ตอนที่ 24 รสชาติไม่เหมือนเดิม
“โอ้ เธอเองหรอ ชิชิโอะ”
“อรุณสวัสดิ์ครับ พี่จิฮิโระ”
ชิชิโอะก็มองดูจิฮิโระที่เดินเข้ามาในห้องครัวด้วยใบหน้าง่วงเหงาหาวนอนและจากสีหน้าของเธอ เขาก็พบว่าเธอนั้นพึ่งจะตื่นนอนได้ไม่นาน
จากนั้นจิฮิโระก็ได้กลิ่นอันหอมอร่อยรอยออกมา เธอจึงหันไปมองชิชโอะที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ ต่อมาเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้และจ้องมองแผ่นหลังของชิชิโอะด้วยความสับสน
ทางชิชิโอะนั้นก็ได้ทำการลวกผักปวยเล้งแล้วนำมาจุ่มน้ำเย็นและจากนั้นเขาก็นำมันใส่ถ้วยแล้วค่อยนำไปจุ่มดาชิ
ทางจิฮิโระนั้นไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงรู้สึกว่าฉากตรงหน้ามันช่างดูอบอุ่นใจแปลกๆแถมมันยังทำให้เธอเริ่มหิวด้วย
“พี่จิฮิโระ ให้ผมทำเพื่อให้พี่ให้ใหมครับ?”ชิชิโอะก็ถามออกมา
“จะดีหรอ?”จิฮิโระถาม
“ได้สิ รอสักครู่นะครับ”
จากนั้นชิชิโอะก็ได้ทำส่วนของจิฮิโระ ต่อมาเขาก็ได้นำแซลมอนแล่ฟิลเล่(แซลม่อนสไลด์)มาย่างซึ่งนั่นทำให้กลิ่นแซลม่อนย่างตลบอบอวลไปทั่วห้อง
เมื่อจิฮิโระได้กลิ่นนี้เธอก็แตะท้องตัวเองแล้วกลืนน้ำลายดับงเอื้อก
“เอานัตโตะด้วยใหมครับ พี่จิฮิโระ?”
“อืม”จิฮิโระก็ตอบออกมาเคลิบเคลิ้ม
นัตโตะนั้นเป็นเมนูส่วนหนึ่งสำหรับอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น แม้ว่ามันจะแปลกสำหรับคนที่ไม่เคยริ้มลองแต่หลังจากชินกับรสชิตนัตโตะแล้ว มันทำให้อาหารมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหน้าประหลาดใจ
ซึ่งชิชิโอะนั้นไม่ได้รังเกียจที่คนอื่นจะเกลียดนัตโตะแม้กระทั่งชาวญี่ปุ่นบางคนก็ไม่ชอบเหมือนกัน
การทำอาหารของชิชิโอะในขณะนี้ช่างรวดเร็วเป็นอย่างมากซึ่งทำให้จิฮิโระที่นั่งดูอยู่จากโต๊ะต้องอ้าปากค้างอย่างตกใจและสงสัยว่าทำไมอาหารที่ชิชิโอะทำนั้นถึงได้เปล่งประกายแบบนั้นกันแต่แล้วเธอก็รีบยกมือขึ้นมาขยี้ตาแล้วดูอีกครั้งซึ่งคราวนี้แสงที่ว่านั่นกลับหายไป เพราะเหตุนี้เธอจึงสงสัยว่านี่มันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่ากัน เธอนั้นตกตะลึงไปชั่วขณะจนกระทั่งเธอได้ยินเสียงของชิชิโอะ
“ทานให้อร่อยนะครับ พี่จิฮิโระ”
ที่เบื้องหน้าของจิฮิโระนั้นก็คือ อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นอันน่ากิน
ซึ่งมีข้าว ผักรวกที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน แซลม่อนย่าง ไข่ทอดแบบญี่ปุ่น ซุปมิโซะและนัตโตะ
แค่เพียงดมกลิ่นของอาหารพวกนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้จิฮิโระรู้สึกอยากจะกินมากๆเพราะนี่มันก็นานมากแล้วที่เธอได้กินอาหารทำมือที่บ้านซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมา
“รีบๆกินในตอนที่มันยังร้อนๆอยู่นะครับ พี่จิฮิโระ”ชิชิโอะก็พูดออกมา
“อะ….อืม…”
จิฮิโระก็พยักหน้าแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมากวนนัตโตะจนกระทั่งมันเหนียวแล้วจึงนำมันไปราดลงบนข้าวของเธอ
ทางชิชิโอะนั้นก็ทำแบบเดียวกัน
และแล้วหลังจากทั้งสองคนทำธรรมเนียมปฏิบัติก่อนกินข้าวของคนในประเทศนี้เสร็จ พวกเขาจึงเริ่มกินกัน
จิฮิโระนั้นก็ได้ยกถ้วยซุปมิโซะขึ้นมาจิบอย่างช้าๆ ซึ่งเธอสัมผัสได้ว่าเธอรู้สึกอบอุ่นที่ท้องมากๆและทันใดนั้นเองเธอก็น้ำตาไหลออกมาทันที
ทางชิชิโอะที่กำลังกินอยู่นั้นก็ยอมรับเลยว่าอาหารที่เขาทำนั้นมันช่างอร่อยมาก อย่างไร เมื่อเขาเห็นจิฮิโระร้องไห้ออกมา เขากลับตะลึงจนค้างไปเลย
“หือ? พี่จิฮิโระ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ทำไมถึงร้องไห้ออกมาหล่ะครับ?”
ชิชิโอะก็รีบหยิบทิชชู่ออกมาและยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้กับจิฮิโระ
เมื่อชิชิโอะเข้ามาเช็ดน้ำตาให้เธอ จิฮิโระก็กลับมามีสติอีกครั้งและส่ายหัวในทันที
“ฉะ-ฉัน…ฉันไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องไปนะ ฉันก็แค่รู้สึกคิดถึงบ้านแค่นั้นเอง”
ความจริงแล้ว จิฮิโระนั้นไม่ได้พูดความตริงแออกมาเพราะเมื่อเธอชิมซุปมิโซะ เธอกลับรู้สึกราวกับเธอได้มองเห็นครอบครัวของเธอในอนาคต ซึ่งมันเป็นอนาคตที่เธอมีลูกและสามีอันแสนดีซึ่งในตอนนั้นเธอกำลังกินข้าวเช้ากันอย่างมีความสุขแต่เธอนั้นรู้ว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตาซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที
“แน่ใจนะครับ? แต่ถ้ามีไอ้สารเลวคนใหนทำร้ายจิตใจพี่จิฮิโระหล่ะก็ มาบอกผมได้เลย ผมจะจัดการมันเอง”
ชิชิโอะก็จ้องมองจิฮิโระด้วยสีหน้ากังวลใจซึ่งเขานั้นสงสัยว่าเธอไม่เป็นอะไรจริงหรือเปล่า
“อย่าคิดมาเลยน่า รีบๆกินกันได้แล้ว”
จิฮิโระก็โบกมือปฏิเสธแล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
“อืม”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอแล้ว ชิชิโอะก็พยักหน้าตอบโดยไม่ได้บังคับให้เธอพูดออกมาแต่ในใจนั้น ชิชิโอะกลับสงสัยว่าทำไมน้าของเขาถึงได้ร้องไห้ออกมากัน
จากนั้นแล้วจิฮิโระก็หันไปชิมอย่างอื่นต่อและทันใดนั้นเธอก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาทันที
ในฐานะสาววัยกลางคนอายุเลข 3 จิฮิโระนั้นมีปัญหามากมายเต็มไปหมดโดยเฉพาะกับชีวิตรักของเธอเนื่องจากเธอนั้นไม่มีหวังในเรื่องนี้เลย เพื่อนๆของเธอส่วนใหญ่ก็แต่งงานไปแล้ว แถมพี่สาวของเธอก็มีลูกโตขนาดนี้ด้วย แต่ทว่าเธอกลับยังโสดอยู่ซะงั้น
จิฮิโระนั้นอยากจะแต่งงานกับชายดีๆแต่…
จิฮิโระก็เหลือบมองหลานชายของตัวเองที่กำลังกินอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อย แล้วขึงยิ้มออกมาซึ่งเธอกลับรู้สึกมึวามสุขเมื่อเขาอยู่ที่นี่กับเธอ
ความจริงแล้ว มันมีสิ่งที่เธอไม่ได้บอกเขา
ในภาพลวงตาเมื่อครู่นี้ที่เธอได้แต่งงานกับชายๆดี ซึ่งชายที่เธอแต่งงานด้วยนั้นคือ….
“อร่อย!!”
จิฮิโระก็ยอมรับเลยว่าอาหารตรงหน้าเธอนั้นคืออาหารที่ดีที่สุดที่เธอเคยกินมาตลอดชีวิตเลย แม้กระทั่งอาหารที่เชฟระดับเชฟระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาวนั้นยังเทียบกับอาหารที่หลานชายของเธอทำไม่ได้เลย
จิฮิโระนั้นรู้สึกตะลึงในอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นของชิชิโอะมากและเธอนั้นก็ชอบมันเอามากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“อร่อยใหมครับ พี่จิฮิโระ?”
ชิชิโอะก็ยิ้มออกมาเมื่อเขาเห็นรอยยิ้มของเธอในตอนที่เธอกินอาหารที่เขาทำ
“อร่อยมากเลยหล่ะ”
จิฮิโระก็พยักหน้าแล้วถอนหายใจออกมา “ถ้าหากได้กินทุกวันก็คงจะดีนะ”เมื่อเธอนึกถึงชีวิตประจำวันของเธอที่กินแต่มาม่ากระป๋องอยู่ตลอด เธอก็อยากจะกินอาหารที่หลานชายของเธอทำให้กินในทุกๆวันมากเลย
“งั้นเดี๋ยวผมทำให้เอง”ชิชิโอะก็พูดออกมา
“จริงหรอ? มันจะไม่ทำให้เธอลำบากหรอ?”ถ้าหากจิฮิโระตอบปฏิเสธออกไป เธอก็คงโง่มากแล้ว
“ไม่หรอกครับ ถ้าหากผมว่าง ผมจะทำให้คุณกินทุกวันเลย”ชิชิโอะก็พูดออกมาอย่างไม่ลังเลเนื่องจากเขามองเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าผู้หญิงคนนี้สะเพร่ามากๆ
“เยี่ยม!!! งั้นฉันไม่เกรงใจนะ!!!”
จิฮิโระก็รู้สึกว่าการตกลงคำขอของพี่สาวของเธอในการช่วยเอาหลายชายเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายในโตเกียวนั้นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของเธอเลย จากนั้นแล้วเธอก็หันไปมองเวลาและสงสัยว่าเมื่อไหร่ผลสาวของหลานชายเธอจะประกาศกันเพราะเธออยากจะรู้เอามากๆ เธอก็ครุ่นคิดอยู่สักครู่แล้วจึงพูดออกมาว่า “ใช่แล้ว ชิชิโอะ เธอช่วยอะไรหน่อยสิ?”
“อะไรหรอครับ พี่จิฮิโระ?”
เมื่อชิชิโอะได้ยินประโยคที่ว่า ‘เธอช่วยอะไรหน่อยสิ?’ ใบหน้าของเขาก็กระตุกทันทีแต่เขาก็รีบแสดงสีหน้ากลบเกลื่อนทันที
“ตอนฉันกลับมาเมื่อคืน ฉันเห็นว่าป้ายหอพักซากุระโซที่อยู่หน้าประตูทางเข้ามันหลวมๆหน่ะ เธอช่วยซ่อมมันหน่อยนะ? ส่วนกล่องอุปกรณ์ซ่อมอยู่ในห้องเก็บของหน่ะ”
“ก็ได้ครับ”
ในขณะที่ชิชิโอะจะลุกไปล้างจาน เขาก็หยุดลงทันที
“เดี๋ยว!! เดี๋ยวฉันล้างเอง”จิฮิโระก็รีบเข้าไปหยุดไม่ให้ชิชิโอะล้างจาน จากนั้นเธอก็พูดว่า “เธอหน่ะไปซ่อมป้ายหอพักได้แล้ว”
ชิชิโอะก็จ้องมองจิฮิโระแล้วจึงพยักหน้า “ขอบคุณครับ พี่จิฮิโระ”
“ไปซะสิ”
จิฮิโระก็โบกมือไล่เขาในขณะที่เฝ้าดูชิชิโอะเดินออกไปจากห้องครัวแล้วจากนั้นเธอก็ส่ายหัวออกมา เธอนั้นคิดว่าถ้าหากว่าเขาเกิดเร็วกว่านี้สัก 15 ปีและไม่ใช่หลานชายของเธอหล่ะก็ เธอก็จะ….
--
ชิชิโอะนั้นได้เดินไปที่ห้องเก็บของที่จิฮิโระพูดถึงเมื่อครู่ มันมืดมากจนเขามองไม่ค่อยเห็นอะไรแต่เมื่อเขาเข้าไปในห้อง เขากลับมองเห็นว่าห้องนี้มีขนาดปประมาร 10 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองฝั่งของห้องนั้นมีชั้นวางของที่มีอุปกรณ์เครื่องมือมากมายที่ใช้ในหลายๆโอกาส
จากนั้นชิชิโอะก็สังเกตเห็นว่ามันมีเครื่องมือทำสวน เขาจึงสงสัยว่าเขาควรจะทำสวนเล็กๆเพื่อปลูกสมุนไพรและผักอย่างเช่นมะเขือเทศดีหรือไม่กัน?
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้รีบร้อนขนาดนั้นซึ่งเขาคิดว่าเอาไว้ทำทีหลังก็ยังไม่สาย
ชิชิโอะก็จ้องมองอปุกรณ์ทำสวนและพบว่าหากว่าเขาจะใช้มันปลูกพืช มันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าสิ่งแรกที่เขาจะต้องทำนั้นคือการหากล่องอุปกรณ์ที่อยู่ในห้องเพื่อเอาไปซ่อมป้ายหอพัก
“น่าจะอันนี้มั่งนะ”
ชิชิโอะก็พบกล่องอุปกรณ์สีฟ้าที่อยู่ในตู้ทางด้านขวาและบนกล่องนี้ก็มีป้ายเขียนว่า ‘กล่องอุปกรณ์’ติดอยู่ จากนั้นแล้วเขาจึงหยิบมันขึ้นมาอย่างไม่ลังเลแล้วเดินไปที่ทางเข้าหอพัก
--
ชิชิโอะได้เอาเก้าอี้ออกมาวางตรงหน้าทางเข้าหอ เขานั้นยอมรับเลยว่าทัศนียภาพรอบๆหอพักซากุระโซวนั้นมันช่างเยี่ยมมากเพราะรอบๆนี้มีแม่บ้านๆสวยๆมากมายที่กำลังเดินกลับมาจากซื้อข้าวของหรือไม่ก็ยืนคุยกันอยู่เนื่องจากพวกเธอเบื่อจะอยู่บ้าน
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
“อารา~ อารา~…..อรุณสวัสดิจ๊ะ”(อึก Milf จ้า!!!! โอ้ชิททท!!!)
เหล่าแม่บ้านคุณนายแสนสวยหลายคนต่างตกใจจนดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าและเรือนร่างของชิชิโอะ
ชิชิโอะนั้นยอมรับว่าตัวเองนั้นค่อนข้างหล่ออยู่เหมือนกัน(ใบหน้าเหมือนกับแลนสลอตจาก ซีรี่ย์ Fate นะแจ๊ะ ) ส่วนร่างกายของเขานั้นก็ค่อนข้างจะดูดีอยู่เหมือนกัน ซึ่งเขามั่นใจว่าเขานั้นสามารถไปเป็นเด็กเลี้ยงของเศรษฐีนีได้เลยยย
จากนั้นแล้วชิชิโอะก็ได้เอาเก้าอี้มาวางไว้ตรงป้ายหอแล้วจัดการซ่อมป้ายหอพักโดยเมินสายตาที่กำลังมองมาที่เขาของเหล่าคุณนายและสาวๆหลายคนที่เดินผ่านหอพักซากุระโซว ถ้าหากเขาหันไปมองพวกเธอ เขาคงสังเกตเห็นว่าในหมู่พวกคุณนายทั้งหลายนั้นก็มีบางคนที่น้ำลายไหลออกมาจากมุมปากในขณะจ้องมองเขา
แต่โชคดีที่ ชิชิโอะนั้นไม่ได้ทำแบบนั้นเพราะเขากำลังซ่อมป้ายไม้ของหอพักอยู่เนื่องจากตรงมุมด้านบนของป้ายนั้นมีตะปูหลุดออกไป นอกจากนี้เขาก็มองเห็นว่ามีแมวกำลังนั่งอยู่บนกำแพงของหอพักอย่างขี้เกียจในขณะจ้องมองเขาด้วยความสงสัย
เมื่อชิชิโอะติดตะปูลงในป้าย เขาก็รู้สึกเหมือนเขาเคยเห็นสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลยแต่เขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก
“นี่ๆ ดูซิ นี่หอพักซากุระโซวหล่ะ!!”
“จริงหรอ หอพักซากุระโซวในตำนานาที่มีคนนิสัยแปลกๆมารวมตัวกันหน่ะรอ?”
“ใช่ๆ ฉันได้ยินว่าที่นี่มีแต่คนที่มีนิสัยแปลกๆอาศัยอยู่หน่ะ”
ชิชิโอะที่ได้ยินคำพูดของคนเหล่านี้ก็ไม่ได้คิดว่าพวกเขาพูผิดไปเพราะที่นี่มันแหล่งรวมคนประหลาดทั้งนั้น เขาก็เลยไม่ได้คิดมากเท่าไหร่
ปกติแล้ว ผู้หญิงนั้นมักจะเป็นฝ่ายที่ชอบเรื่องซุบซิบนินทากันแต่ดูเหมือนว่าคราวนี้จะเป็นผู้ชายที่ซุบซิบนินทาเรื่องหอพักซากุระโซวเพราะสาวๆส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงนี้ต่างจ้องมองอย่างแรงกล้าไปที่ชิชิโอะที่กำลังตอกตะปูใส่ป้ายไม้ของหอพักในขณะที่พวกเธอกลืนน้ำลายดังเอื้อก
สาวๆพวกนั้นรู้สึกว่าหากพวกเธอได้อยู่ในอ้อมแขนที่ดูแข็งแกร่งอันนั้น ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีมาก
แต่ทันใดนั้นจู่ๆหน้าต่างบนชั้นสองก็ได้ถูกเปิดออก
*เปรี้ยงงง!!!*
#ของอาทิตย์นี้มาแย้ววว #นิยายมีกลุ่มแล้วนะครับบ ตอนนี้ล่าสุดอยู่ตอนที่ 29ครับผม สามารติดต่อได้ที่เพจเฟซเลยจ้า
”