Ep.891 - อาวุธเทวะเลเวล S เผยโฉม
3/4
Ep.891 - อาวุธเทวะเลเวล S เผยโฉม
“แล้วก็ยังมีนี่!” ไป๋หลีหยิบอีกหลายสิ่งออกมา เป็นวัตถุเลเวล S กองพะเนิน ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่า ในหมู่พวกมัน มีแก่นอบิลิตี้ของสัตว์เทวะเลเวล S
ของพวกนี้ นอกเสียจากว่าสัตว์ร้ายในมิติของฉินเฟิงตายลงตามธรรมชาติ หรือสองสัตว์เทวะเลเวล S ประหัตประหารกัน แล้วมีคนโชคดีเก็บกู้มาได้ นอกเหนือจากนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่คนทั่วไปจะได้รับมา
ฉินเฟิงไม่ลังเล หยิบเอารูบิควิเศษออกมา ใส่มีดกษัตริย์ครามเข้าไป
แก่นอบิลิตี้สัตว์เทวะเลเวล S และวัตถุหายากต่างๆ ถูกยัดใส่ลงไปแบบไม่เสียดายมูลค่า มีดกษัตริย์ครามถูกแผดเผา วัตถุคุณภาพสูงเข้ามาแทนที่คุณภาพต่ำ ยกระดับเสร็จสมบูรณ์
มีดกษัตริย์ครามมิใช่อาวุธเทวะที่แข็งแกร่งที่สุด แต่มันคืออาวุธเทวะที่ทนทานมั่นคงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้มีดกษัตริย์ครามจะได้รับการยกระดับต่อเนื่อง และขับสิ่งปนเปื้อนออกมาหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม รากฐานของมันก็ยังคงอยู่
เริ่มจากเลเวล G ยกระดับมาเรื่อยๆ จนในที่สุดมาถึงระดับเลเวล S หลอมรวมไปด้วยวัตถุคุณภาพสูงจากสัตวเทวะ
ปัจจุบันมีดกษัตริย์คราม ยกระดับอีกครั้ง พลังของมันเพิ่มพูนมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า
หึ่ง หึ่ง!
มีดกษัตริย์ครามถูกนำออกจากรูบิควิเศษ ใบมีดไม่มีแสงของอาวุธรูนสมัยใหม่ แต่กลับให้สัมผัสของจังหวะอันเป็นเอกลักษณ์
ไม่เพียงแค่นั้น บริเวณรอบตัวฉินเฟิง คล้ายปรากฏคุณสมบัติของมีดกษัตริย์ครามขึ้น มันเริ่มสั่นสะเทือน จากนั้นรอยแยกมิติหลายแห่งเริ่มผุดออกมา
เปรี้ยง!
เสียงสายฟ้าน่าตกใจดังออกมาจากรอยแยกมิติ ผ่าลงบนมีดกษัตริย์คราม
“นี่มัน ..? หรือว่าจะเป็นทัณฑ์สวรรค์ของอาวุธเทวะ?”
ฉินเฟิงฉุกคิดถึงฉากอันแปลกประหลาดเช่นนี้ได้ ในความเป็นจริงแล้ว ฉินเฟิงเคยได้ยินเฉพาะในตำนานเท่านั้น ว่ากันว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการประดิษฐ์บางคน สามารถรังสรรค์อาวุธเทวะเลเวล S ได้ หลังจากมันเผยโฉมออกมา ก็จะเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ มีลมฝน , ฟ้าร้อง , หิมะ และปรากฏการณ์อื่นๆขึ้น
และตอนนี้ เมื่อมีดกษัตริย์ครามเผยโฉม เห็นได้ชัดว่ามันกำลังเผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน
เพียงแต่ว่า อาวุธเทวะชิ้นอื่นเมื่อถูกรังสรรค์ มันยังไม่มีเจ้านาย แต่ในครั้งนี้ มีดกษัตริย์ครามเมื่อเผยโฉม มันยังคงเชื่อมต่อกับพลังสมาธิของฉินเฟิง ฉินเฟิงโบกมือวูบ มีดกษัตริย์ครามลอยเข้ามาหาเขาทันที
วินาทีต่อมา เสียงฟ้าร้องอึกทึกกังวานขึ้นอีกครั้ง อัสนีบาตฟาดลงบนมีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิง
ขณะนี้ ฉินเฟิงในฐานะเจ้าของมีดกษัตริย์คราม เป็นธรรมดาที่จะไม่ยอมให้มันถูกผ่าฝ่ายเดียว
เบนสายตามองสายฟ้าที่ฟาดตรงเข้ามา ฉินเฟิงตวัดมีดตอบโต้ สายฟ้าฟาดแตกกระจายเป็นเสี่ยงทันที
สายฟ้าเส้นใหญ่กระจายออกจากกัน แตกเป็นเศษประกายไฟเล็กๆ หลอมรวมเข้ากับมีดกษัตริย์คราม แต่กระแสที่ไหลเข้ามาในครั้งนี้ มิใช่พลังแห่งการทำลายล้าง หากแต่เป็นพลังแห่งการถือกำเนิดใหม่
หลังสามารถข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้า พลังของมีดกษัตริย์ครามยกระดับไปอีกขั้น ขอเพียงกวาดคมมีดเล็กน้อย ก็สามารถทำลายรอยแยกมิติรอยๆลงได้
ฟึ่บ! ฝักดาบทะลุพรวด มันไม่สามารถทนทานต่อคมมีดกษัตริย์ครามในปัจจุบันได้อีกต่อไป
“ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ อีกไม่นานฉันคงต้องเดินทางไปยังมิติต้องห้ามสักครั้ง ตามล่าสิ่งมีชีวิตทรงพลังบางชนิด ไม่อย่างนั้น คงไม่มีวัตถุดิบมาทำฝักดาบ!”
ว่าจบ ฉินเฟิงก็หยิบเอาแผ่นหนังของจักรพรรดิมังกรตลบปฐพีออกมา เติมวัสดุชั้นสูงมากมายลงในรูบิควิเศษ สร้างฝักมีดขึ้นใหม่
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีดถูกใส่ลงในฝัก ข้างในฝักมีดก็เริ่มเกิดร่องรอยฉีกขาดอีกครั้ง ด้วยอัตราเร็วในระดับนี้ เกรงว่ามันอาจทนอยู่ได้แค่สามวัน
อย่างไรก็ตาม แค่สามวันก็เพียงพอแล้ว!
…
ตกดึก แม้ยังเป็นช่วงเวลาค่ำคืน แต่ในมือของฉินเฟิงยังคงกุมชิปหุ่นยนต์เอาไว้ อ่านบันทึกกระบวนท่าวรยุทธในการลอบสังหาร แต่ที่ผ่านตาเขาล้วนเป็นทักษะลับเลเวล A และที่แข็งแกร่งที่สุด คงไม่พ้นวิชาตัวเบาเลเวล S
นี่ไม่เหมือนกับวิชาตัวเบาที่ทำให้เกิดความสับสนอย่างทักษะหมื่นภูติ วิชาตัวเบาเลเวล S ภายในชิปนี้ ช่วยในด้านเร่งความเร็ว อาจกล่าวได้ว่ามีอานุภาพสูงลิ่ว เพราะเพียงแค่ใช้มัน ช่วงเวลาราวกับหยุดนิ่ง สามารถเคลื่อนที่ได้ในพริบตา หากมองด้วยตาเปล่า แทบไม่ต่างจากเทคนิคเทเลพอร์ต
“ทักษะก้าวทะลวงมิติ!”
กำลังภายในของฉินเฟิงถ่ายเทไปทั่วร่าง ส่งผลให้กายเขาราวกับเป็นหุ่นยนต์ ความเร็วพุ่งสูงขึ้นในพริบตา
จากตำแหน่งเดิมที่เคยยืน ทักษะนี้ช่วยให้ห่างออกมาเพียง 100 เมตร ทว่าภาพติดตาของฉินเฟิงยังคงยืนอยู่ในจุดเดิม ฉากนี้ราวกับว่าฉินเฟิงมีสองคน
วูซซซ! ฉินเฟิงโผล่มายืนอีกจุดหนึ่ง ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขา หลังใช้งานยังรู้สึกกล้ามเนื้อเจ็บปวดอย่างรุนแรง คุณสามารถลองจินตนาการดูได้ ว่าเงื่อนไขในการใช้วิชาตัวเบานี้สูงเพียงใด
คงมีเพียงผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล S จึงจะสามารถฝึกปรือวิชาตัวเบานี้ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิงเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ วิชาตัวเบานี้ก็จะยิ่งใช้งานได้ง่ายขึ้น
“ได้เวลาแล้ว!” ฉินเฟิงเดินออกจากห้องฝึกยุทธ ไป๋หลีเมื่อเห็นฉินเฟิงปรากฏตัว ก็ดีดตัวขึ้นจากโซฟา ดวงตาเปล่งประกายระยับ
“พร้อมแล้วใช่ไหม? งั้นไปกันเลยเถอะ คราวนี้ฉันจะทุบตีเหอเทียนสิงให้ฟันร่วงหมดปากเลยคอยดู!” เหอเทียนสิงคิดสังหารฉินเฟิงถึงสองครั้ง เรื่องนี้ทำให้จิ้งจอกน้อยผูกพยาบาทมาก แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะฉีกอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ
และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เธอหมดความอดทนตั้งนานแล้ว
“ครั้งนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง เธอห้ามเปิดเผยตัว แต่แค่ฉันคนเดียว ก็พอแล้ว!” ฉินเฟิงลูบหัวไป๋หลี
หลังจากไป๋หลียกระดับขึ้นเป็นเลเวล A แก่นสัตว์ร้ายที่เธอต้องกินไม่ใช่อะไรเรียบง่ายอย่างจักรพรรดิสัตว์ร้ายอีกต่อไป แต่มันต้องเป็นในระดับเทวะ
สัตว์เทวะเลเวล A ท่ามกลางมิติทั้งหมดทั้งมวล เกรงว่าจะมีจำนวนน้อยมาก
นอกจากนี้ยังนำไปสู่เหตุการณ์ที่ว่า หลังจากไป๋หลียกระดับขึ้นเป็นเลเวล A ความแข็งแกร่งของเธอหยุดนิ่ง หากเผชิญหน้ากับเหอเทียนสิงตรงๆ บางทีไม่อาจเอาชนะได้
ไป๋หลีไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่ยังพยักหน้าเข้าใจและกล่าวว่า “ก็ได้ ฉันเชื่อใจคุณ! จิตวิญญาณที่เชื่อมต่อกับคุณบอกฉันว่า ครั้งนี้คุณมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม!”
“ฉันไม่เคยลงมือทำอะไรที่ไม่มั่นใจ!”
แน่นอน เรื่องนี้ไป๋หลีรู้ดี
เอาจริงๆเธอยังล่วงรู้ ว่าทุกเหตุการณ์ที่ฉินเฟิงทำ นั่นคือเขามั่นใจเกินไปด้วยซ้ำ
นั่นเพราะก่อนเกิดใหม่ ฉินเฟิงเคยได้ยิน ได้เห็นและศึกษาเหตุการณ์ต่างๆมาก่อนแล้ว ดังนั้นล่วงรู้ข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบของพวกมันเป็นอย่างดี
“งั้นไปกันเถอะ”
ไป๋หลีได้บันทึกพิกัดมิติของเมืองหัวหลงเอาไว้แล้ว เมื่อช่องว่างมิติเปิดออก ไป๋หลีกับฉินเฟิงก็ก้าวเข้าไปข้างใน
ช่วงเวลากลางดึก ตัวเชื่อมมิติเมืองหัวหลง ช่องว่างมิติพลันเปิดออก จากนั้นปรากฏแสงสีเงินสว่างวาบและหายวับไป
ทหารรักษาการณ์มองไปยังตำแหน่งใจกลาง กล่าวด้วยความสงสัย “เมื่อกี้มีคนมาใช่ไหม?”
“ก็ไม่นี่ นายคงตาฝาดมากกว่า” ทหารรักษาการณ์อีกคนมองไปยังจัตุรัสที่ถูกตั้งขึ้น แสงไฟรอบๆสว่างไสว แต่ไม่มีใครอยู่เลย
“อา! ฉันคงเข้าใจผิดไปเองจริงๆ”
เมืองหัวหลงเป็นเพียงเมืองชายแดนเล็กๆของหัวเซี่ย บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในเลเวล C เท่านั้น สภาพแวดล้อมโดยรอบค่อนข้างปลอดภัย นอกจากในทุ่งล่าแล้ว ไม่มีที่ใดเกิดวิกฤตขึ้น ไม่เว้นแม้แต่แนวหน้า
อย่างไรก็ตาม ห่างออกไปทางทิศตะวันตก มีทะเลทรายเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่นั่นขาดแคลนทรัพยากร แทบไม่มีใครสนใจ
และคงจะไม่มีใครทราบเลย ว่าในวันนี้ บนทะเลทรายแห่งนั้น จะมีแขกทรงอำนาจมาเยือน!
ไป๋หลีใช้เทคนิคเทเลพอร์ต ออกจากที่ตั้งของเมืองหัวหลงอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังชายแดนฮาซา
ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงปลดปล่อยการรับรู้ของเขา และมันทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก!
“รัศมี 900 กิโลเมตร!”
ต้องรู้นะว่า มิติที่ฉินเฟิงอาศัยอยู่ มีเส้นรอบวงยาวที่สุดเพียง 40,000 กิโลเมตรเท่านั้น ในขณะที่ภูมิภาคเหนือ มีเนื้อที่แค่ราวๆ 1,000 กิโลเมตร แค่การรับรู้ของฉินเฟิงที่ปลดปล่อยออกมา ก็แทบกวาดไปทั่วภูมิภาคเหนือแล้ว
“นี่น่ะหรอพลังของเลเวล S มิน่าเล่าในตอนนั้น ตาปีศาจอยู่ห่างตั้งไกล ถึงสามารถโจมตีฉันจากบนฟ้าได้!”
“ไม่สิ บางทีการรับรู้นี้อาจเกี่ยวข้องกับดารากำลังภายในของฉัน ส่วนเลเวล S ทั่วไป อาจมีพลังในการรับรู้แค่ 100 กิโลเมตรเท่านั้น”