Ep.929 - เทคนิคทรงพลัง

1/4

Ep.929 - เทคนิคทรงพลัง

ฉินเฟิงตัดสินใจเลือกโชคชะตานับจากนี้ของเขาอย่างไม่ลังเล

“ฉันขอเลือกพลังพิเศษดูดกลืน!”

พลังพิเศษดูดกลืนทรงพลังมาก ตราบเท่าที่มีพลังงานให้มันกลืนกิน ฉินเฟิงจะสามารถยกระดับได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั้น พลังพิเศษดูดกลืนไม่มีเงื่อนไขใดๆ นับแต่พลังสมาธิถูกปลุกขึ้น ฉินเฟิงก็สามารถใช้งานมันได้ทันที

ฉินเฟิงตัดสินใจเลือกเทคนิคอบิลิตี้นี้ ณ ใจกลางของดาวเคราะห์เพชรที่ว่างเปล่า เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นอายของความมืดมิด เป็นพลังธาตุมืดของความสามารถในการดูดกลืน

อย่างไรก็ตาม ปรากฏดาวเคราะห์เพชรดวงใหม่ขึ้นเช่นกัน ภายในมันแผ่กลิ่นอายเย็นยะเยือก ชนิดที่ว่าเพียงมอง ฉินเฟิงก็เข้าใจทันที ว่านี่คือแก่นอบิลิตี้น้ำแข็ง!

แต่ยังไม่มีเวลาทันได้ศึกษามัน เพราะพอฉินเฟิงเลือก แสงสีฟ้ารอบตัวเขาก็ค่อยๆมลายหาย สภาพแวดล้อมมิใช่บนเรือลำใหญ่อีกต่อไป ตัวเขาปรากฏขึ้นในอีกโลกหนึ่ง

“เขตแดนลับ!”

เมื่อถูกส่งเข้ามาที่นี่ ฉินเฟิงสามารถระบุได้ทันทีว่ามันคืออะไร

ปัจจุบันฉินเฟิงอยู่ในห้องเรียน เบื้องหน้าเขาเป็นหญิงผิวขาวบริสุทธิ์กำลังยืนอยู่ แต่ช่างน่าฉงน เพราะบนตัวอีกฝ่าย ไร้ซึ่งความอบอุ่น ปลดปล่อยไอเย็นตลอดเวลา ให้บรรยากาศดุจหิมะและน้ำแข็ง

ฉินเฟิงหันไปมองรอบๆ และพบว่าคนอื่นๆที่อยู่ในห้องเรียน ก็เป็นแบบผู้หญิงคนแรกเช่นกัน ล้วนขาวบริสุทธิ์ อีกอย่าง ทุกคนเป็นผู้หญิง

“เด็กน้อย เจ้าชื่ออะไร?”

ผู้หญิงคนนั้นพยายามพูดด้วยประโยคที่ฟังดูอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพียงแต่การแสดงออกของเธอเย็นชาเกินไป คล้ายกับว่าฉินเฟิงยืมหมื่นล้านเหรียญพลังงานกับเธอแล้วไม่คืน

ยังไงก็ตาม นี่ควรจะเป็นการทดสอบรูปแบบหนึ่งของเขตแดนลับ ในสมองของฉินเฟิงปั่นความคิด สุดท้ายอ้าปากเอ่ย “ผมชื่อซวนเฟิง!”

ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะไม่ได้สนใจกับคำตอบอยู่แล้ว เธอพยักหน้า “เจ้าถูกส่งมาที่นี่แบบกะทันหัน เรากลัวว่าเจ้าจะเรียนตามหลักสูตรของเราไม่ทัน แต่เราหวังว่าภายในสามวัน เจ้าจะสามารถเรียนรู้อบิลิตี้เหล่านี้ได้ มิฉะนั้น ถือว่าเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าเรียนสถาบันราชวงศ์สตรีหิมะ”

กล่าวประโยคนี้จบ อีกฝ่ายก็โยนม้วนหนังสัตว์ห้าผืนให้ฉินเฟิง

บนม้วนหนังสัตว์ทั้งห้านี้ แผ่กลิ่นอายเย็นยะเยือกออกมา

ฉินเฟิงเปิดมัน อักษรรูนฟุ้งออกมา ลอยล่องในอากาศ และพวกมันทั้งหมดคืออักษรรูนน้ำแข็ง

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยพลังสมาธิของฉินเฟิง ในความเป็นจริงเขาสามารถรับรู้ได้ ว่าหญิงหิมะที่นั่งอยู่รอบตัวเขาล้วนเป็นร่างที่เกิดจากพลังสมาธิ แต่ม้วนหนังสัตว์ที่บันทึกเทคนิคอบิลิตี้ตรงหน้า เป็นของจริง

“นี่คงเงื่อนไขหนึ่งในการรับมรดกใช่ไหม? ถ้าแบบนี้หูซานคงได้เปรียบสุดๆ!”

อักษรรูนคือหลักการที่เกิดจากพลังงานระหว่างฟ้าดิน แม้เขตแดนลับแห่งนี้จะทำให้ผู้คนสูญเสียอักษรรูนและพลังสมาธิที่เคยมีไป แต่ความสามารถในการเรียนรู้เทคนิค ยังอยู่ในการควบคุมของตัวเอง เพียงสัมผัส คุณจะสามารถเข้าใจและซึมซับได้ทันที

หูซานเป็นผู้ใช้อบิลิตี้เลเวล S ดังนั้นอักษรรูนระดับพื้นฐาน อีกฝ่ายคงแทบสามารถดูดซับมันได้ทันที

ฉินเฟิงก้มลงมองม้วนหนังสัตว์ทั้งห้าตรงหน้าเขา ข้างในมีปริมาณรูนราวๆ 5,000 ตอนนี้พลังสมาธิของฉินเฟิงถูกลดลงเหลือเลเวล E หากให้ศึกษารูนทั้ง 5,000 อักษรในสามวัน เกรงว่าจำต้องใช้ความสามารถในการเข้าใจระดับลูกรักของพระเจ้าจึงจะทำได้

แต่ก็ยังมีสัตว์ร้ายบางประเภท และมนุษย์ที่แม้ไม่ใช่ลูกรักของพระเจ้า แต่สามารถเรียนรู้มันได้ทันทีอยู่เหมือนกัน

ซึ่งเห็นได้ชัด ว่าฉินเฟิงความสามารถของฉินเฟิงอยู่เหนือยิ่งกว่าคนกลุ่มนั้นซะอีก!

“จะไปยากอะไร มาเจอกันซักตั้ง!”

ฉินเฟิงพอคิดได้ กระตุ้นพลังสมาธิทันที

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

ในพริบตา อบิลิตี้ดูดกลืนของฉินเฟิงระเบิดออกมา รูนน้ำแข็งเบื้องหน้าเขา ถูกฉินเฟิงสูบจนหมดสิ้น ไหลเข้าสู่จักรวาลแห่งจิตสำนึก

เมื่อรูนน้ำแข็งเข้ามาที่นี่ แก่นอบิลิตี้ก็เริ่มหมุนวน รูนน้ำแข็งราวพบพานบ้านของพวกมัน หลั่งไหลไปหลอมรวมเข้าด้วยกัน

ใช้เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ รูนทั้ง 5,000 ก็ถูกดูดซับโดยฉินเฟิง

หญิงหิมะรอบๆหันมองฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจ กระทั่งครูหิมะ ก็ยังแสดงท่าทีว่ารู้สึกทึ่ง

“เราไม่นึกเลย ว่าพรสวรรค์ของเจ้าจะน่าทึ่งขนาดนี้! ยอดเยี่ยม ทุกคนเตรียมเข้าสู่บทเรียนต่อไป!”

จากนั้น ครูยังคงหยิบยื่นความรู้มากมาย ฉินเฟิงพบว่าจะอย่างไรเขาก็ไม่สามารถออกจากห้องเรียนนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เวลารอบตัวเขาคล้ายเดินเร็วขึ้น ยกเว้นตอนครูหยิบม้วนหนังสัตว์ออกมาเท่านั้นถึงจะหยุดลง

ครูหญิงหิมะถ่ายทอดความรู้เร็วมากๆ แม้จะเร็ว แต่มันก็มีประโยชน์มากเช่นกัน

ฉินเฟิงจากที่ไม่เคยรู้อะไรเลย ยังตื่นเต้นเมื่อพบว่าที่แท้เทคนิคอบิลิตี้ก็มีวิธีการเรียนรู้เช่นนี้ด้วย

หากนำทฤษฏีและความรู้เหล่านี้กลับไปยังพันธมิตรมนุษย์ล่ะก็ คงก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ นักวิชาการนับไม่ถ้วนต้องตกตะลึง บทเรียนเหล่านี้จะช่วยให้อนาคตมนุษย์ก้าวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ถือเป็นเกียรติคุณอย่างหนึ่ง ดังนั้นฉินเฟิงตั้งอกตั้งใจฟัง บางอย่างที่ทำความเข้าใจไม่ทัน เขาก็ใช้พลังสมาธิอันยอดเยี่ยมของตน บันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้ในจิตใจ

หลังผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้นานนับสิบวัน ฉินเฟิงก็ได้รับม้วนหนังสัตว์อีกแปดผืน เขาเกิดความรู้ความเชี่ยวชาญในเทคนิคอบิลิตี้มากขึ้น ความแข็งแกร่งยกระดับเป็นเลเวล D

ถึงจุดนี้ เวลาหยุดเดินอีกครั้ง

“นี่คือวันสุดท้ายของการสำเร็จการศึกษา นอกจากนี้ยังมีการคัดเลือกผู้สำเร็จการศึกษาอีกด้วย คนที่แข็งแกร่งที่สุด จะได้รับรางวัล! เราหวังว่าทุกคนจะทุ่มเทเต็มที่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี!”

“ค่ะ ท่านอาจารย์!”

หญิงหิมะรอบๆตอบกลับ แต่ความรู้สึกที่พวกเธอส่งออกมา เย็นชาปานน้ำแข็ง

ช่วงสิบวันที่ผ่านมา ฉินเฟิงเรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้นมาก จากข้อมูลหลายๆอย่างที่ได้รับจากครูหิมะ ฉินเฟิงได้ข้อสรุปว่าโลกนี้อาจจะมีจริง แต่มันเหมือนเป็นความทรงจำมากกว่า และประสบการณ์ทั้งหมดที่ฉินเฟิงเผชิญ อาจเป็นไปได้ว่าทุกคนที่คิดสืบทอดมรดก คงประสบมันเช่นกัน

การใช้ความทรงจำพาย้อนกลับมายังเขตแดนลับไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าฉินเฟิงแกร่งมากๆ เขาก็ทำได้เช่นกัน

ส่วนตอนนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะทำอย่างไรจึงจะฟันฝ่า ผ่านพ้นอุปสรรคเพื่อรับมรดกไป เพราะเห็นได้ชัด ว่าฉินเฟิงยังมีคู่แข่งอีกมาก

เวลานี้ ในที่สุดฉินเฟิงก็เดินทางออกจากห้องเรียน ตามอาจารย์ไปยังลานกว้าง

ลานกว้างนี้ ทุกที่นั่งถูกจับจองไม่เว้นว่าง แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ คือหญิงหิมะ

อย่างไรก็ตาม ในที่นั่งฝั่งผู้ประลองเวที กลับเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายหลากชนิด แต่หญิงหิมะนอกเวที ดูเหมือนจะไม่มีปฏิกิริยาใดเลย ราวกับว่าสัตว์ร้ายเหล่านั้น เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับพวกเธอ

ฉินเฟิงเดินไปนั่งลงในตำแหน่งเขา ไม่ช้าก็พบหูซาน

“ฉินเฟิง คุณเองก็ผ่านมันมาได้?” หูซานตกใจเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจ ถ่ายทอดคำพูดผ่านพลังสมาธิเข้ามา “ด้วยสถานะลูกรักของพระเจ้าของคุณ การทำความเข้าใจอักษรรูนน้ำแข็งระดับล่าง สมควรเป็นเรื่องง่ายดาย อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าสัตว์ร้ายพวกนั้นมาก!”

ฉินเฟิงเลิกคิ้ว กวาดพลังสมาธิออกไปรอบๆ และพบว่าสัตว์ร้ายที่สามารถมาที่นี่ได้ หากเทียบกับตอนแรกที่ก้าวลงบนเรือใหญ่แล้ว มันมีจำนวนลงเหลือประมาณหนึ่งในสิบ!

“หมายความว่า การศึกษาจนแตกฉานในรูนคือด่านแรกงั้นสินะ สัตว์ร้ายส่วนใหญ่ไม่สามารถทำความเข้าใจอักษรรูนได้ ดังนั้นพวกมันเลยไม่สามารถเข้ามาที่นี่”

“แต่พวกมันก็ถือว่าได้รับโอกาสแล้ว เพราะมรดกนี้ ได้มอบแก่นอบิลิตี้น้ำแข็งแก่พวกมัน”

“นั่นก็ใช่ เพราะผมก็ได้รับมันมาเหมือนกัน!”

เมื่อเข้ารับมรดก ฉินเฟิงรู้สึกว่าร่างกายและพลังสมาธิของเขาอ่อนแอลง ถ้าจะให้พูด มันเหมือนร่างกายเขาถูกดัดแปลง แต่แก่นอบิลิตี้น้ำแข็งที่ได้รับมานี้เป็นของจริง มันสามารถเชื่อมต่อกับพลังสมาธิได้ คาดว่านี่คงเป็นรางวัลที่มอบให้แก่สิ่งมีชีวิตที่สามารถก้าวลงมาเหยียบบนเรือน้ำแข็ง

แต่นั่นเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น หากอยากได้มากกว่านี้ เกรงว่าต้องผ่านด่านเข้าไปในรอบลึกๆ

‘หวังว่ามันคงไม่ใช้เวลานานเกินไปนะ ไม่อย่างนั้น ไป๋หลีจะตื่นขึ้นก่อน!’ ฉินเฟิงคิด และเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผู้ประลองบนเวทีคนหนึ่งพ่ายแพ้

ประกายแสงสว่างวาบ สองสิ่งมีชีวิตบนที่นั่งถูกส่งขึ้นไปยังเวที ต่อสู้กันอีกรอบ