182 - ในอดีต
182 - ในอดีต
ร่างกายของสือฮ่าวสั่นสะท้านอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เป็นเพราะทุกสิ่งที่เขาประสบนั้นแปลกประหลาดเกินไปยากที่เขาจะเชื่อและยอมรับ!
คนอื่นๆที่อยู่ที่นี่ต่างบอกว่าเขาตายไปแล้วตอนนี้ สิ่งที่เหลืออยู่ตรงนี้เป็นเพียงจิตวิญญาณที่ไม่ยอมดับสูญ แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่านี่คือความจริงแต่ก็อดที่จะหวาดกลัวไม่ได้
สือฮ่าวยื่นมือออกไปกระดูกของเขาปลดปล่อยเสียง ‘กุกกัก’ เขาอ้าปากออกเสียงกรามของเขาชัดเจนว่าเป็นเสียงกระดูกไม่มีเนื้อหนังห่อหุ้ม
เขารีบวิ่งออกจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว แต่พลังแห่งความโกลาหลแผ่กระจายออกมาปกคลุมทุกที่ เสียงร้องไห้ยังคงดังไม่หยุด
ตอนนี้เขาสามารถอนุมานได้อย่างคร่าวๆ แม้ว่ามันจะยังคงพร่ามัวมาก แต่สือฮ่าวก็มั่นใจแล้วว่าคนเหล่านี้เป็นสหายเก่าที่เขาคุ้นเคยอย่างแน่นอน
“ฮวงพี่น้องของข้า วิญญาณของเจ้ากลับมาแล้ว! ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าสามารถกลืนกินอดีตปัจจุบันและอนาคตสายน้ำแห่งเวลาไม่มีคุณค่าความหมายต่อเจ้า จงตื่นขึ้นเถิดพี่น้องข้า…”
เซียนชราร่างอ้วนท้วนคนหนึ่งเดินตามหลังเขามาพร้อมกับรำไห้คร่ำครวญไปด้วย เสื้อคลุมเต๋าบนร่างกายของเขาถักทอจากทองคำเซียนหลายประเภท นี่เป็นอาภรณ์ล้ำค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ตอนนี้มันขาดรุ่งริ่งมีร่องรอยเปรอะเปื้อนของเลือดอยู่เต็มไปหมด
เห็นได้ชัดว่าเขาประสบกับการต่อสู้นองเลือดครั้งใหญ่ มิฉะนั้นชุดเกราะระดับทองคำเซียนจะถูกทำลายได้อย่างไร?
“ตื่นขึ้นมาเถิดฮวงผู้ยิ่งใหญ่ ในดินแดนเซียนมีชื่อของเจ้าทิ้งไว้เบื้องหลัง ตอนนี้เหล่าสาวกทั้งหลายยังคงสวดวิงวอนด้วยชื่อของเจ้า พวกเรายังจดจำกระบี่เล่มนั้นที่ตัดผ่านกาลเวลาไม่รู้จบได้เสมอ ตื่นขึ้นมาเถิดพี่น้องข้า?”
แม้ว่านี่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไม่สามารถจินตนาการได้ เขามาพร้อมกับพลังเซียนที่อุดมสมบูรณ์อย่างที่สือฮ่าวไม่เคยพบเห็นมาก่อนในตลอดชีวิตนี้ แต่เขาก็ยังคงสะอึกสะอื้นกล่าวไม่เป็นภาษา
“อู๋หวู่…”
เสียงคร่ำครวญดังออกไปถึงสวรรค์ทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกเศร้าโศกเสียใจตามไปด้วย!
“ตอนนี้วิญญาณเจ้ากลับมาแล้ว อย่าหนีอีกเลยต่อให้ค้นทั่วทุกมุมโลกข้าก็จะหาร่างกายของเจ้ากลับคืนมา”
สือฮ่าวสั่นสะท้านจากภายใน เขารู้ตัวดีว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่คนตายอย่างที่เซียนคนนั้นพร่ำเพ้อ! อย่างไรก็ตามเขารู้สึกเศร้าโศกในใจเล็กน้อยเพราะเขารู้แล้วว่าเซียนชราคนนั้นเป็นใคร
“ท่านอาจารย์สุสานนี้อันตรายมากเกินไปการที่พวกเราขุดต่อไปเรื่อยๆอย่างนี้ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา ท่านผู้นั้นนั้นหายสาบสูญไปนานเกินไปต่อให้เราพลิกแผ่นดินที่นี่ขึ้นมาก็ไม่แน่ว่าจะหาเขาพบ” เสียงอีกเสียงดังขึ้นมา
หลังจากที่สือฮ่าวได้ยินสิ่งนี้เขาก็พูดไม่ออก หากมีแค่เพียงเซียนคนนั้นเขาก็ยังพอจะทำใจได้ แต่ตอนนี้มีคนปรากฏออกมาอีกคนนึงแล้ว
“การเปลี่ยนแปลงของสวรรค์ทำให้แม่น้ำแห่งกาลเวลาที่ไหลมาอย่างยาวนานได้รับความกระทบกระเทือนจนเบี่ยงเบน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสรับรู้ เฉพาะผู้ที่มีความแข็งแกร่งเขย่าโลกเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้!” หญิงสาวที่เป็นอัศวินแห่งความตายคนนั้นกล่าวกับสือฮ่าว
“อาจารย์ถึงเวลาต้องไปแล้วศัตรูกำลังจะมาถึง เราไม่สามารถจมอยู่กับอดีตได้อีกต่อไป” เสียงนั้นกล่าว.
“เจ้าจะเข้าใจอะไร? พี่น้องของข้ายังมีชีวิตอยู่เราเพียงต้องหาเขาให้พบเท่านั้น ... เจ้าเข้าใจยุคที่มืดมนที่สุดของประวัติศาสตร์หรือไม่ เจ้าเข้าใจการปะทะกันของยุคที่ยิ่งใหญ่หลายยุคหรือไม่? หมกมุ่นอยู่กับอดีต?..หมกมุ่นกับตูดข้านี่!” เซียนผู้นี้ถูกล้อมรอบไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลเขาแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ อย่างไรก็ตามเมื่อเขากล่าวกับศิษย์ของตัวเองนั้นเต็มไปด้วยความเลอะเลือนและไร้สามารถ
“ อาจารย์ท่านก็ไม่รู้เรื่องนั้นเหมือนกันใช่ไหม? สำหรับช่วงเวลานั้นมันวุ่นวายเกินไปไม่มีใครจากคนรุ่นหลังสามารถพูดได้ว่าเกิดอะไรขึ้นมีเพียงข่าวลือเล็กน้อยที่เล็ดรอดออกมา
ท่านต้องเข้าใจว่ามันย่อมเต็มไปด้วยคำพูดเพ้อเจ้อมากมาย มีข่าวลือทุกประเภทตั้งแต่คนที่สามารถเลี้ยงหงส์เพลิงไว้และรับประทานไข่ของพวกมันทุกเช้า
หรือการปะทะกันของยุคที่ยิ่งใหญ่หลายยุคสมัยจนซากศพของผู้อมตะลอยเต็มท้องฟ้า
หรือแม้แต่ราชาอมตะที่ถูกปิดผนึกอยู่ในโลงถูกปลดปล่อยออกมาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดโบราณที่หลับอยู่ในหม้อหลอมเซียนเรื่องพวกนี้เพ้อเจ้อทั้งเพ”
ลูกศิษย์คนนั้นพูดออกมายาวเหยียด หลังจากหยุดพักหายใจเล็กน้อยเขาพูดต่อว่า“คนเหล่านั้นสร้างเรื่องขึ้นมาลอยๆความจริงเป็นเช่นไรพวกเขาก็ไม่รู้เลย? ยิ่งไปกว่านั้นที่ไร้สาระที่สุดก็คือที่ท่านบอกว่าเรื่องพวกนี้เป็นแค่เกร็ดเล็กๆน้อยๆอยู่ในประวัติศาสตร์ นี่ไม่ไร้สาระกว่าร้อยเท่าพันเท่าหรือ? ข้า…ไม่มีทางจินตนาการได้จริงๆ ข้าไม่กล้าจินตนาการเลย!”
“เจ้ากล้าสงสัยในตัวชายชราคนนี้ ไอ้เด็กเนรคุณ!” เซียนอ้วนตบศีรษะของศิษย์คนนี้ทันที
“มีตำนานมากมาย แต่มีเพียงสามโลงศพเทพเท่านั้นที่เป็นรูปธรรม นอกจากอันหลานและซือถูที่มีอยู่จริงแล้ว อย่างอื่นขาดการพิสูจน์ไม่สามารถยืนยันได้!” ศิษย์คนนั้นยังคงดื้อรั้น
“ข้าขอบอกเจ้าไว้ตรงนี้เลยว่าช่วงเวลาที่แท้จริงของประวัติศาสตร์ในตอนนั้นถึงไม่ได้บ้าคลั่งไปกว่านี้ร้อยเท่า แต่ก็มากกว่านี้เป็นสิบๆเท่า ยุคนั้นน่ากลัวกว่าทุกสิ่งที่พวกเจ้าจินตนาการถึง!” เซียนอ้วนคนนั้นถอนหายใจยาว
“ท่านอาจารย์ท่านก็แค่ได้ยินข่าวลือเหมือนกันไม่ใช่ว่าท่านประสบมาด้วยตนเอง เหตุผลอะไรที่ท่านต้องแน่ใจขนาดนี้!” ศิษย์คนนั้นเริ่มไม่มั่นใจ
“ชายชราคนนี้เกิดมาก่อนยุคนั้น สิ่งที่ข้ารู้ยังมากกว่าที่พวกเจ้าคิดไว้ซะอีก!” เซียนชราไม่พอใจอย่างมาก
“อย่างไรก็ตาม อาจารย์อย่าคิดว่าข้าไม่รู้” ด้วยเหตุผลบางอย่างแม้ว่าศิษย์คนนี้จะถูกดุด่า แต่เขาก็ไม่ได้กลัวเซียนอ้วนเลยแม้แต่น้อย
เขาเม้มริมฝีปากพึมพำเบาๆ “ข้าได้ยินเรื่องนี้มานานแล้ว แม้ว่าท่านจะมีอายุขัยข้ามผ่านยุคยิ่งใหญ่มาหลายยุค แต่ตอนนั้นท่านถูกใครบางคนฝังไว้ใต้ดิน ดังนั้นท่านจึงไม่เคยเห็นช่วงเวลาที่มืดมนและวุ่นวายที่สุดเลย”
“ไร้สาระชายชราคนนี้เดินทางผ่านสวรรค์เบื้องบนและปฐพีเบื้องล่างอย่างไร้ขอบเขต ตอนนั้นถึงแม้ว่าข้าจะยังเด็ก แต่ข้าก็เข้าสู่สงครามในทุกๆวัน!” เซียนชราร่างอ้วนเบิกตากว้าง
“ทำไมข้าถึงได้ยินว่าอาจารย์ถูกฝังโดยใครบางคนไว้ใต้พื้นพิภพท่านไม่เคยสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นมาก่อน หลังจากผ่านไปหลายปีเมื่อศัตรูของท่านได้รับชัยชนะและพวกเขาตายไปหมดแล้วท่านถึงสามารถใช้การนอนหลับเพื่อเข้าสู่ดินแดนแห่งความเป็นอมตะ?” ศิษย์คนนี้กล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา
เซียนอ้วนตบหลังศีรษะเขาอีกครั้งและพูดว่า“ชายชราคนนี้สั่นสะเทือนโลกแห่งการบ่มเพาะมานานไม่รู้จบ เจ้ารู้อะไร?”
“จริงหรืออาจารย์? ท่านเป็นคนจากยุคของฮวงผู้ยิ่งใหญ่จริงๆหรือ? ไม่น่าใช่! ต่อให้เป็นความจริงจะมีใครที่สามารถข้ามผ่านยุคอันยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบันนี้ได้เขาไม่ได้หลับไหลมาเหมือนท่านสักหน่อย” ศิษย์คนนั้นปล่อยถอนหายใจเบาๆ
“เจ้าจะเข้าใจอะไร? เจ้าคิดว่าข้าถูกฝังไว้ใต้พิภพจริงๆหรือ? ความจริงก็คือข้าต้องเผชิญกับการเกิดใหม่ไปหลายสิบครั้งในช่วงที่หลับไหลอยู่ ประสบการณ์ของข้ามีมากกว่าทุกคนในโลกนับสิบๆเท่า? หากพูดถึงยุคที่น่ากลัวและมืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ข้ารู้ซึ้งกว่าผู้ใดเพราะว่าข้าเผชิญกับมันด้วยตนเอง!”
หลังจากพูดสิ่งนี้เซียนอ้วนก็ไม่ได้เหม่อลอยอีกต่อไป เขาตบหลังศีรษะของศิษย์อีกครั้งแล้วพูดว่า“ขุดสุสานนี่ต่อไป!”
“เรายังต้องทำต่อ ??” ศิษย์คนนั้นร้องลั่น
“ ขุดทุกอย่างที่อยู่ใต้ท้องฟ้า ชายชราคนนี้ก็บรรลุความเป็นอมตะด้วยวิธีนี้เอง!
“อาจารย์ศัตรูมาแล้ว!” ศิษย์คนนั้นรู้สึกประหม่า
เซียนอ้วนคนนั้นยับยั้งความเหลาะแหละและหัวเราะด้วยเสียงอันดัง
เขามองเข้าไปที่เส้นขอบฟ้า “เตรียมพร้อมต่อสู้!”
"ตกลง! เราเสี่ยงกับพวกมันจนถึงที่สุดเถอะ!”ศิษย์คนนั้นส่งเสียงคำรามออกมา เป็นเพราะเขาไม่ค่อยเห็นอาจารย์มีความเด็ดขาดเช่นนี้มาก่อน
“แน่นอนเราจะต่อสู้จนถึงที่สุดขุดทุกอย่างที่นี่ให้สะอาด!” เซียนอ้วนกล่าว
"ขุด?"
"แน่นอน! ชายชราคนนี้ประสบความสำเร็จในการขุดค้นทุกสิ่งใต้ท้องฟ้าดังนั้นเราจะขุดต่อไป!” เซียนอ้วนมีสีหน้าแน่วแน่และพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ศิษย์คนนั้นรู้สึกท้อแท้ในทันที แต่เดิมคิดว่าอาจารย์จะต่อสู้อย่างกล้าหาญ
“ไปเราจะเริ่มการโจมตีของเราด้วยการขุดสุสานบรรพบุรุษของพวกมันก่อน!” เซียนอ้วนพาศิษย์ของเขาหายตัวไปจากสถานที่แห่งนี้
ลมกระโชกแรงผ่านมาพลังแห่งความโกลาหลพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง
จากนั้นก็มีกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่บินผ่าท้องฟ้าและหายไปจากสถานที่แห่งนั้นด้วย
ที่ขอบฟ้าสือฮ่าวรู้สึกมึนงง เขายืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไรอยู่นาน นั่นเป็นภาพลวงตาหรือความจริง?
“เฉาอวี่เซิ่ง!” เขาพูดสามคำนี้ เซียนอ้วนคนนั้นคือเฉาอวี่เซิ่งที่อยู่ในวัยชรา?
“สิ่งที่เขาพูดจริงหรือ?” สือฮ่าวกำหมัดแน่น เป็นเพราะสิ่งนี้เป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายเกินไป นี่คือมุมของสถานการณ์หลังจากผ่านไปหลายชั่วอายุคน!
“มันควรจะเป็น…เรื่องจริง!” หญิงสาวกล่าวปีกสีขาวบริสุทธิ์เคลื่อนไหวอยู่ข้างหลังเบาๆ นางยังมองไปในทิศทางที่ร่างนั้นหายไป
“เขาสัมผัสถึงข้าได้แต่ทำไมเขามองไม่เห็นข้า” สือฮ่าวถาม
“การเปลี่ยนแปลงของสวรรค์นั้นซับซ้อนและลึกซึ้งเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่จะทำความเข้าใจอย่างแท้จริง โดยส่วนใหญ่แล้วสถานที่แห่งนี้สามารถเป็นพยานถึงการเปลี่ยนแปลงของสวรรค์ แต่อีกด้านหนึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกันกับเรา” หญิงสาวกล่าว.