บทที่ 345
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน ภูเขาสูงชันมีควันพวยพุ่งออกมาจากปล่องไฟ รอบด้านต้นไม้หลงเหลือแต่ตอถ่านเพราะความร้อนจากลาวาด้านใน เสียงสวดแปลกประหลาดดังแว่วมาจากด้านในปล่อง ชั่วน้ำเดือดสัตว์อสูรเหยี่ยวตัวใหญ่มีเปลวเพลิงพุ่งออกมาจากปีกทั้งสอง ด้านหลังมีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดสีขาวนั่งอยู่บนแท่นหินที่มีเปลวเพลิงลุกโชน เหยี่ยวตัวนั้นพาผู้เป็นนายพุ่งทะยานลงไปด้านล่างปล่องภูเขาไฟ เสียงสวดแปลกประหลาดเงียบลงแน่มีเสียงเอ่ยวาจาคารวะดังลั่น
“คารวะท่านประมุข”
ชายฉกรรจ์ชุดขาวแสยะยิ้มยกมือขวาขึ้น
“อีกไม่นานดาบดับอสูรจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง ข่งเซียงเทียน คงชิงหยางพวกเจ้าทั้งสองมุ่งหน้าสู่แผ่นดินใหญ่เร่งจัดการหากำลังคนบุกชิงดาบดับอสูรถึงเมื่อนั้นข้าจะนำพาพวกเจ้าเป็นใหญ่ที่นั่น”
ทั้งสองเมื่อได้ยินเช่นนั้นรีบก้มศีรษะคารวะ
“ขอบคุณท่านประมุข”
“ส่วนพวกเจ้าทั้งหมดติดตามทูตเมฆาและทูตอัคคีแฝงตัวที่แผ่นดินใหญ่รอวันดาบดับอสูรปรากฏ”
เสียงตะโกนโห่ร้องดังลั่นพร้อมกับเหล่าผู้คนมากมายนับพันพุ่งทะยานออกมาพร้อมกับสัตว์อสูรมากมาย
เสียงการปะทะกันระหว่างข่งเซียนเทียนและคงชิงหยางดังสนั่นต่อเนื่องบ้านเรือนโดยรอบถูกทำลายลงไปจากแรงปะทะ เปลิวไฟลุกโชนทหารมากมายออกช่วยเหลือชาวบ้านหลบหนีออกมา ชั่วน้ำเดือดเสียงการปะทะเงียบหายหลงเหลือเพียงเสียงหอบเหนื่อยดังแว่วออกมาจากม่านกองเพลิงข่งเซียนเทียนแสยะยิ้มถีบเท้าพุ่งทะยานออกมา ทิ้งซากศพของคงชิงหยางอยู่ด้านใน ผู้คนมากมายที่เหลืออยู่ต่างโห่ร้องตะโกนเรียกข่งเซียงเทียนเป็นผู้นำการชิงดาบ
ทางด้านเนี่ยฟงตอนนี้ยังคงยุ่งอยู่กับการคัดแยกที่สมุนไพรที่ตากด้านหน้ากระท่อมไม้ไผ่ เกือบชั่วยามเขาก็เอ่ยวาจาออกมา
“เชิญผู้อาวุโสหลิวหยูฟางด้านในขอรับ”
หญิงชราหลิวหยูฟางถึงกับขมวดคิ้วเพราะตนนั้นใช้ทักษะปิดบังซ่อนกายระดับสูงแต่ทว่าถูกชายหนุ่มตาบอดด้านหน้าจับได้ทันทีเมื่อตนเดินเข้ามาในบริเวณ
“คุณชายหายดีแล้วอย่างนั้นรึ”
“ตัวข้าหายดีแล้วขอรับ ต้องขอบคุณคนของท่านที่คอยดูแลข้า”
เนี่ยฟงหันมาก้มคารวะพร้อมกับหมุนแขนซ้ายให้หลิวหยูฟางมองเห็น เสียงสะบัดมือดังแว่ว กงล้อสะท้านฟ้าทั้งสองปรากฏออกมาบนมือขวา มันสั่นสะท้านเมื่อพบผู้เป็นนายพุ่งออกไปหมุนวนรอบกายเนี่ยฟง หลิวหยูฟางถึงกับตื่นตกใจ
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่นำมันมามอบให้ข้า”
เนี่ยฟงสะบัดมือขวาเก็บกงล้อสะท้านฟ้านำม้วนหนังแกะที่ได้รับมาก่อนหน้าออกมาหลิวหยูฟางรีบผายมือขวาไปที่ประตู
“เชิญคุณชายด้านในก่อน”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับเดินติดตามหลิวหยูฟางเข้าไปในกระท่อม เมื่อเข้ามาด้านในหลิวหยูฟางก็เอ่ยวาจาออกมา
“ข้าจะเล่าตำนานดาบดับอสูรให้แก่คุณชายได้ฟัง ในอดีตดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเผ่าอสูรและเผ่าปีศาจแต่ทว่าเผ่าทั้งสองต่างเป็นศัตรูกัน ทุกอย่างยังคงเป็นเช่นปกติจนบุตรชายของหัวหน้าเผ่าปีศาจแอบพบรักกับบุตรสาวของหัวหน้าเผ่าอสูรจนคลอดบุตรชายออกมาผู้หนึ่ง เด็กคนนั้นมีความสามารถที่ทั้งสองเผ่าแสวงหาคือความรวดเร็ว การฟื้นฟูพลังกายของเผ่าปีศาจ พละกำลังมหาศาล ผิวหนังที่เหนียวและแข็งแกร่งของเผ่าอสูร ไม่นานเด็กน้อยผู้นั้นก็เติบโตจนอายุสิบเจ็ดพลังทุกอย่างตื่นขึ้นมาจนถึงขีดสุดแต่ต้องถูกตามล่าเพราะความโลภผู้คนทั้งสองเผ่า ในที่สุดชายหนุ่มผู้นั้นก็ถูกสังหารลงด้วยน้ำมือผู้เป็นปู่ของตนเพื่อหยุดสงครามที่จะเกิดขึ้น ตัวผู้เป็นบิดาภายในจิตใจมีแต่ความแค้นนำกระดูกบุตรชายหลอมสร้างดาบออกมาเล่มหนึ่งแต่ทว่าตัวดาบกลับไม่เปล่งประกายอย่างที่คาดคิด เขาจึงนำดาบกลับไปหลอมใหม่อีกหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายผู้เป็นภรรยากระโดดลงไปในเตาหลอมเพราะคิดถึงบุตรชายทำให้ผู้เป็นสามีสร้างดาบดับอสูรขึ้นได้สำเร็จ อานุภาพของมันสามารถตัดเขาหินขนาดใหญ่ประดุจตัดเต้าหู้ หลังจากนั้นดาบเล่มนั้นก็ถูกใช้ในการกวาดล้างเผ่าปีศาจและเผ่าอสูรจนเกือบหมด และอีกไม่นานมันจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และเมื่อสองเดือนก่อนอาจารย์ของท่านปรากฏตัวขึ้นที่นี่เพื่อให้พวกข้าตระกูลหลิวช่วยเหลือคุณชายในการชิงดาบ”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ
“ข้าต้องขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยเหลือข้า แต่การชิงดาบนั้นข้าขอไปเองผู้เดียว ตัวข้าไม่อยากให้คนของท่านล้มตาย อีกอย่างตัวข้าลงมือผู้เดียวสะดวกกว่าขอรับ ว่าแต่ในม้วนหนังแกะม้วนนี้คือ”
“มันคือรายชื่อกลุ่มคนที่คาดว่าจะเข้าร่วมการชิงดาบ วิชาที่ใช้รวมไปถึงความสามารถต่างๆอย่างละเอียด แต่ทว่ามันเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น”
ในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงตะโกนดังลั่นออกมาจากด้านนอกกระโจม
หลิวหยูฟางถึงกับขมวดคิ้ว เนี่ยฟงเองก็ได้ยินเช่นกัน
“เชิญผู้อาวุโสออกไปจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นเถอะขอรับ”
หลิวหยูฟางพยักหน้าตอบรับรีบเปิดประตูกระท่อมออกไปพบชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้า
“เกิดสิ่งใดขึ้น”
“เรียนท่านหัวหน้าตระกูล ข่งเซียงเทียนจัดการชุมนุมชาวยุทธ์ขึ้นเพื่อหาผู้นำสำหรับการชิงดาบดับอสูรโดยการสังหารคงชิงหยางคนของสุขาวดีฟ้าดิน และตอนนี้เขาได้สังหารคงชิงหยางได้สำเร็จจึงนำกำลังบุกมาที่นี่เพื่อสู่ขอคุณหนูขอรับ”
“บัดซบนัก ไอ้ลูกหมาข่งเซียงเทียนมักมากในกาม เห็นทีครั้งนี้คงเลี่ยงการปะทะไม่ได้แล้ว สั่งการให้คนของเราเตรียมพร้อมข้าจะออกไปขับไล่มันก่อน หากไม่สำเร็จเห็นทีเราคงต้องปะทะกับพวกชาวยุทธ์เสียแล้ว”
หลังจากนั้นหลิวหยูฟางก็ออกไปจากกระท่อมไม้ไผ่อย่างเร่งรีบ เนี่ยฟงรีบนั่งโคจรลมปราณไม่นานก็ปรากฏตัวที่ห้องมืดอีกครั้งเขารีบนำม้วนหนังแกะออกมาศึกษาข้อมูลของกลุ่มคนที่เขาจะต้องพบเจอยามเมื่อดาบดับอสูรปรากฏ เกือบครึ่งชั่วยามเขาก็ต้องขมวดคิ้วออกมาจากห้องมืด เพราะมีใครบางคนพุ่งทะยานมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ชั่วน้ำเดือดประตูกระท่อมก็ถูกเปิดออก เป็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง
“เรียนคุณชาย ท่านหัวหน้าตระกูลหลิวหยูฟางเชิญท่านเข้าพบที่ห้องโถงขอรับ”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับสะบัดมือขวานำเศษผ้าสีเทาออกมามัดรอบดวงตาเขานำผ้าอีกผืนยืนให้ชายหนุ่มด้านหน้าใช้สำหรับจุงเดิน เขาก้าวเดินติดตามชายหนุ่มผู้นั้นออกไป เนี่ยฟงถูกนำตัวเดินอ้อมมาทางฝั่งขวาตามทางเดินไม่นานก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นมาจากห้องโถงขนาดใหญ่ด้านหน้า หลายคนจ้องมองชายหนุ่มตาบอดผู้หนึ่งที่เดินเข้ามาด้วยความสมเพช โดยเฉพาะข่งเซียงเทียนที่เอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง
“ท่านหลิวหยูฟาง คงไม่ใช่ชายหนุ่มตาบอดผู้นี้หรอกนะที่ท่านกล่าวอ้างว่าเป็นคู่หมั้นของแม่นางหลิวเสี่ยวหลิน หากเป็นเช่นนั้นท่านรีบถอนหมั้นเสียดีกว่าข้าไม่อยากให้แม่นางหลิวเสี่ยวหลินต้องลำบากคอยดูแลคนตาบอดเช่นไอ้หนุ่มนี้”
เนี่ยฟงถึงกับตื่นตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้นแต่เขาก็ยังหาได้กล่าวสิ่งใดออกมา เขาแผ่ลมปราณออกมารอบกายหลังจากนั้นเขาก็แสยะยิ้มก้าวเดินออกมา
“นับว่าเป็นบุญตาของข้าแล้วที่ตาบอด หาไม่เช่นนั้นแล้วตัวข้าคงต้องใช้มือจ้วงแทงดวงตาตัวเองแล้ว ชายชราบัดซบผู้หนึ่งหวังแต่งานกับสาวน้อยรุ่นลูก ไม่สิข้าว่าต้องเป็นรุ่นหลานแล้ว อีกทั้งยังนำผู้คนมามากมายเพื่อกดดันฝ่ายหญิงช่างน่าละลายยิ่งนัก”
ข่งเซียงเทียนถึงกับกำหมัดทั้งสองมือแน่น
“คนตาบอดเช่นเจ้าจะทำสิ่งใดได้ไอ้หนู”
“ทำสิ่งใดได้ไม่ได้มันเกี่ยวข้องสิ่งใดกับท่าน ว่าแต่ท่านเถอะอายุขนาดนี้แล้วน้องชายของท่านยังมีความรู้สึกรับรู้อยู่หรือไม่”
หลิวเสี่ยวหลินได้ยินเช่นนั้นถึงกับหน้าแดงเพราะความเขินอาย ทำให้ข่งเซียงเทียนยิ่งไม่พอใจมากขึ้นกว่าเดิม
“ปากดีนักไอ้ลูกหมา มาดูกันว่าหากข้าหักแขนทั้งสองของเจ้า คนพิการเช่นเจ้าจะทำอย่างไร”
เนี่ยฟงยกยิ้มยกมือขวาขึ้นมากวักเรียก
“ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าชายชราเช่นท่านจะทำได้อย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่”
ทันใดนั้นเองเป็นหลิวหยูฟางที่เอ่ยวาจาออกมา
“หากพวกท่านทั้งสองจะปะทะกันเชิญด้านนอก ข้าไม่อยากให้ที่นี่เสียหาย”
เนี่ยฟงเอ่ยวาจาออกมาเช่นกัน
“ไม่ต้องขอรับ เพียงแค่ทุบตีสุนัขติดสัดตัวหนึ่งไม่จำเป็นต้องออกไปด้านนอก หากมันได้รับความเจ็บปวดมันก็จะหนีกลับที่ยังที่ของมันเอง”
ข่งเซียงเทียนถีบเท้าพุ่งเข้าหาชายหนุ่มตาบอดด้านหน้า เขาจ้วงแทงมือขวาออกมาหมายบีบคอ ทันใดนั้นเองความเจ็บปวดที่ดวงตาข้างขวาก็ส่งไปที่สมอง เลือดสีแดงไหลหยดลงพื้นหลายคนจ้องมองเห็นดวงตาขวาของข่งเซียงเทียนอยู่ในมือขวาชายหนุ่มตาบอด