WS บทที่ 62 กองโจรสุดแปลก PART 2
“ด้วยเกียรติของอัศวิน!!”
“ด้วยเกียรติของอัศวิน!!!”
กองอัศวินเกราะเหล็กที่นำโดยเลห์แมนได้พุ่งเข้าไปโจมตี พวกอัศวินพุ่งเข้าใส่กองโจรพร้อมตะโกนเสียงดังออกมา
คลื่นอันบ้าคลั่งของอัศวินได้เข้าปะทะกับกองโจร ได้ทำให้โจรจำนวนมากกระเด็นขึ้นไปในอากาศ แม้พวกโจรจะมีจำนวนที่มากกว่าแต่พวกโจรต้องหวาดกลัวกับความบ้าคลั่งนี้ พวกโจรได้วิ่งหนีทันทีเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองสู้ต่อไม่ได้ บางส่วนที่หนีไปไม่ได้ต่างกรีดร้องอย่างอนาถา บ้างก็สิ้นชีพอยู่ภายใต้กีบม้า
“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าพวกขุนนางจะกล้าบุกเข้าใส่แบบนี้”
หัวหน้ากลุ่มโจรจ้องมองด้วยความโกรธ เนื่องจากได้เห็นเหล่าพี่น้องถูกฆ่าตายไปทีละคน
ดังนั้นผู้นำทั้งสองจึงตัดสอนใจนำกลุ่มโจรที่สวมชุดเกราะกว่าห้าสิบนายบุกเข้าไปโจมตีเลห์แมนกับเหล่าอัศวินเกราะเหล็ก
ทางด้านเลห์แมนเขามองกลุ่มที่บุกเข้ามาอย่างประหลาดใจแต่เข้าก็ไม่ประมาท เขาสั่งให้อัศวินเคลื่อนขบวนเข้าสู้รูปแบบจู่โจมและพุ่งเข้าหาพวกเขา
“คลื่นอัคคี!!”
ตอนนี้เลห์แมนได้มาถึงจุดสูงสุดของนักดาบธาตุระดับสองแล้ว อีกไม่นานเขาจะเป็นนักดาบธาตุระดับสามแล้ว นอกจากนี้เขายังมีร่างกายที่แข็งแกร่งเหนือธรรมดาดังนั้นพลังของเขาในตอนนี้ใกล้เคียงกับนักดาบธาตุระดับสี่
ตอนนี้เขาสามารถจัดการพวกนักดาบธาตุระดับสองได้อย่างสบาย ๆ
แต่อย่างไรก็ตามหั;หน้ากลุ่มโจรทั้งสองกลับสามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดายโดยอาศัยเพียงแค่พลังกายของพวกเขา
นอกจากเขาแล้ว ทางกลุ่มอัศวินเกราะเหล็กก็ไม่สามารถจัดการพวกโจรที่สวมชุดเกราะได้ทำให้พวกเขาต้องถอยร่น
“เดี๋ยวนะ มีบางอย่างผิดปกติ”
เมอร์ลินที่สังเกตการณ์จากระยะไกลมองเห็นความผิดปกติทันทีที่กลุ่มโจรสวมชุดเกราะกว่าห้าสิบคนบุกเข้ามาในสนามรบ
แม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นนักดาบธาตุแต่พวกเขามีพละกำลังที่ใกล้เคียงกับนักดาบธาตุระดับหนึ่งเลย แม้พวกเขาจะไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างอัศวินแต่ด้วยพลังของพวกเขาก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการฝ่ายตรงข้ามได้
แม้แต่กองอัศวินเกราะเหล็กที่ไร้พ่ายก็ยังเสียเปรียบหลังจากที่ได้เผชิญหน้ากับกลุ่มโจรที่พิเศษเหล่านี้
ส่วนทางเลห์แมน เมอร์ลินไม่ได้กังวลเรื่องของเขามากนัก เขารู้ความสามารถของพ่อเขาดี หากเขาเอาจริงโจรสองคนนั้นไม่มีทางสู่เขาได้เลย
ตอนนี้เขากังวลเรื่องของอัศวินเกราะเหล็กมากกว่า หากเสียพวกเขาไปจำนวนมากย่อมส่งผลเสียแน่นอน พวกเขาเป็นเลือดและหยาดเหงื่อของเลห์แมนที่ฟูมฟักมานานกว่าสิบปี การสูญเสียใครไปคนใดคนหนึ่งมันทำให้พ่อของเขาปวดใจเกินจะทนไหว
ดังนั้นเมอร์ลินจึงเปิดฉากโจมตี
*ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ*
กลุ่มของลูกไฟได้ยิงออกไป พวกมันได้ถูกพวกโจรอย่างแม่นยำ เนื่องจากมีอัศวินเกราะเหล็กอยู่ใกล้ ๆ เขาจึงไม่ได้จุดชนวนพวกมันให้ระเบิด ดังนั้นเขาจึงสามารถกำจัดได้ทีละคน
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถจัดการพวกโจรห้าคนได้ในพริบตา ตอนนี้พลังจิตของเขาดีขึ้นมาก เขาสามารถควบคุมเวทมนต์ได้ดั่งใจนึก ตราบใดที่เขาไม่อยู่ไกลเกินหนึ่งร้อยเมตร เขาก็สามารถเล็งเข้าเป้าได้แม่นราวกับจับวาง
“แย่แล้ว พวกมันมีนักเวทย์ด้วย หนีเร็ว!!”
“รีบรายงานให้บอสรู้ว่าพวกมันมีนักเวทย์ด้วย!!”
ก่อนหน้านี้หัวหน้าโจรทั้งสองได้รับมือการโจมตีของเลห์แมนอย่างยากลำบาก พวกเขาต้องตั้งสมาธิให้ดี หากพลาดแม้แต่นิดเดียว ร่างของพวกเขาได้ขาดเป็นสองท่อนแน่นอน
ในระหว่างนั้น พวกเขาได้เห็นการปรากฏตัวของเมอร์ลิน นั่นทำให้พวกเขาทิ้งจิตวิญญาณการต่อสู้ไปทันที พวกเขาไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว
พวกเขานั้นได้ออกหากินตามบริเวณชายแดนอาณาจักรแบล็กมูนกับอาณาจักรแห่งแสง จึงทำให้พวกเขารู้จักพลังอันลึกลับของนักเวทย์เป็นอย่างดี พวกเขาไม่มีทางเอาชนะนักเวทย์ได้เลย
แต่ถึงพวกเขาอยากจะหนียังไงแต่มันก็สายเกินไปที่คิดจะหนีเอาตอนนี้
“แช่แข็ง!!”
เมอร์ลินที่เพ่งเล็งโจรสองคนนี้อยู่ตั้งนาน เมื่อเห็นว่าพวกเขาจะหนี เขาจึงร่ายแช่แข็งใส่พวกเขาทันที
*ครึ่ก ครึ่ก*
เกล็ดน้ำแข็งได้เกาะบนร่างของหัวหน้าโจรทั้งสองโดยตรง แม้พวกเขาจะมีพละกำลังเทียบเท่านักดาบธาตุระดับสองแต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลุดรอดจากคาถาแช่แข็งของเมอร์ลินได้
*ฉัวะ*
เลห์แมนได้ตรงปรี่เข้ามาและฟันหัวหน้าโจรคนหนึ่งขาดออกเป็นสองซีก เลือดสด ๆ ได้พุ่งกระท้องฟ้าการจายไปทั่วบริเวณ
เมอร์ลินเห็นว่าเลห์แมนกำลังจะฆ่าหัวหน้าโจรอีกคน เขาจึงรีบเข้ามาห้ามไว้
“ท่านพ่ออย่าพึ่งฆ่าเขา เรายังสามารถใช้ประโยชน์จากเขาได้”
เลห์แมนพยักหน้า ก่อนจะกลับไปจัดการกองโจรที่เหลือซึ่งตอนนี้ได้แตกพ่ายหนีไปแล้ว ภายหลังจากหัวหน้าได้ถูกสังหาร
ภายหลังจากที่จัดการพวกโจรเสร็จแล้ว เลห์แมนก็สั่งให้อัศวินเกราะเหล็กตั้งแถวและให้ทำการนับจำนวน
ดูเหมือนว่าในศึกครั้งนี้จะสูญเสียอัศวินเกราะเหล็กไป 15นาย จากยอดเดิมก่อนหน้านี้มีอัศวินเหราะเหล็กอยู่ 185นาย ตอนนี้ลดลงเหลือ 170นาย
นี่เป็นการสูญเสียอย่างมากสำหรับการรับมือการบุกจู่โจมของพวกโจรเพียงแค่ครั้งเดียว
สีหน้าของเลห์แมนได้ดำมืด เขาหันมามองหัวหน้าโจรอย่างดุร้ายราวกับสัตว์ป่าที่พร้อมจะกระชากคอหอยเหยื่อได้ทุกเมื่อ นั่นทำให้หัวโจรตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
ดังนั้นเขาจึงหันมามองเมอร์ลิน เขาพูดด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนก
“ท่านพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ท่านต้องการจะถามอะไรจากผมเหรอครับ?”
หัวหน้าโจรรู้ดีว่าคนเดียวที่สามารถปล่อยให้เขามีชีวิตรอดต่อไปได้คือนักเวทย์ที่ลึกลับและทรงพลังที่อยู่เบื้องหน้าเขา