Ep.928 - ให้เลือกเหลือแค่ความสามารถเดียว
4/4
Ep.928 - ให้เลือกเหลือแค่ความสามารถเดียว
ยิ่งเข้าใกล้เรือน้ำแข็งมากเท่าไหร่ วิกฤตก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น สัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนต่างแย่งชินกันขึ้นเรือ ตัวที่สามารถขึ้นมาได้แล้วก็สบายไป แต่ตัวที่อยู่ข้างหลัง ทั้งหมดเริ่มเข่นฆ่า กำจัดสัตว์ร้ายที่ขวางทาง หากคุณไม่แกร่งพอ โชคชะตาก็มีแต่ต้องถูกฆ่าเท่านั้น
ความแข็งแกร่งของหูซานแม้อยู่ในเลเวล S แต่ท่ามกลางทะเลสัตว์ร้ายเช่นนี้ เขาไม่ได้เปรียบเลย
หางของสัตว์ร้ายทรงพลังกวาดเข้ามา ฟาดใส่หูซานเต็มรัก กายหิมะของเขาแตกกระจายทันที แม้หูซานจะไม่เปิดเผยรูปลักษณ์มนุษย์ของเขา แต่รูนถูกทำลาย สร้างความเสียหายต่อพลังสมาธิเป็นอย่างมาก
“ท่านผู้ใหญ่หู อย่าฝืนเลย มารวมตัวกับผมดีกว่า!” พลังสมาธิของฉินเฟิงถ่ายทอดออกมา
แม้หูซานต้องการไปถึงที่หมายด้วยตนเอง แต่ขณะนี้ เขารู้ดี ว่ามันเป็นไปไม่ได้
เจ้าตัวไม่มีทางเลือกอื่น หันกลับมา เบี่ยงทิศทางรวมกลุ่มกับฉินเฟิง
แต่เวลานี้ ฉินเฟิงเองก็ตึงมือเช่นกัน เขาคอยควบคุมหุ่นเชิดแห่งความตาย ขับไล่สัตว์ร้ายตัวอื่นๆ
“ฉินเฟิง ถ้าฉันได้รับสมบัติบางอย่างในครั้งนี้ ฉันจะแบ่งให้คุณสามส่วน!” หูซานกล่าว
ฉินเฟิงมองหูซานด้วยความประหลาดใจ เอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว “ท่านผู้ใหญ่หู เหมือนคุณจะรู้ว่าข้างในนั้นมีอะไร”
“ใช่ เกรงว่าข้างในคงไม่พ้นเป็นมรดกตกทอด ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถได้รับสืบทอดได้เฉพาะผู้ใช้อบิลิตี้น้ำแข็ง!” หูซานไม่คิดปกปิด “ก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังร่ำร้องเรียกหาฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะความรู้สึกอันรุนแรงนั้น ฉันคงไม่กล้าเสี่ยงมาถึงที่นี่!”
ที่สำคัญหูซานอยากพึ่งพาตัวเอง เขาไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากฉินเฟิง เพราะเขารู้ว่าฉินเฟิงเองก็น่าจะมีส่วนร่วมในการเข้ารับสืบทอดมรดกนี้ด้วย แม้ฉินเฟิงจะไม่ใช่ผู้ใช้อบิลิตี้น้ำแข็ง แต่ก็ยังถือเป็นคู่แข่ง เขาไม่ต้องการให้ฉินเฟิงช่วยเหลืออีกแล้ว เพราะแบบนี้ไม่ยุติธรรมต่อฉินเฟิง
แต่สถานการณ์ตอนนี้ร้ายแรงเกินกว่าความแข็งแกร่งของมนุษย์ทั่วๆไป หากหูซานอาศัยเพียงความสามารถตน เกรงว่าต่อให้ไปถึงเรือน้ำแข็งได้ ก็คงต้องจ่ายออกไปไม่น้อย ถึงเวลานั้น ใครจะรับประกันได้ว่าเขาอยู่ในสภาวะพร้อมที่สุด?
ดังนั้น หูซานยอมรับน้ำใจจากฉินเฟิง ทั้งเอ่ยปากสัญญาอย่างเป็นมั่นเหมาะ
“ที่แท้สิ่งที่อยู่ข้างในก็คือมรดกตกทอดธาตุน้ำแข็ง”
ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนอื่นไม่มา แต่หูซานกลับอยู่ที่นี่ คาดว่าเขาคงไม่อยากทิ้งโอกาสดั่งสวรรค์ประทานนี้ไป!
“ฉันไม่รู้ว่ามรดกนี้อันตรายรึเปล่า แต่ยังไงก็ตาม เมื่อร่วมมือกัน คุณสมควรได้รับผลประโยชน์ด้วย”
“ครับ”
ทั้งสองไม่พูดพล่ามมากความ ฉินเฟิงยังคงใช้พลังสมาธิควบคุมหุ่นเชิดแห่งความตาย ขณะนี้ ยังไม่ใช่เวลาสนทนา
คู่แข่งพวกเขามีเยอะเกินไป ยิ่งเข้าใกล้เรือน้ำแข็ง ศัตรูยิ่งทรงพลัง มีกระทั่งบางตัว ฉินเฟิงไม่สามารถวัดความแข็งแกร่งของมันได้
สิ่งที่โชคดีก็คือ ฉินเฟิงลังเลในช่วงแรก ทำให้เวลานี้กลุ่มสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นไปบนเรือใหญ่แล้ว ส่วนสัตว์ร้ายที่เหลือ ไม่อาจรับมือกับการรุมโจมตีของกองทัพแห่งความตายของฉินเฟิงได้
ยิ่งเข้าใกล้เรือน้ำแข็งมากเท่าไหร่ ฉินเฟิงก็ยิ่งสามารถมองเห็นสถานการณ์ข้างต้นได้ชัดเจน ปรากฏว่ามีโล่ป้องกันปกคลุมอยู่ด้านนอกของเรือใหญ่ ส่วนสภาพของเรือ หากมิใช่เพราะมันมีขนาดมหึมา อาจเรียกมันว่าเป็นเรือประมงขนาดเล็กก็ได้ เพราะสภาพของเรือ ไม่มีแม้แต่ห้องโดยสารไว้คอยบังแดดบังฝน
ส่วนสัตว์ร้ายที่เข้ามาอยู่ข้างใน ทั้งหมดต่างจัดแถวอย่างเป็นระเบียบ แต่มองด้วยสายตา จะพบว่าพื้นที่กว่าครึ่งของเรือเต็มแล้ว
“เปิดทางให้ฉัน!”
ฉินเฟิงคำรามเกรี้ยวกราด หุ่นเชิดแห่งความตายคำรามด้วย ฉินเฟิงและกองทัพของเขาชนกับโล่พลังงานฝั่งนอกทันที
ทันใดนั้นเอง เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังสมาธิของฉินเฟิงโล่ก็เปิดออก ปล่อยให้เขาเข้ามา แต่หุ่นเชิดแห่งความตายเหล่านั้นไม่สามารถ
“ท่านผู้ใหญ่หู คุณไปก่อน!”
ฉินเฟิงกล่าว และกลัวว่าอีกฝ่ายจะยังรั้งรอ เขาใช้กำลังภายในผลักหูซานอย่างแรง ส่งอีกฝ่ายปลิวหาเรือใหญ่
จากนั้น พลังสมาธิของฉินเฟิงส่งคำสั่งทันใด
“จงระเบิด!”
ในพริบตา หุ่นเชิดแห่งความตายรอบกายฉินเฟิงพากันระเบิดตัวเอง ก่อคลื่นกระแทกกวาดออกไปทุกทิศทาง ฉากนี้ราวกับระเบิดเนื้อมนุษย์ เละเหลวไม่เหลือชิ้นดี สัตว์ร้ายหลายตัวที่เข้าใกล้กองทัพแห่งความตาย ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดนี้ เนื้อหนังหลุดรุ่ยเป็นชิ้นๆ กระทั่งสัตว์ร้ายเลเวล S บางตัวก็ยังโดน
หุ่นเชิดแห่งความตายไม่สามารถนำขึ้นเรือได้ ดังนั้นฉินเฟิงย่อมไม่ยอมเสียของเปล่า อาศัยแรงระเบิดของพวกมันสังหารสัตว์ร้ายเพิ่มได้อีกหลายตัว
จากนั้น พลังงานทั้งหมดก็หลั่งใหลเข้าสู่ร่างกายฉินเฟิง
พลังสมาธิของฉินเฟิงขยับไหว กวาดออกไปรวบรวมแก่นพลังงานของหุ่นเชิดแห่งความตายทั้งหมดมายังเขา
พวกศพสัตว์ร้ายที่โดนแรงระเบิดจนมีสภาพผิดรูปก็ไม่ละเว้น ทั้งหมดถูกกวาดเข้าสู่อุปกรณ์รูนมิติของฉินเฟิงในลมหายใจเดียว
ถึงจุดนี้ ฉินเฟิงก็สามารถกระโดดผ่านโล่พลังงาน เข้าไปในเรือใหญ่ได้อย่างวางใจ
บนเรือน้ำแข็งเหลือที่ว่างอีกเพียงไม่กี่ที่นั่ง แต่หลังจากที่ฉินเฟิงเข้ามา ทันใดนั้นปรากฏพลังที่มองไม่เห็น ฉุดดึงนำทางเขา พลังนี้ไม่ได้ทำร้ายฉินเฟิง แต่กลับพยายามปิดกั้นจิตสำนึกเขา ยิ่งขัดขืนยิ่งเพิ่มแรง จนร่างกายของฉินเฟิงแข็งกระด้าง สุดท้ายพามาปล่อยลงในตำแหน่งที่ว่างอยู่
เบื้องหน้าเขาคือหูซาน แต่หูซานไม่สามารถหันหัวกลับมาได้ ยังไงก็ช่าง อย่างน้อยฉินเฟิงสามารถขึ้นเรือได้แล้ว
ไม่นาน หลังการต่อสู้อันดุเดือด สัตว์ยักษ์อีกตัวหนึ่งเป็นผู้คว้าชัย สามารถก้าวขึ้นเรือ และทุกที่นั่งก็ถูกเติมเต็ม
เมื่อทุกที่นั่งไม่ว่าง เรือใหญ่ก็เริ่มเดินเครื่องทันที แต่การแล่นของมันเสถียรราบรื่นมาก มุ่งหน้าสู่เบื้องล่าง จมลงในรอยแยกมิติ ทว่าแม้เข้ามา กลับไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนใดๆ
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีแสงสีฟ้าแผ่เข้ามาจากด้านนอกของโล่พลังงาน ให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินทางผ่านช่องว่างแห่งกาลเวลา
ตามมาติดๆด้วยภาพของแสงสีฟ้าผลุบเข้ามาในโล่พลังงาน จากนั้นสัตว์ร้ายที่ยืนเรียงรายเป็นแถวก็หายวับไป ฉินเฟิงสัมผัสได้ว่าแสงสีฟ้านี้ปกคลุมตนเอง และแล้ว พลังที่มองไม่เห็น ก็แทรกซึมผ่านร่างกาย ตรงเข้าสู่จิตสำนึกของฉินเฟิง
คล้ายดั่งความฝันที่ไม่ใช่ความฝัน แต่ฉินเฟิงรู้สึกได้ ว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพเริ่มถดถอย พลังสมาธิกลายเป็นว่างเปล่า
ฉินเฟิงตกใจมาก!
“เกิดอะไรขึ้นกับอบิลิตี้ของฉัน??”
หัวใจของฉินเฟิงหล่นวูบ ทว่าร่างกายเขากลับไม่สามารถออกแรงขัดขืนได้เลย
ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง แม้ไม่ใช่เลเวล S แต่ความสามารถของเขาน่ากลัวยิ่งกว่าเลเวล S เสียอีก ทว่าเวลานี้ กลับไม่สามารถต่อต้านสถานการณ์แปลกๆได้
ขณะนั้นเอง จู่ๆเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังสมาธิอันคลุมเครือ คาดว่าน่าจะเป็นพลังสมาธิที่เกิดจากพลังงานรอบๆ
“มรดกจะถูกเปิดได้ ก็ต่อเมื่อเหลือความสามารถเดียวเท่านั้น!”
ต่อมา ท่ามกลางจิตสำนึกของฉินเฟิง เขาถูกพลังงานนี้ คัดแยกความสามารถที่ตัวเองมีออกมานับไม่ถ้วน
อันได้แก่ ความมืด , ไฟ , น้ำ , ดิน และลม 5 ธาตุอบิลิตี้ จากนั้นไล่ตั้งแต่เทคนิคระดับต่ำอย่างซ่อนเงา , บอลไฟ ไปจนถึงเทคนิคระดับสูงอย่างอบิลิตี้เขตแดน มีครบทุกอย่าง
ความสามารถทางวรยุทธโบราณก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน ไล่ตั้งแต่ทักษะลับกลืนดารา , เทคนิคมีดผลาญสวรรค์ , ทักษะหมื่นวิญญาณสะบั้น , ทักษะหมื่นภูติ
“ให้เก็บไว้ได้แค่ท่าเดียวเองหรอ?”
ฉินเฟิงครอบครองความสามารถต่างๆเยอะเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิคอบิลิตี้ ซึ่งประกอบไปด้วยรูน และกระบวนท่าวรยุทธเองก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน
“จริงอยู่ว่าความสามารถที่ทรงพลังเป็นตัวเลือกที่ดี แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่าฉันจะสามารถใช้มันได้รึเปล่า ด้วยร่างกายและพลังสมาธิของฉันในสภาวะที่เป็นอยู่ตอนนี้ คงเป็นไปไม่ได้ถ้าคิดใช้เทคนิคทรงพลังเหล่านั้น!”
ฉินเฟิงสัมผัสได้ว่าร่างกายเขา ตอนนี้ตันเถียนได้หายไป แต่พลังสมาธิยังอยู่ดี แต่มันอยู่ในระดับเลเวล E เท่านั้น
ส่วนดาวเคราะห์เพชร ก็ยังหดลงเหลือขนาดเท่าเลเวล E
เมื่อไม่มีตันเถียน เท่ากับตัดกระบวนท่าวรยุทธออกไปได้เลย ทักษะลับกลืนดาราทรงพลังก็จริง แต่เกรงว่าในสถานการณ์เช่นนี้ จะไม่มีผู้ใช้วรยุทธโบราณคนอื่นๆปรากฏตัวขึ้นให้ฉินเฟิงช่วงชิงกำลังภายใน!
“ในเมื่อให้เลือกแค่คำตอบเดียว --
--ฉันยังต้องลังเลอะไรอีกเล่า!”