ตอนที่ 173 มังกรวารี ระดับ 6 ขั้นสมบูรณ์
ตอนที่ 173 มังกรวารี ระดับ 6 ขั้นสมบูรณ์
ภายในเมฆเหนือท้องฟ้าท้องทะเลที่ถูกดึงขึ้นไปเริ่มแต่สลายแยกออกกลายเป็นไอ หลงเหลือแต่สัตว์กลายพันธุ์ทั้งระดับ 5 และต่ำลงไป แต่ชีวิตของพวกมันก็มาถึงจุดจบ
เพราะยิ่งฝ่าเข้าไปในเมฆสูงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เกิดแรงอัดหนาแน่นรอบข้างยิ่งกว่าน้ำทะเลลึกเป็นพัน ๆ เท่า ทั้งยังมีเมฆสายฟ้าและรังสีร้อนแรงต่าง ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้สังหารพวกมันเผาไหม้ร่างกาย บ้างอันกัดกร่อนจนกลายเป็นละอองเลือดตกตายไป
“อ๊าก ไม่พ้นแล้ว” ไนเรลร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังก้อง แต่ก็ไม่อาจจะดังไปได้มากกว่าสัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่น ๆ ที่กำลังจะตายเหมือนกับเขา
เมื่อรู้ตัวว่าออกไปไม่ได้แล้วเขาก็ก็หาทางรอดอื่น ๆ ให้ได้ แต่การจะเข้าไปในเงาก็อันตรายเกินไป เพราะอย่าลืมว่าโลกของเงาที่เข้าไปเกิดจากวัตถุสร้างเงา ถ้าอยู่ ๆ วัตถุนั้นหายไปเงาก็หายไปด้วย และก็จะไม่มีเงาให้เขาหลบอีกไนเรลจึงต้องรับพลังการทำลายของเมฆตรง ๆ เหมือนเช่นเดิม
นั้นจะยิ่งกลายเป็นการตายที่น่าอนาถไม่ต่างจากเดิมแม้แต่น้อย
แต่เขาไม่ยอมมาตายทุเรศแบบนี้ โดยการโดนดูดขึ้นไปตายเหนือเมฆแน่นอน
ไนเรลมองหาทางรอดของตัวเองและทันใดนั้นร่างของปูยักษ์ที่ในตอนแรกหนีรอดคมใบมีดวารีของไขไปได้มันกลับลอยผ่านมาด้านข้างของเขา
“ดูเหมือนมันจะไม่ได้ได้หนีไปจริง ๆ ในตอนแรก ถ้างั้นฉันขอยืมร่างของแกหน่อยก็แล้วกัน”
ไนเรลไม่รอช้าตรงเข้าไปในร่างของปูยักษ์บริเวณรอยแผลที่เคยฟันมันที่หลังกระดอง เพราะต้องการใช้ร่างขนาดใหญ่ยักษ์ของมันเป็นโล่เนื้อ
และส่วนที่ว่าเขาทำไมไม่ใช้ร่างของปลาประกายแสง ซึ่งเขาคงไม่เลอะเลือนจนนำตัวเองไปสู้ความตายแบบนั้น เป้าหมายของมังกรวารีคือปลาประกายแสง ถ้าเข้าไปหลบในปลาประกายแสงมีหวังตาย 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน
เขาพุ่งตัวลงไปในกระดองปู เข้าไปภายในเนื้อเลือดเนื้อของมัน ปูยักษ์กลายพันธุ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจากการที่ไนเรลฟันเลือดเนื้อของมันเพื่อเข้าไปให้ลึกขึ้น จึงดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด
แต่นั้นคือสิ่งที่มันจะทำได้เท่านั้นหลังจากนั้นร่างของปูทั้งกระดองและส่วนอื่น ๆ ก็เริ่มแตกหักลั่นดังสะนั่น กับแรงัดของเมฆรอบด้านทำให้ปูยักษ์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์ตกตายไป
ร่างของมันถูกกัดกร่อนเผาไหม้อย่างรุนแรง แม้แต่ไนเรลที่อยู่ภายในตัวของปูยักษ์ก็เริ่มทันไม่ไหว เขาใช้ทุกความสามารถป้องกันที่ตนเองมีอยู่ออกมา
เกล็ดสีดำรอบตัวของชายหนุ่มโดนรังสีเผาไหม้เกิดความร้อนกระทบอยู่ตลอดเวลา แรงอัดส่งผ่านร่างของปูเขามาที่ชายหนุ่มไม่หยุด
“ย้า!!!”
ไนเรลทนแรงอัดที่ส่งมารุนแรงจนกระดูกเหมือนจะถูกบดทำลาย แต่ถึงจะเจ็บปวด ชายหนุ่มก็ยังต้องรักษาสติไว้ให้ได้ ถ้าเกิดมาสลบไปตอนนี้มีหวังต้องตายอย่างแน่นอน
เปลือกปูยักษ์กลายพันธุ์พังทลายลงไป ตามมาด้วยเลือดเนื้อและโครงสร้างภายใน
“เราเร็วต้องออกไปจากเมฆเร็วกว่านี้อีก” ตอนนี้ไนเรลได้แต่ลุ้นให้ออกไปจากเมฆมรณะให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป
พรึบ!
และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกดึงขึ้นมาเหนือเมฆ ซากและทุกสิ่งรอยหยุดนิ่งอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมฆที่หนาแน่น แสงจากดาวฤกษ์ส่องลงมาอย่างต่อเนื่อง มันร้อนแรงยิ่งกว่าด้านล่างพื้นผิวโลกซะอีก แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่รุนแรงเท่าหมู่เมฆที่พึ่งผ่านมา
มังกรวารีหลังจากที่ดึงท้องทะเลนับ 100 กิโลเมตรขึ้นมาแล้วมันก็ไม่สนใจสิ่งใดนอกจากซากปลากระกายแสงระดับ 6 เท่านั้น
“ดูเหมือนตัวที่ฆ่าปลาประกายแสงคือมังกรวารีจริง ๆ สินะ” ไนเรลมองผ่านช่องเล็ก ๆ ในตัวของปูยักษ์ที่สภาพไม่อาจจะเรียกปูได้อีก แอบมองการกระทำของมังกรวารีอยู่ด้วยใจที่สั่นไหวอยู่ตลอดเวลา
แต่ในฉับพลันนั้นเองดวงตาขนาดใหญ่ของมังกรวารีก็มองมาที่เขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
ไนเรลรับรู้ได้ถึงเจตนาสังหารที่ตรงมายังตัวของเขา แรงกดดันมากมายมหาศาลนัก “ไม่เมื่อหนีไม่ได้งั้นก็ตายแล้วกัน”
หลังจากพูดปลุกใจตัวเองอีกครั้ง ไนเรลก็ปลดปล่อยจิตสังหารของตัวเอง เหมือนเป็นการบอกว่า ‘ถ้าจะฆ่าก็เขามาเลย แต่แกจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน’
มังกรวารีมองมาที่ไนเรลอย่างเยาะเย้ยและดูถูก มันจึงคิดจะใช้กรงเล็บขนาดใหญ่ตบไปที่เขาสักทีสองทีจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร
แต่แล้วอยู่ ๆ มังกรวารีก็หยุดชะงักนิ่งไปทันที ตัวของมังกรวารีมันสัมผัสได้ถึงศัตรูที่แข็งแกร่งมากจับจ้องมันอยู่
โฮกกก!!!!!!!!!!!!!!
มังกรวารีร้องคำรามและรีบคว้าร่างของปลาประกายแสงบินหนีด้วยความเร็วที่ไม่อาจบอกได้ไปทางด้านบนท้องฟ้าอาจจะออกไปนอกชั้นบรรยากาศเลยทีเดียว
ไนเรลมองดูอย่างงง ๆ เมื่อกี้มันยังทำตัวราวกับราชาแต่ตอนนี้กลับหนีตายราวกับสุนัขจรจัด แต่เขาก็รีบหยุดความคิดนี้ เพราะการกระทำของมังกรวารีไม่ใช่เหมือนกับเขาตอนที่เจอมันเหรอ
เมื่อไม่มีมังกรวารีที่ใช้พลังอยู่ทุกสิ่งที่ดึงขึ้นมาลอยตัวอยู่ในขณะนี้ก็ร่วงหล่นลงอย่างรวดเร็วในจุด ๆ เดิม
“บัดซบเดียวก่อนสิเฮ้ย” ไนเรลตะโกนออกมาขณะที่ตัวเขาและซากปูยักษ์กำลังกลับลงไปในกลุ่มเมฆหนาที่พึ่งรอดตายมาได้ไม่ถึงนาที
บึม!
แต่แล้วเรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นกลุ่มเมฆพวกนั้นระเบิดแยกออกเป็นรูขนาดใหญ่ทำให้ในตอนที่หล่นลงมาไนเรลไม่ได้รับความเสียหาย
ไนเรลที่ร่วงลงมาพร้อมกับซากปูยักษ์กระแทกกับพื้นน้ำอย่างรุนแรงดังตูม!
“เกิดออะไรขึ้นอีก? ฝีมือใครกัน?” ไนเรลพูดออกมาด้วยความงงอีกครั้ง เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นเองอย่างแน่นอน
แต่แล้วก่อนที่ไนเรลจะมีเวลาคิดอะไรรอบตัวเขาก็เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลกลับมาเติมบริเวณน้ำที่โดนดูดไปจนเกิดเป็นน้ำวนอย่างรุนแรง
ไนเรลเกราะซากสัตว์ไว้แน่นพร้อมใช้ความสามารถ [ควบคุมน้ำ B] และ [สนามพลังอากาศ S] ช่วย แต่แล้วในตอนนั้นเขาก็มองไปบนท้องฟ้าด้วยความเหลือเชื่อ เพราะมีหญิงสาวผมสีน้ำเงินที่ยืนหันหลังอยู่ไม่สูงมากนัก
ไนเรลขยี้ตาทันทีเพราะคิดว่าอาจจะเป็นภาพลวงตาที่เกิดจากน้ำทะเล แต่พอมองดี ๆ มันไม่ใช่ เขาเห็นจริง ๆ ว่ามีมนุษย์ผู้หญิงยืนอยู่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนที่แยกเมฆออกจากกัน ซึ่งเป็นระดับพลังที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก
ยิ่งเขามองเธอกับยิ่งรู้สึกคุ้นเคยหญิงสาวผมสีน้ำเงินเป็นอย่างมาก
อยู่ ๆ น้ำตาของไนเรลไหลออกมาไม่หยุด
“เดี๋ยวทำไมฉันร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน”
แม้ตอนนี้ตัวเขาจะเปียกจากน้ำทะเลไปทั้งตัว แต่เขารับรู้ได้ว่าน้ำตาของตัวเองไหลออกมาอย่างแน่นอน
ไนเรลยกมือขึ้นราวกับจะเอื้อมมือไปกอดเธอไว้ด้วยกลัวจะหายไป
“เดี๋ยวอย่าพึ่งไป” แต่แล้วสิ่งที่เขากลัวก็เกิด ทันใดนั้นหญิงสาวผมสีน้ำเงินก็หายไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นสิ่งที่เขาคุ้นเคยอีกอย่างก็ปรากฏขึ้นแม้มันจะเบาบางมาแต่ก็ทำให้เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการที่หน้าอกของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง
“พลังของระบบ”
ไนเรลถึงกับตัวสั่นแข็งไปทันที โชคดีที่เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการได้อำ พรางตัวของเขาเอาไว้ และอีกอย่างดูเหมือนพลังที่ส่งลงมาจะมีข้อจำกัดบางอย่างจึงทำให้พลังมันเบาบางมาก และอีกอย่างเป้าหมายของมันก็คือหญิงสาวผมสีน้ำเงินนั้น
คลื่น ๆ
พลังของระบบที่น้อยนิดแต่กับทำให้โลกทั้งใบเกิดสั่นไหวพลังของระบบตามไล่ล่าหญิงสาวผมสีน้ำเงินไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่น้ำวนขนาดใหญ่กลืนกินไนเรลลงไป
......
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมงทุกอย่างก็สงบลง คลื่นกลับมาเป็นเหมือนเดิม หิมะโปรยปรายลงมาเหมือนก่อนเกิดเรื่องทุกอย่าง ซากสัตว์ทั้งหมดผุดขึ้นมาเหนือน้ำเรื่อย ๆ
บุ! บุ๋ม!
ไนเรลที่อยู่ในฟองอากาศลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ในครั้งนี้เขารอดตายมาได้ แต่กลับไม่สามารถได้แก่นพลังงานระดับ 6 มาได้ ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ว่าเขาก็ไม่ได้กลับไปมือเปล่า เพราะเขาได้แก่นพลังงานของสัตว์ระดับ 5 ขึ้นสูงและสมบูรณ์จำนวนมาก
“ยังดีกว่าไม่ได้อะไร”
เขารีบเก็บแก่นพลังงานและซากสัตว์ระดับ 5 ขั้นสมบูรณ์เท่าที่จะทำได้และบินกลับเมืองหลวงไทกีล่าทันที เพราะตอนนี้เป้าหมายของเขาบรรลุแล้ว
ส่วนอีกเหตุผลคงเป็นหญิงสาวผมสีน้ำเงินที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ทำให้ไนเรลไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรอีกแล้ว
......
ณ เมืองหลวงไทกีล่า
ไนเรลนั่งอยู่ในตึกสูงใจกลางเมืองหลวง เขากลับมาถึงที่นี่เมื่อวานตอนเย็น แต่ตั้งแต่เมื่อวานเขาแต่นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ขยับไปไหนเลยแม้แต่น้อย หวนนึกถึงเรื่องที่เจอกับหญิงสาวผมสีน้ำเงิน มันเป็นความผูกพันที่แปลกประหลาดมาก ในใจเขามีแต่ความห่วงใย ราวกับอยากจะปกป้องเธอ
“เกิดอะไรขึ้นความรู้สึกผูกพันนี่คืออะไร เราไม่ได้คิดกับเธอแบบเอวาหรือว่าสเตล่า เดี๋ยวหรือว่าเธอจะเป็น ไม่เป็นไปไม่ได้ เธอยังไม่เกิดมา ต้องไม่ใช่จนกว่าจะเจอกับสเตล่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ไนเรลรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก คลื่นพลังของเขาไม่มั่นคงเลยแม้แต่น้อย มันระเบิดออกและหายไปอยู่ตลอดเวลา
คลื่น!!!
จนห้องสั่นไหวผนังแตกร้าว ทุกอย่างในห้องถูกทำลายลงไม่มีชิ้นดี