บทที่ 16 กระต่ายกับเต่า
หลี่หานกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“คุณเติ้ง มั่นใจได้เลยว่าผักของผมเป็นผักสีเขียวที่ไม่มีสารเคมีใด ๆ เจือปน”
เติ้งชุยพยักหน้าช้าๆ เธอเต็มใจที่จะเชื่อในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด
นอกจากนี้ ผู้ขายเช่นหลี่หานที่ปลูกและขายผักของตนเองจะไม่ใช้สารเคมีใด ๆ
อีกอย่าง มันจะมีสารเคมีหรือไม่ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการชิม
กลัวว่ามันจะมีปัญหาเหรอ? ซื้อกลับไปชิมสิ?
หลังจากคิดได้ เติ้งชุยก็เลือกแตงกวาสองผลและมะเขือเทศสองสามลูก
ในที่สุด ธุรกิจก็เริ่มขึ้นสักที หลี่หานพอใจเล็กน้อย
เมื่อจ่ายเงินแล้ว เติ้งชุยก็ถามขึ้น "แล้วนายชื่อว่าอะไรเหรอ?"
หลี่หานกล่าว: "หลี่หาน"
หลี่หาน?
ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดีบนอินเทอร์เน็ตในช่วงเวลานี้ และเติ้งชุยก็รู้เกี่ยวกับมันดี
เธอมองไปยังหลี่หานอย่างสงสัยและพูดขึ้นว่า "หลี่หาน ผู้เขียน ‘จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต’ นั่นใช่คุณรึเปล่า?
หลี่หานยิ้มและพูดว่า "ใช่ ผมเอง จริงๆผมก็เป็นนักดนตรีอีกด้วย"
เติ้งชุยผงะแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "อัจฉริยะด้านดนตรีตั้งแผงขายผักอยู่ที่นี่หรอกเหรอเนี่ย"
เติ้งชุยไม่เชื่อคำพูดของหลี่หาน โดยคิดว่าหลี่หานกำลังล้อเธอเล่น
หลี่หานก็รู้ว่าเติ้งชุยไม่เชื่อเขา จึงไม่ได้อธิบายเพิ่ม "คุณคิดว่าได้ไหม?"
เติ้งชุยยิ้มและกล่าวว่า "ก็ได้อยู่"
เป็นชายที่ตลกดี
เติ้งชุยกล่าวในใจ
จากนั้น เธอก็หยิบถุงผักและเดินจากไป "หลี่หาน ฉันไปแล้วนะ"
“ครูเติ้ง เดินทางดีๆนะครับ” หลี่หานกล่าว
เติ้งชุยพยักหน้า
หลังจากเติ้งชุยจากไป หลี่หานก็ยืนรอลูกค้ารายที่สอง
ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีเกินไป ผักของหลี่หานในวันนี้จึงไม่ได้ขายเร็วเหมือนกับสองสามวันก่อนหน้านี้
ตอน 10 โมงเช้าก็ขายหมดไปแล้วเกือบครึ่ง
สองสามวันก่อนในเวลานี้แทบจะขายหมดแล้ว
หลี่หานทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่กังวลนัก เขาเชื่อว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
รอคนที่ซื้อไปชิมแล้วจะต้องกลับมาซื้ออีกแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่คนรอบข้างจะเข้ามาเลือกซื้อ
เมื่อถึงเวลาที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามา ธุรกิจแผงขายผักของเราก็จะกลายเป็นที่นิยมอย่างช้าๆ
หลี่หานมั่นใจมาก
ขายช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร นอกเหนือจากการทำอะไรไม่ถูกแล้ว เขาก็ยังไม่รีบร้อน
เมื่อกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลี่หานก็พบว่ามีเต่าอยู่หน้าแผงขายผักของเขา
ใช่ เต่ากำลังค่อยๆคลานผ่านแผงขายผักของเขา
มันดูไร้เดียงสาอย่างมาก
เมื่อกี้ไม่เห็นมีอะไรเลย แล้วทำไมจู่ๆถึงมีเต่าคลานออกมากัน?
คลานออกมาจากไหนเนี่ย?
หลี่หานอธิบายไม่ถูกเล็กน้อยและถามคุณลุงที่อยู่ข้างๆเขา: "คุณลุง ทำไมถึงมีเต่าอยู่ตรงนี้หนึ่งตัวล่ะ ลุงเห็นไหมว่ามันมาจากไหนน่ะ?"
"เต่า? มันอยู่ไหน?" ลุงถาม
เขายังไม่สังเกตเห็นเต่าสักตัวเลย
หลี่หานชี้ไปตรงจุดหนึ่ง
คุณลุงร้อง "เอ๊ะ" ออกมาแล้วพูดว่า "เป็นเต่าจริงๆ" ใครทำตกไว้เนี่ย? ”
หลี่หานพยักหน้า เป็นไปได้ที่จะมีคนทำมันหล่นไว้
ใครทำหล่นไว้กัน?
หลี่หานมองไปรอบๆแล้วตะโกนขึ้น: "เต่าใครตก มาดูเร็ว!"
เสียงของหลี่หานนั้นดังมากจนทุกคนหันมามองเขา
ไม่นานก็เห็นเต่าที่อยู่หน้าแผงขายผักของหลี่หาน
"มันเป็นเต่าจริงๆ ใครทำหล่นไว้น่ะ?" มีคนกล่าวขึ้น
ชายวัยกลางคนที่อยู่ห่างจากฝูงชนได้ยินเสียงตะโกนของหลี่หานและมองลงไปที่ถุงตาข่ายของเขาโดยไม่รู้ตัว
วันนี้เขาซื้อเต่าจากชาวประมงมา และวางแผนที่จะนำมันกลับไปเลี้ยง ใส่เต่าไว้ในถุงตาข่ายและถือไว้ในมือ
เขาพลันเห็นว่าถุงตาข่ายนั้นว่างเปล่าและมีรูแตกอยู่ข้างใต้ เต่าหายไปไหนกัน?
เป็นเพราะเขาถือของที่หนักกว่าในมือ เขาจึงไม่ได้สังเกตว่าเต่าในถุงตาข่ายหายไป
เมื่อกี้มีคนตะโกนหาคนที่ทำเต่าหล่นไวงั้นเหรอ?
ต้องเป็นของฉันแน่ๆ
ชายคนนั้นหันศีรษะและเดินกลับไปอย่างรวดเร็วพลางพูดเสียงดัง: "ของฉัน เต่านั่นของฉันเอง”
อาจเป็นเพราะเขารีบที่จะไปเก็บเต่ากลับมา ชายคนนั้นบังเอิญชนชายอีกคนที่อยู่ข้างๆเขา
ชายคนดังกล่าวรีบกล่าวขอโทษ
ชายคนนั้นไม่ได้สนใจคำขอโทษของชายคนนั้น แต่พูดอย่างกังวลว่า "เฮ้เฮ้ กระต่าย กระต่ายหนีไปแล้ว!"
ปรากฏว่าตรงนั้นคือแผงขายกระต่าย ชายที่อยู่ข้างๆเขากำลังวางแผนที่จะซื้อกระต่าย เขาจึงมองไปที่กรงกระต่ายตัวหนึ่ง เปิดกรงกระต่ายแล้วหยิบมันออกมา
กระต่ายที่เขาหมายตาเอาไว้ เขาวางแผนที่จะถือมันไว้ในมืออย่างระมัดระวัง
ในตอนนั้นเอง เขาได้ยินเสียงตะโกนของหลี่หาน และด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นเดียวกับผู้คนรอบ ๆ ตัวเขาหันหน้าไปมองหลี่หานโดยที่ยังถือกระต่ายไว้ในมือ
เมื่อถูกคนชน มือของเขาคลายออกโดยไม่รู้ตัวและกระต่ายในมือของเขาก็หล่นลงพื้น
จากนั้น ... มันก็วิ่งหนีไป
"นายชนฉันจนกระต่ายหลุดไปแล้วเนี่ย ถ้าจับไม่ได้นายต้องจ่ายเงินให้ฉัน!"
พอพูดจบ เขาก็รีบวิ่งไล่จับกระต่าย
“ฉั... ฉัน... โอ๊ย อะไรเนี่ย” ชายคนนั้นอยากจะพูดว่าทำไมเขาถึงต้องจ่าย แต่ก็คิดออกว่าตนเหมือนจะเป็นฝ่ายผิด
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
หลังจากนั้น เขาก็วิ่งไล่จับกระต่ายพร้อมกับชายคนดังกล่าว กระต่ายตัวใหญ่ขนาดนี้มีมูลค่าหลายสิบหยวนเชียว
หากไม่สามารถจับมันกลับคืนมาได้ คงเสียเงินเปล่าแล้วล่ะ
หลังจากนั้นเพียงสองก้าว ชายคนนั้นก็นึกถึงเต่าของเขาอีกครั้งและพูดว่า "เต่าของฉันอยู่ที่ไหน"
ฉากนี้ทุกคนรอบตัวพบว่ามันน่าสนใจมาก
มีคนนึงหัวเราะและพูดว่า "ไล่ตามกระต่ายไปก่อน อย่าพึ่งไปสนใจเต่าเลย ยังไงเต่าก็คลานช้าอยู่แลว ดังนั้นมันหนีไปได้ไม่ไกลหรอก"
เป็นความจริง
คนรอบข้างพบว่ามันตลกพอสมควรและไปช่วยกันจับกระต่าย
"ยังไงซะ ถ้าใครเห็นเต่าของฉันก็ช่วยจับมันด้วยนะ!" ชายคนนั้นยังคงกังวลเล็กน้อยที่เต่าของเขานั้นหายไป
เต่า? กระต่าย?
หลี่หานอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นฉากที่น่าสนใจนี้ ซึ่งมันทำให้เขานึกถึงนิทานคลาสสิกในชีวิตก่อนหน้าขึ้นมา
หลังจากได้ยินคำพูดของชายคนดังกล่าว เขาก็ลุกขึ้นเตรียมที่จะเข้าไปช่วยจับเต่า
ในตอนนั้น เขาสังเกตเห็นว่ากระต่ายตัวนั้นกระโดดมาทางนี้เช่นกัน
สัตว์สองตัวกำลังวิ่งไปทางเดียวกัน
น่าสนใจชะมัด
มันน่าสนใจมากจนหลี่หานไม่ต้องการจับเต่าอีกต่อไป
"กระต่ายอยู่นี่ ทุกคนช่วยกันล้อมมันเร็ว หือ เต่าก็อยู่ที่นี่ด้วย ฮ่า ๆ! สองตัวนี้วิ่งไปทางเดียวกันอยู่" มีคนตะโกนขึ้น
……