ตอนที่แล้วEp.942 - ตั้งชื่อมิติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.944 - หุ่นรบ

Ep.943 - แค่คนเดียว?


Ep.943 - แค่คนเดียว?

หากไม่นับชูฟ่านที่อยู่ในมิติธารโลหิต ผู้บริหารหลักอีกสองคนเข้าประชุมด้วยตัวเอง และอีกครึ่งหนึ่งของผู้บริหารที่เหลือใช้ภาพฉายเสมือนจริงเข้าร่วม

“วันนี้ ผมได้รับข้อเสนอร่วมพัฒนามิติใหม่ โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้ใช้พลังเลเวล S  ดังนั้นจำเป็นต้องแยกกำลังคนส่วนหนึ่งออกมา รวมไปถึงการสนับสนุนทางการเงินและช่างเทคนิคบางส่วน”

ฉินเฟิงเอ่ยปาก น้ำเสียงรายเรียบ แต่สำหรับผู้คนในห้องประชุม เสียงนี้ดั่งกระหึ่มดั่งสายฟ้าฟาด

แม้คนเหล่านี้จะทราบว่าฉินเฟิงแข็งแกร่งมาก แต่ปัจจุบัน ฉินเฟิงยังเป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล A เท่านั้น!

แต่เพราะด้วยความแข็งแกร่งของฉินเฟิงเช่นกัน ทำให้ทุกครั้งที่เขาเข้าต่อสู้กับผู้ใช้พลังคนอื่นๆ ไม่เคยพ่ายแพ้เลย ส่งผลให้สถานะของกลุ่มเฟิงหลี ยอดเยี่ยมเสมอมา

ในมิติธารโลหิต ฉินเฟิงสามารถต้านทานกำปั้นของหมัดเทพเจ้า สุดท้ายได้รับพื้นที่มหาศาลในมิติธารโลหิต แต่นั่นเป็นเพียงส่วนแบ่งที่ต้องช่วงชิงกับผู้ใช้พลังเลเวล A เท่านั้น

ทว่าครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างเลเวล S จริงๆ สถานการณ์ดังกล่าว มันน่าตกใจมากเกินไป

ฉินเฟิงบอกเล่าถึงสถานการณ์บนเกาะมังกรอย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมที่นั่นเลวร้ายมาก อย่างไรก็ตาม มันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังงานธาตุ มหาศาลเกินกว่ามิตินี้จะเทียบเปรียบได้

หลังจากว่าจบ ผู้บริหารในห้องนี้ ก็เริ่มเกิดความกังวลขึ้นทันที

ประธานของพวกเขายกระดับเร็วเกินไป จนไม่มีใครสามารถไล่ตามทัน!

หากเป็นมิติธารโลหิตก็ว่าไปอย่าง แต่สำหรับมิติของพระเจ้านี้ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิสัตว์ร้ายของจริง มันอันตรายเกินไป

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ในหมู่พวกเขา ไม่แม้จะสามารถส่งตัวแทนไปได้ด้วยซ้ำ เพราะในระดับผู้บริหาร ไม่มีผู้ใช้พลังเลเวล A อยู่เลย

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ฉุกละหุกนัก ต่อให้เร่งติดต่อจ้างวานเลเวล A เป็นการชั่วคราว เกรงว่าจะไม่ทันการอยู่ดี

“จริงอยู่หากให้จัดการเรื่องเงินมันคงไม่มีปัญหาอะไร แต่พวกเราไม่มีเลเวล A ถ้าท่านประธานและเลเวล S คนอื่นๆตกลงกันแล้ว พวกเขาคงไม่คิดเล่นตุกติกใดๆ แต่กลัวว่าลูกน้องของเลเวล S คนอื่นๆจะไม่พอใจ …”

“ถูกต้อง ต่อให้ร่วมมือกัน แต่กำปั้นใครใหญ่สุด คนที่เหลือต้องปฏิบัติตาม ในแง่ของกำลังคน พวกเราไม่มีผู้ใช้พลังเลเวล A และประเด็นก็คือ ต่อให้เป็นเลเวล B พวกเราก็ยังยากที่จะส่งออกไป!”

“ธุรกิจก็คือธุรกิจ แม้ตกลงร่วมมือ แต่ไม่มีใครยินยอมตัดชุดเจ้าสาวเพื่อไปให้ผู้อื่นสวมใส่หรอก!”

ทุกคนถกเถียงกัน ผู้คนมักคิดในแง่เลวร้ายที่สุดก่อนเสมอ แม้ผู้ใช้พลังเลเวล S เหล่านั้นจะมีชื่อเสียง และหากทุกคนในที่นี้หากได้พบเจอพวกเขาข้างนอก คงเกิดความชื่นชมและเคารพนับถืออย่างสุดแสน แต่ในกรณีที่อยู่ในจุดนี้ ในจุดที่เป็นหุ้นส่วนกัน จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

“อย่าพึ่งวิตกไป ผมก็จะอยู่ในมิติของพระเจ้าด้วยอีกสักพักหนึ่ง ช่วงเวลานั้น พวกคุณต้องรีบตักตวงผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด!”

ฉินเฟิงเหลือบมองดูซูซิงฝู

สิบปีให้หลัง แม้ซูซิงฝูจะครอบครองทรัพยากรกองพะเนิน และสามารถก้าวขึ้นเป็นเลเวล A แต่ปัจจุบันเขาเป็นแค่เลเวล C5 เท่านั้น ความแข็งแกร่งเพียงแค่นี้ ฉินเฟิงไม่พอใจมาก

คงเป็นเพราะฉินเฟิงไม่สั่งการเด็ดขาด และซูซิงฝูมิได้ทุ่มเทฝึกฝนให้หนักพอใช่หรือไม่?

ซูซิงฝูปั่นความคิดเร็วจี๋ สุดท้ายปิ๊งไอเดียหนึ่ง เขาหัวเราะออกมา กล่าวว่า “อันที่จริงปัญหานี้แก้ง่ายมาก อา! พวกคุณคงลืมนึกถึงสิ่งที่ชูฟ่านกำลังค้นคว้าในเร็วๆนี้ไปแล้วกระมัง?”

ฉินเฟิงเลิกคิ้ว มองไปทางชูฟ่าน

บนโต๊ะทำงานของชูฟ่าน หมาจักรกลกระโดดปราดขึ้นมา อ้าปากกล่าว “ฉันพยายามอย่างหนักในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา จนในที่สุดสามารถผลิตจักรกลชุดแรกที่ควบคุมโดยมนุษย์ได้แล้ว ตราบใดที่ผู้ควบคุมมีพลังสมาธิอยู่ในเลเวล C ก็ผ่านเงื่อนไขเปิดใช้งานหุ่นยนต์ที่มีพลังเทียบเท่ากับผู้ใช้พลังเลเวล A ได้!”

หมาจักรกลกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ชูฟ่านพยักหน้า ยอมรับว่ามีเรื่องเช่นนั้นจริงๆ แต่แทบจะในทันที เขากล่าวขัดว่า “แต่ผลลัพธ์งานวิจัยมีแค่เครื่องเดียว ยังไม่มีวิธีการผลิตในปริมาณมาก วัสดุค่อนข้างขาดแคลนและหายาก สำหรับหุ่นรบที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล A อย่างน้อยต้องใช้วัสดุจากทั้งร่างของจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A ที่สำคัญก็คือ ประสิทธิภาพการรบของมันจะมากน้อยแค่ไหน ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับผู้ควบคุม บางคนอาจทำให้มันสามารถปลดปล่อยอำนาจถึงขั้นระดับสัตว์เทวะ แต่บางคน … กระทั่งปลดปล่อยพลังระดับนายพลสัตว์ร้าย เกรงว่าจะยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

ในความคิดเห็นของชูฟ่าน การทดลองนี้ ไม่ต่างอะไรจากความล้มเหลว

“แค่อันเดียว? นั่นก็เพียงพอแล้ว!”

สายตาของฉินเฟิงกวาดไปรอบๆ สมองพลางขบคิด ‘ตอนนี้ชูฟ่านกำลังปกป้องมิติธารโลหิต , ซูซิงฝูจำเป็นต้องรั้งอยู่ในเมืองเฟิงหลีอย่างไม่ต้องสงสัย , ส่วนโจวฮ่าวยังไม่เหมาะที่จะเคลื่อนไหวตอนนี้ ’

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ สถานที่ที่จะไปครั้งนี้ จำเป็นต้องรับมือกับผู้ใช้พลังเลเวล A คนอื่นๆ หากปล่อยให้คนที่ไม่เหมาะสมไป เกรงว่าจะผลลัพธ์จะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

อันที่จริง โกวก๋วนกับโกวซ่งที่ติดตามฉินเฟิงมาตั้งแต่เมืองหวังก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว แต่ทั้งสองเป็นคนจากพันธมิตรองค์กรมืด แม้ได้รับการชำระล้างมลทินแล้วก็ตาม แต่พอได้ลองขบคิดดู ฉินเฟิงก็ยังไม่อยากส่งพวกเขาไปอยู่ดี เพราะหากตายขึ้นมา ฉินเฟิงคงไม่สามารถหาลูกน้องที่มีความสามารถเช่นนี้ได้อีก

“วังเฉิน คุณไปกับผม!”

วังเฉินในตอนนี้เป็นมือปืนเลเวล C7 ฉินเฟิงเชื่อว่าขอแค่ใช้เวลาไม่กี่เดือนในมิติที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังงานวิญญาณ อีกฝ่ายน่าจะสามารถตัดผ่านขึ้นสู่เลเวล B ได้ในไม่ช้า

“อา! รับทราบแล้ว” วังเฉินตอบตกลง

จากนั้น ซูซิงฝูก็วุ่นอยู่กับการระดมทุน เตรียมสนับสนุนการก่อสร้าง , จัดแจงปืนใหญ่พลังงาน ฯลฯ ทั้งหมดนี้จะถูกเตรียมมอบให้วังเฉินดูแล ฉินเฟิงมอบหมายเรื่องราวทั้งหมดให้พวกเขาจัดการ

ห้าวันต่อมา ฉินเฟิงพาวังเฉินไปกับเขาแค่คนเดียว มุ่งหน้าสู่รัฐที่ราบหิมะ

ในทุ่งล่าของรัฐที่ราบหิมะ หากไม่ใช่เพราะหูซานบอกตำแหน่งแก่เขา ฉินเฟิงคงไม่ทันคาดคิดด้วยซ้ำ ว่าที่พักของหูซาน จะอยู่ในสถานที่แบบนี้จริงๆ

คาดว่าคงเป็นเพราะรอยแยกที่นี่นำไปสู่เกาะมังกร ควบคู่กับตรงทางเข้าอุดมไปด้วยพลังงานทางจิตวิญญาณฟ้าดิน หลังจากหูซานได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาเลยหลับใหลอยู่ที่นี่

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องในอดีตแล้ว ปัจจุบันหลังจากหูซานได้สัมผัสกับมรดกของจ้าวเหนือหัว ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หากคิดก้าวหน้าไปไกลกว่านี้ใช่จะเป็นไปไม่ได้ จากนี้ไป อนาคตของชายชราผู้นี้ จะพลิกผันไปอีกทิศทางหนึ่ง

เมื่อฉินเฟิงมาถึงพร้อมกับวังเฉิน อีกสามกองกำลังก็มาถึงแล้ว ทั้งยังมีจำนวนถึงหลักพัน

พลังสมาธิของฉินเฟิงกวาดออกไป เห็นได้ชัดว่าในบรรดาคนเหล่านี้ มีเลเวล A อยู่มากถึง 14 คน , เลเวล มากกว่า 300 คน , เลเวล C มากถึง 700 คน

แต่เกรงว่าเลเวล B และ C เหล่านี้ ทั้งหมดคงได้แค่ทำงานภายในป้อมปราการ สำหรับเรื่องการออกไปล่าสัตว์ร้าย ไม่มีทางเป็นไปได้

เป่ยถังเฉียนเห็นฉินเฟิงปรากฏตัว ต่อมาสายตาเขาเบนตกลงบนร่างของวังเฉิน รู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย

“ฉินเฟิง คุณพากำลังคนมาที่นี่แค่คนเดียวหรือ? หรือว่าเขาแข็งแกร่งมาก …”

เป่ยถังพูดไม่ทันจบก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะเบื้องหน้าเขามันผู้ใช้พลังเลเวล C ชัดๆ ถ้าเป็นเลเวล B ยังว่าไปอย่าง โอ้นี่มัน ..!

“แค่คนเดียวก็พอแล้ว” ฉินเฟิงกล่าว

“เอาเถอะ คุณวางใจได้ ถึงจะแค่คนเดียว แต่พวกเราจะไม่ปฏิบัติต่อคุณอย่างไม่เป็นธรรม” เป่ยถังเฉียนกล่าว

ท้ายที่สุดแล้ว ฉินเฟิงเคยช่วยชีวิตพวกเขา ปัจจุบันยังเป็นสมาชิกที่แท้จริงของพันธมิตรมนุษย์ อนาคตไร้ซึ่งขีดจำกัด ดังนั้นจำนวนคนที่เขาพามาจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

“ครับ” ฉินเฟิงไม่คิดอธิบายมากความ วังเฉินเวลานี้ประหม่ามาก เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายน่าสยดสยองจากกายของเป่ยถังเฉียน ทำให้เจ้าตัวรู้สึกไม่กล้าแม้จะมองปลายเท้าของอีกฝ่าย เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง

เวลานี้ ตามร่างกายของวังเฉิน ยังรู้สึกได้ถึงสายตาของคนอื่นๆมองเข้ามา

สายตาของกลุ่มเลเวล C B ค่อนข้างสับสนงงงวย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเลเวล A พวกเขาทราบถึงข้อตกลงระหว่างท่านผู้ใหญ่ทั้งสามและฉินเฟิง

“ฉินเฟิงทำแบบนี้ ใช่เป็นการเอาเปรียบกันเกินไปรึเปล่า? แค่คนๆเดียวจะช่วยอะไรพวกเราได้?”

“ต่อให้เขาแข็งแกร่ง แต่มันก็เป็นความแข็งแกร่งในส่วนที่สามารถไล่ล่าสัตว์ร้ายเท่านั้น!”

“ฉันคิดไม่ตกเลยจริงๆ ว่าทำไมท่านผู้ใหญ่หูซานถึงยอมร่วมมือกับอีกฝ่าย”

บางคนไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งของฉินเฟิง บางคนแค่ได้ยินจากปากคนอื่นเท่านั้น ส่วนมากเลยคิดว่าฉินเฟิงแค่โชคดี แต่หากพวกเขาได้เห็นฉินเฟิงสู้กับตาจริงๆ พวกเขาจะต้องไม่มีความคิดแบบนี้แน่นอน

คนเหล่านี้มองมายังฉินเฟิงด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนสลับไปมองวังเฉิน

สายตาทิ่มแทงเหล่านี้ เพิ่มแรงกดดันแก่วังเฉินอย่างใหญ่หลวง!

**เรื่องนี้จะจบที่ตอน 10xx

3.3 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด