ร้อยเอ็น เล่นรัก ... เรื่องที่ 1 ลูกบุญธรรมที่รัก ... ตอนที่ 1. สอนรักเด็กกำพร้าน่ารักชื่อน้องหมอก
ร้อยเอ็น เล่นรัก - ร้อยเรียงเรื่องเล่า....
เรื่องที่ 1 ลูกบุญธรรมที่รัก
ตอนที่ 1. สอนรักเด็กกำพร้าน่ารักชื่อน้องหมอก
ผมชื่อชาติชาย พื้นเพเป็นคนพิจิตร ชื่ออาจจะเชยไปมากแต่ก็สมควรเพราะอายุ 47 ปีแล้วตอนนี้ ประกอบอาชีส่วนตัว นั่นคือทำอู่ซ่อมสีรถยนต์ ยังโสด เคยแต่งงานแล้วแต่ไปไม่รอด เพราะบ้างานจนไม่มีเวลาให้ลูกเมีย พอหย่ากันผมก็เอาลูกมาเลี้ยงจนโตเป็นหนุ่มเรียนอยู่ปี 3 ที่มหาลัยในกรุงเทพ
อาชีพช่างมันไม่แน่นอน แต่ตอนน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ผมเจอแจ็คพ็อตเมื่อบริษัทประกันรายใหญ่ส่งรถยนต์มาเคลมแล้วชอบในผลงานเลยทำสัญญาเป็นอู่ในประกันเสียเลย ตั้งแต่นั้นมารายรับของอู่ก็หลักล้าน ผมเลยรวยอู้ฟู่ไม่น้อย ไปไหนมาไหนมีแต่คนเรียกเสี่ยชาติ มีแต่คนนับหน้าถือตาเพราะความร่ำรวย อีกทั้งผมยังใจบุญ ให้ทุนการศึกษานักเรียนที่เรียนดีแต่ยากไร้ไม่เคยขาด ปกติผมน่ะจะให้ทุนกับนักเรียนแถวตัวจังหวัดนี่แหละ แต่หลายปีเข้าก็เริ่มเบื่อ อยากเปลี่ยนบรรยากาศด้วย เลยไปจัดแถวภาคอีสานตอนบนเสียเลย ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนทุรกันดาน แต่ผมก็บ่ยั่น เคยลำบากมาก่อน แค่นี้ไม่คณามือหรอก
เด็กนักเรียนที่ทางครูใหญ่เสนอมาให้ล้วนเป็นเด็กเรียนดี แต่ผมติดใจเด็กคนหนึ่งชื่อ หมอก ในประวัติบอกว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน พ่อกับแม่ตายหมด ตอนนี้ต้องอาศัยอยู่วัด จะกลับฝั่งโน้นก็ไม่รู้จักญาติคนไหน ใบเกิดไม่มี หน้าตาที่ถ่ายรูปนั้นดูน่ารักจนผมลืมไม่ลง
ใช่แล้วครับ...ผมมีความลับ ความลับที่ดำมืดไม่เคยบอกใคร ... ผมชอบเด็กผู้ชาย ยิ่งอายุน้อยๆยิ่งดีใหญ่ หลายต่อหลายครั้งที่ผมลองมอบทุนพิเศษให้นักเรียนทุน แต่ก็มีส่วนน้อยที่ตอบรับ ส่วนมากจะเป็นคนที่ติดเกมหรือไม่ก็ติดพนันบอลจนเรียนไม่จบ ผมเลยต้องเลิกให้เงินไปเลย
ผมเจรจรากับครูใหญ่เรื่องขอรับอุปการะเด็กชายหมอก ทางครูก็ดีใจหาย แนะนำให้ผมไปคุยกับทางวัด ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาเลยเมื่อได้รู้ว่าเด็กชายได้รับโอกาสที่ดี แต่ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น น้องหมอกดูจะดีใจปนกับเสียใจเพราะร้องไห้ใหญ่ตอนที่ย้ายมาที่อู่
บ้านของผมอยู่หลังอู่นั่นแหละครับ ใช้เงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงสร้างบ้านหลังใหญ่จนคนละแวกนี้อิจฉา น้องหมอกดูตกใจมากที่เห็นบ้านหลังใหญ่โตเช่นนี้ เด็กแค่ 6 ขวบปรับตัวได้ง่าย แค่มีของเล่นก็เป็นใช้ได้แล้ว
ลูกชายผมไม่ว่าอะไรที่อยู่ๆก็ได้น้องชายคนใหม่ แถมยังคอยซื้อของเล่นนั่นนี่มาให้ตอนที่กลับมาบ้านช่วงปิดเทอมอีกด้วย น้องหมอกติดพี่ชายมาก แต่เวลาที่ไม่มีใครแกก็จะติดผมหนึบ เพราะเป็นเด็กที่โดนทิ้ง ไม่เคยได้รับความรักเลยทำให้เป็นคนขี้อ้อนเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไร น้องหมอกแทบจะตามผมไปทุกที่...แม้กระทั่งตอนอาบน้ำ
ผมฟอกสบู่ที่ตัวเด็กชายจนสะอาดก่อนฟันมาฟอกตัวเอง ที่บ้านผมมีอ่างอาบน้ำ แต่ก็นานๆจะแช่ที วันนี้อากาศหนาว น้องหมอกเลยโยเยไม่อยากอาบน้ำ ผมเลยต้องหลอกล่อด้วยน้ำอุ่นเต็มอ่าง เมื่อเด็กน้อยฟอกสบู่เสร็จ ก็กระโจนไปแช่น้ำอุ่นโดยสายตามองผมที่กำลังขัดถูตัวเองไม่วางตา
“ทำไมขนพ่อชาติดำจัง”
“พ่อแก่แล้ว ขนเลยดำ”
“ทำไมจู๋พ่อชาติใหญ่จัง”
“พ่อชาติโตแล้ว จู๋เลยใหญ่ ถ้าน้องหมอกโต จู๋น้องหมอกก็ใหญ่เหมือนกัน”
“จริงเหรอครับ”
“ใช่แล้ว มามะคนดี ขอพ่อหอมหน่อย” เด็กชายเอียงหน้ามาให้ผมหอมแก้มฟอดใหญ่ กลิ่นเด็กยั่วใจจนไอ้จ้อนผมผงาด
“ของพ่อชาติแข็งแล้ว ของพ่อชาติแข็งแล้ว” ไอ้หนูร้องด้วยความขำขัน พวกเราอาบน้ำด้วยกันทุกวันจนชินตา แถมทุกครั้งไอ้จู๋ของผมก็แข็งเพราะกลิ่นตัวลูกบุญธรรม
“มามะ ให้พ่อนั่งด้วย” ผมก้าวขาไปนอนในอ่าง น้องหมอกขยับตัวมานั่งบนหน้าท้องผมก่อนจะดิ้นไปมาเล่นขี่ม้า
“ขี่ม้า ฮี้ๆๆๆ” ของเล่นที่ลอยน้ำไปมากับการละเล่นของเด็กชายดูเพลินตามา ผมลูบไล้แท่งเนื้อใหญ่ที่แข็งจนปวดไปมาเป็นจังหวะ มือหนึ่งก็ลูบก้นหนูน้อยไปด้วย นิ้วใหญ่จิ้มที่โพรงปิดสนิท
“อุ๊ย พ่อชาติ หนูจั๊กจี๋” นิ้วผมแค่แหย่ ยังไม่เข้าไปหรอก เด็กชายร้องลั่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แถมยังเคลื่อนก้นมาชนตอที่กำลังแข็งอยู่เสียอีก.... ผมปล่อยน้ำในอ่างให้ค่อยๆลดระดับ มือใหญ่กดสบู่เหลวมาทาที่มือและกระดอจนชุ่มโชกก่อนสอดนิ้วเข้าในร่องก้นแคบ
“อื้อ อื้อ พ่อชาติ หนูเจ็บ” แค่นิ้วเดียวเองครับ ร้องลั่นเลย แต่เราอยู่กันมาได้สามเดือนแล้ว และผมก็ไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์หรอก นิ้วใหญ่หลุดเข้าไปด้านในร้อนฉ่าจนสุด
“อื้อ” น้องหมอกร้องลั่น ผมคิดถึงครั้งแรกที่เอานิ้วใส่เข้าไป เจ้าหนูร้องไห้ลั่นบ้านเพราะเจ็บ แต่ผมก็ใจเย็น ทำมันทุกวันจนชิน หลังๆนอกจากบ่นว่าเจ็บแล้วยังแอ่นก้นไปมารับนิ้วที่ซุกเข้าไปอีกต่างหาก
ผมเห็นว่าเจ้าหนูเริ่มชินกับความตึงแน่น เลยเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกหนึ่ง
“อี๊ก อ๊ะ” ร่างน้อยกระตุก ใบหน้าน้อยซบที่อกผมอย่างพ่ายแพ้ ใบหน้าแดงก่ำนั้นนอนระทวยอย่างยั่วยวน สองนิ้วผมควานจ้วงเข้าๆออกๆเป็นจังหวะ ความแน่นคับยังไม่สามารถเปิดช่องให้อ้ารับความใหญ่โตของผมได้ ผมต้องใจเย็น รอให้เด็กมันโตกว่านี้ก่อน...
เวลามันผ่านไปไวเสมอ ตอนนี้น้องหมอกมาอยู่กับผมได้ 1 ปีแล้ว เรื่องอย่างว่าก็เก่งขึ้นเยอะ สามารถรับนิ้วมือผมได้สองนิ้วโดยไม่บ่นออดแอดแล้ว ผมใช้ความสม่ำเสมอเข้าสู้ เด็ก 7 ขวบที่ไม่ประสาเรื่องนี้ก็คิดว่ามันคือเรื่องปกติ แต่หลังจากนี้ต่างหากคือของจริง
“นั่นแหละลูก ดีมาก อา” ผมครางเมื่อปากน้อยครอบส่วนหัวของเอ็นแข็งของผมไว้ แค่นี้ก็คับไปทั้งปากแล้ว ไม่สามารถดันเข้าไปให้ลึกกว่านี้ได้อีก แค่นี้ก็เสียวมากแล้วครับ ผมนี่ร้องซี้ดด้วยความติดใจเลย
“รูดเข้าออกเหมือนหนูดูดไอติมสิลูก” ปากเล็กรูดท่อนเอ็นขนาด 7 นิ้วของผมอย่างเอร็ดอร่อย สองนิ้วที่แยงรูน้อยที่หันปากถ้ำมาทางผมช่างยั่วยวน สองนิ้วยังไม่เท่ากับขนาดของผม มันต้องสามหรือสี่ ผมใจสั่นเมื่อดันนิ้วที่สามแยงเข้าไป
“อื้ออออออ” เด็กชายเม้มปากแน่นแทบจะกลายเป็นกัด ผมสะดุ้งตัวโยนเพราะมันเสียววาบ นิ้วที่สามติดที่ปากทางแน่นจนผมต้องกระเด้งบั้นเอวให้หัวบานครูดในปากจนเจ้าหนูลืมตัวผ่อนคลายที่ช่องน้อย
สวบ....
“อื้อออออ” ได้ผล สามนิ้วที่ชะโลมเจลจนชุ่มโชกอัดเข้าไปจนสุด
“อื้ออออออออออออออ” เจ้าหนูยังร้องลั่น ตัวสั่นด้วยความเจ็บ น้ำตาไหลจนต้องปลอบเป็นการใหญ่
เมื่อปลอบเสร็จ ผมก็ใช้ปากใหญ่ประกบที่ริมฝีปากน้อย ดูดเลียภายในอย่างบ้าคลั่งจนน้องหมอกครางอื้ออึง น้ำลายหนืดไหลหยดไปหมด เด็กชายนั่งทาบบนตัวผมโดยที่ผมต้องโน้มหน้าให้ได้ระดับ เพราะอยากให้บั้นท้ายเด็กชายถูไถกับแท่งเอ็นใหญ่ที่มันรอคอยการเปิดซิงตูดน้อยนี้มาแสนนาน
“น้องหมอกหนีบขาแน่นๆ นั่นแหละ อา” ผมดันส่วนหัวเข้าช่องแคบของสองขาที่ปิดสนิทให้หัวบานครูดกับหูรูดน้อยนิดหน่อยก่อนแทงเข้าออกอย่างหนักหน่วงและบ้าคลั่ง ในหัวจินตนาการเอาว่าง่ามขานี้คือรูตูดซิงๆสดๆของลูกบุญธรรมที่แสนน่ารัก ผมโยกเข้าออกจนน้องหมอกเด้งตัวตามจังหวะ ก่อนที่ความเสียวจี๊ดจะทะยาน
“อ้าปากครับลูก” น้องหมอกอ้าปากอย่างว่าง่ายก่อนถูกจับให้นอนบนเตียง ผมยัดความใหญ่โตที่ถึงจุดหมายเข้าไปด้านในจนเจ้าตัวตกใจ “ดูดไปเลยลูก นั่นแหละเด็กดีของพ่อ กลืนไปเลยครับ พ่อป้อนน้ำอร่อยให้แล้ว”
เด็กชายหมอกดูดกลืนน้ำรักลงท้องจนหมดเกลี้ยง ใบหน้าแดงก่ำหอบโยนด้วยความสุขสมจับจ้องมาทางผม ตอนนี้ผมทำให้เด็กชายไปไหนไม่รอดแล้ว พวกเราสองคนนอนกอดรัดกันอย่างมีความสุข ไม่ลืมที่จะจับบั้นท้ายน้อยให้เปิดช่องพอให้ส่วนหัวบานแข็งขันจิ้มเล่น หัวประตูมันแง้ม แต่ยังไม่เปิดกว้างให้ความเป็นชายของผมพุ่งเข้าใส่... แต่ผมรอได้...
ภาพประกอบมิได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด