ตอนที่ 8 ความสามารถ
แม้ว่านี่จะเป็นการต่อสู้ครั้งแรกของซู่เจิน แต่เขาก็ไม่ตื่นตระหนกถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ต่อสู้มามากมาย
"ที่รักผมว่าคุณไปยืนดูผมห่าง ๆ ดีกว่านะ ไม่ต้องห่วงผมไม่เป็นอะไรแน่นอน "
ซู่เจินหันไปพูดกับสกายอย่างใจเย็นแม้ว่าสกายจะกังวล แต่เธอก็ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้มากนะ ดังนั้นเธอต้องพยายามไม่รบกวนสมาธิของซู่เจิน
เมื่อซู่เจินเห็นว่าเปลวเปลิงของจอห์นเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซู่เจินขยับไหล่เล็กน้อยและบิดข้อมือและเขาก็พุ่งเข้าไปหาจอห์นอย่างรวดเร็ว
วิส!
เมื่อซู่เจินเข้ามาใกล้ ทำให้จอห์นประหลาดใจเล็กน้อย ระยะระหว่างจอห์นกับซู่เจินนั้นห่างกันหลายสิบเมตร แต่ในพริบตาเขาก็พบว่าซู่เจินมาปรากฎอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว จอห์นดูเหมือนจะตกใจกับความเร็วของซู่เจินเขาผลักมือของเขาไปข้างหน้าทำให้เปลวเพลิงพุ่งตรงไปที่ซู่เจิน
คลื่นความร้อนพุ่งเข้าหาใบหน้าของซู่เจินอย่างรวดเร็ว เขาหลบไปทางด้านข้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเปลวเพลิงนี้มันจะมีระบบติดตาม เปลวเพลิงมันย้อนกับแล้วพุ่งมาซู่เจินอย่างรวดเร็ว ซู่เจินใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งและความเร็วของเขาในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พยายามหาโอกาสเพื่อเข้าประชิดตัวของจอห์น อย่างไรก็ตามประสบการณ์ต่อสู้ของจอห์นนั้นมีมากกว่าซู่เจิน จอห์นควบคุมเปลวเพลิงเพื่อไม่ให้ซู่เจินเข้ามาประชิดตัวเขาได้
“มึงมีความสามารถแค่นี้ แต่คุยโวซะใหญ่โต ดูเหมือนจะทำได้แค่พูดอวดเบ่งสินะ”
"ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะได้เห็นดีกัน!"
ซู่เจินหัวเราะเยาะเย้ย แม้ว่าเขาจะไม่สามารถประชิดตัวของจอห์น และหลบหลีกเปลวเพลิงที่กำลังติดตามเขาอยู่ได้ แต่เขาก็ไม่เห็นต้องตื่นตระหนกอะไรเพราะความร้อนของเปลวเพลิงนั้นมันไร้ผลกับเขา ซู่เจินสามารถเพิ่มอุณหภูมิให้สูงกว่าเปลวเพลิงซะอีก พูดง่ายๆ เขาไม่ต้องสนใจเปลวเพลิงพวกนี้เลย เพราะมันไม่สามารถทำให้ร่างกายของเขาบาจเจ็บได้ ส่วนสาเหตุที่เขาไม่ทำแบบนั้นเพราะเขาต้องการเพิ่มประสบการณ์การต่อสู้ของเขา
แถมยังช่วยให้เขาคุ้นเคยกับความสามารถและร่างกายของเขาอีกด้วย
ท้ายที่สุดแล้วความสามารถก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งความสามารถไม่ได้เป็นตัวกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างและไม่ได้เป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ของการต่อสู้! เขาพบว่าร่างกายของเขาค่อย ๆ เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเขาจะดูดซับไวรัสเอ็กซ์ตรีมมิสและรวมเข้ากับร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขายังใช้พลังของมันได้ยังไม่เต็มที่ ทำให้เขาจะต้องปรับมันให้เข้ากับตัวเองให้มากที่สุด อย่างน้อยก็จนกว่าที่ความเร็วเปลวเพลิงของจอห์นจะไม่สามารถตามเขาได้ทัน
"กูจะคอยดูว่ามึงจะหนีได้อีกนานแค่ไหน"
เมื่อจอห์นเห็นว่าซู่เจินสามารถหลบเปลวเพลิงได้อย่างสบาย ๆ จอห์นก็แสยะยิ้มขึ้นมาและทันใดนั้นเปลวเพลิงส่วนหนึ่งก็พุ่งเข้าหาสกาย!
"ถ้ามึงเก่งจริงก็ไปช่วยให้ทันสิ ฮ่า ฮ่า!"
จอห์นหัวเราะอย่างมีชัย
“ไอ้เชี้*เอ้ย!”
ซู่เจินไม่คาดคิดมาก่อนว่าจอห์นจะใช้วิธีน่ารังเกียจลอบโจมตีสกาย ซู่เจินหันหลังและวิ่งไปยังทิศทางของสกายอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของซู่เจินเพิ่มขึ้นจนถึงขีดจำกัด ความรู้สึกเหมือนกำลังโบยบิน เขามาถึงตัวสกายในเสียววิ แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะผลักสกายออกไปและเขาทำได้เพียงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
"อันตราย!"
สกายตั้งสติขึ้นมาได้และรีบตะโกน
น่าเสียดายที่มันสายไปแล้ว
"ไม่นะ……"
เมื่อเห็นเปลวไฟพุ่งเข้าใส่ซู่เจิน สกายก็ตะโกนอย่างร้อนรน อย่างไรก็ตามจอห์นไม่ได้หยุดโจมตี เปลวเพลิงพุ่งเข้าหาซู่เจินราวกับกระสุนปืนกล
ตูมตูมตูมตูม!
ร่างของซู่เจินจมอยู่ในกองเพลิงพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังอย่างต่อเนื่อง
"ฮ่า ๆ มึงมันก็แค่คนโง่ที่ยอมตายเพื่อผู้หญิง! แต่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวกูจะส่งแฟนมึงตามไปอีกคน!"
ปีศาจเพลิง จอห์นหัวเราะอย่างมีชัยและก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
"ไม่ เป็นไปไม่ได้ มึงน่าจะตายไปแล้วนิ... " เสียงหัวเราะอันภาคภูมิใจของจอห์นหยุดกะทันหันและมองดูร่างที่ค่อยๆโผล่ออกมาจากเปลวเพลิงด้วยความเหลือเชื่อ
เปลวเพลิงสีแดงเข้มเหมือนสีของแมกมา ความรู้สึกเปลวเพลิงมันให้ความรู้สึกเหมือนราชาแห่งความตายกำลังมาเยือนเขา
"ไม่! เป็นไปไม่ได้ ทำไมถึงได้ไม่มีบาจแผลเลยละ" เมื่อเห็นซู่เจินที่เสื้อผ้าของเขาขาดเป็นชิ้น ๆ และผิวของซู่เจินแดงเผือกเหมือนกับลาวา จอห์นคิ้วขมวดและตะโกนด้วยความไม่อยากเชื่อ ในขณะที่จอห์นควบคุมเปลวเพลิงโจมตีไปที่ซู่เจินอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเปลวเพลิงเหล่านี้กระทบเข้ากับร่างกายของซู่เจิน แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับซู่เจินเลยสักนิด
"ความสามารถของนายมีแค่นี่เองงั้นหรอ ปีศาจเพลิง จอห์น นายทำให้ฉันผิดหวังมาก ถ้าตอนแรกนายไม่คิดลงมือกับผู้หญิงของฉัน ฉันกะว่าจะปล่อยให้นายรอด โดยเล่นกับนายสักพัก แต่ตอนนี้ .. . นายทำให้ฉันโกรธมาก! ตอนนี้ฉันจะเอานายมาเครื่องสังเวยคนแรกสำหรับหนทางการเป็นราชาของฉัน!” เสียงของซู่เจินดูน่าขนลุกเหมือนว่าเขามาจากขุมนรก ทำให้จอห์นรู้สึกหวาดกลัวจากก้นบึ้งในหัวใจ เขาเดินถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เขาต้องรอด หนี!
"วิส!"
ซู่เจินขยับตัวเล็กน้อยทันใดนั้นเขาก็มาอยู่ตรงหน้าจอห์นและจับไปที่คอของจอห์นอย่างแรงและยกขึ้นมา
ด้วยความสามารถของซู่เจินสามารถเพิ่มอุณหภูมิสูงราวกับแมกมาได้ ทำให้จอห์นที่ถูกเขาจับไว้กรีดร้องอย่างทรมาณ จอห์นถึงแม้เขาจะสามารถควบคุมเปลิวเพลิงได้และยังป้องกันการถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ได้เขายังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งก็คือการต้านทานอุณหภูมิความร้อนสูงได้ แต่ ... อุณหภูมิที่ซู่เจินปล่อยออกมานั้นสูงเกินไปที่เขาจะต้านทานได้ มันไม่ใช่เปลวเพลิงแต่มันเป็นอุณหภูมิที่สามารถละลายทุกสิ่งทุกอย่างได้
จอห์นรู้สึกว่าคอของเขากำลังจะละลาย เขาพยายามควบคุมเปลวเพลิงด้วยมือของเขาและโจมตีไปที่ซู่เจินอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ไร้ผลเมื่ออยู่ต่อหน้าซู่เจิน จอห์นไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังเท่าครั้งนี้มาก่อน เหมือนกับว่าซู่เจินกำลังทรมาณให้เขาตายอย่างช้า ๆ
จอห์นในตอนนี้ ทั้งหวาดกลัว เสียใจ และเขายังไม่อยากตาย!
“ขอความเมตตา?” จอห์นในตอนนี้ภายในจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว เขาแค่อยากขอร้องให้อีกฝ่ายปล่อยเขาไป แต่เขาไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ แรงของเขาเริ่มหมดลงเรื่อย ๆ และไม่สามารถควบคุมเปลวเพลิงได้อีกต่อไป
ดูเหมือนจอห์นจะรู้สึกถึงพลังของเขาที่อยู่ในร่างกายที่ถูกดูดออกจากร่างกายด้วยมือของซู่เจินที่บีบคอของเขาอยู่
“อ๊าก!”
ซู่เจินปล่อยมือออก จอห์นก็ทรุดตัวลงกับพื้น สติของเขาเริ่มเลือนรางและเขาจะเห็นว่าร่างกายของซู่เจินกลับมาเป็นปกติดังเดิม ซู่เจินยกมือขึ้นและปรากฏลูกบอลเปลวเพลิงอยู่บนฝ่ามือเขาเปลี่ยนรูปร่างเป็นรูปต่าง ๆ ไปมา
"นี่ ... นี่มันความสามารถของฉัน ... นายเอาความสามารถของฉันไป นาย ... นายมันเป็นปีศาจ ปีศาจ! ... " ปีศาจเพลิง จอห์นที่กำลังจะหมดสติลง เขาคำรามขึ้นมาด้วยความสิ้นหวัง **[ เปลี่ยนสรรพนามทันทีทันใด ]
ซู่เจินเหลือบมองไปที่จอห์นเขาค่อย ๆ ยกมือขึ้น เปลวไฟค่อย ๆ ประทุขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
"อย่า……"
ด้วยเสียงโห่ร้องดังขึ้นซู่เจินหยุดและมองไปที่สกายที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขา
สกายส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า "ที่รักอย่าฆ่าเขาเลย เดี๋ยวเราจะมีปัญหาตามมาที่หลัง"
"ไม่อย่าฆ่าฉัน ได้โปรด ... " จอห์นตะโกนอย่างร้อนรนเขาในตอนนี้ได้สูญเสียความสามารถไปแล้ว ดังนั้นแม็กนีโต้จะไม่สนใจจอห์นอีกต่อไป การสูญเสียพลังก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ แต่มันก็ดีว่าการที่เราต้องตาย
ฟุบ~
ซู่เจินโบกมือเปลวเพลิงก็สลายหายไปทันทีจากนั้นเขาก็ก้มลงไปหยิบไฟแช็คของจอห์น
"ไปกันเถอะ!"
"อืม"
สกายพยักหน้าและหันเดินออกจากตรอกไปพร้อมกับซู่เจินทิ้งให้จอห์นที่นอนหมดแรงอยู่ นัยต์ตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง....