สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 44
ตอนที่ 44 สังหาร Diego Carlos
หลังจากจัดการทำให้ผู้หญิงทั้งสองหมดสติไป ลุคก็เริ่มค้นหาปืนและกระสุนเพิ่มเติมจากในร่างที่ทอดกายเป็นศพภายในห้อง
ส่วนใหญ่พวกบอดี้การ์ดที่นอนตายอยู่จะพก M1911 นับตั้งแต่โลกนี้มีคนที่ผลิตปืนชนิดนี้ขึ้นมามันก็แพร่หลายไปทั่วโลก
แต่ทว่าลุคพบว่ามีอยู่คนที่พกปืนแตกต่างจากคนอื่น
คนแรกพกปืน Desert Eagle ในขณะที่อีกคนหนึ่งพกปืน Glock 17
ลุคเก็บ Desert Eagle และ Glock ลงในกระเป๋าใบเล็กที่เขาพบในห้องก่อนจะสะพายกระเป๋าไว้บนหลังของเขา
ส่วนปืนที่เหลือเขาทิ้งไว้ในห้องตามเดิม ลุคหยิบเฉพาะแม๊กกาซีนเท่านั้นที่ใส่ลงในกระเป๋า
จากนั้นลุคก็ก้าวไปที่ประตูและใช้กระจกสะท้อนเงายื่นออกไปนอกประตูเพื่อสำรวจดูว่ามีใครอยู่ด้านนอกหรือไม่
แม้ว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่จะปะทุขึ้นในห้องห้องนี้และประตูห้องเองก็ปิดสนิท
เนื่องจากห้องนี้เก็บเสียงได้ค่อนข้างดีจนน่าตกใจ พวกที่อยู่ข้างนอกจึงไม่ได้สงสัยอะไร
หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอกแล้ว ลุคก็เดินออกจากห้องไป
ลุคหยุดเล็กน้อยในระหว่างที่เขาเดินผ่านแต่ละห้องไปเพื่อหยุดฟังเสียงภายในห้อง
มีอยู่สองห้องจากทั้งหมดแปดห้องที่ถูกมีเสียงดังออกมาจากภายในขณะนี้
แต่เห็นได้ชัดว่าคนในห้องที่กำลังใช้งานอยู่นั้น ทั้งหมดเป็นเพียงพนักงานธรรมดาเท่านั้น ลุคไม่มีความคิดที่จะฆ่าพวกเขา ลุคทำเพียงแค่ข่มขู่พวกเขาเพื่อล้วงข้อมูลต่างของไนท์คลับนี้และรวมถึงสถานที่ที่สำคัญต่างๆ อีกด้วย หลังจากที่ได้ข้อมูลพวกนั้นมาแล้วลุคก็ทำให้พวกพนักงานที่อยู่ภายในห้องหมดสติไป
ถึงแม้ว่าลุคจะปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอดต่อไป ชีวิตของพนักธรรมดาพวกนี้ไม่ได้สำคัญอะไรอยู่แล้ว เพราะถ้าพวกเหล่านักสู้ของพวกคาร์ลอสแฟมิลี่ถูกสังหารไปจนหมด พนักงานทั่วๆ ไปเหล่านี้ก็คงจะถูกนำไปใช้งานโดยองค์กรอาชญากรรมอื่นๆ ต่อไป
เพราะไม่ว่ายังไงคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่สมาชิกหลักของคาร์ลอสแฟมิลี่อยู่ดี
สมาชิกหลักของแฟมิลี่โดยปกติแล้ว คงจะไม่มีทางที่จะทำโอทีอยู่ภายในสำนักงานแบบนี้
หลังจากค้นพื้นที่รอบๆ และพบว่าพื้นที่รอบด้านทั้งหมดเงียบสงบหมดแล้วลุคก็มุ่งหน้าต่อไปไปที่ชั้นสอง
จากข้อมูลที่ลุครวบรวมมา ดิเอโก คาร์ลอส บอสของแก๊งมักใช้เวลาอยู่ในห้องดีลักซ์บนชั้นสาม และเขามักจะถูกห้อมล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดของเขาเช่นกัน
จากข้อมูลที่มีไม่ได้ระบุถึงจำนวนของบอดี้การ์ดทั้งหมดแต่ลุคก็พอจะคาดคะเนได้คร่าวๆ ว่าไม่ต่ำกว่า 10 คนอย่างแน่นอน
ลุคมาถึงชั้นสามอย่างรวดเร็วหลังจากที่ตรวจสอบชั้นที่สองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลุคตรวจสอบทางเดินด้วยกระจกที่เขาพกมาและพบว่ามีกล้องวงจรปิดที่หันหน้าไปตามทางเดินก่อนที่จะถึงประตูห้องที่น่าจะเป็นห้องของ ดิเอโก คาร์ลอส
หลังจากที่เห็นกล้องวงจรปิดแล้วลุคก็เดินย้อนกลับไปที่ชั้นสองและเข้าไปในห้องที่เปิดประตูทิ้งไว้อยู่
จากนั้นลุคเก็บปืนไว้ในซองก่อนจะกระโดดออกไปนอกหน้าต่างแล้วปีนขึ้นไปตามท่อระบายน้ำ
เมื่อลุคปีนขึ้นไปถึงชั้นสาม ลุคต้องข้ามแอร์คอนเดนเซอร์ไปหลายตัวก่อนจะเจอหน้าต่างกระจก
ลุคมองเข้าไปในห้องพบว่าห้องนี้ไร้ซึ่งสัญญาณของสิ่งมีชีวิต
ลุคพยายามเปิดหน้าต่างแต่ทว่าหน้าต่างล็อค
ลุคจึงค้นในกระเป๋าแล้วหยิบเทปออกมาแล้วแปะไปทั่วกระจกหน้าต่าง จากนั้นลุคก็ชกไปที่กระจกหน้าต่างบริเวณใกล้ๆ กับกลอนหน้าต่าง
การทำเช่นนี้อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับลุคด้วยความแข็งแกร่งและความคล่องแคล่วที่มากกว่าคนปกติทั่วไปของเขา ลุคใช้เวลาเพียงแค่สิบวินาทีตั้งแต่การไต่จากชั้น2 มายังห้องบนชั้นถัดไปที่อยู่ใกล้ๆ
หลังจากเข้ามาในห้องลุคไม่ได้เริ่มที่จะเดินไปต่อทันที แต่หยิบกระสุนออกมาสามแม็กจากกระเป๋าและยัดมันเข้าไปที่เอวของเขา
จากนั้นลุควางกระเป๋าลงและเดินไปที่ประตู หลังจากที่ลุคเปิดประตูเข้าไป ลุคเหลือบมองออกไปและเห็นห้องกว้างขนาดประมาณ 200 ตารางเมตรตกแต่งอย่างหรูหรา และมีคนสองสามคนนั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง
ลุคเห็นได้ชัดเจนด้วยสายตาที่ดีเป็นพิเศษของเขา ลุคสามารถระบุตัวคนที่นั่งอยู่ได้ว่าหนึ่งในนั้นคือ ดิเอโก คาร์ลอส และที่เหลือล้วนเป็นสาวๆ ที่บริการดิเอโกอยู่ภายในห้องและส่งเสียหัวเราะคิกคักกันไม่หยุดหย่อน
มีบอดี้การ์ดสองสามคนเฝ้าระวังรอบๆ ห้องและพวกเขาก็ไม่ได้สนใจต่อภาพที่เกิดขึ้นบนโซฟา พวกเขาจะมองไปที่ทางออกของห้องเป็นครั้งคราวเท่านั้น
เมื่อลุคเห็นเช่นนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว ลุคไม่คาดคิดเลยว่าห้องจะใหญ่ขนาดนี้ และรอบข้างของเขาก็ค่อนข้างโล่ง พวกบอดี้การ์ดจะสังเกตเห็นลุคแน่นอนถ้าลุคพยายามเข้าไปในห้อง
ทันใดนั้นมีเสียงตะโกนดังขึ้น ลุคเดาว่ามีคนค้นพบศพที่ชั้นล่างแล้ว
แม้ว่าสมาชิกของแก๊งคาร์ลอสจะไม่ใช่ทหารมืออาชีพ แต่การที่ยามที่เฝ้าห้องน้ำนั้นได้หายไปก็ดูเหมือนว่าเป็นจุดสังเกตุเกินไป ศพไม่มีทางที่จะถูกซ่อนไว้ได้นาน และห้องของการ์ดรักษาความปลอดภัยที่เต็มไปด้วยศพนั้นยิ่งเป็นจุดสังเกตุได้ง่ายมากกว่าเดิม
ลุคหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหยิบปืนกล็อกออกจากซองปืน ไม่ว่าจะอย่างไรกล็อคก็ยังคงเป็นอาวุธปืนที่ลุคคุ้นเคยมากที่สุด
หลังจากนั้นไม่นานวิทยุของบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็มีเสียงตอบกลับมาในที่สุด หลังจากฟังจบแล้วใบหน้าของบอดี้การ์ดก็เคร่งเครียดและตะโกนภาษาเม็กซิกันใส่ดิเอโกอย่างรวดเร็ว
ลุครู้ว่าพวกเขาอาจได้รับแจ้งเรื่องศพที่ชั้นล่าง
ดิเอโกที่กำลังสนุกกับกลุ่มสาวๆ ผู้หญิงก็ตะโกนด้วยสีหน้าอำมหิตทันที มีเส้นเลือดผุดขึ้นมาบนหน้าผากด้วยโกรธเกรี้ยวและกระวนกระวายใจ ในขณะเดียวกันเขาก็โบกมือไปรอบๆ พร้อมออกคำสั่งต่างๆ อย่างรวดเร็ว
ลุคขยับไปด้านหน้าเล็กน้อย ทันใดนั้นประตูบานเลื่อนก็ถูกกำลังเปิดออก
ตอนนี้แหละ !
ลุคยก Glock ขึ้นอย่างรวดเร็วและเขาก็เริ่มยิงด้วยสัญชาตญาณโดยไม่ต้องเล็ง
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง!
เสียงกระสุนปืนดังต่อเนื่องห้านัดดังขึ้นในห้อง
จากนั้นบอดี้การ์ดก็เห็นหัวหน้าแก๊งของพวกเขา ดิเอโก คาร์ลอส พึ่งตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวเมื่อสักครู่ที่ผ่านมามีรูกระสุนสามรูและเลือดออกมาจากร่างกาย หนึ่งนัดในแก้ม อีกหนึ่งนัดที่คอและสุดท้ายที่หน้าอกของเขา
ดิเอโกไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะตะโกนเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงบนโซฟาด้านหลังเขาอย่างอ่อนแรง
บอดี้การ์ดแสดงปฏิกิริยาทันทีที่พวกเขาเอื้อมมือไปหยิบปืนขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่ประตู
สำหรับลุคเขาเคลื่อนที่ต่อทันทีหลังจากที่ยิงเสร็จ ลุคก็เก็บปืนลงในซองและรีบวิ่งไปที่หน้าต่างก่อนที่จะกระโดดออกไปด้านนอก ลุคคว้าที่เครื่องคอนเดนเซอร์ของเครื่องปรับอากาศเพื่อลดความเร็วในการตกของเขา จากนั้นลุคค่อยๆ ถึงที่ชั้นสอง
ลุคเตะกระจกหน้าต่างให้แตกก่อนจะพุ่งเข้าไปที่ด้านใน ลุครีบวิ่งไปที่ประตูและตรวจสอบทางเดินด้วยกระจกก่อนที่จะออกไป
หลังจากนั้นไม่กี่ก้าวลุคก็มาถึงเชิงบันได ลุคยืนพิงมุมบันไดและฟังเสียงที่ชั้นบนพร้อมกับที่มือของลุคก็เอื้อมไปหา Desert Eagle ในกระเป๋าของเขา และเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง
ภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาทีเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นเมื่อคนกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งลงบันได ทันทีที่บอดี้การ์ดสามคนปรากฏตัวขึ้นในสายตา ลุคก็เหนี่ยวไกปืนโดยไม่ลังเลใดๆ
.
.
B_R : ปุกาศ ปุกาศ !!!!!!!!!
ช่วงนี้จะช้าหน่อยนะครับผู้อ่านทั้งหลาย
แต่จะพยายามเร่งให้ได้อ่านกันไวๆ นะครับ
.
.
เรามีเพจแล้วน้าเข้าไป Follow กดถูกใจ พูดคุย ติดตามข่าวสารกันได้น้า ….
https://www.facebook.com/สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ-SDFW-105519611538127