะตั้งแต่ที่ลุคลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกนี้ ลุคก็ได้อาศัยในบ้านของโรเบิร์ต
เหตุผลเดียวที่ลุคไม่ได้เรียกโรเบิร์ตและแคทเธอรีนว่าพ่อแม่เนื่องจากว่าแคทเธอรีนเป็นป้าของเขา
ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวของทั่วไปอื่น ๆ
ครอบครัวนี้แม้ว่าโรเบิร์ตจะเป็นจำพวกขวานผ่าซากไปสักหน่อยแต่เขายังใจกว้าง ส่วนแคทเธอรีนนั้นทั้งฉลาดและใจดี ทั้งคู่ก็ยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมในการสร้างครอบครัวที่มีความสุขและมีคุณภาพขึ้นมาได้
ตอนนี้ เป็นเวลาที่คนในครอบครัวบางคนต้องจากไป
ก่อนหน้านี้ลุคเคยคิดเกี่ยวกับวันนี้หลายครั้งเช่นกัน แต่ทว่าลุคไม่เคยเลยว่าวันที่ว่ามันจะมาถึงไวขนาดนี้
ตามแผนก่อนหน้านี้ลุคควรจะใช้เวลาสาม สี่ปีในมหาวิทยาลัย ช่วงเวลาสี่ปีในมหาวิทยาลัยจะทำหน้าที่เป็นเหมือนการแยกตัวออกห่างจากทุกคนให้คุ้นเคยกับการไม่ได้เจอกันทุกวันอีกต่อไป
แต่ตอนนี้ลุคกำลังจะออกจากครอบครัวไปทำงานใหม่ที่แผนกอาชญากรรมหลักของเมืองฮุสตัน
กองบังคับการอาชญากรรมสำคัญของกรมตำรวจในเมืองใหญ่ๆ ยุ่งแค่ไหน? มีคดีมากพอที่จะทำให้คนๆ หนึ่งต้องวุ่นวายไปทั้งชีวิต ดังนั้นลุคคงจะยุ่งมากๆ จึงแทบไม่มีโอกาสกลับมาอีกในอนาคต
อันที่เป็นจริงมีโอกาสที่แคทเธอรีนและลูกทั้งสองจะเป็นคนที่จะไปเยี่ยมเขาที่นั่น จะยังมีมากกว่าซะอีก
แม้ว่าแคทเธอรีนไม่ค่อยเต็มใจที่จะให้ลุคย้ายออกไปเท่าไรนัก แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกว่าเธอเศร้าและเสียใจมากนัก
ในทางกลับกันเจ้าเด็กแสบโจเซฟที่ปกติมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในทะเลาะกับลุคอยู่ตลอด กลับเป็นคนที่ร้องไห้ไม่ให้ลุคไป
ส่วนแคลร์ที่อยู่ในปีสองของไฮสคูลแล้ว เธอจึงรับมือได้ดีกับความเศร้ามากกว่าโจเซฟ เธอไม่ได้ร้องไห้ขณะที่พูดคุยกัน แต่ทว่าเธอยังคงตื่นขึ้นมาพร้อมกับตาแดงๆ จากการร้องไห้ในตลอดสองวันมานี้
...
แม้ว่าคนในครอบครัวไม่เต็มใจนัก ในที่สุดวันแห่งการจากลาก็มาถึง
ลุคไม่แสดงอารมณ์เศร้าของเขาออกมาก เขาสงบนิ่งและทำเหมือนออกจากบ้านราวกับว่าเป็นวันทำงานปกติ เขายังให้แคทเธอรีนเตรียมแซนวิชสองชิ้นสำหรับมื้อกลางวันก่อนที่ ลุคจะอำลาทุกคนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
แม้ว่าวันนี้โรเบิร์ตไม่ได้ลางานแต่เขาก็ไปส่งลุคและเซลิน่าพร้อมกันกับแคทเธอรีนและลูกทั้งสองของเธอ
พวกเขาโบกมือขณะรถออก โจเซฟน้องคนสุดท้องอดไม่ได้ที่จะถามโรเบิร์ตว่า“ลุคจะกลับมาเมื่อไหร่”
โรเบิร์ตตอบว่า“เขากลับมาอยู่แล้ว แต่แม้ว่าเขาจะไม่กลับมาพวกเราก็สามารถไปเยี่ยมเขาได้ในช่วงปิดเทอม ก็จะได้ถือว่าพวกเราไปเที่ยวฮูสตันไปในตัวได้เช่นกัน”
แต่ทว่าดูเหมือนว่าโรเบิร์ตจะทำให้ตัวเองมีปัญหากับคำพูดของเขาเหล่านั้นมากขึ้น
จากนั้นเด็กๆ ทั้งสองคงจะรบกวนให้เขาพาไปที่ฮูสตันในช่วงปิดเทอมแน่นอน
เซลิน่ายังคงทำหน้าที่ขับรถ หลังจากพวกเขาขับรถออกจากเมืองเธอก็ถามลุคว่า“ไหงฉันยังต้องขับรถอยู่ ทั้งๆ ที่รถคนนี้ก็ของนาย”
“เพราะคุณขับรถได้ดีกว่าผมไง” ลุคตอบอย่างไม่ใส่ในมากนัก
เซลิน่าพูดไม่ออกเล็กน้อยกับคำตอบของลุค “ถ้านายไม่ขับบ่อยๆ แล้วเมื่อไรนายจะขับรถได้ดีขึ้น หรือว่านายวางแผนที่จะให้ฉันขับรถให้นายตลอดเลยใช่ไหมเนี่ย?”
.
B_R : ปุกาศ ปุกาศ !!!!!!!!!
ช่วงนี้จะช้าหน่อยนะครับผู้อ่านทั้งหลาย
แต่จะพยายามเร่งให้ได้อ่านกันไวๆ นะครับ
.
.
เรามีเพจแล้วน้าเข้าไป Follow กดถูกใจ พูดคุย ติดตามข่าวสารกันได้น้า ….
https://www.facebook.com/สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ-SDFW-105519611538127