ตอนที่ 70 เข้าสู่ UK
“โย่วโย่ว? ไง!”
ซือเหนียนโบกมือไปมาต่อหน้าฉีโย่ว ‘เธอกลายเป็นคนโง่ไปแล้วหรือเปล่า’
“ขาของเธอน่ะ เกิดอะไรขึ้น”
ซือเหนียนรู้ว่าฉีโย่วถูกลักพาตัว แต่เหยาซื่อบอกว่าเขาพาเธอกลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว ทำไมตอนนี้เธออยู่บนรถเข็น? มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นงั้นหรือ?
ฉีโย่วรู้สึกได้ว่า “สบายมากคะแม่ เล็กน้อยเท่านั้นเอง”
เธออธิบายพลางหัวเราะ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
“ความผิดหนูเองที่ไม่ดูแลตัวเอง”
ตาของซือเหนียนบวมจากการร้องไห้ตลอดทั้งคืนและตอนนี้ยังแดงอีกครั้ง ทำให้ฉีโย่วต้องปลอบเธอในทันที
“ไม่มีอะไร แม่อย่าร้องนะ”
“ไอ้พวกสารเลวตระกูลฉิน! พวกมันทำลายเธอและตอนนี้ยังมาทำร้ายโย่วโย่วด้วย!” ซือเซียงวางแก้วลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ ทำให้ซือเหนียนลืมความเศร้าของเอและรีบปลอบเขา
“คุณคือ...ลุงของหนูเหรอคะ?”
ฉีโย่วมองไปที่ซือเซียงอย่างสงสัย
“ใช่ ฉันเป็นลุงของเธอ” การที่ฉีโย่วลืมเขาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เพราะเขาจากเธอไปตั้งแต่ที่เธอยังเป็นทารก
“ทำไม แม่ไม่เคยบอกหนูมาก่อนเลย” ฉีโย่วถามด้วยความงงงวย
ซือเหนียนถอนหายใจ เธอไม่เคยคาดหวังว่าซือเซียงจะกลับมา พี่ชายของเธอเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมและมีความสามารถ เขาไม่พอใจกับชีวิตในสถานที่เล็ก ๆ เช่นนี้ได้ โชคดีที่เขาจากไปและไม่ต้องทนทุกข์กับเธอ
แม้ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขา เมื่อฉีโย่วยังเด็ก ซือเหนียนไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากพี่ชายของเธอเลย เธอติดต่อเขาไม่ได้และแทบจะไม่ได้รับการติดต่อจากเขาเลยนอกจากได้รับโปสการ์ดทุกสองหรือสามปี
“ฉันสิที่ต้องถูกตำหนิ ฉันรับปากกับแม่ว่าจะดูแลเธออย่างดี แต่ฉันมันเห็นแก่ตัวเกินไป..”
ฉีโย่วเข้าใจอย่างคลุมเครือขณะที่แม่และลุงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังด้วยความตกใจเกินกว่าจะพูดอะไรได้
‘ฉันมีลุง เยี่ยม! ในที่สุดแม่และฉันก็มีครอบครัวแล้ว’
....
ในคุก ฉินเหวินเชื่อมั่นว่าเธอจะได้กลับบ้านในไม่ช้า ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นที่อยู่ข้างใน
ผู้คนที่นี่ไม่ง่ายเลยที่จะรับมือ แม้ว่าฉินเหวินจะทำผิดพลาด แต่เธอเป็นเด็กสาวที่ร่ำรวยได้รับการปรนเปรอ ไม่เหมาะสมกับนักโทษเหล่านี้เลย
หัวหน้าผู้คุมขังไม่รู้จักฉินเหวิน เธอเป็นเพียงนักโทษผู้มาใหม่ในสายตาเธอเท่านั้น ฉินเหวินถูกทุบตีอย่างรุนแรงเพราะไม่เชื่อฟังในสองวันที่ผ่านมา
ฉินเซากวางและภรรยาขาองเขามาเยี่ยมมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเสนออะไร พวกเขาก็ถูกตำรวจปฏิเสธเสมอ
ยิ่งไปกว่านั้นตำรวจดูเหมือนจะกวนประสาททั้งคู่อย่างตั้งใจ พวกเขาถูกพาไปที่ประตูห้องขังของฉินเหวิน ฟังเสียงกรีดร้องของเธอ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้พบเธอ
เสียงครวญครางของลูกสาวแทบจะทำให้หัวใจของคุณผู้หญิงฉินคนที่สองแตกสลาย
ฉินเหวินเป็นลูกรักที่เธอหวงแหน เธอไม่เคยต้องพบกับความทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ คุณผู้หญิงฉินคนที่สองไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกอดฉินเซากวางร้องไห้
ฉินเซากวางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจด้วยเช่นกัน
“ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้! หยุดร้องสักทีได้ไหม? คุณเอาใจเธอมากเกินไป ไม่งั้นเธอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ ลงไปได้หรอก!”
คุณผู้หญิงฉินคนที่สองมองไปที่สามีของเธอด้วยความไม่เชื่อ “คุณพูดแบบนั้นได้อย่างไร? เธอเป็นลูกสาวของคุณนะ!”
ฉินเซากวางหันไปด้วยความโกรธเคือง “ยังไงก็ตาม! คราวหน้าก็มาเองล่ะกัน!”
เขาห่วยใยฉินเหวินเผื่อว่าวันหนึ่งเธออาจจะมีประโยชน์ แต่เธอกลายเป็นคนใช้การไม่ได้ แม้จะไม่มีลูกสาวคนโต แต่เขามีลูกชายและลูกชาย!
คุณผู้หญิงฉินคนที่สองร้องไห้และตะโกนอยู่ข้างหลังฉินเซากวาง เขารีบขับรถออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
ฉินเหวินหมอบอยู่ที่มุมเนื้อตัวมอมแมม บทสนทนาระหว่างพ่อแม่ของเธอที่อยู่ข้างนอกประตู ทำให้เธอหนาวสั่น
พ่อที่เธอเคารพและรักมาตลอดกำลังจะตัดขาดจากเธองั้นเหรอ?
ริมฝีปากของฉินเหวินโค้งงอด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว
“แล้วจะเสียใจ!”
เหยาซื่อนั่งอย่างเบื่อหน่ายบนเก้าอี้โดยไขว่ห้างรอให้การพิจารณาของซิงเฉินซี่สิ้นสุดลง
“ฉันจะทำอะไรให้ได้บ้าง”
ซิงเฉินซี่ถามเหยาซื่ออย่างสุภาพ พร้อมกับยิ้มล้อเลียนในดวงตาของเขา
“รีบเอาครีมมาให้ฉัน”
หลังจากพักฟื้นหนึ่งสัปดาห์แผลของฉีโย่วหายแล้ว ทว่ารอยแผลเป็นยังคงชัดเจน ยาของซิงเฉินซี่ได้ผลดี ทว่าใช้ได้ไม่นาน เหยาซื่อต้องไปพบเขาอีกครั้ง
“แล้วคำขอของฉันล่ะ” ซิงเฉินซี่ตอบ
“อืม ได้.” เขาพูดโดยไม่ลังเล น้ำเสียงของเขาสงบและทรงพลัง รอยยิ้มของซิงเฉิงซี่หยุดนิ่ง
“ขอโทษนะ ว่ายังไงนะ?”
“ฉันบอกว่า ฉันจะทำตามสัญญาเรื่องที่นายขอ แต่บริษัทไม่ใช่ของฉัน ดังนั้นฉันต้องฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการด้วย นายจะทำงานในสำนักงานสาขาเมือง B ซึ่งเป็นสัมปทานที่ใหญ่ที่สุดที่ฉันสามารถทำให้ได้”
เหยาซื่อตอบอย่างช้า ๆ
ซิงเฉินซี่รู้สึกประหลาดใจที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มีความสำคัญต่อเหยาซื่อมาก
“นายไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่ฉันสัญญากับนายหรอก ไม่มีใครในครอบครัวเหยา กล้าคัดค้านหรอก”
เหยาซื่ออธิบายอย่างสุภาพ
ซิงเฉินซี่โค้งปากของเขาขึ้นอย่างเงียบ ๆ ครอบครัวเหยามองว่าเขาเป็นตัวซวย เจียงเฟิงอี้แทบจะฆ่าเขาเสียทุกครั้งที่เจอเขา ยังไงก็ตามเหยาซื่อรับเขาเข้ามาในเครือของ UK เพื่อผู้หญิงคนนั้น
“มีอะไรจะถามอีกไหม?”
ดวงตาของเหยาซื่อแสดงความมั่นคงอย่างเต็มที่ในการรับยา เป็นเพียงผู้จัดการสาขาเหรอ เขาไม่สนใจหรอก
“ไม่มี ตามนั่นแหละ
ซิงเฉินซี่ยิ้มด้วยความพึงพอใจ แม้จะเป็นเพียงสาขา แล้วไงล่ะ? ยังไงก็มีโอกาสที่จะก้าวเข้าสู่ UK เขาไม่ถอนตัวง่าย ๆ หรอก
“อะนี่ ผู้หญิงคนนี้ยอดเยี่ยมใช่ได้เลยนี่ ว่าไหม?”
ซิงเฉินซี่พูดติดตลก
“อย่าลามปาม ไม่งั้นฉันจะให้นายกลับไปอยู่ต่างประเทศซะ!” เหยาซื่อกล่าวอย่างแน่วแน่และหยิบออกไป
ซิงเฉินซี่เปิดดดูรูปหญิงสาวที่ยิ้มแย้มในโทรศัพท์ของเขา ‘ฉีโย่ว เธอนี่เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจดีนี่ ชักอยากจะรู้จักซะแล้ว’
ฉีโย่วฟังที่แม่และลุงเล่าเรื่องอดีตของพวกเขาให้ฟังอย่างละเอียด ความรู้สึกซับซ้อนและอบอุ่นในหัวใจก่อตัวขึ้น
“โย่วโย่ว ฉันมาที่นี่เพื่อปกป้องเธอ! อย่าให้มีใครมาทำร้ายหลานสาวของฉัน ฉันจะฆ่ามันให้หมด!”
ซือเซียง หน้าาแดงหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ จับมือของฉีโย่วและสัญญากับเธอ
ฉีโย่วรู้สึกว่าไม่มีลุงที่ไหนจะน่าสนใจไปมากกว่าเขาคนนี้อีกแล้ว
แน่นอนว่าตั้งแต่ที่ เหยาซื่ออยู่กับเธอ ไม่มีใครหน้าไหนกล้ารังแกเธออีก ยังไงก็ตามความสุขที่ไม่คาดคิดของคนอีกคนหนึ่งที่ปกป้องเธอเป็นเรื่องที่น่าประทับใจจริง ๆ
“โย่วโย่ว อย่าถือสาเลยนะ ลุงเขาเมาแล้วล่ะ”
เมื่อสังเกตเห็นขนสีขาวบนหน้าผาก ฉีโย่วกลั้นน้ำตาและพยักหน้า เธอมีความสุขเพราะมีคนมากมายรักเธอ