ตอนที่ 4 ผานกู่เบิกฟ้า
กลุ่มแสงค่อยๆกระจัดกระจายออก คลังเกมที่กำลังส่องประกายแสงแวววาวดั่งเพชรปรากฏขึ้นต่อหน้าเย่เฉิน
คลังเกมส์ระดับเพชร!มันคือระดับเพชรจริงๆ
แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าคลังเกมส์ระดับเพชรจะปรากฏขึ้นที่นี้ก็ตาม แต่เย่เฉินก็แทบไม่อาจระงับความตื่นเต้นได้ในขณะนี้
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา ถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการเข้าสู่เกมล่วงหน้าเพื่อจะได้ดูผานกู่ทำการเปิดโลก
โดยเฉพาะการใช้คลังเกมระดับเพชรเพื่อเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ดูผานกู่เปิดโลก
เย่เฉินมองไปยังคลังเกมระดับเพชรและสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของเขา หลังจากนั้นเขาก็เดินไปที่คลังเกมส์ เย่เฉินเปิดฝาออกและนอนลงด้านใน เมื่อเย่เฉินนอนลงฝาของช่องเกมก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ
สติของเย่เฉินค่อยๆเลือนรางและปรากฏขึ้นทันทีในพื้นที่ที่สับสนวุ่นวาย
ที่แห่งนี้มืดมิด ไร้ซึ่งกาลเวลา ไม่มีท้องฟ้า ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีกลิ่น ไม่มีเสียง มีแต่ความว่างเปล่าและความสับสนวุ่นวายไม่รู้จบ!
นี่คือความโกลาหล ความโกลาหลที่ให้กำเนิดผานกู่!
ทันใดนั้นก็มีเสียง“แกร๊ก”ดังมาจากระยะไกล มันเหมือนกับการกะเทาะเปลือกไข่
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ก็มียักษ์ตนหนึ่งลุกขึ้นยืนและมีเสียงหายใจที่ทรงอำนาจ! และบ้าคลั่ง!
นี่คือ ผานกู่! นั่นคือเขา! มันต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน!
เย่เฉินอยู่ห่างไกลจากผานกู่ เขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของผานกู่ได้เลย แต่เย่เฉินก็รู้ดีว่ายักษ์ที่ยืนอยู่ท่ามกลางความโกลาหลและปลดปล่อยออร่าออกมาอย่างดุดันนั่นคือผานกู่
ทันใดนั้น ผานกู่ รู้สึกว่าความโกลาหลนั้นน่าหดหู่เป็นอย่างมาก มันส่งเสียงคำรามออกมาดังสนั่น
“โอววว!”
“บูมกะกะ”
สายฟ้าสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางความโกลาหลราวกับจะทำลายโลกอันน่าหดหู่นี้
เดิมทีไม่มีอะไรอยู่ในความโกลาหลนี้ แต่ทันใดนั้นควันและฝุ่นละอองทำให้เกิดคลื่นอากาศทีละระลอก
นี่คือเสียงคำรามของผานกู่
เวลานั้นเอง ผานกู่ ก็ยกมือขวาขึ้น จับขวานสีดำสนิทขว้างออกไปทันที
สมบัติแห่งความโกลาหล, ขวานของผานกู่!
ผานกู่ถือขวานและยกขึ้นสูง
หนึ่งนาที สองนาที สามนาทีต่อมา
"โรวววว!"
เสียงตะโกนดังลั่น ผานกู่พุ่งเข้าสู่ความโกลาหลอย่างดุดัน
"ตูมตูมตูม"
เสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วความโกลาหลแรงสั่นสะเทือนเกือบทำให้เย่เฉินสลายไป
ในขณะนั้นกลุ่มแสงทีละกลุ่มก็ปรากฏขึ้นในความโกลาหล
เนื่องจากมีคนใช้คลังเกมหรืออุปกรณ์อื่น ๆเข้าสู่เหตุการณ์นี้ก่อนเวลาเหมือนกับเขา
เย่เฉินไม่ได้ให้ความสนใจ เขาเพียงจับจ้องไปที่ผานกู่ โดยที่ไม่คิดจะพลาดแม้แต่นิดเดียว
ในเวลาที่แสงปรากฏในความโกลาหล ความโกลาหลดูเหมือนจะถูกแยกออกเป็นสองส่วน
อย่างไรก็ตามในไม่ช้าแสงจากรอยแตกก็เริ่มกลับมาบรรจบกันอีกครั้ง
"ฮึ่มมมมมมม!"
ผานกู่ส่งเสียงอย่างเย็นชาและโบกขวานในมืออีกครั้งเข้าฟันมันอย่างบ้าคลั่ง
มันเป็นตำแหน่งเดียวกับก่อนหน้านี้โดยไม่มีการเบี่ยงเบนแม้แต่น้อย
“บูม กากา..”
สายฟ้าสีแดงที่หนาแน่นนับไม่ถ้วนพุ่งใส่อย่างรุนแรง
ความโกลาหลถูกแยกออกจากกันอีกครั้ง
ผานกู่ ขมวดคิ้วในเวลานั้นเองเขาก็เหวี่ยงขวานอีกครั้ง
“ติติกากา”
ความโกลาหลถูกผ่าออกจากกันอีกครั้ง
ในตอนนี้กลุ่มแสงจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น
เย่เฉินรู้สึกง่วงเป็นอย่างมาก
ห้ามหลับ! จะหลับไม่ได้! ฉันต้องดูมัน!
เย่เฉินตอนนี้เหมือนคนบ้าเขาบีบต้นขาด้วยมือขวาพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองหลับ
ความเจ็บปวดที่รุนแรงจากจิตวิญญาณปลุกให้เย่เฉินตื่นจากการหลับใหลครั้งแล้วครั้งเล่า
ผานกู่มองไปยังความโกลาหลที่ถูกแยกออกและอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
อย่างไรก็ตามความโกลาหลที่เพิ่งแยกจากกันเริ่มกลับมาบรรจบกันอีกครั้ง
ผานกู่โกรธเป็นอย่างมากเขายืนนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นผานกู่ก็ก้าวออกไปยืนอยู่ท่ามกลางระหว่างความโกลาหล
ท้องฟ้าอยู่เหนือศีรษะและเท้าอยู่บนพื้น
ร่างกายของผานกู่ ในขณะนี้ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ความโกลาหลถูกแยกออกโดยร่างกายของผานกู่อย่างกะทันหัน
เวลาผ่านไปทีละนิด พันปี หมื่นปี แสนปี
ร่างกายของ ผานกู่ไม่ขยายใหญ่ขึ้นอีกต่อไป
ในที่สุดโลกก็เข้าสู่เสถียรภาพ ผ่านกู่ก็มองไปยังโลกอันรกร้างจากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายิ้มอย่างเย็นชาและล้มลงทันที
ผานกู่ ได้เสียชีวิตลง แต่ร่างกายของเขาได้กลายเป็นทุกสรรพสิ่ง
นี่คือ ตำนานผานกู่เบิกฟ้า
เย่เฉินเฝ้ามองเป็นคนสุดท้ายจากนั้นสติของเขาก็วูบดับไป
ในเวลาเดียวกันสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกที่มีสติปัญญาก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง
"ดินแดนรกร้างอันยิ่งใหญ่ ได้เปิดออกอย่างเป็นทางการทุกสิ่งมีชีวิตที่ได้รับอุปกรณ์ล็อกอินสามารถเข้ามาได้!"
ดินแดนแห่งยุคบรรพกาล ถูกเปิดออกและไม่ใช่มนุษย์ที่เข้ามาในครั้งแรก แต่เป็นนกและสัตว์ร้าย
เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน
โลกได้เปลี่ยนไปอย่างมาก และตอนนี้ก็มีเกมลึกลับเกิดขึ้น ยังมีอุปกรณ์ล็อกอินที่สามารถใช้เพื่อเข้าสู่ระบบได้อีก
ผลกระทบของทั้งหมดนี้ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับทุกคน เกือบทุกคนที่ต้องการเข้าเกมส์ในครั้งแรกนั้นไม่ใช่เพียงเพื่ออยากเล่นเกม แต่เพื่อหาสาเหตุการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และต้องการหาคำตอบว่ายุคบรรพกาลคืออะไร
"ทำไมถึงมีดาวตก ทำไมพื้นดินถึงแผ่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ดอกไม้และต้นไม้ที่เติบโตอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ยังมีเกมยุคก่อนประวัติศาสตร์อีก นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"
"วันนี้ฉันจะอายุครบ 110 ปี แต่ฉันก็ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย"
"โทรศัพท์ฉันไม่มีสัญญาณ"
"นี่เป็นสัญญาณของวันสิ้นโลกหรือเปล่า แต่ไหนล่ะซอมบี้แล้วสัตว์ประหลาดล่ะทำไมไม่มีอะไรเลย"
มีคนพูดถึงเยอะจนเกินที่จะจินตนาการ
แต่ในไม่ช้าก็มีบางคนพยายามเข้าสู่เกมยุคก่อนประวัติศาสตร์
ไม่นานคนเหล่านี้ก็เข้าสู่เกมยุคก่อนประวัติศาสตร์และออกจากเกมทีละคนและเข้าสู่ระบบอีกครั้งด้วยท่าทางที่ไม่อยากจะเชื่อ
หลังจากลองอีกครั้งในที่สุดพวกเขาก็พบว่าเกมยุคก่อนประวัติศาสตร์นี้มีความสมจริงอย่างมากมันเป็นการจำลองแบบ 100%
จากนั้นคนจำนวนมากก็รีบกลับบ้านหรือไปที่โรงแรมของพวกเขาแล้วรีบเข้าสู่เกม
จิตสำนึกลึกลับปรากฏขึ้นในเกม ไม่ว่าจะถูกค้นพบหรือการได้ยินมาโดยไม่ตั้งใจ โดยพื้นฐานแล้วผู้คนมากกว่า 70% รีบเข้าสู่เกมส์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่แรก
ณ โรงแรมระดับห้าดาว.
ถึงเย่เฉินหลับไปแล้ว แต่เย่เฉินเข้าสู่เกมโดยตรงในช่วงเวลาก่อนเกมส์จะเปิดอย่างเป็นทางการ
เมื่อคนอื่นเข้าสู่เกมพวกเขาเพียงแค่สร้างบัญชีจากนั้นเลือกสถานที่เกิดของพวกเขา
สถานที่ตั้งยังคงเป็นพื้นที่ของมนุษย์
แต่เย่เฉินแตกต่างออกไป เย่เฉินที่อยู่ในเกมกำลังนอนหลับอยู่ในขณะนี้ แต่ตำแหน่งของเขานั้นอยู่บนยอดเขา
ยอดเขาที่สูงกว่าหมื่นเมตร!
“โรวววววว!”
"โอววววว!"
ทันใดนั้นเสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วภูเขา