บทที่ 75 ไฮเอล์ฟ (2)
แสงดูเหมือนจะส่องเข้ามาในดวงตาของไซแอ็กซ์ชั่วขณะก่อนที่เธอจะพูด
“คุณเพิ่งกลับมาถึงเหรอ?”
เคนพยักหน้า
ไซแอ็กซ์รู้สึกแปลกๆไปเล็กน้อยเพราะทัศนคติของเขา
“คุณได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับนักรบเวทย์คนนั่นบ้างมั้ย?”
เคนไม่ตอบแต่มองหน้าไซแอ็กซ์ต่อไป
เธอรู้สึกหนาวสั่นที่กระดูกสันหลังของเธอในขณะนั้นเพราะดวงตาที่อ่อนโยนของเขาจ้องมองไปที่เธอราวกับว่าพวกมันกำลังมองทะลุจิตใจของเธอ
หลังจากเงียบไปชั่วครู่คำพูดที่ออกมาจากปากของชายคนนั้นก็ทำให้เธอถึงกับใจสั่น
“เราต้องเข้าไปในป่าใหญ่”
คำพูดเหล่านั้นถูกพูดออกมาอย่างกะทันหัน แต่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและเป็นธรรมชาติ
ไซแอ็กซ์พยายามอย่างเต็มที่ในการซ่อนความตกใจที่เธอรู้สึกในขณะนั้น
“…ทำไมคุณถึงบอกเรื่องแบบนั้นกับสาวแก่อย่างฉันละ?”
“นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการแสดงห่วยๆพวกเราไม่มีเวลาแล้ว”
"คุณกำลังพูดอะไร-"
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เป็นหญิงชราที่ไม่เข้าใจอะไรเลย”
ชายอีกคนที่มีเสียงดุปรากฏตัวจากด้านหลังต้นไม้
เขาเป็นผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดที่ได้ทำลายล้างเหล่าอันเดดก่อนหน้า เธอจำได้ว่าเขาชื่ออีวานหรืออะไรทำนองนั้น
ไซแอ็กซ์รู้สึกประหลาดใจกับการปรากฏตัวของเขาชั่วขณะก่อนที่ดวงตาของเธอจะคมชัด
“…พวกคุณรู้จักกันหรือ?”
“ว่าไงนะ? หุบปากและพาพวกเราเข้าไปในป่าก็พอ แม้ว่าเธอจะเป็นเอลฟ์แต่ถ้าเธอไม่ช่วยพวกเราก็ให้คิดซะว่าพวกเธอทั้งหมดได้ตายไปแล้ว”
"อะไรนะ…"
คำพูดที่หยาบคายของอีวานทำให้ไซแอ็กซ์โกรธ
เฟรย์ถอนหายใจและหยุดเขา
“คุณหยุดก่อนดีกว่ามันยากที่จะคุยกับเธอตั้งแต่แรกแล้วละ”
“ฮึ่ม”
“ไซแอ็กซ์ผมรู้ว่าคุณเป็นไฮเอลฟ์”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่…”
จุ๊
ในขณะนั้นร่างกายของเคนก็สั่นสะท้านก่อนที่ชายผมสีเงินจะปรากฏตัวเข้ามาแทนที่เขา
ไซแอ็กซ์ถอนหายใจ
เธอรู้อยู่แล้วว่าชายคนตรงหน้าเธอเป็นพ่อมดที่เก่งกว่าเธอมาก
เคนไม่
เฟรย์ซึ่งเปลี่ยนกลับไปเป็นรูปลักษณ์เดิมพูดเบาๆ
“ผมเป็นพ่อมดจากเซอร์เคิล คุณรู้เกี่ยวกับเซอร์เคิลบ้างมั้ย?”
นี่เป็นจุดที่สำคัญ
ไซแอ็กซ์กัดริมฝีปากของเธอสักครู่ก่อนจะถอนหายใจ
"…ก็นิดหน่อย"
ในที่สุดไซแอ็กซ์ก็เลิกแสดง
หากเขาสามารถมองทะลุภาพลวงตาของเธอได้มันก็คงไม่สมเหตุสมผลที่จะทำหลอกเขาต่อไป
ในขณะเดียวกันการแสดงออกของอีวานก็แปลกไป นี่เป็นเพราะเขามองไม่เห็นภาพลวงตาของเธอและหญิงชราที่มีอายุมากที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงแบบสาวๆ
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรรู้เกี่ยวกับเดมิก็อด ไม่สิ ตั้งแต่เริ่มต้นคุณบอกว่าคุณยอมรับภารกิจนี้เพราะว่าคุณกังวลเกี่ยวกับพวกอันเดด”
"ถูกตัอง เดมิก็อด…ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์ที่มีพลังใกล้เคียงกับพระเจ้า ไม่นะหรือว่าเนโครแมนเซอร์ในป่า…”
“มีความเป็นไปได้สูงที่เนโครแมนเซอร์นั้นจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเดมิก็อด”
“อืม”
ไซแอ็กซ์ขมวดคิ้ว
“คุณสัมผัสถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้หรือ?”
“ฉันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เคิล ฉันรู้สึกถึงพลังที่แปลกประหลาดแต่ฉันไม่รู้ว่านี้คือพลังศักดิ์สิทธิ์”
เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เคิลแต่เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับเซอร์เคิล
เธอคงเหมือนกับจูเลียนมอนโตลิโว มาสเตอร์หอคอยเวทมนตร์ที่ 3
เนื่องจากประชากรของไฮเอลฟ์นั้นมีจำนวนน้อยมากพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องซ่อนการมีอยู่ของเซอร์เคิลเช่นเดียวกับมนุษย์
“เนโครแมนเซอร์ที่เรากำลังตามล่าได้เข้าไปในป่าใหญ่เรย์นอล การปล่อยให้เขารอดจะเป็นเรื่องอันตรายภายหลัง”
“นั่นเป็นไปไม่ได้ ป่าใหญ่จะไม่ยอมรับคนนอก แม้ว่าพวกเขาจะใช้วิธีที่สุดโต่งก็ตาม…”
“ราชินีจะสังเกตเห็นทันทีใช่มั้ยแต่ผู้ชายคนนี้แตกต่างออกไป”
“เขาแตกต่างยังไง?”
เฟรย์ไม่มีความตั้งใจที่จะพูดถึงโอดินในขณะนั้น
ไฮเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ซื่อสัตย์เป็นพิเศษ นั่นหมายความว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะยอมรับความเป็นไปได้ที่จะมีคนทรยศในหมู่พวกเขาและมีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะสงสัยในคำพูดของเขาและขับไล่ทั้งสองคนออกไป
นี่เป็นสิ่งที่เขาได้คุยกับอีวานก่อนที่พวกเขาจะมาถึง
ไม่ใช่แค่นั้นพวกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดเผยในทันทีว่าคนที่พวกเขาตามตัวอยู่เป็นอัครสาวก
มันให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่มากมาย แต่มันสำคัญสำหรับพวกเขาที่จะต้องปราบอัครสาวกของอะโพคาลิปส์
“ฉันไม่สามารถอธิบายให้คุณเข้าใจได้เนื่องจากคุณไม่ใช่สมาชิกของเซอร์เคิล ดังนั้นทั้งหมดที่ฉันสามารถพูดได้ก็คือเราเป็นคนเดียวที่สามารถหาเขาพบ คุณเคยเห็นปีศาจที่เขาสร้างขึ้นมาแล้วใช่ไหม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าภัยพิบัติดังกล่าวเกิดขึ้นในป่าใหญ่?”
“…”
ไซแอ็กซ์ดูเหมือนจะลังเล
เฟรย์ตัดสินว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการใช้ไพ่ตายของเขา
เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันก็แค่ต้องหาทางอื่น”
ไซแอ็กซ์อดไม่ได้ที่จะถามด้วยสีหน้าสับสน
“คุณมีวิธีอื่นด้วยหรอ?”
“ฉันมีคนรู้จักในหมู่ดาร์คเอลฟ์ถ้าเป็นพวกเขาพวกเขาจะเชื่อฉันแน่”
จากนั้นเขาก็หันกลับไปโดยไม่ลังเล
ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะจากไปแต่จริงๆแล้วเฟรย์กำลังรู้สึกไม่สบายใจมากกับการเสี่ยงในครั้งนี่
แวบแรกแผนการที่เขาเพิ่งพูดออกไปก็ไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดี
เฟรย์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเลียมสันและคามิลล์ พวกเขาเคยผ่านการต่อสู้ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกัน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ไม่เพียงแต่จะเชื่อใจเฟรย์อย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขายังพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่อีกด้วย
‘ปัญหาคือมันไม่สามารถบอกได้เลยว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการได้พบกับพวกดาร์กเอลฟ์’
ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้ก็คือการเข้าป่าด้วยความช่วยเหลือของไซแอ็กซ์
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเวลาที่พวกเขาจะสามารถประหยัดออกไปได้
เฟรย์หวังว่าการการชิงดีชิงเด่นระหว่างไฮเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์จะไม่ถูกสลายไปอย่างสมบูรณ์หลังจาก 4,000 ปี
“รอก่อน!”
ไซแอ็กซ์หยุดเฟรย์ด้วยน้ำเสียงเร่งด่วน
“คุณมีความสัมพันธ์กับดาร์กเอลฟ์จริงๆหรือ?”
"ถูกตัอง"
“มนุษย์จะมีความกับสัมพันธ์พวกเขาได้อย่างไร…พวกดาร์กเอลฟ์ไม่ยอมแม้แต่จะอยู่ห่างจากธรรมชาติแม้แต่นิดเดียวแม้กระทั่งหลังจากการรวมตัวครั้งใหญ่”
ดาร์กเอลฟ์ยังคงปิดกั้นตัวเองอยู่?
อย่างน้อยเฟรย์ก็ไม่คิดเช่นนั้น
กลุ่มที่ปิดกั้นตัวเองจะยอมไปที่หอคอยเวทมนตร์ของประเทศอื่นและขอให้พวกเขาสอนเวทมนตร์ได้อย่างไร?
หรือกลุ่มแบลคทูธนั่นแตกต่าง?
“ฉันไม่สนใจหรอกว่าคุณจะเชื่อฉันหรือไม่ สิ่งสำคัญก็คือเราไม่มีเวลามากพอสำหรับการถกเถียงเรื่องนี้”
อีวานตะคอก
เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงออกมา แต่เขาไม่ชอบความคิดที่จะอ้อนวอนผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าและขอความช่วยเหลือ
ถ้าทำได้เขาจะทุบต้นไม้เพื่อเข้าไปในป่าและจับตัวโอดินและฆ่าเขา
เขาจะอัดเอลฟ์ทุกคนที่ขัดขวางชนิดที่ว่าเจียนตาย
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถทำตามแผนดังกล่าวได้จริง
ถ้าโอดินสังเกตเห็นความวุ่นวายและตัดสินใจที่จะซ่อนตัวลึกเข้าไปในป่า พวกเขาจะไม่พบโอดินจนกระทั่งถึงงานประชุมของเดมิก็อดแน่
ยิ่งไปกว่านั้นในป่าใหญ่ก็เป็นดินแดนของเอลฟ์ด้วย
“คุณช่วยบอกชื่อดาร์กเอลฟ์ที่คุณรู้จักได้ไหม?”
“เลียมสันกับคามิลล์”
“… !!!”
ไซแอ็กซ์หายใจเข้าลึกๆ
จากปฏิกิริยาของเธอดูเหมือนว่าเธอรู้จักพวกเขาเฟรย์จึงเอียงศีรษะขณะที่เขาถาม
“พวกเขามีชื่อเสียงหรือ?”
“…ฉันไม่เคยได้ยินชื่อของเลียมสันมาก่อนแต่คงไม่มีใครในป่าใหญ่ที่ไม่เคยได้ยินชื่อของพญาเสือดาว”
เฟรย์รู้สึกสงสารเลียมสันทั้งๆที่เขากำลังจะได้เป็นผู้นำคนใหม่ของหมู่บ้านและเขาก็นึกถึงโมเมนตัมอันทรงพลังของคามิลล์
‘เสือดาวมันช่างเหมาะกับเธอจริงๆ '
ด้วยความช่วยเหลือของเธอเขาจึงสามารถเอาชนะลุคส์รองหัวหน้าหอคอยที่เป็นอัครสาวกได้
นั่นเป็นเพราะความสามารถของเธอในการรับรู้และประสานพลังของเลียมสันและมิเกลเข้าด้วยกันอย่างแม่นยำจนน่าเหลือเชื่อ
นอกจากนี้สิ่งเดียวที่เฟรย์สามารถมองเห็นได้อย่างแท้จริงคือเวทมนตร์ที่เธอเรียนรู้มาอย่างผิวเผิน
แต่เมื่อพูดถึงศิลปะการต่อสู้และพลังวิญญาณที่เธอเชี่ยวชาญที่สุด เฟรย์ไม่สามารถบอกได้ว่าจริงๆแล้วเธอแข็งแกร่งแค่ไหน
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเธอเป็นอาจารย์ของเลียมสันซึ่งเป็นนักรบเวทมนตร์ระดับสองอย่างน้อยเธอก็ควรจะเป็นนักรบเวทมนตร์ระดับเฟิร์สคลาส
"ฉันเข้าใจแล้ว คุณรู้จักกับดาร์กเอลฟ์…ดังนั้นวิญญาณที่คุณได้ทำสัญญาก็คือวิญญาณแห่งความมืด อ๋อ...”
ไซแอ็กซ์ก้มหัวลงพร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย
“ฉันขอโทษที่ฉันสงสัยในตัวคุณ ฉันจะเชื่อในสิ่งที่คุณพูด ฉันจะพาคุณไปที่หมู่บ้านของเราคุณจะตามฉันไปไหม?”
“คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทหารรับจ้างคนอื่นทราบก่อนหรือ?”
เขาถามเพราะเธอออกจากกลุ่มทหารรับจ้างเมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตามไซแอ็กซ์ส่ายหัว
“อย่างที่คุณเพิ่งพูด ทุกวินาทีมีค่า”
อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะสนใจเกี่ยวกับตัวตนของเธอ
อีวานตะคอกด้วยคำพูดที่หนักแน่นของไซแอ็กซ์
“ฮึ่ม ตอนนี้เธอค่อยมีเหตุผลหน่อย”
เฟรย์มองเขาด้วยสีหน้าตกตะลึงชั่วครู่ คนที่ไม่ได้ทำอะไรเลยกลับดูพึงพอใจที่สุด
ไซแอ็กซ์พาเฟรย์และอีวานไปในทิศทางตรงกันข้ามกับจุดที่กองคาราวานกำลังมุ่งหน้าไป
“ทางเข้าป่าใหญ่อยู่ทางนั้นไม่ใช่เหรอ?”
สิ่งนี้ทำให้เขานึกถึงทหารรับจ้างที่รออยู่ที่นั่น
ไซแอ็กซ์พยักหน้า
“นั่นเป็นทางเข้าสำหรับบุคคลภายนอก แต่ฉันเป็นเอลฟ์ทางเข้านั้นมีขั้นตอนการเข้าออกที่ลำบากรวมทั้งถนนที่คดเคี้ยวดังนั้นจึงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามวันเพื่อไปยังหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุด ที่ๆฉันจะพาคุณไปคือทางลัดที่เผ่าพันธุ์เอลฟ์ทุกคนรู้ดี”
ทางลัด
พวกเขาชอบคำนั้นมาก
“ถ้าเราใช้ทางลัด ไม่นานเราก็จะมาถึงหมู่บ้านของไฮเอลฟ์ลิลันด์ ฉันควรติดต่อกับสมาชิกเซอร์เคิลในลิลันด์ด้วยมั้ย?”
“เราค่อยมาว่ากันได้เมื่อพวกเราไปถึง”
เฟรย์จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลุคส์ได้
ไม่ต้องบอกเลยว่าโอดินจะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า
ดังนั้นสิ่งสำคัญอันดับแรกของพวกเขาคือการค้นหาว่าเอลฟ์คนนี้เป็นใคร
การร่วมมือกับเซอร์เคิลอาจเกิดขึ้นในภายหลัง
‘คงจะดีมากถ้าหากเขาเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง’
มันเป็นเพียงความปรารถนาส่วนตัวแต่เขารู้ว่าโอกาสนั่นต่ำมาก
ท้ายที่สุดโอดินได้รับเลือกและแต่งตั้งให้เป็นอัครสาวกของอะโพคาลิปส์