ตอนที่แล้วEp.915 - ฟินิกซ์เพลิงไร้ประโยชน์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.917 - รับผลแห่งปัญญา

Ep.916 - ฆ่าไอ้พวกไร้ประโยชน์


4/4

Ep.916 - ฆ่าไอ้พวกไร้ประโยชน์

“สรุปสั้นๆ พวกนายทุกคนต้องการออกไปจากที่นี่พร้อมผลประโยชน์ ไม่กลัวจอมมารซวนเฟิงไล่ล่ารึไง? พวกนายทุกคน สามารถรับความโกรธเกรี้ยวของเลเวล S ได้หรือ?” ฟีนิกซ์เพลิงพยายามถามอย่างใจเย็น บางที อาจเป็นเพราะต้องการทำหน้าที่ของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย!

“เลเวล S บ้าอะไร? ไหนลองบอกซิเขาอยู่ที่ไหน? ทำไมเธอถึงไม่ไปเรียกเขาออกมา ฟีนิกซ์เพลิง อย่าได้ใช้ขนไก่เป็นลูกศร ตอบฉันมาตามตรงดีกว่า ว่าจริงๆแล้วจอมมารซวนเฟิงน่ะไม่มีอยู่จริง!” เสือพิภพเอ่ยปากแยกเขี้ยว

อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา ทันใดนั้นบังเกิดกำลังภายในปะทุขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า มันแหวกอากาศเป็นเส้นสาย เสือพิภพไม่ทันได้ตอบสนองๆใดๆ ถูกเส้นแสงกำลังภายในนี้แทรกซึมเข้าไปในหัวและ--

--โผล๊ะ!

หัวของเสือพิภพระเบิดเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน!

ไม่มีเวลาทันได้ตอบสนองอย่างสิ้นเชิง ไม่มีโอกาสได้ต้านทานใดๆ บนที่นั่งฝั่งประธาน ทิ้งไว้เพียงศพไร้ศีรษะของผู้ใช้พลังเลเวล A

วัตถุสีขาวอมเหลืองกระเซ็นโดนใบหน้าคนอื่นๆ ฉากนี้ทำให้ทุกคนแข็งค้างอยู่กับที่

วินาทีต่อมา ความกลัวก็วาบผ่านไปทั้งหัวใจ

ร่างกายของทุกคนแข็งทื่อ ได้แต่พยายามหันหัวมองไปยังตำแหน่งเบื้องหลังเสือพิภพ ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดดำยืนอยู่ที่นั่น ยืนอยู่อย่างเงียบๆ ช่วงเวลาก่อนที่เขาจะลงมือ ไม่มีใครสังเกตเห็นเลย

แต่ตอนนี้ ทั่วทั้งร่างของชายคนนั้น กำลังปลดปล่อยกลิ่นอายสยองเกล้าออกมา

กลิ่นอายของเลเวล S !

ผู้มาเยือนเป็นชายที่แข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัว วิธีโหมโรงเมื่อมาถึงก็เปิดฉากนองเลือดของเขา ได้บอกทุกคนในห้องประชุม ว่าเจ้าตัวตอนนี้กำลังอารมณ์เสียสุดๆ!

“ไม่น่าเชื่อว่าในโลกใบนี้ ตัวตนทรงอำนาจจะไม่มีค่าอะไร เดิมฉันต้องการให้พวกแกรับผิดชอบกันเองเผื่อจะได้งานที่ดี แต่ตอนนี้ มาเห็นด้วยตาตัวเองดีกว่า ว่าถ้าให้ฉันคุมงานด้วยตัวเอง มันจะเป็นยังไง!”

สิ้นเสียง ชายชุดดำยกนิ้วขึ้น ชี้ไปทางผู้ใช้พลังอีกคนที่โวยวายออกมาก่อนหน้านี้

“ต้องการเส้นชีพจรใช่ไหม? ไอ้การเรียกร้องความยุติธรรมบ้าๆนั่นมันเกี่ยวอะไรกับฉัน? แกทำงานรับใช้ดาบอสูรมานานหลายปี ถ้าอยากได้ผลตอบแทน งั้นก็ไปขอให้ดาบอสูรจ่ายในนรกแล้วกัน!”

สิ้นประโยค กำลังภายในบริสุทธิ์ปะทุออกจากนิ้วเขา

นี่มิใช่เทคนิค มิใช่กระบวนท่าวรยุทธใดๆ

อย่างที่บอก มันคือกำลังภายในเพียวๆ ทว่ากำลังภายในนี้บีบอัดกันแน่นไม่กระจายตัวราวกับเป็นสสารที่มีตัวตน ปลดปล่อยแรงกดดันทรงพลัง สิ่งที่กำลังลงมือสังหารแท้จริงมิใช่มีเพียงกำลังภายใน แต่ยังมีแรงกดดันที่ผู้คนไม่สามารถหลบหนีได้

ดวงตาของคนที่ถูกโจมตีเบิกกว้าง ฟุ้งไปด้วยความตื่นกลัว เผยอปากขึ้น คล้ายต้องการร้องขอความเมตตา แต่ฉินเฟิงลงมือเร็วเกินไป ยังอ้าไม่สุดดารากำลังภายในก็พุ่งถึงหน้าผากเขาแล้ว

โผล๊ะ!

ถูกระเบิดหายไปอีกหนึ่งหัว!

เพียงแต่ตอนนี้มันต่างจากในครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง หลังจากเห็นการโจมตีของฉินเฟิงชัดๆ ปัจจุบันทุกคนทราบแล้ว ว่าต่อให้เตรียมตัวรับมือเป็นอย่างดี พวกเขาก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงกำลังภายในนี้ได้ ยังไงก็ไม่รอด ไม่เหลือแม้แสงแห่งความหวังอันริบหรี่

“น้อมเคารพท่านจอมมารซวนเฟิง!” ดวงตาของฟีนิกซ์เพลิงระยิบระยับไปด้วยความประหลาดใจ เธอไม่นึกฝันเลย ว่าจอมมารซวนเฟิงจะปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้

“เขาคือจอมมารซวนเฟิงอย่างงั้นหรอ!!” คนอื่นๆตกใจไม่แพ้กัน แต่ที่มากยิ่งกว่าคือความหวาดกลัว

ในบรรดาคนเหล่านี้ มีบางคนอยู่ในเหตุการณ์สังหารเหอเทียนสิง ขณะที่หลายคนไม่อยู่ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีข้อสงสัยใดๆ ว่าคนตรงหน้า มีอำนาจมากพอที่จะตัดสินความเป็นตายของทุกคน!

“อยากได้ส่วนแบ่งของเมืองหลวงแห่งความมืด 5% ตัวแกคู่ควรหรือ?”

หนึ่งนิ้วของเขา เบนไปยังผู้ใช้พลังอีกคนหนึ่ง โดยไม่สนความประหลาดใจในแววตาของฟีนิกซ์เพลิง และความหวาดกลัวในสายตาของผู้อื่น เพราะในสายตาของฉินเฟิง คนเหล่านี้ได้ตายไปแล้ว และเขาไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับคนตาย

หวืออออ!

กำลังภายในส่งเสียงฮึ่มๆดังสนั่น อีกหนึ่งเส้นสายพุ่งออกไป

ย้อนกลับไปตั้งแต่ได้ยินฉินเฟิงพูดเรื่อง 5% คนนั้นๆก็ตอบสนองแล้ว โล่ปราณกำลังภายในบนร่างเขาพุ่งทะยาน ก่อชั้นบางๆขึ้นมา แต่เพียงชั่วอึดใจ ยามกำลังภายในจากปลายนิ้วเข้าปะทะ มันก็ทะลุโล่ปราณกำลังภายในทันที

ปุ!

โดยไม่ถูกขัดขวางแต่อย่างใด กำลังภายในจากปลายนิ้วของฉินเฟิง เจาะเข้าไปในโล่ปราณอีกฝ่าย ไร้ซึ่งวี่แววจากการต้านทาน

นี่คือความแตกต่างของรูปลักษณ์กำลังภายใน เว้นแต่จะชดเชยด้วยคุณภาพเหมือนอย่างของฉินเฟิง มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะป้องกันมันได้

แต่คนๆนี้ไม่ใช่ฉินเฟิง ทั้งยังไม่ใช่อดีตลูกรักของพระเจ้า เป็นเพียงผู้ใช้พลังเลเวล A ระดับสามัญ แล้วเขาจะต้านทานการโจมตีด้วยกำลังภายในของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S ได้อย่างไร?

โผล๊ะ!

กำลังภายในพุ่งเข้ากะโหลก จากนั้นปลดปล่อยแรงผลัก ระเบิดจากภายใน กะโหลกของศัตรูถูกบดขยี้ กลายเป็นดอกไม้ไฟสาดกระเซ็นทุกหนแห่ง

ฉินเฟิงพูดไม่กี่คำ ก็มีคนตายไปสามคนติดต่อกันแล้ว ภาพนี้ทำให้คนอื่นๆหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“ท่านจอมมาร ฉันผิดไปแล้ว โปรดไว้ชีวิตสุนัขของฉันด้วย นับจากนี้สัญญาจะเป็นวัวเป็นม้า ทดแทนคุณไปทั้งชีวิต!”

“วัวกับม้าฉันมีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องรบกวนคนที่ทำผิดกฏอย่างแก!”

โผล๊ะ!

“ท่านผู้ใหญ่ ท่านผู้ใหญ่อย่า ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน ..!”

โผล๊ะ!

ฉินเฟิงสังหารไปอีกสองด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

เจ้าสองตัวนี้ คือคนที่โวยวายเสียงดังที่สุดเมื่อครู่  ลูกน้องแบบนี้ ฉินเฟิงจะไม่เก็บไว้

ปัจจุบันเหลืออีก 8 คนในห้องประชุม ทั้งหมดหลั่งเหงื่อเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวูหยวนที่มีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่ม ตอนนี้อีกฝ่ายแข้งขาอ่อนแรง ใบหน้าซีดขาว

เขาทำได้เพียงขอบคุณ ที่ก่อนหน้านี้ตนยกเรื่องสันติมากล่าว ทั้งๆที่เขานี่แหละคือคนที่ปรารถนาในเมืองหลวงแห่งความมืดมากที่สุด โคตรโชคดีที่เขายังไม่เอ่ยการตัดสินใจของตัวเองออกไป มิฉะนั้นคนแรกที่ตาย คงไม่พ้นเขา

แล้วไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า หลังจากจอมมารซวนเฟิงสังหารไปห้าคน สายตาอีกฝ่ายเหมือนจะมองมาที่เขา ร่างกายของหวูหยวนอ่อนยวบ รู้แจ้งทันที ว่าแม้จะมีแผนการใดๆในใจ แต่ก็ไม่อาจต่อกรกับเลเวล S ที่แข็งแกร่งได้

โชคยังดีที่จอมมารซวนเฟิงเหลือบมองแวบเดียวก็หันไป

ฉินเฟิงเดินไปยังตำแหน่งที่เสือพิภพเคยนั่ง ผลักศพกระเด็นออกไป

ฟีนิกซ์เพลิงเข้าใจความหมายของการกระทำนี้ทันที นำเก้าอี้หรูไปวางในตำแหน่งนั้นอย่างเชื่อฟัง

เหอเทียนสิงมีอารมณ์ไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังได้รับบาดเจ็บจากฉินเฟิง อารมณ์ของเขายิ่งดุร้ายรุนแรง เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์รับใช้เจ้านายเช่นนี้ ฟีนิกซ์เพลิงเลยสามารถปลดล็อคสกิลดวงตาสีทองได้ตั้งนานแล้ว เพียงสังเกตท่าที , คำพูด หรือสีหน้าของผู้คนก็ล่วงรู้ได้ทันทีว่าคนๆนั้นต้องการอะไร

ฉินเฟิงพอใจกับการปฏิบัติของอีกฝ่าย หย่อนตัวนั่งลงไป

“เอาล่ะ คนไร้ประโยชน์ถูกกำจัดออกไปแล้ว ก่อนหน้านี้ประชุมอะไรกัน ว่าต่อได้เลย!”

แต่การประชุมก่อนหน้านี้ดันเป็นเรื่องแบ่งผลประโยชน์ของเมืองหลวงแห่งความมืด ปัจจุบันหากบอกว่าไม่มีเนื้อหาใดๆให้ประชุม เกรงว่าคงถูกฆ่ากันยกห้อง

แต่โชคดีที่ฟีนิกซ์เพลิงฉลาดมาก เธอเริ่มจากการรายงานทรัพย์สินในปัจจุบันของเมืองหลวงแห่งความมืด รวมไปถึงกำไรที่ได้รับ

นี่คือสิ่งที่ฉินเฟิงต้องการจะทราบ แต่ในฐานะที่เป็นตัวตนทรงอำนาจเลเวล S ฉินเฟิงไม่สามารถแสดงออกว่าสนใจจนเกินไปได้

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มีความอดทนที่จะฟังบทพูดยืดยาวของฟีนิกซ์เพลิง

“เอาสั้นๆดีกว่า ไม่มีอะไรที่ผู้ใช้พลังเลเวล S สามารถใช้ได้เลยหรือ?” ฉินเฟิงถามเสียงหม่น

ฟีนิกซ์เพลิงพอได้ยินน้ำเสียงฉินเฟิง ก็เริ่มวิตกกังวลทันที เส้นประสาทตึงเครียด คิดหาคำตอบอย่างอย่างรอบคอบ หวั่นเกรงว่าจะทำให้ฉินเฟิงไม่พอใจ

“ท่านผู้ใหญ่ เมืองหลวงแห่งความมืดเป็นเจ้าของมิติลับหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือต้นไม้ปัญญานิรันดร์ที่เติบโตบนเกาะนรก จอมมารซวนเฟิงสามารถไปชมดูได้”

หัวใจของฉินเฟิงเริ่มเต้นรัว เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตนกลืนกินแก่นอบิลิตี้ธาตุลมที่ปนเปื้อนธาตุมืดเข้ามา สงสัยจริงๆ ว่าถ้าไปนั่งฝึกตนใต้ต้นไม้ มันจะมอบรางวัลเป็นผลแห่งปัญญาให้เขาอีกหรือไม่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด