ตอนที่ 1
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
--------------------------------------------------------------------------------------------
ปี 2020.
10ปีผ่านมาแล้วตั้งแต่ <Rifts> ได้โผล่ออกมาที่โลกอันสงบสุขของเรา.
(ริฟต์แปลว่ารอยแยกครับ)
พวกมอนส์เตอร์รุกรานและก็มีเหล่าผู้คนที่ถูกเรียกว่า “ฮันเตอร์” โผล่ออกมาเพื่อจับพวกมัน.
(hunter- ฮันเตอร์ = นักล่า)
แล้วหลังจากนั้นก็มีหน้าต่างประหลาดโผล่ขึ้นมาด้านหน้าคนพวกนั้น มันแสดงข้อมูลตัวเลขที่พวกเขาเรียกกันว่า “แสตท” ในชีวิตจริง. ด้วยค่าสเตตัสที่เห็นผ่านหน้าต่างนั้นทำให้ผู้คนเริ่มเห็นสกิลของตัวเองและลักษณะที่แบ่งแยกพวกเขาในฐานะฮันเตอร์.
“สเตตัส”
ชื่อ: ลีโดจุน
เลเวล: 999
ฉายา: เทพปีศาจ
Strength: 999
Agility: 999
Vitality: 999
ปราณภายใน: 999
สกิล: นาฬิกาพก (SSS), วิถีเทพปีศาจ (SS), กายวัชระ (S), ภูมิคุ้มกันพิษ (S), ดาบไร้ตน(S), ควบคุมทางอากาศ (S), ดูดวง(D), บาเรียคุ้มกัน (B), คุมเสียง (D), ดูดซับวิวัฒนาการ (B), เลือดไหล(C), ฟิวชั่น (A).
ลีโดจุนเรียนต่อเป็นเวลา3ปีหลังจากเกณฑ์ทหารเสร็จ. จากนั้นเขาก็ได้รับราชการใน “แผนกควบคุมริฟต์” พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมเหล่ามอนส์เตอร์ใกล้ๆริฟต์ด้วยความช่วยเหลือจากฮันเตอร์.
เขาได้เข้าร่วมทีมตอนอายุ25และได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ที่อายุน้อยที่สุดใน ‘แผนกควบคุมริฟต์’ ณ ศาลากลางแห่งโซล.
หลังจากผ่านไปได้หนึ่งปี, เขาก็ได้ฮันเตอร์ส่วนตัวมาหนึ่งคน.
แต่ทว่า ในวันก่อนการสำรวจริฟต์ครั้งแรกของเขานั้น,
เขาโดนรถบรรทุกชนเข้า.
หลังจากทำงานเสร็จเขาคิดว่าอยากจะไปสำรวจริฟต์ระดับ-Fในเขตกังดงล่วงหน้าซักหน่อย.
แต่เขาก็โดนรถบรรทุกหนัก5ตันชนจนหมดสติเข้าขณะที่ข้ามทางม้าลายอยู่ และโดจุนก็ตื่นขึ้นมาในต่างโลก.
ในเวลาเดียวกันนั้น โดจุนก็ได้รับสกิล.
<นาฬิกาพก>
เขาตายในต่างโลกมาแล้วนับไม่ถ้วนแต่เพราะสกิล <นาฬิกาพก> ของเขาทำให้เขาสามารถย้อนเวลากลับมาได้หนึ่งวันก่อนที่จะตาย.
เขากลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า.
ในที่สุดเขาก็ได้กลายเป็นชายที่แข็งแกร่งที่สุดในสนามรบ.
โดจุนมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆจนได้ชื่อเล่นว่า ‘เทพปีศาจ’
และตอนนี้เขาก็ได้กลับมาที่โลกอีกครั้ง.
ติ๊งงง
ประตูอัตโนมัติของโรงพยาบาลเปิดออก.
โดจุนสูดหายใจเข้าแล้วหยิบสมาร์ทโฟนออกมา.
มกราคม 18, 2020
“ถะ-ถ้าคุณยังเจ็บตรงไหนล่ะก็ รีบแจ้งให้ผมทราบแล้วกลับมานะครับ”
คุณหมอในชุดกาวน์สีขาวกล่าวขณะดันแว่นขึ้น.
โดจุนพยักหน้าแล้วออกไป.
พยาบาลข้างๆหมอคนนั้นมือสั่นขณะมองดูบันทึกของเขา.
“ทำไมเขาถึงดูสบายดีราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนในวันเดียวได้ล่ะคะ?”
ตอนที่เขาโดนรถบรรทุกชนและเข้าห้องฉุกเฉินไปนั้น ร่างของโดจุนแทบจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย.
การผ่าตัดครั้งใหญ่นาน17ชั่วโมงนั้นแทบจะยื้อชีพจรเขาไว้ไม่ได้เลย แถมโอกาสที่เขาจะได้สติกลับมาก็ต่ำกว่า10เปอร์เซ็นต์ด้วย.
แต่หลังจากผ่านไปเพียงแค่วันเดียว แผลฉกรรจ์ทั้งหมดรวมไปถึงแผลอวัยวะภายในของเขาหายเกลี้ยงไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน.
“....ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
****
[หัวหน้าครับ ผมออกจากโรงบาลแล้วนะครับ]
โดจุนส่งข้อความไปหาคังชึลซู หัวหน้าแผนควบคุมริฟต์.
ผ่านไปแค่วันเดียวเท่านั้นเอง หลังจากที่เขากลับมาเกาหลีจากต่างโลก.
เนื่องจากความทรงจำที่เคยใช้ชีวิตในเกาหลีของเขาเลือนลางไปแล้ว คงจะต้องใช้เวลาเยอะหน่อยเพื่อปรับตัวให้เข้ากับอาชีพนี้อีกครั้ง.
ต่อให้เขาไม่ได้กลับมารับราชการอีกครั้ง เขาก็มีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ที่ทำให้มีชีวิตอยู่ได้นานโดยไม่ต้องมีอาหารหรือแม้แต่น้ำเลย.
แต่โดจุนตัดสินใจว่าอยากจะกลับมารับราชการอีกครั้ง.
‘ครั้งนี้ชั้นอยากจะใช้ชีวิตธรรมดาๆบ้าง’
ในมือของเขานั้นเปื้อนเลือดมามากแล้วจนมันมาถึงขั้นที่เขาถูกทรยศอย่างเจ็บและไม่สามารถเชื่อใจใครได้อีก.
เขาเคยคิดว่าจะลองไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในภูเขาแล้ว แต่หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในนั้นนางมาก เขาเลยได้ข้อสรุปว่าใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆนี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ.
กริ๊ง กริ๊ง
โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นและในจอนั้นมีชื่อ [หัวหน้า คังชึลซู] อยู่.
ติ๊ด.
-ครับ?
-เจ้าบ้าเอ๊ย! นายยังมีชีวิตอยู่งั้นหรอ? ระ-ร่างกายนาย, ไม่เป็นไรแน่นะ? แล้วหมายความว่าไงนายออกโรงบาลแล้ว?
-ครับ. ผมได้สติกลับมาแล้วและตอนนี้ก็สบายดีขึ้นด้วย. หมอบอกว่าจะกลับก็ได้ครับ.
จากนั้นก็เงียบกันไปพักหนึ่ง
แล้วก็มีเสียงดังออกมาจากโทรศัพท์.
โดจุนขมวดคิ้วแล้วเอาโทรศัพท์ออกจากหู.
- แกเป็นใครวะ! อย่ามาล้อชั้นเล่นนะ?
โดจุนถอนหายใจออกแล้วเอาโทรศัพท์กลับไปข้างหู.
ก็ปกติแหละที่คังชึลซูจะมีท่าทีแบบนี้ หลังจากโดจุนที่เจียนตายเมื่อวานกลับมาเดินปร๋อในวันนี้.
-หัวหน้าครับนี่ผมจริงๆ. เดี๋ยวจะไปที่ออฟฟิศเดี๋ยวนี้แหละครับ.
-...ไม่. ดะ-เดี๋ยวชั้นไปรับ!
-ไม่ต้องหรอกครับ. ไม่เป็นไรผมไปด้วยแท็กซี่ถึงในเวลา20นาทีแน่.
-หมอนี่, พูดอะไรของนายน่ะ?
ติ๊ด.
โดจุนวางสายแล้วเดินออกไปข้างถนนรอแท็กซี่.
คังชึลซูพยายามโทรหาเขาเรื่อยๆแต่ก็ไม่ได้รับซักสาย.
[รออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวชั้นไปรับ]
โดจุนตอบกลับไปทันทีที่เห็นข้อความ.
[ผมกำลังไปครับหัวหน้า]
[เห้อ….นิสัยนายดูเปลี่ยนไปหน่อยๆนะ? เอาเถอะรีบมาแล้วกัน!]
[ครับ]
โดจุนพึมพำขณะที่เก็บมือถือเข้ากระเป๋า.
“นิสัยเราเปลี่ยนไปงั้นหรอ….”
เขาไม่รู้เลย….ว่าเขาเคยเป็นคนยังไงมาก่อน.
เขามีนิสัยร่าเริงหรือทำตัวเงียบกันนะ?
คนอื่นคิดยังไงกับเขา?
บรื๋นนนน
โดจุนโบกแท็กซี่ที่กำลังมาแล้วขึ้นไปนั่ง.
“ไปศาลากลางโซลครับ”
คนขับแท็กซี่พยักหน้าแล้วเริ่มขับออกไป.
หลังจากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาในแท็กซี่.
“ลูกค้าครับ ช่วยคาดเข็มขัดด้วยนะครับ”
“เข็มขัด? อ่อ”
โดจุนดึงเข็มขัดตรงที่นั่งผู้โดยสารออกมาแล้วเสียบเข้าไปในช่อง.
จากนั้นเขาก็หยิบมือถือออกมาอีกครั้งแล้วดูรายชื่อผู้ติดต่อของเขา.
<ครอบครัว (1)>
<เพื่อน (0)>
<บริษัท (11)>
<อื่นๆ(2)>
“....เราไม่มีเพื่อนเลยหรอ”
โดจุนพึมพำจากนั้นก็กดเข้าไปดูหมวด <ครอบครัว>
ด้านในมีเบอร์ที่ติดชื่อไว้ว่า <พี่ชาย>
“โอ๊ะ ชั้นมีพี่ชายด้วยงั้นหรอ”
แต่เขาก็นึกชื่อไม่ออก.
เขาพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออกเลย.
แต่มีอย่างนึงที่เขามั่นใจ.
‘ชั้นไม่คิดว่าเขาเป็นคนดี’
เขารู้สึกว่าตัวเองโมโหขึ้นมาหน่อยๆด้วย.
หลังจากสูดหายใจเข้าแล้วโดจุนเลยพยายามโทรหาพี่ชายของเขา.
- เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ค่ะ…..
เขาโทรไปอีกรอบแต่ก็เหมือนเดิม.
ดูเหมือนเขาจะเปลี่ยนเบอร์แล้ว.
รอบนี้เขาเข้าไปดูที่หมวด <อื่นๆ>
จากนั้นก็มีเบอร์โผล่มาสองเบอร์.
[แบ ยูจิน]
[โซลยุนฮี]
“....เราไม่รู้จักเลย”
แบยูจินคือใคร? แล้วโซลยุนฮีเป็นคนแบบไหน?
เขาจำไม่ได้เลย.
แต่ในหมวดบริษัท เขายังพอจำคนในออฟฟิศได้บ้าง.
แต่แบยูจินกับโซลยุนฮีนั้นไม่ระแคะระคายเขาเลย.
“ถึงแล้วครับ”
เขามาถึงที่หน้าศาลากลางโซลแล้ว.
โดจุนหยิบกระเป๋าออกมาแล้วยิ่นการ์ดให้.
คนขับแท็กซี่รับการ์ดมาแล้วสอดเข้าไปในช่องเพื่อจ่ายเงิน.
“ขอบคุณครับ”
*******
โดจุนขึ้นไปที่แผนกควบคุมริฟต์ที่ชั้น7.
ทันทีที่เขาเข้าไป พวกพนักงานของแผนกก็พากันจ้องมาหาเขา.
จากนั้นก็มีคนวิ่งมาหา.
“นี่! นะ-นายไม่เป็นอะไรแน่นะ?”
ชายที่ดูเหมือนจะอายุ40ปลายๆกล่าวด้วยตาที่เบิกกว้าง.
โดจุนจำได้ว่าชายคนนั้นคือคังชึลซู.
“ครับ ก็อย่างที่เห็น. ผมไม่เป็นอะไรครับ”
“....จริงหรอ? นายไม่เป็นอะไรจริงด้วย”
เขาไม่อยากจะเชื่อเลย.
เมื่อวานนี้เขาไปที่โรงพยาบาลที่โดจุนแอดมิดอยู่.
เขาถูกห้ามไม่ให้เข้าพบเพราะเขาอยู่ในสถานะที่แย่มากๆ จึงกลับมาที่ออฟฟิศโดยไม่ได้เยี่ยมเขาเลยแต่ตอนนี้เขากลับหายดีในวันเดียวนี่นะ?
“นายแน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร? หมอบอกเหรอว่านายออกโรงบาลได้?”
ผู้หญิงคนหนึ่งดูจะเป็นพนักงานมองโดจุนขึ้นๆลงๆแล้วถามด้วยความกังวล.
เขาพยักหน้าตอบ.
“ก็อย่างที่เห็นครับ ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ”
“โล่งอกไปทีนะ.รู้มั้ยว่าพวกเราเป็นห่วงขนาดไหนตอนที่ได้ข่าวว่านายประสบอุบัติเหตุน่ะ? จะว่าไปแล้วโดจุน นายไม่ได้พูดติดๆขัดๆแล้วหนิ”
พนักงานชายคนหนึ่งเอียงหัวแล้วกล่าว.
“ปกติผมพูดติดขัดหรอครับ?”
“....เออ. ใช่มั้ยครับ หัวหน้า?”
“ใช่. เพราะงี้ตอนที่รับสายเมื่อกี้ชั้นเลยไม่เชื่อไงว่าเป็นเขา”
พนักงานชายจับแขนโดจุน.
มันไม่ได้นิ่มเลย. ถึงเขาจะใส่เสื้อแขนยาวอยู่ เขาก็รู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อแน่นที่ชัดเป็นก้อน.
“โดจุน….ร่างกายนาย….ดูจะหุ่นดีขึ้นมาเลยนะ. เกิดอะไรขึ้น?”
“แต่ก่อนไม่ได้เป็นงี้หรอครับ?”
คังชึลซูพยักหน้า.
“นายตัวเล็กมากๆแถมยังขี้อายมากๆด้วย แต่ตอนนี้นายดูสูงขึ้นนะ….”
คังชึลซูดูงงมากๆ เขาจำได้ว่าโดจุนสูงประมาณ171เซ็นเกือบเท่าเขา. แต่ตอนนี้เขาดูสูงราว180เลย.
“เหรอครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ”
“.....คนเราจะเปลี่ยนไปแบบนี้ในคืนเดียวได้ไง? นายคีอโดจุนจริงๆหรอ? นายใช่คนอื่นป้ะเนี่ย?!”
“พี่อาจจะรู้สึกว่าผมเปลี่ยนไปหน่อยๆนะครับ แต่นี่ผมจริงๆครับ”
พวกพนักงานพากันทำหน้าประหลาดใจ.
โดจุนมองไปรอบๆโดยไม่ใส่ใจ.
“โต๊ะผมอยู่ไหนหรอครับ? ผมเสียความจำไปส่วนนึงเพราะโดนชนน่ะครับ”
“นายเสียความทรงจำงั้นหรอ? หา? น่าสงสัยนะ. นายไม่ใช่ลีโดจุนใช่มั้ย?”
“นายดูเหมือนนะแต่หล่อกว่า”
คังชึลซูตบไหล่พนักงาข้างๆเขาแล้วกล่าว
“คุณฮยุนซูครับ. ไปเอาเครื่องแสกนลายนิ้วมือให้ทีสิครับ”
ชายคนนั้นที่ชื่อฮยุนซู เข้าไปในห้องเก็บของแล้วเอาเครื่องแสกนลายนิ้วมือมา.
ปกติแล้วมันถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของที่ห้ามไม่ให้เข้าและเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่เมื่อสองเดือนก่อน.
“วางนิ้วโป้งลงตรงนี้. ถ้าลายนิ้วมือตรงกันล่ะก็ เราจะยอมเชื่อนาย”
โดจุนไม่ลังเลเลยเขาวางนิ้วโป้งลงไปที่เครื่องทันที.
[แผนกควบคุมริฟต์, คุณลีโดจุน ยืนยัน]
คังชึลซูแทบไม่อยากจะเชื่อ.
“ละ-ลองอีกรอบดิ๊!”
[แผนกควบคุมริฟต์, คุณลีโดจุน ยืนยัน]
“อีกที!”
แต่ไม่ว่าเขาจะแสกนกี่ครั้งผลก็ออกมาเหมือนเดิม.
“...คนเราจะเปลี่ยนไปแบบนี้ในวันเดียวได้ไงกัน?”
“เขาเรียกว่าภาวะเสียความจำน่ะ. มันอาจจะทำให้เขาเลิกพูดติดขัดด้วยก็ได้”
“ช่างเรื่องพูดติดขัดเหอะ หมอนี่ตัวสูงขึ้นขนาดนี้ได้ไง?.
โดจุนถอนหายใจแล้วกล่าว.
“บอกผมเถอะครับว่าโต๊ะอยู่ไหน”
“ไม่ๆ กลับบ้านไปพักเยอะๆซะวันนี้. นายได้ลาป่วยแล้ว. ค่อยมาทำงานพรุ่งนี้ไป!”
“แต่…”
โดจุนลังเลขณะที่คังชึลซูผลักหลังเขาไป.
“ชั้นจะไปส่งบ้านเอง. ไปเหอะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้”
โดจุนจำใจออกจากออฟฟิศไป.
จากนั้นเขาก็เอาทะเบียนที่อยู่ในการ์ดในกระเป๋าตังมาดูว่าบ้านอยู่ไหน.
****
“....รหัสอะไรวะ?”
โดจุนยืนตระหง่านอยู่หน้าห้อง301ของอาคารชุดพาณิชยกรรมที่ชื่อจังชินวิลล่า.
เขาพยายามค้นตามตัวเพื่อกุญแจแต่ก็ไม่เจอเลย.
ก๊อก ก๊อก
เขาเคาะประตูดูว่าจะมีใครอยู่มั้ย.
จากนั้น,
-ใครคะ?
มีเสียงดังออกมาจากในห้อง.
โดจุนกลืนน้ำลายแล้วค่อยๆอ้าปากพูด.
“คุณ...เป็นใครครับ?”