ตอนที่ 490 ราวกับได้รับการปกป้อง
เธอมองไปที่ใบหน้าอันงดงามนั้นและรู้สึกตื่นเต้น
ตู๋อีเล่ยเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
เขาหล่อเหลากว่าที่เห็นในจอมาก
โดยเฉพาะใบหน้าของเขา...มันเล็กขนาดนี้ได้อย่างไร?
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกราวกับว่าใบหน้าของตู๋อีเล่ยนั้นเล็กกว่าใบหน้าของเธอเสียอีก ใบหน้านั้นสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ ดูเหมือนว่าเป็นรูปแกะสลักอันแสนประณีต
เธอยืนอยู่ใกล้เขามาก กระนั้นยังไม่เห็นรูขุมขนบนใบหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว
ผิวของเขาดีมากราวกับผิวของไข่ลวกที่ปอกเปลือกเสียอีก – นุ่มและเต่งตึง
การมีผิวพรรณืที่ดีของชายคนนี้ ทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องอับอาย
ตู๋อีเล่ยยังหนุ่มแน่น เขาแต่งตัวเรียบง่าย แม้ว่าเขาจะเป็นดาราดัง
เขาสวมเสื้อยืดสีดำหลวม ๆ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้ากีฬาและหมวดแก๊ป เขาแต่งตัวเรียบง่ายและสวมใส่แบบที่คนทั่วไปเขาใส่กัน ทว่าเมื่อมันอยู่บนตัวเขา มันช่างดูดีขึ้นหลายเท่า
เขาเกือบจะเป็นเหมือนผู้นำเทรนด์
ดูเหมือนว่าทุกอย่งจะเดือดพล่านกับรูปลักษณ์ของเขาในที่สุด
คงไม่มีใครพบว่าทันสมัยและดูดีได้ขนาดนี้ หากเป็นคนธรรมดาสวมใส่
“สวัสดีครับ ผม ตู๋อีเล่ยครับ” ตู๋อีเล่ยดูไม่หยิ่งเลย ในขณะที่เขาเดินหน้าเข้ามาแนะนำตัวเอง รอยยิ้มของเขาสดใสและมีเสน่ห์ “ผมขอโทษนะที่ชนคุณ คุณโอเคไหม?”
เฉียวเมียนเมียนกลับมาที่ความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง เธอส่ายหน้า เธอรู้สึกหดหู่เล็กน้อยขณะที่เธอตอบว่า “ฉันต่างหากล่ะคะ ที่ควรเป็นคนขอโทษ เป็นฉันเองที่ชนคุณก่อน คุณโอเคไหม?”
แม้ว่าเฉียวเมียนเมียนไม่คิดว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่เธอก็ถามตามมารยาทเท่านั้น
“ผมโอเคครับ” ตู๋อีเล่ยยิ้มและยืดตัวขึ้น
เขามองมาที่เฉียวเมียนเมียนแล้วหันไปทางสำนักงาน “คุณมาเซ็นสัญญาเหรอ?”
“อืม” เฉียวเมียนเมียนมองไปที่ดาราดัง แม้เธอรู้สึกถึงความต่ำต้อยและรู้สึกดีต่อเขาในทันที
คนดังหลายคนที่ดูเหมือนจะเข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรต่อหน้าสาธารณชน ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย
ส่วนใหญ่พวกเขาแค่แสร้งทำ
ตอนนี้เธอกลัวเขาน้อยลง “คุณตูมาเซ็นสัญญาด้วยเหรอคะ”
“เราอายุไล่เลี่ยกัน” ตู๋อีเล่ยยิ้ม “คุณเรียกผมด้วยฉันก็ได้”
“เอ่อ ได้เหรอคะ” เฉียวเมียนเมียนลังเล
แม้ว่าพวกเขาจะอายุไล่เลี่ยกัน แต่เขาก้เข้าวงการและมีชื่อเสียงมากในช่วงก่อนหน้านี้
เขาถือเป็นรุ่นพี่ของเธอ
มันไม่หยาบคายไปหน่อยหรือที่จะเรียกเขาด้วยชื่อ?
ตู๋อีเล่ยดูเหมือนจะไม่สนใจ เขาพยักหน้าและพูดว่า “ได้อยู่แล้วล่ะ”
“ตูตูน้อย คุณมีถ่ายโฆษณาต่ออีกนะ รีบไปเซ็นสัญญาและรีบไปดีกว่า ไม่มีเวลาแล้ว” ชายที่ยืนอยู่ข้างตู๋อีเล่ยขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าตู๋อีเล่ยและเฉียวเมียนเมียนเข้ากันได้ดี
เขาจ้องเฉียวเมียนเมียนด้วยสายตาเป็นประกายที่ไม่เป็นมิตร ราวกับว่าเขากำลังป้องกันเธอ
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกประหลาดใจกับปฏิกิริยานี้
นั่นคืนผู้จัดการของตู๋อีเล่ยใช่ไหม
เขากลัวว่าเธอจะเข้ามาทำตัวสนิทสนมกับตู๋อีเล่ยหรือเปล่านะ?
เฉียวเมียนเมียนไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดใด ๆ แม้ว่าเธอจะพบว่าตู๋อีเล่ยเป็นคนดี แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะสนทนากับเขาต่อไปให้นานกว่านี้
และยิ่งไปนั้น ในกรณีที่ใครกำลังคิดว่าเธอมีแผนการมิดีมิร้าย เธอพูดปิดท้าย “เอาละ ฉันต้องรีบไปเช่นกัน เรา...ค่อยพบกันในกองถ่ายนะคะ!”
ตู๋อีเล่ยเพียงแค่ “อืม” และยิ้ม “เอาล่ะเจอกันในกองถ่าย”
“ฉันไปก่อนล่ะ บาย!”