Ep.922 - พบพานสหายเก่า ณ เกาะมังกร
2/4
Ep.922 - พบพานสหายเก่า ณ เกาะมังกร
“ไป!”
ฉินเฟิงออกคำสั่งผ่านพลังสมาธิ กระโดดขึ้นนั่งบนร่างของหุ่นเชิดมังกรเกล็ดปีศาจ
หุ่นเชิดมังกรทั้ง 11 ตัวส่งเสียงคำรามขานรับ ย่ำลงพื้นน้ำแข็งด้วยแรงมหาศาล ตรงเข้าสู่สนามรบ
ท่ามกลางสนามรบ ปรากฏร่องรอยของพายุหิมะ แต่ในครั้งนี้ ร่องรอยที่ว่ามิใช่เกิดจากพายุพลังงาน หากแต่เกิดจากเทคนิคอบิลิตีั้!
เป็นฝีมือของผู้ใช้อบิลิตี้น้ำแข็ง!
ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นคนที่ฉินเฟิงรู้จัก!
ห่างออกไป 1,000 เมตร ฉินเฟิงสามารถมองเห็นได้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
--นั่นหูซาน!
ยังไม่พอ ข้างกายหูซาน เหมือนจะมีผู้ใช้พลังอีกนับสิบคนร่วมเดินทางมาด้วย มีสองคนในบรรดากลุ่มนั้นปลดปล่อยกลิ่นอายทรงอำนาจ คงไม่พ้นเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S ส่วนคนที่เหลือ ล้วนเป็นผู้ใช้พลังระดับสูงในเลเวล A8 A9
อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่สมควรจะทรงพลังมากๆกลุ่มนี้ ปัจจุบันกลับถูกไล่ล่า พยายามหลบหนีอย่างน่าสมเพช
เบื้องหลังคนเหล่านี้ เป็นสัตว์ร้ายฝูงหนึ่ง สรีระของสัตว์ร้ายเหล่านั้นไม่สูงมากนัก แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมา มันน่าตกใจเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งในนั้น ปลดปล่อยกลิ่นอายเลเวล S ออกจากร่างของมัน
ลักษณะเป็นหมีขาวขนาดสูงกว่า 3 เมตร
“เป็นหมีหิมะแห่งเกาะมังกร!”
ยังไม่พอ เบื้องหลังมันยังมีฝูงหมาป่าหิมะอีก 20 ตัว และในบรรดาหมาป่าหิมะเหล่านั้น มีตัวหนึ่งสูงกว่าสองเมตร ยาวถึงห้าเมตร ดูจากกลิ่นอายปรากฏว่าเป็นระดับจักรพรรดิ
ส่วนหมาป่าหิมะที่เหลือ ล้วนอยู่ในระดับราชันย์ และความแข็งแกร่งของพวกมัน ร้ายกาจ หากอยู่ในระดับเดียวกัน จะไม่ด้อยไปกว่าเผ่ามังกรเกล็ดปีศาจเลย!
นอกจากนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตคล้ายแมวน้ำอีกสองตัว พวกมันเคลื่อนที่ไม่เร็วนัก แต่สามาถสร้างแผ่นน้ำแข็งรองรับตัว และไถลไปกับมันได้ ชัดเจนว่าพวกมันครอบครองอบิลิตี้น้ำแข็ง
การรวมตัวดังกล่าว สำหรับมนุษย์ มันคือหายนะถึงตาย
ผู้ใช้พลังในที่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้พลังเลเวล A ในความเป็นจริงพวกเขาค่อนข้างแข็งแกร่งหากเทียบกับในเลเวลเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับสัตว์ร้ายเหล่านี้แล้ว พวกเขายังนับเป็นสิ่งใดอีกหรือ?
วู้มมม!
เสียงอึกทึกสะท้อนเข้ามา พลังสมาธิของหูซาน กวาดลงบนสิ่งมีชีวิตเบื้องหน้า หัวใจเขากระตุกวูบ
“อะไรกัน!? จักรพรรดิสัตว์ร้าย?? ข้างหน้ามีจักรพรรดิสัตว์ร้ายอีก 11 ตัว???”
‘สวรรค์คงอยากให้ฉันตายแล้วสินะ … ’ ความคิดหนึ่งวาบผ่านเข้ามาในใจของหูซาน หนีเสือปะจระเข้แบบนี้ คงไม่มีโอกาสรอดอีก ไม่นึกฝันเลย ทั้งๆที่ตนเพิ่งได้รับโชคในมิติธารโลหิต สามารถยืดอายุขัย สามารถอยู่ได้อีกหลายปีแท้ๆ
ย้อนกลับไปสักเล็กน้อย เดิมเขาคิดจำศีลตนเองในภูเขาหิมะของภูมิภาคเหนือ แต่การไปที่นั่นทำให้เขาค้นพบทางเข้าสู่เกาะมังกร การหลับใหลอยู่ใกล้ทางเข้าเกาะมังกรช่วยให้เขามีพลังมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมันช่วยให้เขาแกร่งขึ้น จะให้ยืนมองอยู่เฉยๆคงไม่ใช่ สุดท้ายหูซานตัดสินใจเข้ามาสำรวจ ผลคือได้รับบาดเจ็บเรื้อรังมาถึงทุกวันนี้
แต่ปัจจุบัน บาดแผลเหล่านั้นรักษาหายแล้ว ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาของหูซานก็คือ จะต้องสำรวจมิติแห่งนี้อีกครั้งให้จงได้
เพื่อความไม่ประมาท เขาได้เชิญผู้ใช้พลังเลเวล S อีกสองคนเข้าร่วมการสำรวจในครั้งนี้ด้วย หนึ่งในนั้นคือตระกูลผู้ใช้วรุยทธโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ในภูมิภาคเหนือ ประมุขตระกูลเป่ยถัง --เป่ยถังเฉียน!
ตระกูลของเป่ยถังเฉียนหลบลี้จากโลกเบื้องหน้า ภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อ 200 ปีก่อน เกือบล้างบางตระกูลผู้ใช้วรยุทธโบราณตระกูลนี้ สายเลือดแท้ของเป่ยถังเฉียนถูกตัดขาด ไม่เหลือผู้สืบสกุล รอดมาได้เพียงลูกหลานตระกูลสาขานอกเท่านั้น พวกเขาแม้ไม่มีความสามารถมากนัก แต่ยังคงสามารถรอดชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ ว่ากันว่าต้นกล้าที่เหลืออยู่ ไม่มีเลเวล A แม้แต่คนเดียว
ในขณะที่เป่ยถังเฉียนมิใช่คนมองโลกในแง่ดีนัก แม้ตัวเขาเป็นถึงเลเวล S แต่ไม่อยากตกเป็นเป้าถูกจับจ้องโดยผู้คน ที่เฝ้ารอให้เขาตาย จากนั้นตระกูลของเขาก็จะกลายเป็นแกะอ้วน ไร้ที่พึ่งพิง ถูกเข้าช่วงชิงสมบัติในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เป่ยถังเฉียนยังคงมีความหวังที่จะต่อต้านเจตจำนงฟ้า เขายังคงต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตระกูลตน
ส่วนผู้ใช้พลังอีกคนหนึ่ง สถานะแตกต่างจากเป่ยถังเฉียนอย่างสิ้นเชิง เขามาจากตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุดในภูมิภาคใต้ กระทั่งผู้ครองตำแหน่งจ้าวพรมแดนภูมิภาคใต้ ก็ยังมาจากตระกูลนี้
อดีตประมุขของตระกูลหนานกง --หนานกงซีหมิง
หากให้นับลำดับญาติ ประมุขคนปัจจุบันของตระกูลหนานกง สมควรเรียกชายคนนี้ว่าชูสู (叔祖 =น้องชายของปู่ เอาเป็นว่าเรียกปู่แล้วกัน)
ทั้งสามคนแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาไม่นึกเลย ว่าสถานที่แห่งนี้จะอันตรายมาก มากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
สำหรับฉินเฟิง ข่าวคราวของเกาะมังกรที่เขาได้รับก่อนการเกิดใหม่ กับในชีวิตนี้มันไม่เหมือนกัน
ดูเหมือน่วาถ้าไม่ใช่เพราะฉินเฟิงมอบผลึกโลหิตแก่หูซาน อีกฝ่ายคงต้องรอเวลาอีกกว่าครึ่งปี ถึงจะเริ่มพาคนเข้ามาสำรวจที่นี่
และเนื่องจากไม่มีใครทราบถึงสถานการณ์ ยังไม่ได้รับข่าวสารของเกาะมังกร หลังจากพายุหิมะหยุดลง ปราศจากอุปสรรคใดบดบังการรับรู้และพลังสมาธิ พวกเขาจึงคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี แต่ไม่นึกเลย ว่าพอออกมาจะถูกฝูงสัตว์ร้ายรุมล้อม
“ช้าก่อน สัตว์ร้ายพวกนั้น ทำไมถึงมีกลิ่นอายแห่งความตาย?” เป่ยถังเฉียนเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นรังสีแห่งความตาย และเมื่อเพ่งมองดูดีๆ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง!
“นั่นอะไรน่ะ? พวกนายดูนั่น! บนตัวของสัตว์ร้าย เหมือนว่าจะมีคนนั่งอยู่!”
อบิลิตี้มืดของฉินเฟิงทรงพลังมาก บวกกับการดำรงอยู่ของหุ่นเชิดแห่งความตาย ทำให้สามารถปิดกั้นการตรวจจับของการรับรู้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขามาที่นี่เพราะคิดช่วยเหลือผู้คน ดังนั้นไม่มีเจตนาปิดซ่อนร่างกาย บวกกับสีแดงเพลิงของเสื้อคลุมราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์มันเด่นชัดเกินไป เลยเป็นผลให้ถูกเป่ยถังเฉียนพบเห็น
“จะมีคนอื่นอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หรือว่าจะเป็นมนุษย์จากต่างมิติ? แบบนั้นก็ยังไม่มั่นใจว่าจะมาในฐานะมิตรหรือศัตรู!” หนานกงซีหมิงสนทนาผ่านกำลังภายใน ความเร็วของเขาไม่ได้ลดลงเลย แถมดูเหมือนมีท่าทีไม่อยากเข้าใกล้กลิ่นอายแห่งความตายของจักรพรรดิตรงหน้าด้วย
หูซานได้ยินการเสียงสนทนาผ่านกำลังภายในของทั้งสอง เพ่งมองไปยังทิศทางฝูงมังกรเกล็ดปีศาจ และเพียงแวบเดียว เขาก็สามารถจดจำได้ทันทีว่าเป็นฉินเฟิง
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง?” ปฏิกิริยาแรกของหูซาน เขาไม่ทันคิดว่าตนคงรอดแล้ว แต่กลับรู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่อ
ในหัวใจเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หูซานตัดสินใจส่งผ่านพลังสมาธิออกไป เรียกขานคำหนึ่ง
“ฉินเฟิง?”
พลังสมาธิของเขาถ่ายทอดน้ำเสียงแฝงความสงสัยยังไม่กล้ายืนยัน แต่ไม่นาน พลังสมาธิจากอีกฝั่งก็ถูกส่งกลับมา
“ท่านผู้ใหญ่หู ผมจะช่วยคุณเอง!”
ฉินเฟิงควบคุมหุ่นเชิดมังกรเกล็ดปีศาจ พุ่งผ่านฝูงชน ตรงเข้าปะทะกับกลุ่มสัตว์ร้ายข้างหลัง
มังกรเกล็ดปีศาจทุกตัวทุ่มสุดฝีเท้าตั้งแต่แรก รีดเร้นพละกำลังทั้งหมดที่พวกมันมี ขณะเดียวกันกลุ่มสัตว์ร้ายเมื่อแต่มุ่งสมาธิไปกับพวกหูซาน ดังนั้นไม่ทันสังเกตการปรากฏตัวของสิ่งอื่นในสายตา ด้วยระยะห่างเพียง 1,000 เมตร กว่าจะทันตระหนักได้ก็หลบไม่พ้นเสียแล้ว
ตูมมมม!
มังกรเกล็ดปีศาจพุ่งเข้าใส่หมีหิมะตัวยักษ์อย่างแรง แต่ในวินาทีต่อมา หุ่นเชิดที่ฉินเฟิงขี่อยู่ กลับแพ้แรงปะทะ ถูกผลักถอยกลับมาข้างหลัง มิอาจรักษาสมดุลร่างกาย ร่วงหงายลงบนพื้นหิมะ
“ทรงพลังอะไรอย่างนี้!”
ฉินเฟิงตะลึง
“ระวัง!” หูซานตะโกน แต่พริบตาต่อมา เห็นแค่เพียงหุ่นเชิดมังกรเกล็ดปีศาจที่เหลืออีก 10 ตัว กระโจนเข้าหาฝูงหมาป่า
หากไม่นับจักรพรรดิหมาป่า ระดับราชันย์ตัวอื่นๆล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมังกรเกล็ดปีศาจ ถูกฉีกทึ้งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
พื้นหิมะและน้ำแข็งถูกย้อมไปด้วยสีแดง จากนั้น 11 มังกรเกล็ดปีศาจ ก็เข้าโอบล้อมหมีหิมะ แม้ในด้านความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดมังกร จะไม่เท่ากับสิ่งมีชีวิตเลเวล S ตัวนี้ แต่ยังชนะในด้านปริมาณ
สถานการณ์พลิกตาลปัตรทันที
ตอนนี้ กลายเป็นฝั่งมนุษย์เข้ารุมล้อมสัตว์ร้าย
“ฮ่า!” เป่ยถังเฉียนผ่อนลมหายใจยาว กล่าวเสียงหอบ “เขาคือใครกัน? เป็นพันธมิตรของพวกเรางั้นหรอ? มีผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่ทรงพลังถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ต้องแข็งแกร่งถึงขนาดไหนถึงจะใช้อบิลิตี้มืดแบบนี้ได้?”
อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้ คนที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่า คือหนานกงซีหมิง
ซีหมิงไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคนๆนี้คือฉินเฟิง คือคนเดียวกับในความทรงจำของเขา!