ตอนที่ 17 SHIELD
บ้านของไมเคิล คอลลินส์
ไมเคิลรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเขาและดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมพลังไม่ได้อย่างเดิม เมื่อมองลงไปที่ขาตะขาบที่อยู่บนข้อมือซ้ายของเขา เขาไม่รู้ว่าในตอนนี้ต้องทำอย่างไรดี เขาไม่ต้องการที่จะทำร้ายลูกชายของเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นและทำให้ไมเคิลรู้สึกกระวันกระวายในทันที เขาเดินไปที่ประตูและมองผ่านตาแมวที่อยู่บนประตู
มีชายหญิงยืนอยู่ด้านนอก และเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก
“คุณเป็นใคร!” ไมเคิลถามออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
"ไมเคิล พวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือคุณ" สกายพูดออกมา
ไมเคิลลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เปิดประตูให้พวกเขาเข้ามา
"สวัสดีไมเคิลฉันชื่อสกายส่วนเขาเป็นแฟนของฉันชื่อซู่เจินพวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือคุณ!" สกายพูดออกมาเบา ๆ
“ฉันไม่รู้จักพวกคุณและไม่ต้องการรับความช่วยเหลือจากพวกคุณ” ไมเคิลส่ายหัวและพูด
สกายเหลือบมองไปที่ข้อมือของเขาและพูดว่า "คุณต้องฟังฉันไมเคิลตอนนี้สถานการณ์ของคุณอันตรายมาก ฉันรู้ว่าคุณถูกฉีดไวรัสตะขาบ ฉันยังรู้อีกว่าอาการของคุณดูเหมือนจะไม่คงที่ แต่นี่มันเพิ่งเริ่มต้นและพวกเราจำเป็นต้องยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับคุณมิฉะนั้นนอกจากทำให้คุณมีอันตรายแล้ว แต่ยังทำให้ผู้อื่นเป็นอันตรายไปกับคุณด้วย”
“พวกคุณเป็นใครกันแน่?”
ไมเคิลถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
"เรามาจาก S.H.I.E.L.D. แต่พวกเรายังไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเขา ฉันหวังว่าคุณจะไปที่ S.H.I.E.L.D. กับพวกเราได้เพื่อที่ให้พวกเราศึกษาไวรัสและหาหนทางในการรักษามัน ... "
ก่อนที่สกายจะพูดจบลง อยู่ดี ๆ ไมเคิลก็โกรธขึ้นมา
S.H.I.E.L.D. กำลังทำวิจัยโดยรู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ไมเคิลมองไปที่สกายด้วยสายตาแดงกร่ำและพุ่งตัวเข้าหาสกาย
“หาเรื่องตาย!”
เมื่อเห็นการกระทำของไมเคิล ซู่เจินก็แสยะยิ้มออกมาและมายืนอยู่ข้างหน้าของสกาย เมื่อไมเคิลเข้ามาเขาก็เตะไปที่ไมเคิลอย่างแรง
ตอนแรกไมเคิลจะเพิกเฉยต่อการโจมตีของซู่เจินเพราะเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นอย่างดี แต่เมื่อซู่เจินเตะมาโดนเขา เขารู้สึกได้ถึงความทรงพลังที่เหมือนกับว่าเขาถูกรถบรรทุกชนและเขากระเด็นไปโดนโซฟาที่อยู่ข้างและล้มตัวลง .
“มัน ... เป็นไปได้ยังไง?” ไมเคิลมองไปที่ซูชานด้วยความประหลาดใจและคิดไม่ออกว่าจะเขาจะอย่างไรดีตอนนี้
"ไม่มีอะไร ที่ไม่สามารถเป็นไปได้!"
ซู่เจินยิ้มเยาะเย้ยและเดินเข้ามาหาไมเคิลและยกเขาขึ้นมา
ไมเคิลพยายามดิ้นให้หลุดด้วยความตื่นตนก แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนมันก็ไม่สำเร็จ ตอนนี้ซู่เจินได้ทำให้ความโกรธถึงขีดสุด ร่างกายของเขาค่อยๆเปลี่ยนไป ไวรัสตะขาบที่ถูกใช้ออกมาไมเคิลไม่สามารถควบคุมมันได้ ไมเคิลรู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มร้อนขึ้นราวกับว่าเขากำลังจะระเบิด!
"ปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยฉันไป ได้โปรด!" ไมเคิลตะโกนขึ้นมา
"หึ!"
ซู่เจินเปล่งเสียงอย่างเย็นชา และปล่อยไมเคิลลงและซู่เจินก็เอามือสับเข้าไปที่คอของไมเคิล ไมเคิลทรุดตัวลงกับพื้นแล้วหมดสติไป ความร้อนในร่างกายของไมเคิลก็ค่อย ๆ ลดลงและกับสู่สภาพปกติ
"คุณเป็นอะไรไหม บาจเจ็บหรือปล่าว?" ซู่เจินถามสกาย
สกายส่ายหัว "ฉันสบายดี แต่อาการของเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยดี เมื่อกี้เขาเกือบที่จะ ... ระเบิดตัวเองอยู่แล้ว ในตอนนั้นถ้าคุณไม่ทำให้เขาหมดสติได้ทันเวลา ฉันกลัวว่าพวกเราอาจจะตกอยู่ในอันตราย "
"พาเขากลับไปที่ยานก่อนและรอจนกว่าเขาจะตื่นและสงบสติอารมณ์ได้แล้วค่อยคุยกับเขา!" ซู่เจินกล่าว
ซู่เจินพาไมเคิลและสกายกลับไปที่ยานและให้ไมเคิลอยู่ในห้องขังพิเศษ อยู่ดี ๆ โควสันก็พูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า "สถานการณ์ของเขาแย่กว่าที่คิดเอาไว้ เราต้องหาทางรักษาโดยเร็วที่สุด โดยที่ไม่มีพึ่งพลังของซู่เจินถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ เพราะถ้าเขาระเบิดตัวเองขึ้นมาในตอนนี้ ฉันกลัวว่าจะมีคนมากมายที่ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้น"
"ในเมื่อคุณสามารถดูดซับไวรัสเอ็กซ์ตริมมิสได้ คุณก็ควรจะสามารถดูดซับไวรัสตะขาบนี้ได้ด้วยใช่หรือไม่" โคลสันหันไปถาม กับซู่เจิน
ซู่เจินยกยิ้มที่มุมปากของเขา "แม้ว่าผมจะดูดซับมันได้แล้วไงละ? มันก็มีคนพวกนี้อีกจำนวนมากที่โดนฉีดไวรัสตะขาบพวกนี้อีกมากมาย ถึงผมจะดูดซับได้แต่ผมก็สามารถทำได้ที่ละคนเท่านั้น"
"มีเหตุผล!"
โคลสันพยักหน้าและหยุดพูด
ตอนแรกโควสันอยากจะถามกับซู่เจินว่าเขาสามารถทำการวิจัยกับร่างกายของซู่เจินได้หรือไม่ แต่เขาไม่กล้าพูดแบบนั้น เพราะเขารู้ว่าซู่เจินไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอนและเขาก็ไม่แน่ใจว่าซู่เจินจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจากที่เขาพูดไปแบบนั้น โควสันไม่ต้องการให้ซู่เจินมีปัญหากับเขา
“อย่างไรก็ตามฉันอยากขอบคุณคุณมากถ้าไม่ใช่เพราะคุณสกายและคุณซู่เจินสามารถหาเขาพบได้ทันเวลา ฉันกลัวว่าจะมีผู้บริสุทธิ์อีกจำนวนมากที่ได้รับบาจเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ด้วยความสามารถของคุณ คุณสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากมายดังนั้นฉันขอเชิญคุณเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. อย่างเป็นทางการและเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมของฉัน ฉันสงสัยว่าคุณยินดีที่จะเข้าร่วมทีมของผมหรือไม่” โควสันกล่าวด้วยความรู้สึกขอบคุณและจริงจัง
ซู่เจินยักไหล่ "อย่าถามผมเพราะว่าถ้าสกายเข้าผมก็เข้าด้วย!"
โควสันมองไปที่สกาย สกายลังเลอยู่พักหนึ่งและเธอก็พยักหน้าเห็นด้วย
เดิมที่เธอมีแผนที่จะเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. อยู่แล้วในเมื่อมีโอกาสยื่นมาให้ตรงหน้าทำเธอต้องปฎิเสธด้วยละ?
"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทีมของฉัน!"
โควสันพูดออกมาอย่างมีความสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านแฮ็กเกอร์และซูเปอร์ฮีโร่ พวกเขาสามารถเป็นประโยชน์ให้กับทีมได้อย่างมาศาล
ในตอนแรกโควสันเล็ง แกรนท์ วอร์ด เอาไว้เพราะเขามีทักษะด้านการต่อสู้ที่สูงมาก แต่ในเมื่อเขาได้ซู่เจินมาเข้าร่วมทีมแล้ว แกรนท์ วอร์ด จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป!
ซู่เจินจัดห้องให้กับสกายเพราะห้องนอน ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากมายและทั้งสองก็ไม่ได้นอนด้วย แต่ก็ไม่เป็นไรไม่ว่าใครก็รู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนเป็นคนรักกัน สำหรับการร่วมงานกับซู่เจินและสกายนั้นเจมมาและฟิตซ์ ก็ไม่มีปัญหาเพราะหลังจากที่พวกเขาได้ลองคุยกัน ก็คุยกันถูกคอเป็นอย่างมาก
แต่ซู่เจินสงสัยว่าทำไมเขาถึงหา แกรนท์ วอร์ด ไม่เจอเลยในยานนี้
เพราะเขาเป็นคนขององค์กรไฮดราที่ซ่อนตัวอยู่ใน S.H.I.E.L.D. !
“เป็นเพราะว่าฉันเข้าร่วมทีมนี้แทนที่ แกรนท์ วอร์ดใช่ไหม?”
แม้ว่าเขาจะไม่รู้เหตุผล แต่มันก็ไม่สำคัญอะไร ซู่เจินไม่ค่อยมีความประทับใจในตัวของ วอร์ด คนนี้ซะเท่าไหร่ และถ้าเกิดวอร์ดได้เข้าร่วมกับทีมนี้จริง ๆ เขาจะต้องสั่งสอนมันให้นักมือสักหน่อย
ไม่ว่าในกรณีใดเขาและสกายในตอนนี้ได้เข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D.E.L.D. และสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาใน S.H.I.E.L.D.E.L.D.
เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงเวลากลางคืน ซู่เจินก็บอกฝันดีกับสกายและเดินกลับมาที่ห้องของเขาเพื่อพักผ่อน
เขานอนได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดันมาจากหน้าห้องของเขา
ซู่เจินคิดว่าอาจจะเป็นสกายดังนั้นเขาจึงขี้เกียจใส่เสื้อผ้าสวมแค่ใส่กางเกงขาสั้นและเดินไปเปิดประตู
หลังจากเปิดประตูก็พบว่าเป็นเจมมาที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องของเขา