Chapter 29
"นายบินได้ไหม?"
ไม่มีทาง ยิ่งคุณใช้สิ่งนี้มากเท่าไร่ คุณก็ยิ่งต้องใช้มากขึ้นเท่านั้น คุณจะยิ่งรู้สึกว่ามันใช้งานง่ายมากและมีทำได้หลากหลาย.
มันสามารถใช้เป็นเครื่องบินที่เชื่อมต่อกับดาวเทียมเพื่อทำการโจมตีนอกระยะการมองเห็นและยังใช้เป็นขีปนาวุธเชิงกลยุทธ์ได้อีกด้วย.
เพราะนอกจากความยืดหยุ่นสูงและอาวุธต่อต้านพื้นดิน แม้แต่รถถังก็สามารถจัดการได้ง่ายๆ นับประสาอะไรกับการปฏิบัติการความสูงต่ำ เฮลิคอปเตอร์ก็ไม่อาจสู้เกราะเหล็กที่คล่องแคล่วและรวดเร็วได้แม้แต่น้อย.
แม้ว่าทุกประเทศจะไม่เต็มใจนัก แต่การลดการพัฒนา,ต้นทุนเครื่องบินรบและรถถังก็เปลี่ยนไปเป็นซื้อและวิจัยเกราะเหล็กเป็นของตัวเอง.
อาวุธล้ำยุคนี้มันได้ทำการเปลี่ยนระบบการทหารทั้งหมดทั้งยุคตรงๆ!
มันไม่ใช่แค่คำเอาไว้เรียกแต่อย่างใด.
การวิจัยประเภทนี้โทนี่ก็ไม่ได้ทำการใดๆ มิสเตอร์แฟนแทสติค รี้ด ริชาร์ด ก็ไม่ได้ทำการใดๆ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครสามารถศึกษาเกราะเหล็กได้ ท้ายที่สุดแกนหลักที่สำคัญที่สุดถูก ซอดยื่นสิทธิบัตรต่างๆเรียบร้อยแล้ว โทนี่ก็ไม่ต้องการทำเกราะเหล็ก มันอาจจะถูกสร้างขึ้นได้แต่ก็ต้องทำให้เขาเลิกผัดวันประกันพรุ่งเสียก่อน และมันก็เป็นเรื่องง่ายมาก แค่ซอดจับเขาไปโยนสักมุมหนึ่งที่ห่างไกลทางตะวันออก.
(ผู้แปล:ตอนก่อนๆที่บอกว่าอัจฉริยะที่ผิดปกติที่เทียบเคียงกันสองคนคือ โทนี่ สตาร์กกับริชาร์ด สตาร์กอันนี้ผมเข้าใจผิดนะ คนแต่งมุ่งไปที่Mister Fantastic รี้ด ริชาร์ด กับ Iron man โทนี่ สตาร์ก พ่อโทนี่ก็ฉลาดแต่ตายไปแล้วไง ชื่อ ริชาร์ด สตาร์กเหมือนกัน ผู้แปลก็เลยสับสน นะครับ)
รางวัลมากมายจากการต่อสู้ที่ผิดกฏหมาย ได้ดึงดูดนักมวยจากทั่วทั้งโลก แน่นอนว่ายังมีบางคนที่ไม่ได้สนใจแลฃะซอดก็ไม่สนใจคนเหล่านั้น.
แม้แต่ทหารรับจ้างก็เข้าร่วมได้และไม่มีข้อจำกัดใดๆไม่ว่าจะอาชีพไหน.
สามเดือนต่อมา จอร์จ สเตซี่ผู้บังคับการตำตรวจนครบาลนิวยอร์กได้ถูขมับของเขา เมื่อเร็วๆนี้มีคนมากมายที่ไม่รู้จักได้เข้ามาในนิวยอร์ก เขาไม่รู้ว่าคนพวกนี้มาจากไหนหรือมารวมตัวกันที่นิวยอร์กทำไม แถมพวกเขายังมีบัตรประจำตัวที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงไม่มีทางที่ตำรวจจะจับพวกเขาได้.
ซอดรู้ว่าการต่อสู้ผิดกฏหมายนี้อาจดึงดูดสัตว์ประหลาด,เหล่าผีน้อยและงูพิษจำนวนมาก การใช้อาวุธไม่ได้เป็นอะไรที่หลายๆคนสนใจ สิ่งที่น่าสนใจคือซอดยังเห็นคนที่ยืดหยุ่นคนหนึ่ง.
เวด วิลสัน เดดพลูในอนาคต สำหรับรางวัลมากมาย ทหารรับจ้างอย่างเวดต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีความมั่นใจในตัวเองแค่ไหน.
"นี่อาจถือได้ว่าเป็นจุดต่ำสุด ฉันขอดูหน่อยว่าชายที่มีพลังพิเศษหรือยีนพิเศษจะเกิดขึ้นกี่คน."
ซอดรู้ว่ามาเวลมีมนุษย์ต่างดาวมากมายบนโลกและมีลูกหลานของมนุษย์ต่างดาวมากมาย.
อย่าเห็นว่าโลกนั้นอยู่ในสุดขอบของจักรวาลเท่านั้น มันยังมีมนุษย์ต่างดาวมากมายซ่อนตัวอยู่และมนุษย์ต่างดาวบางตัวมักจะลงมาที่โลกอย่างบังเอิญ.
ตัวอย่างเช่น กัปตันมาเวลแห่งจักรวรรดิครีก็ได้ปรากฏตัวบนโลกอย่างไม่มีเหตุผลเพราะเดินทางผ่านรูหนอนมาเฉยๆ.
จากนั้นก็เป็นรุ่นที่สามที่กลายเป็น แครอล แดนเวอร์และแม่ของเธอที่เป็นรุ่นสอง แม่ของเธอก็เป็นนักรบสาวชาวครีเช่นกัน แต่บังเอิญว่าเธอได้สร้างบ้านที่โลกและจากนั้นก็ให้กำเนิดแครอลและจากนั้นก็เป็นแครอลเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากทางอากาศ ชาวครีจึงพากลับไปฟื้นฟู....และเรื่องราวต่างๆก็เริ่มซับซ้อนมากขึ้น.
มนุษย์ต่างดาวส่วนใหญ่ ที่เข้ามาในโลกต่างก็อยู่กันอย่างสันติโดยไม่มีความขัดแย้ง มีจำนวนน้อยที่ทำอย่างนั้น ในหมู่พวกเขาคนที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ สกลอ ในอนาคตที่เป็นความลับและเหตุการณ์ต่างๆที่สำคัญใดๆก็ล้วนแต่เป็นพวกมัน ในเวลานั้น นิค ฟิวรี่ ไม่ได้อยู่บนโลก แต่ได้ออกคำสั่งจากทางอวกาศและปล่อยให้ สกลอ ปลอมตัวเป็นเขาเองเพื่อออกคำสั่ง ผลก็คือ หายนะ.
ดังนั้นซอดจึงไม่ต้องการติดต่อกับคนในเนื้อเรื่องเชิงบวกใดๆ เพราะพวกเขานั้นแน่แย่เกินไป.
มันไม่ชัดเจนเท่ากับตัวละครเชิงลบที่อย่างน้อยๆก็รู้ว่าทำไมพวกมันถึงโง่มากและจากนั้นก็สร้างมันขึ้นมา.
ในการต่อสู้ผิดกฏหมายนี้นอกจากการเลือกวัตถุดิบในการทำสุดยอดนักรบอสูรแล้ว ยังต้องการรวบรวมยีนเพื่อดูว่ามีผู้มีพลังพิเศษใดๆบ้างที่เข้าร่วมในการต่อสู้เพื่อมารับรางวัล มันเป็นแค่เพียงฝันหวานและของดีต่างๆจะถูกส่งไปถึงหน้าประตู.
"แต่ถ้าไม่มีการกลายพันธุ์ในจักรวาลของฉัน,มิวแทนนอกคอก,ทคโนโลยีกลายพันธุ์,รูหนอนกลายพันธุ์,ยากลายพันธุ์และกลายพันธุ์ทางยีน จะมีเพียงเอเลี่ยนเผ่าครีเท่านั้นที่จะถูกส่งมาที่ประตู."
ซอดคิด เขาได้ส่งกึ่งมนุษย์ไปหาฮีโร่ข้างถนนอย่าง ลุค เคจ,เจสสิก้า โจนส์และชายชุดม่วง ยีนของพวกเขาต้องมีความพิเศษมากและสามารถเพิ่มเข้าไปในยีนจ้าวอสูรได้.
การขอเลือดสักโดสหนึ่งมันไม่ได้สูญเสียอะไรมากนักและหากต้องการมากกว่าสองมันก็ต้องไม่ยอมกันแน่ๆ.
สำหรับการมวยผิดกฏหมาย จำเป็นต้องมีการตรวจร่างกายอย่างเข้มงวด ไม่มีใครคัดค้านใดๆ มันเป็นเรื่องปกติ เขาเดาว่าเขาไม่ต้องส่งใครบางคนเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อการแข่งขันโดยไม่ตั้งใจ เนื่องจากการป่วยอย่างกระทันหัน.
เพียงแค่ว่าการทดสอบนั้นละเอียดมาก นอกจากเลือดแล้วคุณต้องทำอะไรกับไขกระดูกและเซลล์ใต้ผิวหนังด้วยไหม?
ด้วยความช่วยเหลือของแบล็คควีน ในการทดสอบตัวอย่างพันธุกรรมเหล่านี้ ซอดเลยโล่งใจมาก ขั้นต้นงานประเภทนี้ต้องใช้การทดลองที่หลากหลายร้อยครั้งและนักวิจัยหลายร้อยคนเพื่อทำให้มันสมบูรณ์และยังต้องใช้เวลานาน.
แน่นอนว่ามันไม่ได้ทำให้ซอดแปลกใจ มันมีคนพิเศษจำนวนมากโผล่ออกมาจากการต่อสู้ผิดกฏหมายนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาได้กลายเป็นวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยมในสายตาของซอด และพวกเขายังเฝ้ามองสิ่งนั้นของซอด มันเป็นรางวัลเล็กๆน้อยๆสำหรับการต่อสู้
จากนั้น โชคไม่ดีนักมีคนล้มลงและถูกหามส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว....ไปที่แผนกแพทย์เบลดเพิ่งถูกก่อตั้งโดยซอด.
มันเป็นแผนกแพทย์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งอ้างว่าสามารถช่วยชีวิตคุณได้ตราบที่คุณยังมีลมหายใจ!
แน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่น่าทึ่งเท่าไหร่ เมื่อซอดพัฒนาเทคโนโลยีโคลนนิ่งและสร้างอุปกรณ์โคลน เขาจะทำการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อสมองและเส้นประสาทสมองตรงๆและสร้างร่างใหม่ขึ้นมาแทน(สมองเดิมแต่เปลี่ยนร่างใหม่).
คนเจ็บนั้นอยู่ในแผนกแพทย์และได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันมาก.
แต่เดิมแอนนิมอลโซลเยอร์นั้นมีไม่เพียงพอ งั้นเราก็มาใช้พวกเขาเป็นแอนนิมอลโซลเยอร์กันเถอะ.
การต่อสู้เป็นไปอย่างรวบรื่นและซอดยังเห็นเป้าหมายของเขาที่เขาต้องการอยู่ในใจ เบอร์หนึ่งของไฮดร้า,บาร์น ชื่อเล่น บัคกี้.
เขามีสีหน้าที่เมินเฉยและแขนเหล็กของเขาก็หุ้มด้วยหนังเทียมอีกชั้น แต่ไม่มีอะไรซ่อนจากตาเอ็กซ์เรย์ของซอดได้.
"ไม่คิดว่าแม้แต่ไฮดร้าก็ยังสนใจ มันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เกราะร้อยรบนั้นน่าจะเป็นสิ่งล่อในที่ไม่อาจต้านทานได้สำหรับพวกเขา."
ซอดพอใจกับไหวพริบของไฮดร้ามากและหลังจากเห็นบัคกี้จัดการคู่ต่อสู้คนสุดท้ายด้วยหมัดแล้ว เขาก็เดินขึ้นมาด้วยตัวเอง.
"แชมป์เปี้ยนนี้เป็นของสุภาพบุรุษคนนี้!"
ซอดไม่สนใจภัยคุกคามที่เป็นไปได้จากบัคกี้ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ตัวแทนของไฮดร้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบบัคกี้หายใจไม่ออก เขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อนำสุดยอดอัจฉริยะคนนี้กลับไปด้วย?
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พากาดและเกราะเหล็กมาด้วย วินเทอร์โซลเยอร์ก็อยู่ใกล้กับเขามาก.
บลอนสกี้เดินเข้าไปในสังเวียนอย่างเงียบๆ สิ่งหนึ่งก็คือไม่ว่าบอสจะสู้กลับหรือไม่ นั่นก็หมายความว่าเขาไม่อาจปกป้องบอสได้ดี.
บัคกี้ไม่มีการแสดงออกใดๆบนสีหน้าของเขา เขาเมินเฉยต่อเสียงเชียร์ที่อยู่รอบๆตัวของเขา.
ปล.พรุ่งนี้หยุดครับ
