191 คลื่นสีดำ
สิงโตสีทองคำรามออกมาพยายามที่จะทำลายสภาพจิตใจของ สือฮ่าว
“เจ้าพูดมากพอแล้ว ถึงเวลาที่จะส่งพวกเจ้าออกเดินทางเสียที!” สือฮ่าวกล่าวอย่างเฉยเมย กระบี่เซียนพุ่งขึ้นแทงทะลุบาตรโดยตรง จากนั้นมันก็ปลดปล่อยพลังอันมากมายมหาศาลทำลายสมบัติวิเศษล้ำค่าชิ้นนี้จนกระจายออกไปทุกทิศทุกทาง
พร้อมกันนั้นเขาใช้กำปั้นของเขากระแทกบาตรสีม่วงกลางอากาศ ทำให้รอยแตกบนพื้นผิวของมันแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและระเบิดออกไปในที่สุด
อา ...
สิงโตทองคำทั้งสามกรีดร้องอย่างอนาถ เป็นเพราะหลังจากที่อาวุธวิเศษทั้งสองระเบิดออกเศษชิ้นส่วนของพวกมันก็ปลิวกระแทกร่างกายของพวกเขาจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
"หนี!"
ในขณะนี้สิงโตทั้งสามตัวสั่นสะท้าน พวกมันแน่ใจว่าฮวงเป็นคนที่ไม่สามารถเผชิญหน้าได้ แม้ว่าพวกมันจะมีพลังมากกว่านี้ก็ตาม
"สายไปแล้ว!" สือฮ่าวกล่าวด้วยเสียงหัวเราะเยือกเย็น
เปง!
สิงโตสีทองที่ถูกจับก่อนหน้านี้ถูกคว้าไว้อย่างรวดเร็ว
ปู!
กะโหลกของมันถูกบดขยี้วิญญาณดั้งเดิมก็ไม่สามารถหลุดรอดออกไปได้
จากนั้นสือฮ่าวก็สังหารสิงโตอีกสองตัวไปในเวลาเดียวกัน
แม้ว่าพวกมันจะมีสายเลือดของราชสีห์ผู้กล้า แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฮวงที่เต็มไปด้วยโทสะพวกมันก็ไม่สามารถต่อต้านได้
เพราะว่าพวกมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งเพียงพอที่จะย้อนรอยบรรพบุรุษ
ในที่สุดสิงโตทั้งสองตัวที่เหลืออยู่ก็ตายไปจนหมดสิ้น
อีกหนึ่งชั่วยามต่อมาสือฮ่าวก็ยืนขึ้นและมุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของดินแดนโบราณแห่งนี้
ทันใดนั้นเองสือฮ่าวก็รู้สึกถึงอันตรายบางอย่างราวกับว่าภัยพิบัติกำลังจะลงมา
ฮ่อง!
เสียงอู้อี้ดังมาจากส่วนลึกที่อยู่ข้างหน้า ยิ่งไปกว่านั้นคลื่นพลังงานสีดำก็พัดออกมาอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของสือฮ่าวเย็นเฉียบ เขาหันหลังกลับเพื่อจากไปทันที เพราะเขารู้สึกได้ถึงหายนะครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังบางอย่างอยู่ในดินแดนแห่งนี้หรือไม่?
ในเวลาเดียวกันเขาได้ยินเสียงคำรามยาวที่สามารถสั่นสะเทือนดินแดนโบราณ มีคนอื่นอยู่ที่นี่?
นั่นคือโครงกระดูกรูปร่างมนุษย์ที่วิ่งออกมาจากส่วนลึกของดินแดนต้องห้ามแห่งนี้
“ทำไมมันเหมือนข้า”สือฮ่าวตกใจ
โฮ่ว!
จากนั้นสือฮ่าวก็ได้ยินเสียงสิงโตคำรามจากอีกด้านหนึ่ง เขาเห็นสิ่งมีชีวิตตัวที่สองกำลังหนีออกมาด้วย
มันเป็นสิงโตที่มีเพียงโครงกระดูกสีทองขณะนี้กำลังวิ่งอย่างตื่นตระหนกโดยต้องการที่จะหนีจากกระแสน้ำสีดำ
“นี่คือ…” สือฮ่าวหวาดกลัวในทันที โครงกระดูกของสิงโตตัวนี้มีพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าสิงโตทั้งสามตัวนั้นรวมกันเสียอีก นี่อาจเป็นสิงโตที่สามารถย้อนรอยบรรพบุรุษ?
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอีกตัวหนึ่งวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว เศษเสี้ยวเวลาหมุนวนไปมาในมือข้างหนึ่งของมัน ส่วนมืออีกข้างหนึ่งเต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลซึ่งสามารถฉีกสวรรค์และปฐพีออกจากกันได้
และมันเป็นโครงกระดูกเช่นเดียวกัน!
“ตระกูลกู่!” สือฮ่าวหรี่ตาของเขา เขาได้พบกับราชสีห์ผู้กล้าซึ่งสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษของมันเช่นเดียวกับคนของตระกูลกู่ที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ในอดีตบรรพบุรุษของมันเคยต่อสู้กับราชาอมตะมาก่อน
“โครงกระดูกมนุษย์แรกนั้นอาจเป็นจักรพรรดิหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่” สือฮ่าวรู้สึกสงสัย
ครั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจที่สุดสามคนล้วนอยู่ที่นี่เช่นเดียวกับ สือฮ่าวและทุกคนกลายเป็นโครงกระดูกทั้งหมด พวกเขาทั้งหมดหนีเอาชีวิตรอดจากกระแสพลังงานสีดำที่อยู่เบื้องหลัง
“ข้าไม่ใช่คนเดียวที่กลายเป็นโครงกระดูก? ยังมีคนอื่นอีก” สือฮ่าวรู้สึกตกใจ
อะไรคือสิ่งที่ซือถูต้องการ?
สือฮ่าวไม่รอช้าเขาหลบหนีอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่เขาก็หันกลับไปมองหมอกสีดำขนาดใหญ่เป็นครั้งคราว
หงหลง!
คลื่นที่โหมกระหน่ำซัดเข้าสู่ท้องฟ้าจนก้อนเมฆถูกถล่มลงมา!
มันดุร้ายเกินไปและน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ!
ในความเป็นจริงคลื่นเหล่านี้ไม่ใช่คลื่นที่แท้จริง แต่เป็นเพียงพลังงานสีดำชนิดหนึ่ง
อย่างไรก็ตามมันดูไม่ต่างจากทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่โกรธเกรี้ยวสามารถกลืนสวรรค์เบื้องบนและแผ่นดินเบื้องล่างให้หายไปเลยในคราเดียว
สือฮ่าวไม่รอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก เขาวิ่งหนีสุดชีวิตหากช้าเพียงเล็กน้อยต้องตายอย่างแน่นอน
พลังงานประเภทนั้นน่ากลัวเกินไปเขามั่นใจว่ามันสามารถฆ่าผู้ฝึกตนในดินแดนแห่งความเป็นอมตะลงได้อย่างแน่นอน!
ที่ด้านหลังผู้ฝึกตนที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามก็วิ่งหนีอย่างร้อนรนเพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาทั้งสี่งพุ่งเข้าสู่ตำแหน่งเดียวกัน และไม่ลังเลที่จะเผาไหม้พลังชีวิตเพื่อให้สามารถหลบหนีได้ก่อนคนอื่น!
เปง!
สือฮ่าวพยายามฉีกความว่างเปล่าเพื่อให้สามารถออกจากดินแดนแห่งนี้
แต่มันเป็นไปไม่ได้แขนของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แม้ว่าเขาจะฉีกรอยแตกเล็กๆจนเปิดออก แต่เขาก็พบว่าเขาไม่สามารถเปิดทางได้สำเร็จก่อนที่คลื่นสีดำจะมาถึงอย่างแน่นอน
ในขณะนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญของตระกูลกู่ ถึงมีเศษเสี้ยวเวลาและพลังแห่งความโกลาหลอยู่ในมือเป็นเพราะว่าเขาพยายามที่จะเปิดประตูมิติออกมาตั้งแต่แรกแต่ทำไม่สำเร็จ
เป็นเพราะสถานที่แห่งนี้ถูกปิดผนึกจึงไม่สามารถเปิดเส้นทางมิติไม่เช่นนั้นผู้เชี่ยวชาญจากด้านนอกคงแห่กันเข้ามาด้วยอุโมงค์มิติไปตั้งนานแล้ว
เป็นผลให้พวกเขาทำได้เพียงวิ่งอย่างบ้าคลั่งเพื่อหลบหนีพลังแห่งการทำลายล้างนี้
"ไม่ดีแล้ว!"
สือฮ่าวรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะเขาค้นพบว่าแม้จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แต่เขาก็ยังวิ่งมาได้เพียงหกร้อยลี้หรือมากกว่านั้นนิดหน่อย ญาณวิเศษอันศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างของเขาถูกปิดผนึกไม่สามารถใช้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่การบินบนท้องฟ้าก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน
สิ่งนี้ทำให้หนังศีรษะของเขาชาด้าน พวกเขาทั้งสี่จะค่อยๆถูกบดขยี้ลงกับพื้นหากไม่สามารถออกไปได้ทัน
คลื่นสีดำราวกับกองทัพขนาดยักษ์ มันคำรามปลดปล่อยเสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้าและพวกมันกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว!
ต้นกำเนิดของผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่สามคนที่อยู่ด้านหลังนั้นยอดเยี่ยมน่าเหลือเชื่อมาก แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องถูกบังคับให้วิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
เมื่อพูดในเชิงเปรียบเทียบสือฮ่าวยังค่อนข้างปลอดภัยเพราะเขาวิ่งอยู่หน้าสุด
“พลังงานสีดำนี้คือพลังงานอะไรกันแน่?”สือฮ่าววิ่งไปข้างหน้าในขณะที่มองย้อนกลับไปเป็นครั้งคราวเพื่อตรวจสอบสถานะการ
พลังลับประเภทนี้แปลกประหลาดมาก สามารถส่งผลกระทบต่อญาณวิเศษของสิ่งมีชีวิตได้ มิฉะนั้นด้วยการกางปีกของคุนเผิงเพียงครั้งเดียวเขาก็สามารถหลบหนีไปได้ไกลแล้ว
ดวงตาของสือฮ่าวทอประกายแวววาว เขากระแทกกำปั้นออกไปด้านหลัง
ตามที่คาดไว้ญาณวิเศษของเขาถูกจำกัดไว้ไม่สามารถใช้ออกได้
อย่างไรก็ตามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขายังคงอยู่ แม้ว่ามันจะถูกระงับไว้อย่างมาก แต่ก็ยังมีส่วนที่กลายเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกไปด้านหลังเผชิญหน้ากับคลื่นสีดำขนาดใหญ่นั้น
ผลลัพธ์ที่ออกมาเหนือความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง!
ฮ่อง!
เมื่อพลังศักดิ์สิทธิ์สีทองตกเข้าไปในคลื่นสีดำ มันกระตุ้นให้เกิดเสียงถล่มของภูเขาในทันที แรงระเบิดขยายออกไปด้านนอกทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆ
หลังจากที่พลังศักดิ์สิทธิ์และพลังงานสีดำเผชิญหน้ากันมันก่อให้เกิดแรงระเบิดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ราวกับว่ามีภูเขาไฟมากกว่าหนึ่งล้านลูกปะทุขึ้นพร้อมๆกัน
สิ่งที่กระจายออกมาไม่ได้เป็นสีแดงหรือสีทอง แต่เป็นสีดำเหมือนหินหนืดที่มาจากนรกเพื่อกวาดล้างสวรรค์