ตอนที่ 2 : ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุใดๆ!
เกรย์ลุกขึ้นยืนอย่างประหม่าจากจุดที่เขานั่ง และค่อยๆเดินไปที่เวที เมื่อเขาไปถึงที่นั่นเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทุกคนที่จ้องมองมาที่เขาอย่างตั้งใจ
"ฟู่ววว"
เกรย์หายใจออกแรงๆพยายามสงบสติอารมณ์
"ก้าวไปข้างหน้า และวางมือของนายลงบนศิลา"
ผู้อาวุโสที่รับผิดชอบมองไปที่เกรย์ด้วยรอยยิ้ม และบอกให้เขาวางมือลงบนสิ่งที่ใช้ในการทดสอบ
เกรย์สังเกตศิลาอย่างระมัดระวัง มันเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากเพราะมันเป็นสิ่งที่ใช้ในการตรวจสอบธาตุที่ผู้คนเข้ากันได้ และมันยังตรวจสอบระดับความสามารถของพวกเขาได้อีกด้วย
เกรย์สงบสติอารมณ์ของเขาและก้าวไปข้างหน้า เขามองไปที่ศิลาหินก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆเบาๆและวางมือลงบนศิลานั้น เขารู้สึกเย็นเล็กน้อยในตอนที่เขาวางมือลงไป
ทันทีที่เขาวางมือลงบนศิลาหินเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างเคลื่อนออกมาและผ่านมือของเขาเข้าไปในร่างกายของเขา เกรย์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับความรู้สึกแบบนี้ สัญชาตญาณของเขาบอกให้เขาเอามือออกจากหิน
“อย่าขยับเดี๋ยวมันก็เสร็จแล้ว”
ราวกับว่าผู้อาวุโสสามารถอ่านความคิดของเขาได้ ผู้อาวุโสรีบกระซิบบอกเกรย์ก่อนที่เขาจะเอามือออกจากก้อนหิน
เกรย์หยุดตัวเองและปล่อยให้พลังงานแปลกประหลาดไหลเวียนเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างอิสระ
พลังงานเคลื่อนที่จากมือของเขาก่อนจะวนไปรอบๆทุกส่วนของร่างกาย หลังจากวนไปมา 3 รอบ เกรย์ก็รู้สึกได้ถึงพลังงานที่ออกจากร่างกายในลักษณะเดียวกับในตอนที่มันเข้าไป
เมื่อพลังงานออกจากร่างกายเกรย์ก็รู้สึกโล่งในที่สุด ผู้อาวุโสมองไปที่เกรย์สักพักก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ศิลาหิน เขาจ้องมองมันอย่างลึกซึ้งก่อนจะมองไปที่เกรย์
"วางมือของนายลงอีกครั้ง"
ผู้อาวุโสพูดกับเกรย์
เกรย์ประหลาดใจกับสิ่งที่ผู้อาวุโสกำลังทำ เด็กๆทุกคนที่ทำแบบทดสอบก่อนหน้าเขาทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและผู้อาวุโสจะประกาศผลทันที แต่ในกรณีของเขาทำไมถึงมีความแตกต่างละ?
เขาไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งได้ดังนั้นเขาจึงวางมือลงบนศิลาอีกครั้ง ผู้ชมค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นเกรย์วางมือบนศิลาหินอีกครั้ง
"เกิดอะไรขึ้นทำไมเด็กคนนั้นถึงทำอีกครั้งละ"
“ศิลามีปัญหาหรือเปล่า”
ผู้ปกครองบางคนที่พาลูกๆมาที่นั่นเริ่มมีข้อสงสัยที่เห็นเกรย์วางมือบนศิลาแล้วทำการทดสอบอีกครั้ง
มาร์ธาเฝ้าดูโดยที่เธอไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมาเหมือนเธอรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว แม้ว่าลึกๆแล้วเธอจะรู้สึกเศร้า แต่ก็ไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้ ‘เขา’ บอกให้เธอพาเกรย์มาทดสอบและต้องทำให้แน่ใจว่าเกรย์ได้ทดสอบแล้ว และเธอก็ปฏิเสธเขาไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงทำเช่นนี้
กระบวนการนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งและผู้อาวุโสก็เข้าไปที่ศิลาเพื่อมองดูว่าเกิดอะไรขึ้น เขามองไปที่ศิลาจากนั้นเขาก็หันหน้าไปหาเกรย์ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
ความเห็นอกเห็นใจปรากฏขึ้นในดวงตาของผู้อาวุโสในขณะที่เขามองไปที่เกรย์
เกรย์ผงะกับวิธีที่ผู้อาวุโสมองมาที่เขา ทันใดนั้นเขาก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
“ผู้อาวุโสผลเป็นยังไงหรอครับ”
เกรย์ถามด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย
"เกรย์ ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุใดๆเลย"
ผู้อาวุโสประกาศผลเสียงดัง
ตู้มมม
มันเหมือนกับมีสายฟ้าฟาดลงมาที่เกรย์ เขายืนอยู่ที่นั่นด้วยความตะลึงงันและจ้องมองไปที่ผู้ผู้อาวุโส
"ไม่...ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุใดๆเลย..."
“เขาจะไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุเลยได้ยังไงกัน”
“นี่....นี่มันเป็นไปได้ยังไง”
"ฉันเคยได้ยินว่ามีคนที่ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุใดๆเลย แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นมาก่อน"
"มีคนที่ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุไหนเลยจริงๆงั้นหรอ..."
“ช่างเป็นเด็กที่น่าเวทนาจริงๆ เขาจะอยู่ได้ยังไงถ้าเขาไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุไหนเลย”
“เขาทำให้พวกเราเสียเวลาเปล่า ฉันก็คิดว่าเขามีอะไรที่พิเศษในตอนที่ผู้อาวุโสบอกให้เขาทำการทดสอบอีกครั้ง ไม่นึกว่าเขาจะไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุสักธาตุเลยด้วยซ้ำ”
เกรย์สามารถได้ยินเสียงผู้คนมากมายที่กำลังพูดคุยกันอยู่ข้างๆเวที บางคนดูหมิ่นเกรย์และต่อว่าเขาอย่างเจ็บปวด บางคนต้องการที่จะเตะให้เขาล้มลงในตอนที่เขาเดินลงมา
"เฮ้อ หวังว่าเขาจะไม่รู้สึกแย่มากนะ"
มาร์ธาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
เกรย์ยืนนิ่งท่ามกลางเสียงรบกวนทั้งหมดโดยที่เขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลย แต่มีคำหนึ่งที่ดังก้องอยู่ในหัวของเขาในขณะนี้
'ทำไม? ทำไมกัน?'
ตัวแทนมองไปที่เด็กชายบนเวทีและรู้สึกเศร้ากับเขา แต่เนื่องจากเขาเป็นคนที่ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุใดๆเลย เขาจึงไม่ได้มีประโยชน์กับพวกตัวแทนมากนัก ตัวแทนมองไปที่ผู้อาวุโสที่รับผิดชอบการทดสอบและส่งสัญญาณให้เขาดำเนินการทดสอบต่อไป พวกเขาต้องการให้การทดสอบสิ้นสุดลงเพราะพวกเขาต้องการรู้การตัดสินใจของโจนัส
“ทำการทดสอบต่อเถอะ เราไม่ได้มีเวลาทั้งวัน”
ตัวแทนของสถาบันสตาร์ไลท์ กระตุ้นให้ผู้อาวุโสดำเนินการทดสอบต่อไป
เนื่องจากเกรย์ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุใดๆ ดังนั้นเขาก็ไม่ต่างจากคนพิการ
“เจ้าหนูอย่ารู้สึกแย่ไปเลย เธออาจจะเป็นคนที่พลังตื่นขึ้นช้ากว่าปกติก็ได้” ตัวแทนของสถาบันลูน่าพยายามปลอบใจเกรย์ แม้ว่าจะไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนักที่ตัวแทนจะปลอบโยนเด็กที่เข้ามาทดสอบ แต่ก็มีหลายครั้งที่เกิดขึ้น แต่โดยปกติแล้วแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย
เกรย์มองไปที่ตัวแทน เขาไม่สามารถตอบกลับพวกเขาได้เลย เนื่องจากตอนนี้เกรย์ไม่สามารถประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เขาเดินลงจากเวทีราวกับซอมบี้ที่ไร้ชีวิต เขาทำได้แค่เดินตรงไปและลืมที่จะกลับไปที่ที่นั่งของเขาด้วยซ้ำ
"เด็กคนนี้"
มาร์ธาเดินตามเขาไปอย่างเป็นห่วง เธอรู้ว่าเกรย์ร่าเริงมากและสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อเขาอย่างแน่นอน แต่เธอก็รู้ว่าเขาจะสามารถเดินออกจากความมืดมิดนี้ได้เมื่อเวลาผ่านไป
"ต่อไป..."
ผู้อาวุโสดำเนินการทดสอบต่อไป และความกระตือรือร้นของทุกคนก็เริ่มขึ้นทันที เนื่องจากโศกนาฏกรรมไม่ได้เกิดขึ้นกับพวกเขาพวกเขา พวกเขาจึงไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับความเศร้าโศกที่เกิดขึ้น
โจนัสมองเงาที่เลือนหายไปของเกรย์โดยไม่มีอารมณ์ใดๆ เขาไม่รู้สึกอะไรเลย ถึงแม้เกรย์จะมีความสัมพันธ์กับธาตุอะไรนั่นก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเลย เพราะเขามีความสัมพันธ์ธาตุระดับสีม่วง ในตอนเด็กเขาตั้งเป้าหมายไว้สูงมากและตอนนี้สิ่งต่างๆก็เริ่มเป็นไปตามที่เขาคิดไว้แล้ว
การทดสอบดำเนินไปตามปกติและในไม่ช้ามันก็จบลง หลังจากการทดสอบเสร็จสิ้นโจนัสก็ไปหาตัวแทนเพื่อบอกการตัดสินใจของพวกเขา เขาเข้าร่วมกับสถาบันสตาร์ไลท์เนื่องจากสถาบันนี้ได้รับการยกย่องต่อสาธารณชนในฐานะผู้นำของสหภาพสถาบัน ในความคิดเห็นของสาธารณชนสถาบันสตาร์ไลท์เป็นที่รู้จักในฐานะสถาบันที่แข็งแกร่งที่สุด และโจนัสต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเขาเอง
มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นในการทดสอบในวันนี้ ประการแรกคนที่มีความสามารถระดับสีม่วงปรากฏขึ้น จากนั้นบุคคลที่ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุเลยก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นเดียวกัน ข่าวของสิ่งที่เกิดขึ้นในการทดสอบแพร่กระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองได้ยินเรื่องของโจนัสพวกเขาก็ตกใจกับความจริงที่ว่าเขามีความสัมพันธ์กับธาตุระดับสีม่วง
แต่โจนัสไม่ใช่คนเดียวที่มีชื่อเสียงหลังจากการทดสอบ ชื่อของเกรย์ก็แพร่หลายไปทั่วเนื่องจากเขาเป็นคนที่ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุใดๆเลย
ต่อมาก็มีการประกาศว่าโจนัสเข้าร่วมกับสถาบันสตาร์ไลท์ และออกไปกับตัวแทนของสถาบันทันที
ก๊อกก๊อก
"เกรย์ แม่เข้าไปได้ไหม"
มาร์ธาเคาะประตูห้องของเกรย์ เธอรออยู่หน้าประตูแต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ เธอเปิดประตู และเดินเข้าไป เธอเห็นเกรย์นอนอยู่บนเตียงและจ้องมองไปที่เพดาน
"เกรย์"
มาร์ธาเรียกออกมาเบาๆ
"ทำไม ทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับผม"
เกรย์ถามด้วยเสียงที่คดเคี้ยว
มาร์ธารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นลูกชายเป็นแบบนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเพราะในโลกนี้ผู้ควบคุมธาตุถือครองอำนาจสูงสุด การไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุใดๆมันเหมือนกับการเป็นคนพิการ
"แม่ไม่รู้ลูกรัก แต่ลูกต้องเข้มแข็ง ลูกจำสิ่งที่พ่อพูดกับลูกก่อนจากไปได้ใช่ไหม?"
มาร์ธาพูดในขณะที่ลูบไล้แก้มของเกรย์
"ใช่ เขาบอกว่าผมไม่ควรยอมแพ้ต่อตัวเองแม้ว่าโลกจะเป็นยังไงก็ตาม เขายังบอกว่าผมควรยืนหยัดและเข้มแข็งอยู่เสมอ"
เกรย์ตอบแต่ไม่มีความหนักแน่นในน้ำเสียงของเขาเลย
“แม่รู้ว่าลูกชายของแม่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
มาร์ธามองไปที่เกรย์ด้วยความรัก
เกรย์รู้ว่าแม่ของเขาพยายามทำให้เขามีกำลังใจ แต่ถึงกระนั้นเมื่อใดก็ตามที่เขานึกถึงว่าเขาจะต้องอยู่โดยไม่มีธาตุใดๆเลย เขาก็จะรู้สึกเศร้ามากขึ้น
“เกรย์จำคำพูดของแม่ไว้นะ สิ่งที่ทำให้ลูกแตกต่างนั้นจะทำให้ลูกพิเศษ ลูกจะไม่เหมือนใครในโลกนี้อย่างแน่นอน แม่ไม่ได้พูดเพื่อเป็นกำลังใจให้ลูก แต่ที่แม่พูดแบบนี้เพราะแม่รู้ว่าลูกที่แม่ให้กำเนิดไม่ได้มีชีวิตแบบธรรมดาๆ ลูกจะได้ครอบครองสิ่งที่เหนือยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด จะมีเพียงลูกเท่านั้นที่จะได้อยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้ และจะไม่มีใครทัดเทียมลูกได้อย่างแน่นอน”
มาร์ธามองลูกชายของเธอ และพูดด้วยความจริงจัง
'สิ่งที่ทำให้ลูกแตกต่างนั้นจะทำให้ลูกพิเศษ' คำพูดนั้นยังคงย้ำอยู่ในหัวของเกรย์ และเขาก็เริ่มเห็นแสงสว่างในความมืดที่เขาตกลงไป แม้มันจะเป็นเพียงแสงสว่างที่เล็กน้อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เขาออกจากสถานะปัจจุบันของเขาได้
มาร์ธามีความสุขขึ้นเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าเกรย์มีปฏิกิริยากับคำพูดของเธอ
เธอเดินไปที่ห้องของเธอและทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วร้องไห้ เธอเข้มแข็งเมื่อเธออยู่ต่อหน้าลูกชายของเธอเท่านั้น เพราะเธอต้องการให้เขาดึงตัวเองมาอยู่ด้วยกันเร็วๆ
“ฉันรู้ว่าคุณบอกว่ามันเป็นอนาคตของเขา แต่ทำไมคุณต้องทำให้เขาผ่านเรื่องแบบนี้ด้วย”
เธอพูดอย่างโกรธเคืองขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่มีแม่คนไหนอยากเห็นลูกหดหู่ เธอรู้สึกแย่ที่เห็นปฏิกิริยาของเขาในตอนที่ผู้อาวุโสประกาศผล
************
ที่ไหนสักแห่งที่ไกลออกไป
"เฮ้อ ตอนนี้เขาต้องอายุครบ 12 ปีแล้วแน่ๆเวลาผ่านไปไวจริงๆ ฉันสงสัยว่าเขาจะทำยังไงหลังจากที่เขาเจอฉัน หวังว่ามาร์ธาจะสามารถพูดให้เขาหายจากอารมณ์ไม่ดีได้นะ ฉันคิดถึงพวกเขาจัง”
นั่นเป็นเสียงพูดที่เต็มไปด้วยความปรารถนา