ตอนที่ 4 สกาย
นาตาชาไม่คิดว่านี่จะเป็นภารกิจง่าย ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าซู่เจินนั้นเป็นคนที่มีเสน่ห์มากไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยพบกับคนจีนมาก่อน แต่ซู่เจินนั้นเป็นคนที่น่าดึงดูดเป็นพิเศษที่สุดเท่าที่เธอเคยพบมา
ซู่เจินไม่ได้ไปหาสกายโดยทันทีหลังจากที่เขาเดินออกมาจากบาร์ เพราะไม่แน่ว่านาตาชาจะแอบตามเขามา เขาไม่ต้องการเปิดเผยจุดประสงค์ของเขาให้พวก SHIELD รู้
ถ้าตัวตนของสกายถูกเปิดเผยเพราะเห็นแก่ตัวของเขาและทำให้เขาล้มเหลวในการเข้าร่วม SHIELD มันจะไม่ทันให้แผนของเขายุ่งยากขึ้นไปอีกหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นสงครามนิวยอร์กเพิ่งสิ้นสุดลงและฟิล โคลสันน่าจะยังไม่ "ฟื้นคืนชีพ" ในเวลานี้และเป็นไปไม่ได้ที่ฟิว โควสันจะจัดตั้งทีมขึ้นมาหลังฟื้นคืนชีพดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรีบร้อนสักเท่าไหร่
การใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ทำให้การใช้ชีวิตมีความสุขก็ไม่เลว
ดังนั้นช่วงเวลานี้ของซู่เจินดูเหมือนจะอยู่ในช่วงพักร้อน ทำให้เขามีช่วงเวลาที่ดีในการพักผ่อน แต่กลับกันนาตาชารู้สึกหดหู่เป็นอย่างมากหลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์เธอไม่สามารถตรวจสอบอะไรเกี่ยวกับซู่เจินได้เลย เขานั้นไม่เคยคิดใช้ความสามารถของเขาหรือติดต่อกับใครเลย มันเหมือนกับว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดา แม้ว่าเธอจะสงสัยว่าซู่เจินจงใจทำให้เธอสับสนหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่มีมากนักที่จะตรวจสอบได้แน่ชัด
หลังจากพยายามอยู่หลายครั้งเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพักเรื่องของซู่เจินไว้ชั่วคราว
ทันทีที่นาตาชาจากไปซู่เจินก็รู้สึกโล่งใจเช่นกัน แม้ว่าเขาจะสนุกมากช่วงนี้ แต่เขาก็ไม่ได้มาที่โลกนี้เพื่อความสนุก อย่างน้อย ... ไม่ก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้
ทันทีที่นาตาชาจากไปซู่เจินก็เริ่มทำตามแผนของเขาคือเริ่มติดต่อกับสกาย
วันนี้ซู่เจินเดินไปเรื่อย ๆ พักบ้าง เดินบ้าง ราวกับว่าเขากำลังพักผ่อน แต่จริงๆแล้วเขากำลังแอบติดตามสกายอย่างห่าง ๆ และแม้บางครั้งก็เข้าไปนั่งเล่นร้านกาแฟเป็นเวลาสั้น ๆ
ช่วงเวลากลางคืนผ่านไปอย่างช้า ๆ
เมื่อเห็นสกายเดินออกมาจากร้านอาหารซู่เจินก็เหยียบคันเร่งสุดแรง แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่สามารถควบคุมรถได้ และหักพวงมาลัยไปทางรถของสกาย
"ไม่นะ……"
ทันทีที่สกายออกมาจากร้านอาหารเธอเห็นว่ารถของเธอถูกชนอย่างจังและท้ายรถของเธอก็บุบเข้าไป
"ขอโทษครับผมขับรถโดยไม่ระวัง นี่ใช่รถของคุณหรือป่าว ผมจะจ่ายค่าซ่อมรถให้"
ซู่เจินลงจากรถและเดินมากล่าวขอโทษกับสกาย
เดิมทีสกายโกรธเล็กน้อยที่รถของเธอหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นบ้านของเธอชนซะยับเยินขนาดนี้ แต่เมื่อเธอเห็นเจ้าของรถที่เดินออกมาก็พูดด้วยครับตกใจ "ทำไมเป็นคุณได้ล่ะ"
ซู่เจินแสร้งทำเป็นเสียใจ "คุณรู้จักผมงั้นหรอ"
"ใช่ฉันเผลอทำกาแฟของคุณหกในร้านกาแฟเมื่อวันก่อนจำได้ไหมฉันชื่อว่าสกาย!" สกายอธิบาย
ซู่เจินแสร้งทำเป็นว่าเพิ่งนึกออก และเขาพูดกับเธอด้วยความดีใจ "ผมจำได้แล้ว แต่ผมคิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณผมชื่อซู่เจิน"
"คุณคงไม่ใช่ว่าแค้นชั้นที่ทำกาแฟของคุณหกหรอกใช่ไหม ... ฉันว่าคุณคงไม่จำคิดเจ้าแค้นขนาดนั้นหรอกมั้ง" สกายพูดแบบติดตลก
ซู่เจินยักไหล่ "มันเป็นอุบัติเหตุ"
“อย่างน้อยรถของคุณก็น่าจะหนักกว่าฉันนะ” สกายมองไปที่รถสปอร์ตของซู่เจินและสภาพของรถมันแย่ยิ่งกว่าของเธอซะอีก ยิ่งไปกว่านั้นพวกรถสปอร์ตค่าซ่อมจะแพงมาก ๆ แค่ค่าซ่อมอาจจะแพงกว่ารถของเธอซะด้วยซ้ำ
“คุณพอจะรู้ไหมว่าแถวนี้มีร้านซ่อมรถที่ไหนใกล้ ๆ บ้าง”
"ให้ฉันลองหาแปปนึง"
สกายหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ส่ายหัวและพูดว่า "น่าเสียดายไม่มีร้านซ่อมรถใกล้ ๆ นี้เลย แต่ฉันได้ติดต่อร้านซ่อมรถไปแล้ว อีกสักพักคงจะมาถึง "
"ผมขอโทษจริงๆ" ซู่เจินกล่าวขอโทษ
สกายส่ายหัวบ่งบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่เธอก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย
โดยปกติแล้วเธอจะอาศัยอยู่ในรถ และเมื่อมองไปที่รถมันน่าจะใช้เวลานานในซ่อมมัน ถึงแม้เธอจะมีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง เธอสามารถไปพักที่โรงแรมได้แต่ก็พักได้ไม่นานนักเพราะเงินเธอนั้นมีจำนวนจำกัด
"มีปัญหาอะไรหรือเปล่า" เมื่อมองไปที่การแสดงออกของสกายซู่เจินรู้ดีว่าเธอกำลังกังวลอะไรบางอย่าง เขาก็ถามเธอโดยทันที
สกายลังเลและพูดว่า "ฉันไม่มีที่อยู่ เพราะปกติฉันจะนอนและอาศัยอยู่ในรถ"
“คุณอาศัยอยู่ในรถงั้นเหรอ” ซู่เจินถามด้วยความประหลาดใจ
สกายยักไหล่และมองไปที่ซู่เจิน "คุณไม่คิดว่ามันน่าตื่นเต้นบ้างหรอ ตื่นมาในแต่ละวันในสถานที่ที่แตกต่างบรรยากาศใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ”
"อืมเนื่องจากผมทำให้คุณเดือดร้อน ผมจะช่วยเหลือคุณก็แล้วกัน ตอนนี้ผมพักอยู่ในโรงแรมไม่ไกล้จากนี้มากนัก ถ้าคุณไม่รังเกียจผมสามารถเปิดห้องใหม่ให้คุณได้นะ” ซู่เจินกล่าว
สกายยังไม่ตอบในทันที เธอหยิบรีบโทรศัพท์มือถือของเธอมาหาข้อมูลแล้วก็พูดว่า: "ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณที่จะเปิดห้องใหม่ให้ฉัน เพราะว่าตอนนี้มันไม่ห้องว่างเลย?"
“ไม่มีห้องว่างงั้นหรอ?” ครั้งนี้ซู่เจินรู้สึกประหลาดใจจริงๆ
"ไม่มีเลยไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่คุณอาศัยอยู่ หรือโรงแรมในบริเวณใกล้เคียงดูเหมือนว่าจะไม่ห้องว่างเลย" สกายพูดอย่างหดหู่
ซู่เจินไม่ได้คาดหวังว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้เขาลังเลและพูดว่า“ถ้างั้นทำไมเธอไม่มาอยู่ในห้องของผมก่อนล่ะเดี๋ยวผมนอนโซฟาในห้องรับแขกเอง”
“นี่ ... มันจะไม่รบกวนคุณงั้นหรอ?”
“ถ้าเทียบกับการนอนข้างถนนผมว่า ... อยู่กับหนุ่มหล่อมันดีกว่าจริงมั้ย?”ซู่เจินพูดด้วยรอยยิ้ม
"โอเค คุณโน้มน้าวฉันสำเร็จ"
ทั้งสองยืนคุยกันอยู่ซักพัก คนซ่อมรถก็มาเอารถของพวกเขาไปแล้วและทิ้งข้อมูลติดต่อให้พวกเขาและก็ลากรถออกไป แน่นอนว่าก่อนทีรถจะถูกลากออกไปสกายก็ได้เข้าไปในรถและเอาของใช้ส่วนตัวบางอย่างออกและก็หันไปเตือนคนซ่อมรถว่าอย่าแตะต้องรถของเธอตามอำเภอใจซึ่งทำให้พวกเขาไม่พอใจเล็กน้อย
“ผมช่วยถือของให้”
ซู่เจินรับของจากสกายมาช่วยจากนั้นก็พาเธอไปที่โรงแรมที่เขาพักอาศัยอยู่