ตอนที่แล้วEp.935 - แก่นอบิลิตี้ของจ้าวเหนือหัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.937 - หวนคืน

Ep.936 - ปล้นศิลาศักดิ์สิทธิ์น้ำแข็ง


4/4

Ep.936 - ปล้นศิลาศักดิ์สิทธิ์น้ำแข็ง

เรือใหญ่ยิ่งใกล้ กลิ่นอายรอบๆก็ยิ่งหนาแน่น แต่ไร้ซึ่งระลอกคลื่นความผันผวนใดๆบนโล่พลังงาน สิ่งมีชีวิตข้างในสามารถดูดซับ รวบรวมพลังสมาธิและอักษรรูนจากภายนอกเข้าหาตนเองได้

หากฉินเฟิงไม่ทำลายเขตแดนลับ ยิ่งเข้าใกล้ดาวเคราะห์น้ำแข็งมากเท่าไหร่ แน่นอนว่ายิ่งสามารถเข้าใกล้มรดกได้มากเท่านั้น แต่สิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะถูกมอบให้กับผู้ที่ผ่านการทดสอบเท่านั้น ขณะที่ผู้ตกรอบจะอยู่ในสภาพสลบไสล ไม่สามารถดูดซับพลังงานอันเข้มข้นนี้ได้

แต่ตอนนี้ สัตว์ร้ายทั้งหมดบนเรือ ต้องยกมือขึ้นพนมและก้มกราบฉินเฟิงที่ช่วยปลุกพวกมัน!

ฉินเฟิงพอเห็นสิ่งนี้ ก็สำรวจความปลอดภัยช่วงท้ายเรือ เบื้องหลังเขามีแค่หูซาน ส่วนเบื้องหน้าเป็นหุ่นเชิดแห่งความตายเลเวล S จำนวน 5 ตัว

เมื่อเห็นว่าปลอดภัยทั้งหน้าหลัง ฉินเฟิงผ่อนคลายลง และเริ่มทำการดูดซับพลังงานโดยตรง

แต่เรื่องของเรื่องก็คือ วิธีการดูดซับของเขา มันแตกต่างจากคนอื่นๆ

ภายในเขตแดนลับ หากคิดเรียนรู้อบิลิตี้ ผู้สืบทอดทุกชีวิตต้องเรียนรู้รูนที่กักเก็บไว้ในเสาแต่เพียงผู้เดียว แต่ตอนนี้ อักษรรูนเป็นอิสระจากกัน ไม่จำเป็นต้องแก่งแย่งอีกต่อไป ทุกตนมองไปยังอักษรรูนอันสลับซับซ้อนเบื้องหน้า มีสัตว์ร้ายหลายตัวที่เพิ่งได้รับแก่นอบิลิตี้ พวกมันเลยยังไม่ค่อยมีสติปัญญามากนัก ดังนั้นสิ่งที่พวกมันดูดซับจากพลังงาน มิใช่อักษรรูน แต่เป็นพลังสมาธิเพื่อช่วยเพิ่มสติปัญญา

แต่ฉินเฟิงน่ะไม่เหมือนคนอื่นๆ เขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้หรือทำความเข้าใจอักษรรูน เพียงดูดกลืนก็จบ แต่ในตอนเข้าทดสอบรับสืบทอดมรดก เนื่องจากพลังสมาธิถูกจำกัดเอาไว้ ทุกอย่างเลยช้ากว่าที่ควร ตอนนี้ เมื่อพันธนาการถูกปลดเปลื้อง ฉินเฟิงไม่คิดออมมือ ระเบิดพลังอันน่าตื่นตะลึงออกมา

“ดูดกลืน!”

ระหว่างคิ้วของฉินเฟิงก่อตัวเป็นกระแสวังวน ดูดซับอย่างเมามัน ทะเลน้ำแข็งสีฟ้าด้านนอกถูกสูบเข้ามา ไหลผ่านโล่พลังงานของเรือใหญ่ จากนั้นผสามรวมเข้าสู่จักรวาลแห่งจิตสำนึกของฉินเฟิง

พลังสมาธิของฉินเฟิง ปีนป่ายสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อีกทั้งพลังงานนี้ ยังมีคุณสมบัติช่วยให้ดาวเคราะห์เพชรเติบใหญ่ขึ้น

ฉินเฟิงจึงไม่ลังเลที่จะปล้นมันจากทุกคน

น้ำทะเลภายนอกเรือใหญ่ แม้นปริมาณน้ำทะเลจะไม่ลดลง แต่พลังงานที่อยู่ข้างใน ค่อยๆถูกสูบกลืนจนเหือดแห้งและหายากขึ้นเรื่อยๆ

ผลกระทบนี้รุนแรงจนสัตว์ร้ายบนเรือใหญ่สัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าพลังงานที่ตนสามารถดูดซับมันลดน้อยลง

สัตว์ร้ายเริ่มคลุ้มคลั่งอีกครั้ง เกิดความคิดหมายสังหารฉินเฟิง

แต่ในขณะนั้นเอง พลังสมาธิของฉินเฟิง ยกระดับขึ้นทันใด

ก้าวขึ้นสู่เลเวล A4 !

เขาสามารถปีนป่ายไปได้อีกขั้น!

ช่วงเวลาระหว่างการยกระดับ พลังสมาธิอันน่าสะพรึงจะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไม่อาจเก็บงำ คล้ายปรากฏสัตว์ยักษ์ที่มองไม่เห็น ตรงเข้าบดขยี้จิตใจของทั้งคนและสัตว์บนเรือ เห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงเป็นเพียงมนุษย์อ่อนแอ แต่พลังสมาธิของเขา กลับให้ความรู้สึกตรงกันข้าม มันยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้

การปล้นของฉินเฟิง ยังคำดำเนินต่อไป

ก้าวขึ้นสู่เลเวล A5 !

ยกระดับต่อเนื่องไปอีกขั้น

ณ ขณะนี้ ไม่มีสัตว์ร้ายตนใดต้องการโจมตีฉินเฟิงอีก

เพราะหากสามารถสังหารฉินเฟิงได้มันก็แล้วไป แต่ถ้าสังหารไม่สำเร็จ ฉินเฟิงจะตอบโต้ ย้อนกลับมาฆ่าพวกมันอย่างแน่นอน

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เรือลำใหญ่กำลังค่อยๆแล่นไปใกล้ดาวเคราะห์น้ำแข็ง!

แน่นอน แม้อธิบายว่าใกล้ แต่ในความเป็นจริงมันยังอยู่ห่างออกมาไกลเป็นกิโลเมตร

เหล่าสัตว์ร้ายจับจ้องดาวเคราะห์น้ำแข็งไม่วางตา ช่วงเวลาถัดมา พลังสมาธิของสัตว์ร้ายตัวหนึ่งเริ่มเคลื่อนไหว ยืดยาวออกไปไกลนับพันเมตร กวาดถูกก้อนหินบนดาวเคราะห์น้ำแข็ง

หินที่มันเจอ ภายในโปร่งใสดุจดั่งน้ำแข็ง ภายนอกเป็นสีขาวบริสุทธิ์ราวหิมะ เมื่อประกอบสองคำอธิบายนี้เข้าด้วยกัน ก็สามารถระบุได้ทันที ว่ามันคือศิลาศักดิ์สิทธิ์น้ำแข็ง!

สัตว์ร้ายตัวอื่นๆตระหนักได้ทันใดว่านี่เป็นของดี  ไม่นาน ตัวแล้วตัวเล่าเริ่มปลดปล่อยพลังสมาธิ กวาดเข้าสำรวจดาวเคราะห์อย่างเต็มกำลัง งัดเอาหินเหล่านั้นออกจากดาวเคราะห์น้ำแข็ง

การต่อสู้แย่งชิงนี้ ส่งผลให้สัตว์ร้ายที่มีระดับต่ำกว่าเทวะเลเวล A จำนวนมากถูกสังหารลง ขณะที่สัตว์ร้ายเลเวล S และสัตว์เทวะทั้งสิ้น 800 ตัว มีเพียง 200 ตัวเท่านั้นที่ครอบครองพลังสมาธิอันแข็งแกร่ง สามารถรับเอาศิลาศักดิ์สิทธิ์น้ำแข็ง ขนาดเท่าก้อนกรวดเล็กๆ ลอยกลับมายังเรือใหญ่ได้

กระทั่งหูซานที่มีอายุมากแล้วยังรู้สึกตื่นเต้น และไม่นาน เขาก็ได้รับศิลาศักดิ์สิทธิ์น้ำแข็งมาครอง

ฉินเฟิงในตอนนี้มิได้เข้าร่วมแก่งแย่ง เมื่อเห็นคนอื่นๆกวาดเอาศิลาศักดิ์สิทธิ์น้ำแข็งเข้าตัว พลังสมาธิของเขาปลดปล่อยออกไป มันราวกับมังกรน้ำกำลังแหวกว่าย เข้าใกล้ดาวเคราะห์น้ำแข็ง

พลังสมาธิของเขาโอบล้อมดาวเคราะห์น้ำแข็งทั้งดวงเอาไว้ เขาค้นพบว่า ดาวเคราะห์น้ำแข็งดวงนี้ มีอำนาจในการสะกดความแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับในตอนเขาเพิ่งก้าวเข้าสู่มิติเกาะมังกร ยามถูกพายุพลังงานซัดเข้าใส่ ด้วยเหตุนี้ พลังสมาธิอันทรงพลังของฉินเฟิง จึงอ่อนแอลงอีกครั้ง

หากเป็นก่อนหน้านี้ ต่อให้เป้าหมายเป็นวัตถุดิที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 เมตร เขาสามารถเข้าควบคุมมันอย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้มิอาจทำได้

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงยังไม่ยอมแพ้ เขาพกพาอุปกรณ์รูนมิติที่ใหญ่พอจะบรรจุดาวเคราะห์น้ำแข็งทั้งดวงกลับไปได้ มีของโคตรดีอยู่ตรงหน้า แล้วเขาจะยอมปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร?

พลังสมาธิของฉินเฟิงกลายเป็นมือใหญ่ คว้าจับดาวเคราะห์น้ำแข็ง ฉุดดึงเข้าหาตนเอง

สัตว์ร้ายตัวอื่นๆ ไม่มีอารมณ์มามัวสนใจฉินเฟิง แต่หูซานคอยให้ความสนใจฉินเฟิงเสมอมา และพบเห็นเรื่องน่าเหลือเชื่อจากฝีมือฉินเฟิงครั้งแล้วครั้งเล่า ในเวลานี้ยังอดตกตะลึงไม่ได้ อีกฝ่ายได้กลายเป็นตัวตนยากจะหยั่งถึงไปแล้ว!

อาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่หูซานเคยเห็น ทั้งหมดเป็นตัวตนฉินเฟิงในเวอร์ชั่นเก็บงำความสามารถ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นมนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งในระดับตัวตนทรงอำนาจแล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้อบิลิตี้มืดปิดซ่อนพลังของตัวเองอีกต่อไป

เมื่ออีกฝ่ายเอาจริง หูซานสังเกตเห็น ว่าหลังจากพลังสมาธิของฉินเฟิกวาดลงครอบคลุม ดาวเคราะห์น้ำแข็งดวงนั้นเริ่มเกิดการสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน

หัวใจของหูซานเต้นระทึกไปพร้อมกันมัน

‘ฉินเฟิงผู้นี้ เป็นสัตว์ประหลาดหรืออย่างไร!’

พลังสมาธิถูกสะกดอำนาจลงมากเพียงใด หูซานตระหนักดี แต่ฉินเฟิงกลับคิดลากดาวเคราะห์ทั้งดวงโดยตรง และเขาสามารถสั่นคลอนมันได้จริงๆ แม้ฉินเฟิงจะทำไม่สำเร็จก็ตาม แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผู้คนตกใจ

ฉินเฟิงทำไม่สำเร็จ ดาวเคราะห์น้ำแข็งมีน้ำหนักมากอย่างไม่น่าเชื่อ ฉินเฟิงรู้สึกได้ แม้เขาสามารถสั่นคลอนดาวเคราะห์ได้ก็จริง แต่หากคิดเคลื่อนย้ายดาวเคราะห์ทั้งดวง ยังเป็นไปไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง แม้ไม่พอเคลื่อนย้ายดาวเคราะห์ แต่มันสามารถพลิกผิวดาวเคราะห์ที่อยู่ในรัศมีพลังสมาธิได้

เมื่อเริ่มลงมือ ศิลาศักดิ์สิทธิ์บนดาวเคราะห์น้ำแข็ง ก็หลุดลอกออกมาทีละชิ้น ทีละชิ้น ขนาดบ้างเล็กบ้างใหญ่แตกต่างกันไป แต่คำนวณคร่าวๆ น่าจะมีนับพันก้อน

จากนั้น พลังสมาธิของฉินเฟิงก็เรียกเอาศิลาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกลับมา

สัตว์ร้ายตัวอื่นๆที่กำลังปลดปล่อยพลังสมาธิของพวกมัน เมื่อเห็นฉากนี้ ในหัวใจเกิดจิตริษยา บังเกิดความปรารถนาอยากชนะฉินเฟิงอย่างรุนแรง

เพราะศิลาที่พวกมันกับฉินเฟิงได้รับ เทียบกันไม่ได้เลย

ศิลาศักดิ์สิทธิ์ชุดแรกที่ลอยเข้ามา ของแต่ละตัวมีขนาดเท่าเล็บมือ ยามลอยล่องผ่านน้ำทะเลสีฟ้า ไม่ต่างจากลูกอ๊อดตัวน้อยกำลังแหวกว่าย

ทว่าศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยตามมาด้วยงฝีมือของฉินเฟิง เล็กสุดมีขนาดเท่าไข่นกกระทา ใหญ่สุดมีขนาดเท่ากำปั้น แถมยังลอยมาทีเดียวเป็นพันก้อน ฉากนี้ราวกับฝูงปลาขนาดใหญ่

เทียบกันแล้วคงไม่ต้องอธิบายว่ามันน่าสลดขนาดไหน!

แน่นอน ในแง่ความรู้สึก สัตว์ร้ายพวกนี้ไม่ได้ละเอียดอ่อนขนาดนั้น คนที่รู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจที่สุด มิใช่ใครอื่นแต่เป็นหูซาน!

เพราะขนาดเขาซึ่งเป็นตัวตนทรงอำนาจเจ้าของธาตุหิมะ ศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่นำกลับมาได้ ยังคงเป็นหนึ่งในลูกอ๊อดเช่นเดียวพวกสัตว์ร้าย ใหญ่กว่าก็แค่ราวๆ 1 - 2 เปอร์เซ็น  เมื่อเทียบกับฉินเฟิง หูซานรู้สึเจ็บปวดแทบใจสลาย

ถึงจุดนี้ เรือลำใหญ่ไม่แล่นไปข้างหน้าอีกต่อไปแต่มันค่อยๆรักษาระดับความเร็ว วนรอบดาวเคราะห์น้ำแข็ง สุดท้ายเริ่มยกตัวลอยขึ้น

เห็นได้ชัดว่าเรือน้ำแข็งกำลังจะส่งผู้ทดสอบกลับแล้ว!

ฉินเฟิงรีบคว้าโอกาสนี้ทันที ระดมพลังสมาธิอีกครั้ง เร่งขุดศิลาศักดิ์สิทธิ์ออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด