chapter 21
หลังจากนอร์แมนออกจากเบลดอินดัสทรีย์ไปแล้วและได้เห็นแอนนิมอลโซลเยอร์ที่เป็นของเวิร์ดสเน็ก เขาก็ยอมแพ้ต่อเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ที่ไม่มีความก้าวหน้า.
ในเวลาเดียวกัน เขาก็มีความหวังในการมีชีวิตจริงๆ นอร์แมนต้องการเข้าร่วมกับเวิร์ดสเน็กเช่นกัน!
เนื่องจากงูโลกมีทหารรับดับสูงอย่าง ทหารอสูร ที่มีพลังมากพอจะทำลายโลก ดังนั้นเขาจึงมีแนวโน้มว่าจะติดตามพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย.
ซอดใช้เวลาเพียงวันเดียวในการสร้างยาต้านhyperplasia inherited แต่เขาไม่ได้ให้นอร์แมนทันที เขาต้องรอเวลาสักหลายวันก่อนที่มันจะถูกส่งไปให้เขา.
หลังจากได้รับแล้วนอร์แมนก็เปิดกระเป๋าบรรจุเซรุ่มทันทีด้วยความตื่นเต้น.
เขาเห็นเข็มฉีดยาและยาสามขวดที่เต็มไปด้วยของเหลวสีฟ้ารวมทั้งคำแนะนำ.
ฉีดเดือนละครั้งเพื่อระงับการเกิดhyperplasia inherited ในขณะเดียวกันก็เพื่อป้องกันการเกิด hyperplasia inherited ต้องมาตรวจร่างกายทุกๆสามเดือน.
เป็นไปไม่ได้ที่ยาจะเห็นผลทันทีด้วยการฉีดเพียงครั้งเดียว แถมยังโรคทางพันธุกรรมซึ่งเกิดจากการผิดปกติของพันธุกรรมอีกด้วย.
นอร์แมนไม่ประหลาดใจ เขาหยิบกระเป๋าบรรจุเซรุ่มและเดินทางไปหาคอนเนอร์ เขาต้องการให้คอนเนอร์ช่วยติดตามสถานการณ์หลังจากฉีดยาต้าน แม้ว่าคอนเนอร์จะไม่รู้ว่ายาต้านนี้มาจากไหนและเขาก็ไม่สนใจ เขาไม่แนะนำให้นอร์แมนฉีดตรงๆ เพราะมีแต่ผีเท่านั้นที่จะรู้ว่ามันจะเกิดเหตุร้ายหรือไม่
แต่นอร์แมนไม่รอ คอนเนอร์ต้องฉีดยาต้านให้กับนอร์แมนด้วยความเชื่อฟังหลังจากที่นอร์แมนตรวจร่างกายบนโต๊ะเสร็จ.
นอร์แมนหลับภายใต้ฤทธิ์ยา จากนั้นยาต้านก็เริ่มซ่อมแซมยีนที่บกพร่องของเขา.
หลังจากนั้นนอร์แมนก็ฟื้นคืนสติ เขาพบว่าความรู้สึกอ่อนแอทางร่างกายของเขาหายไป เขารู้สึกว่าตัวเองเต็มไปด้วยพลัง แขนขาของเขารู้สึกแข็งแรงและเขารู้สึกดี.
โรคทางพันธุกรรมที่ออสบอนอินดัสทรีไม่อาจแก้ไขได้จากความพยายามของรุ่นสู่รุ่นถูกจัดการได้โดยเวิร์ดสเน็ก!
สิ่งนี้ยังเสริมสร้างความมุ่งมั่นของนอร์แมนที่จะเข้าร่วมกับเวิร์ดสเน็ก.
แต่เดิมนอร์แมนคิดว่าขั้นตอนต่อไปคือการรวมออสบอนอินดัสทรีเข้ากับเบลดอินดัสทรีย์และขยายกลุ่มอุตสาหกรรม ผลก็คือซอดก็จะช่วยเหลือเขาเหมือนเดิม เหตุผลง่ายๆก็คือไม่ใช่เพียงเพราะคำพูดของนอร์แมนเพียงคนเดียว ยังมีผู้ถือหุ้นมากมาย มีหลายคนที่มีทักษะยอดเยี่ยมและมีความแข็งแกร่งมากในภายในองค์กร การยืนกรานไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่มันจะทำให้เสียเวลามากเกินไปเท่านั้น.
สิ่งแรกที่ซอดขอให้นอร์แมนทำคือ ไปรัสเซียเพื่อตามหา ไอแวน แวนโก้.
สำหรับชาวรัสเซียคนนี้มีเพียงแค่ชื่อ และข้อมูลง่ายๆเท่านั้น นอร์แมนต้องใช้อำนาจของตัวเองโดยตรง ภายในเวลาไม่ถึง 2 วัน ซอดก็เห็นไอแวน แวนโก้*ที่ถูกส่งมาถึงหน้าประตู.
โอ้ พ่อของเขา แอนทอน แวนโก้*เขายังมีชีวิตอยู่.
มันเรื่องง่ายที่จะรับทั้งสองคนนี้ ซอดไม่สนใจความต้องการของเขา เขาตรงไปที่อุปกรณ์ล้างสมองและลบความจำของพวกเขาให้กลายเป็นนักวิทยศาตร์ที่ภักดีต่อโลก.
เพื่อป้องกันไม่ให้แอนทอนที่อ่อนแอและตายจากไปเพราะความสับสนตามท้องเรื่องเดิม ซอดได้ฉีดเซรุ่มซุปเปอร์แอนนิมอลให้กับเขา ทำให้เขากลายเป็นแอนนิมอลโซลเยอร์.
จากกำหนดการเดิมของซอด ทั้งสองได้สร้างเครื่องปฏิกรณ์อาร์กนิวเครียร์ฟิวชั่นที่ควบคุมให้มันเย็นลงได้ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังสอนซอดให้เรียนรู้และการปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว.
มันต้องใช้พาเลเดียม สำหรับธาตุใหม่ที่ไม่มีในตารางธาตุ ธาตุของคริปตอนก็แตกต่างไปจากโลก องค์ประกอบส่วนใหญ่แตกต่างกัน เพราะมันเกิดจากสภาพแวดล้อมของคริปตอนที่แตกต่างกัน หากไม่มีคริปตอนก็จะไม่มีองค์ประกอบใดๆที่ซอดคุ้นเคย แต่พลังของปฏิกรณ์อาร์กที่เป็นวงกลมเล็กๆนี้ก็เพียงพอแล้วและซอดก็ไม่ได้พยายามจะสร้างให้มันใหญ่กว่านี้.
เขาแค่ตั้งใจที่จะเดินนำให้โทนี่สตาร์กไปหนึ่งก้าวและสร้างชุดเหล็ก.
หลังจากจดทะเบียนสิทธิบัตรเครื่องปฏิกรณ์อาร์กจิ๋วอันนี้ก็เริ่มโชว์ความสามารถในการเลียนแบบตัวจริง โอ้ ไม่ใช่สิ เขาต้องบอกว่าเขาเป็นคนสร้างก่อน โทนี่ สตาร์กยังไม่ได้สร้าง มาร์ค 1 มันยังห่างไกลกว่า 8 ปี ต่อจากนั้นโทนี่ต่างหากที่จะเลียนแบบเขา.
"โอลด์ เชิญสส.ทั้ง 5 มาและคนจากกระกรวงการทหาร,กระทรวงกลาโหมที่เกี่ยวข้องและบอกว่าเบลดอินดัสทรีย์ของเรามีจะมีการแสดงผลิตภันฑ์ใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่วัสดุ แต่เป็นอาวุธใหญ่ที่สร้างขึ้นจากอนาคต"
ซอดสั่งเลขาของเขา.
โอลด์ถึงกับต้องผงะ มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะสร้างอาวุธที่ล้ำยุค?
ประเทศต่างๆได้รับการแจ้งเตือนจากเบลดอินดัสทรีย์ได้ให้ความสนใจ ท้ายที่สุดการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากคริปตอนโกลด์ส่วนสองได้ปรากฏขึ้นบนโลก อย่างน้อยครึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมนุษย์ประสบความสำเร็จอันเนื่องมาจากการเกิดขึ้นของคริปตอนโกลด์ส่วนสอง กล่าวได้ว่าตอนนี้ซอดและเบลดอินดัสทรีย์ของเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นชายที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก.
และตอนนี้ซอดพูดได้จริงๆแล้วว่าเขามีอาวุธล้ำยุคจริงๆ?
ไม่เพียงแต่ในประเทศเท่านั้น แต่ทุกกลุ่มองค์กรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมทางทหารก็ได้รับข่าวนี้.
พวกเขาทุกคนสนใจอาวุธล้ำยุคของเบลดอินดัสทรีย์เป็นอย่างมาก มันคืออาวุธที่ใช้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า?หรือมันคืออาวุธเลเซอร์? มันจะเป็นอาวุธที่ออกมาจากหนังไซไฟใช่ไหม?
ในวันงานนิทรรศการ เขาไม่รู้ว่ามีคนดัง,คนมีชื่อเสียงและตัวแทนกองทัพทหารและการป้องกันประเทศต่างๆได้มารวมตัวกันที่นี่กี่คน แต่ซอด ฮีทซึ่งเป็นตัวเอกไม่ได้ออกมาให้เห็น หลังจากถามเลขาของเขา โอลด์ก็บอกว่าซอดจะปรากฏตัวเมื่องานนิทรรศการเปิดขึ้น.
"ไม่ยักรู้ว่าซอดมีเลขาสาวสวยขนาดนี้."
โทนี่ สตาร์กก็มาด้วย เขายังสนใจอาวุธล้ำยุคของซอดอีกด้วย ที่สำคัญเขาอ้างว่าเขาเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลก เขาไม่คิดว่าสิ่งที่เรียกว่าอาวุธล้ำยุคจะทรงพลังมากนักหรือไม่ก็การสร้างมัน ลืมไปได้เลย แต่โทนี่ สตาร์กก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในเรื่องนี้.
"คุณสตาร์ก ยินดีต้อนรับสู่นิทรรศการของเรา."
โอลด์พูดอย่างสุภาพเธอเกือบจะหนีจากธุระเหล่านี้แล้ว เพื่อให้ความบันเทิงแก่ตัวแทนของประเทศต่างๆและผู้คนจำนวนมากที่ไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้ แต่ซอดก็บอกเพียงว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้ หลังจากนั้นก็ทิ้งเธอไว้ที่งาน.
ตอนนี้โอลด์ไม่รู้ว่าอาวุธล้ำยุคของซอดคืออะไร แต่เธอรู้ว่าถ้าซอดไม่สามารถสร้างสิ่งที่ทรงพลังได้ในสนามใหญ่แห่งนี้ เบลดอินดัสทรีย์อาจจะต้องทุกข์ทรมาณแน่ๆ.
"ฉันสงสัยว่าหลังจากงานจบแล้ว ฉันขอเชิญคุณไปทานมื้อเย็นได้ไหม?"
โทนี่ สตาร์ดกำลังเกี้ยวพาโอลด์และพร้อมที่จะมีค่ำคืนที่เร่าร้อนกับเธอ.
"ขอโทษด้วย คุณสตาร์ก ฉันต้องไปทักทายคนอื่นๆ."
โอลด์ยิ้มอย่างขอโทษและจากไป.
แม้ว่าโทนี่จะหล่อเหลาและน่าดึงดูด แต่เขาก็ไม่ได้มีเสน่ห์มากกว่าเจ้านายของเธอ ไม่ว่าจะไงก็ตาม.
ในขณะที่ทุกคนนั่งรอการเปิดของนิทรรศการ จู่ๆไฟก็ดับลง.
แม้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน แต่ทุกคนในตอนนี้ก็ได้เห็นฉากใหญ่ๆมามายแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครตื่นตระหนก.
*ทั้งสองคนมาจากเรื่อง ไอร่อนแมน 2 เป็นตัวร้าย
ผู้แปล:ตอนหน้าเริ่มขายอย่างเป็นทางการ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุน มีนิยายหลุดไปก็จะเลิกแปลนะครับ