Ep.908 - รับหมัดฉัน!
5/5
Ep.908 - รับหมัดฉัน!
ท่าทีและคำพูดของคนพวกนี้ แสดงออกชัด เห็นพ้องต้องกันว่าฉินเฟิงโกง
ฉินเฟิงกวาดสายตามองฝูงชน เผยรอยยิ้มเย็น ทั้งคนทั้งร่างกระพริบไหวจนเห็นเพียงเส้นแสง
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
ฉินเฟิงตะปบสี่ฝ่ามือลงบนอุปกรณ์ทดสอบพลังของคนอื่นๆ
【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! พลังโจมตีจากการทดสอบ : 40,000,000!】
【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! พลังโจมตีจากการทดสอบ : 40,000,000!】
【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! พลังโจมตีจากการทดสอบ : 40,000,000!】
【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! พลังโจมตีจากการทดสอบ : 40,000,000!】
จำนวนแต้มคงที่ ไม่มากเกินไปหรือขาดตกบกพร่องแม้แต่นิดเดียว เป็นตัวเลข 40 ล้านเป๊ะๆ!
การโจมตีของฉินเฟิงในครั้งนี้ ทำให้หลายคนเกิดคำถามขึ้นมากมาย แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
แน่นอนว่าพวกเขายังไม่อาจทำใจเชื่อฉินเฟิง
ฉินเฟิงปลอมแปลงอุปกรณ์ทดสอบของตัวเองได้ไม่น่าแปลกใจอะไร แต่เขาจะสามารถปลอมแปลงอุปกรณ์ทดสอบทุกเครื่องได้เชียวหรือ?
อย่างไรก็ตาม คลิฟส์ไม่ปล่อยโอกาสที่ฉินเฟิงกำลังตกเป็นเป้าหมายให้หลุดมือไป เขากระโดดปราดขึ้นทันทีและเอ่ยว่า “ฉินเฟิง! กลุ่มเฟิงหลีของคุณมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชั้นสูงมากมาย ในที่นี้คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าคุณคิดเล่นตุกติก พวกเราไม่มีทางดูออก!”
ฉินเฟิงเบนสายตามองคลิฟส์ เขาไม่รู้แล้วว่าเจ้าแมงเม่าตัวนี้ยังต้องการอะไรอีก แค่การทุบตีสั่งสอนครั้งก่อนคงไม่พอใช่ไหม?
“แล้วคุณจะให้ผมพิสูจน์ยังไง?”
“ในเมื่อท่านผู้ใหญ่กู่อยู่ที่นี่ และคุณมีพลังโจมตีมากกว่าท่านผู้ใหญ่กู่จริงๆ ถ้าอย่างนั้นลองรับหมัดจากเขาดูเป็นไง!”
สายตาของฉินเฟิง เบนไปตกลงบนร่างของกู่ไท่
“ท่านผู้ใหญ่กู่คิดเห็นว่าอย่างไร?”
“ตกลง ฉันอยากจะรู้เหมือนกัน ว่าความแข็งแกร่งของแก สุดท้ายจะมากเหมือนตัวเลขที่แสดงออกมารึเปล่า แกกล้ารับหมัดฉันไหม!”
กู่ไท่พยายามเก็บงำความโกรธเอาไว้ตอนนี้ ถ้าความแข็งแกร่งของฉินเฟิงเป็นของจริงก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นของปลอม นั่นเท่ากับโกหก! กล้าดียังไงมาหลอกลวงทุกคน ไม่รักชีวิตแล้วรึไง
ถ้าถูกหมัดเขาต่อยตาย มันก็สมควรแล้ว!
“แล้วทำไมผมจะไม่กล้า!!” ฉินเฟิงตอบรับทันที
“ได้! งั้นเตรียมตัวให้พร้อม!”
ขณะกล่าว แสงสีทองจรัสเริ่มผุดขึ้นตามร่างกายกู่ไท่
ในเมื่อฉินเฟิงสามารถโจมตีได้ 40 ล้านแต้ม กู่ไท่ก็คิดแค่ว่าอีกฝ่ายสามารถหยุดหมัดของเขาได้โดยไม่ต้องออมมือ ถึงเวลาหากฉินเฟิงสามารถหยุดได้ก็แล้วไป แต่ถ้าหยุดไม่ได้ ถูกชกโดยหมัดที่มีพลังโจมตีมากถึง 39 ล้านแต้ม ร่างกายเขาคงแหลกเป็นเศษเนื้อเลอะเลือน
ตูมมมม!
กลิ่นอายของกู่ไท่ พุ่งทะยานถึงขีดสุด ตามมาติดๆด้วยกำปั้นแหวกอากาศส่งเสียงหวีดหวิว
ฉินเฟิงยืนนิ่งอยู่ในจุดเดิม ไม่ขยับหนีไปไหน ขณะเดียวกันแขนข้างหนึ่งค่อยๆยกขึ้น ทุกกระบวนการยังคงเหมือนเมื่อครู่ คล้ายกับว่าไม่ได้ใส่เรี่ยวแรงลงไปเลย
กู่ไท่พอเห็นการเคลื่อนไหวของฉินเฟิง ในหัวใจลุกโชนไปด้วยความโกรธ
“รนหาที่ตาย!”
แขนของเขาเหวี่ยงรุนแรงขึ้นอีกระดับ พริบตาเดียวพละกำลังหมัดแข็งแกร่งยิ่งกว่าในตอนแรกมาก
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือของฉินเฟิงประสานงากับหมัดของกู่ไท่
แม้ฉากนี้จะดูเหมือนทั้งสองสู้กันด้วยมือเปล่า กำลังภายในที่แฝงไว้ในหมัดและฝ่ามือของพวกเขาไม่ได้ปลดปล่อยมันออกมา แต่หลังจากปะทะกัน กลับระเบิดพลังงานร้ายแรงอย่างหาผู้ใดเทียบ
ชั้นความผันผวนของคลื่นพลังงาน ก่อตัวเป็นวงกลมและกวาดกระจายออกไป ไม่ว่าจะเป็นคนที่ยืนอยูบนเวทีหรือใต้เวที ทั้งหมดกลับหัวกลับหาง ปลิวกระเด็นด้วยอำนาจทำลายนี้
พรวดดด!
ทุกคนกระอักเลือดคำโต
ขนาดผลพวงจากการปะทะกันยังน่าหวาดกลัวขนาดนี้ เช่นนั้นแล้วจุดที่ปะทะกันตรงๆ จะน่าสยดสยองขนาดไหน?
ระหว่างที่พวกเขากำลังยกมือกุมหน้าอก ก็ค่อยๆพยุงตัว แหงนขึ้นไปมองบนเวทีเบื้องบน ปรากฏว่าทั้งสองยังคงนิ่งงัน รักษาท่วงท่าการปะทะเอาไว้ทั้งๆอย่างนั้น ภาพของฉินเฟิงที่จินตนาการว่าคงไม่พ้นถูกสอยกระเด็นไม่ปรากฏขึ้น เอาจริงๆฉินเฟิงไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกัน ฝั่งกู่ไท่ บนแขนล่ำของหมัดเทพเจ้า ปรากฏเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดเป็นชิ้นๆ แขนเสื้อของเขาตั้งแต่ข้อมือจรดหัวไหล่ บิดเบี้ยวและฉีกขาดจากกัน
บรรยากาศกลายเป็นแข็งค้าง
ฉินเฟิงชักฝ่ามือกลับ ประสานมือคำนับ “ท่านผู้ใหญ่ยั้งมือแล้ว”
ใบหน้าของกู่ไท่เขียวคล้ำ แสดงออกชัดว่าโกรธโคตรๆ
“แน่จริงลองรับดูอีกหนึ่งหมัด!”
ในพริบตา กู่ไท่ระเบิดอำนาจทำลายอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่กำปั้นทุบดินเหมือนเมื่อครู่ แต่มันคือการระเบิดพลังงานของดารากำลังภายใน หมัดที่เขาชกออก พรั่งพราวไปด้วยรัศมีสีทอง ปะทุรังสีจรัสสะท้อนไกลกว่าสิบเมตร
อย่างไรก็ตาม สำหรับฉินเฟิง ฉากเบื้องหน้าไม่แม้จะสามารถทำให้เขาขมวดคิ้วได้
ยามเผชิญหน้ากับเหอเทียนสิง เขายังต้องคอยกังวลเกี่ยวกับทักษะดาบอสูรของคู่ต่อสู้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ใช้กำลังภายในเพียวๆในการโจมตี ศัตรูที่ใช้อาวุธเป็นหมัดลุ่นๆไม่ใช่ของมีคมชิ้นใด ฉินเฟิงไม่เกรงกลัวเลย
สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามทำ ไม่ต่างจากการร่ายระบำง้าวมังกรต่อหน้าเทพเจ้ากวนอู!
ดารากำลังภายในของฉินเฟิงพลุ่งพล่าน โล่ปราณกำลังภายใน ผุดขึ้นทานรับหมัดของกู่ไท่ หลังจากนั้น กู่ไท่ไม่สามารถลงลึกมาได้กว่านี้อีกเลย
หึ่ง หึ่ง
เสมือนดั่งฟาดทุบลงบนระฆังทองใบใหญ่ เสียงฉวัดเฉวียนดังสะท้อน ทว่ากลับไม่พบร่องรอยใดๆแม้แต่ตะเข็บเดียว
หมัดเทพเจ้ากู่ไท่เบิกตากว้าง จ้องมองโล่ปราณกำลังภายในสุดหนาแน่นนี้ ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยเห็นโล่ปราณที่หนาขนาดนี้มาก่อนเลย
ยิ่งไปกว่านั้น โล่ปราณกำลังภายในที่ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมเช่นนี้ ได้แสดงให้เห็นแล้ว ว่าฉินเฟิงไม่ใช่ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล A มิฉะนั้นโล่ปราณกำลังภายในของเขาจะอยู่ในรูปแบบโปร่งใสเหมือนระลอกคลื่น มิใช่สถานะแข็งเหมือนอัญมณีเช่นนี้
แม้สีหน้าของกู่ไท่จะน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็ชักหมัดออก หากเป็นตัวตนทรงอำนาจเลเวล S เขายังพอยอมรับความพ่ายแพ้ได้ แต่หากฉินเฟิงแสดงให้เห็นแค่ว่าตัวเองเป็นเลเวล A เขาคงรับไม่ได้
เห็นกู่ไท่ยอมถอย ผู้ชมทั้งหมดพาลตะลึงลาน
นี่ไม่จริงใช่ไหม? พลังโจมตี 40 ล้านแต้มของฉินเฟิง ไม่ใช่ของปลอมงั้นหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้น กระทั่งจ้าวแห่งหมัดมวยอย่างกู่ไท่ ยังไม่สามารถโค่นเขาลงได้ในหมัดเดียว
ผู้ที่มีดวงตาแหลมคม สามารถมองเห็นได้ด้วยซ้ำ ว่าเวลานี้กำปั้นของกู่ไท่ปกคลุมไปด้วยเลือด ทั้งๆที่เป็นฝ่ายโจมตี แต่หมัดของกู่ไท่กลับได้รับบาดเจ็บ!
“ท่านผู้ใหญ่กู่ ตอนนี้คงมั่นใจแล้วกระมัง ว่าผมไม่ได้หลอกลวง”
“เริ่มจัดแบ่งพื้นที่กันต่อ พลังของเขาเป็นเรื่องจริง!” กู่ไท่กล่าว ไม่รั้งอยู่เฉย หันหลังและจากไปทันที
ครั้งนี้นับว่าเขาเสียหน้ามากแล้ว ไม่สบอารมณ์จะแบกหน้าอยู่อีกต่อไป
คลิฟส์เฝ้ามองทุกฉากทุกเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่อาจทำใจยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง
เวลานี้ แนวสายตาของฉินเฟิง เบนมาตกลงบนร่างคลิฟส์
“จะแจกจ่ายได้รึยัง?” ฉินเฟิงถาม
คลิฟส์สั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว เร่งรับคำ “ได้สิ ได้แล้ว! จะรีบทำเดี๋ยวนี้”
ทั้งๆที่ช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา ฉินเฟิงยังแข็งแกร่งไล่เลี่ยกับตนแท้ๆ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายมีความสามารถถึงขั้นทานรับหมัดของเลเวล S หมัดที่เกิดจากการโจมตีสุดแรง!
เวลานี้ สมองของคลิฟส์มึนงงจนยากที่จะจัดสรรอาณาเขต โชคยังดีที่มีคนอื่นๆจากแอฟริกาเหนือก้าวเข้ามาช่วยเหลือแจกจ่าย
ใครที่มีพลังโจมตีมากกว่า เป็นธรรมดาที่คนนั้นจะได้เลือกก่อน ฉินเฟิงแข็งแกร่งที่สุด เขาเลยได้เลือกเป็นอันดับแรก และไม่ลังเลเลย ที่จะใช้ความรู้จากความทรงจำของตนเอง เฟ้นหาสถานที่ที่จะเกิดรอยแยกมิติขึ้นบ่อยครั้งที่สุด ครอบครองพื้นที่หนึ่งในสามของดินแดนทั้งหมด
กลุ่มสติกซ์เองก็ครอบครองพื้นที่หนึ่งในสามเช่นกัน ส่วนคนที่เหลือจากนั้น แม้จะไม่ได้สถานที่ดีเท่าใดนัก แต่เทียบกับครั้งแรกแล้ว ถือว่าดีกว่ามาก
การประชุมในครั้งนี้ มีประเด็นให้ใจเต้นระทึกหลายเรื่องจริงๆ เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง มีกระทั่งเลเวล A ติดต่อมาหาฉินเฟิง เอ่ยปากว่าต้องการเช่าอาณาเขตของเขา
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงได้ปฏิเสธไป
ในสายตาของคนนอก ฉินเฟิงไม่มีกำลังพลมากพอ แม้เขาสามารถยกระดับขึ้นเป็นเลเวล A แต่เขามีเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาเลเวล B เท่านั้น ซึ่งเอาจริงๆแล้วแทบไม่ช่วยอะไรเลย
ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงเพิ่งกลับมาจากดินแดนล่มสลายของเผ่าวิญญาณ เขาได้รับสิ่งดีๆมามากมาย คนพวกนี้จะไปเข้าใจอะไร?
เวลานี้แหละ--
--ถึงคราวใช้ประโยชน์จาก ‘หุ่นยนต์’ แล้ว!
