บทที่ 339
สือตี้จงรวบรวมสติพุ่งทะยานขึ้นบนท้องฟ้าสัตว์อสูรค้างคาวตัวใหญ่ปรากฏตัวรับผู้เป็นนาย เนี่ยฟงคว้าจับดาบเล่มใหญ่หนุนตัวรอบกายขว้างออกไป ฉับ คมดาบวาดผ่านขาขวาของสือตี้จงขาดกระเด็นร่วงลงพื้น ค้างคาวรีบกระพือปีกพาผู้เป็นนายหลบหนี หลังจากนั้นไม่นานเขาก้มหยิบแขนซ้ายก็รีบพุ่งคว้าขาขวารีบกลับเข้าไปที่ตระกูลชิง เมื่อมาถึงด้านหน้าก็พบคนของตระกูลชิงมากมายนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องโถงที่ตอนนี้ถูกทำลายลงไปกว่าครึ่ง เลือดสีแดงไหลจากรูโหว่บนหน้าอกของหัวหน้าตระกูลชิงหยดลงพื้น ชิงเสี้ยวหันมามองเนี่ยฟงพร้อมกับพุ่งเข้าหา เนี่ยฟงเองยื่นแขนซ้ายและขาขวาของสือตี้จงให้แก่ชิงเสี้ยว
“ข้าไม่อาจสังหารมันผู้นั้นได้ แต่มันคงบาดเจ็บไม่น้อย ข้าได้ยินว่านามของมันคือสือตี้จง”
ชิงเสี้ยวถึงกับตัวสั่นสะท้านเช่นเดียวกับคนที่เหลือของตระกูลชิง เนี่ยฟงทำได้แต่ยืนนิ่ง รุ่งเช้ามีการจัดพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่เนี่ยฟงเองออกเดินทางแต่เช้าตรู่เช่นกัน เมื่อมาถึงหน้าเมืองก็พบกับกลุ่มของหยวนอันหลงกำลังกลับเข้าเมือง
“น้องชายเจ้าจะไปจากเมืองแล้ว”
“ขอรับคุณชายหยวนอันหลง หากมีโอกาสเราคงได้พบกันอีก”
“ว่าแต่เจ้าจะไปที่แห่งใดรึ”
“ยังไม่ทราบแน่ชัดของเรา”
หยวนอันหลงยืนครุ่นคิดอยู่นาน
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงไม่ไปเยี่ยมชมเมืองจือซี ที่นั่นตอนนี้มีงานเทศกาลสมุนไพรและอีกสี่วันจะมีการจัดการประมูลขึ้นที่หอการค้าจือซีเจ้าสนใจหรือไม่”
เนี่ยฟงยกยิ้มตอบรับ
“ขอบคุณคุณชายหยวนอันหลงขอรับ เช่นนั้นข้าคงต้องไปเยี่ยมเมืองจือซีตามที่ท่านแจ้งแล้ว”
เนี่ยฟงก้มคารวะพร้อมเดินออกจากเมืองไป ไม่ถึงสิบลมหายใจหยวนอันหลงก็พุ่งทะยานติดตามมา
“น้องชายเนี่ยฟง เพื่อเป็นการตอบแทนข้าจะไปกับเจ้าด้วยก็แล้วกัน”
“เช่นนั้นเชิญท่านนำทางขอรับ”
ย่างเข้าวันที่สี่รุ่งเช้าทั้งสองก็มาถึงเมืองจือซี รอบกำแพงเมืองประดับไปด้วยโคมไฟสีแดงเมื่อผ่านเข้ามาในเมือง สภาพบ้านเรือนสร้างมาจากหินสกัดประดับไปโดยโคมไฟสีแดงพุ่งคนมากมายเดินอยู่กลางถนนมีหยุดแวะเลือกซือสมุนไพรที่ชาวบ้านและพ่อค้าที่เปิดขาย เนี่ยฟงยกยิ้มแผ่ลมปราณตรวจสอบเขาหันไปมองหยวนอันหลงทางขวามือ
“คุณชายข้าของไปเลือกดูสมุนไพรก่อนขอรับ”
“เช่นนั้นข้าจะไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักก่อนก็แล้วกัน อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะมาพบเจ้าที่นี่ แล้วหลังจากนั้นข้าจะพาเจ้าไปที่หอการค้าจือซี”
“ขอรับ”
หยวนอันหลงเดินหายเข้าไปในฝูงผู้คน ส่วนเนี่ยฟงก็เดินเข้าไปเลือกซื้อสมุนไพร เกือบสองเค่อเข้าก็เดินเข้ามาในร้านสมุนไพรร้านหนึ่ง มีชายชราผู้หนึ่งนั่งอ่านคัมภีร์อยู่ด้านหลังโต๊ะไม้เมื่อเห็นชายหนุ่มตาบอดผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามา ชายชราหาได้ต้อนรับเพียงแต่โบกมือไล่เอ่ยวาจาออกมา
“คุณชายออกไปจากร้านข้าเถอะ คนตาบอดเช่นเจ้าจะรู้จักสมุนไพรรึ”
เนี่ยฟงขมวดคิ้วหาได้กล่าวสิ่งใดเขาหันหลังก้าวเดินออกจากร้านแต่ทว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์สี่คนเดินส่วนเข้ามา เนี่ยฟงโยกตัวหลบกลุ่มชายฉกรรจ์ออกไปจากร้านอย่างรวดเร็วไม่ถึงครึ่งลมหายใจชายชราที่เอ่ยวาจาขับไล่ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
“รบกวนคุณชายท่านนั้นเข้ามาด้านในด้วยขอรับ ต้องขออภัยที่ข้าเอ่ยวาจาขับไล่ท่านเมื่อครู่”
เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมาก้าวเดินเข้ามาในร้านสมุนไพรอีกครั้งโดยเดินหลบกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งสี่ชายชราถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ
“คุณชายต้องการสมุนไพรชนิดไหนเป็นพิเศษหรือไม่”
เนี่ยฟงยกยิ้มเอ่ยวาจาแจ้งต่อชายชราเกือบสิบลมหายใจ สิ้นเสียงกล่าวชายชรารีบพุ่งเข้าไปด้านหลังอย่างเร่งรีบ เขาออกมาพร้อมกับแหวนในมือยืนให้แก่ชายหนุ่มตาบอด
“ขอทั้งหมดอยู่ในแหวน ทั้งหมดสองร้อยห้าสิบก้อนทอง”
กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งสี่แสยะยิ้มจ้องมองชายหนุ่มตาบอด เนี่ยฟงหยิบแหวนขึ้นมาตรวจสอบถึงกับขมวดคิ้ว
“มีสมุนไพรเกินมาสองชนิด”
“ไม่เป็นไรถือว่าเป็นคำขอโทษเรื่องเมื่อครู่”
เสียงสะบัดมือดังแว่วแหวนในมือขวาหายไปปรากฏก้อนเงินหนึ่งกองวางอยู่โต๊ะ
“ข้าขอสอบถามบางอย่างท่านได้หรือไม่”
ชายชรารีบสะบัดมือขวาเก็บก้อนทองบนโต๊ะอย่างเร่งรีบ
“เชิญคุณชายสอบถาม”
“การประมูลในครั้งก่อนที่หอการค้าจือซี มีเม็ดยาเข้าร่วมประมูลหรือไม่ขอรับ”
“พอมีอยู่คุณชาย ส่วนใหญ่มีแต่เม็ดยารักษาพิษ การอาการบาดเจ็บ เม็ดยาเพิ่มพลังปราณมีน้อยมากแต่ไม่ได้รับความสนใจเท่าไรต่างจากพวกอาวุธธาตุ”
“อาวุธธาตุ”
“ใช่คุณชาย”
เนี่ยฟงก้มหน้าครุ่นคิด
“ท่านพอมีแก่นสัตว์อสูรระดับสีดำหรือไม่ขอรับ”
ชายชรายกยิ้ม
“ที่ร้านยังพอมีอยู่ แต่ราคาจะแพงหน่อยท่านสนใจหรือไม่”
“หากท่านมีแก่นสัตว์อสูรระดับสีดำข้ารับทั้งหมด”
“เช่นนั้นท่านรอข้าสักครู่”
ชายชราหายเข้าไปด้านหลังอีกครั้งนานนับหนึ่งเค่อก็เดินออกมาพร้อมกับแหวนอีกหนึ่งวง เนี่ยฟงรีบหยิบขึ้นมาตรวจสอบพบว่ามีแก่นพลังปราณระดับสีดำถึงยี่สิบก้อน
“ทั้งหมดเก้าร้อยก้อนทองจำนวนนี้ข้าลดให้ท่านแล้ว”
เนี่ยฟงแสยะยิ้มสะบัดมือขวาเก็บแหวนในมือพร้อมกับนำแหวนอีกวงออกมายืนให้แก่ชายชรา
“เงินทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว”
ชายชรายกยิ้มรีบหยิบแหวนในมือชายหนุ่มตาบอดขึ้นมาตรวจสอบ
“คุณชายมันเกินมาหนึ่งร้อยก้อนทอง”
“ข้าต้องการแก่นพลังปราณระดับสีแดงขั้นสูงตามจำนวนเงินขอรับ”
เรื่องนั้นข้าเตรียมไว้ให้ท่านแล้ว ชายชราสะบัดมือขวานำแหวนอีกวงยื่นให้ชายหนุ่มตาบอด เนี่ยฟงหยิบออกมาพร้อมกับก้มคารวะ
“เช่นนั้นข้าต้องไปก่อนขอรับ”
เนี่ยฟงหันหลังเดินออกไปจากร้านชายฉกรรจ์ทั้งสี่รีบแหวกทางเป็นช่อง หลังจากเนี่ยฟงเดินออกไปไม่ถึงสิบลมหายใจชายฉกรรจ์ทั้งสี่ก็แอบติดตามชายหนุ่มตาบอดอยู่ห่างๆ เนี่ยฟงเดินเข้าออกร้านสมุนไพรอยู่นานเกือบชั่วยามก็พบหยวนอันหลงเดินเข้ามา
“เป็นอย่างไรบ้างน้องชายได้ของที่ต้องการหรือไม่”
“พี่ชายหยวนอันหลง ท่านพอรู้จักร้านขายอาวุธที่นี่หรือไม่ขอรับ”
“เจ้าต้องการอาวุธ”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ
“ข้าพอรู้จักอยู่ร้านหนึ่ง เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าไป”
หยวนอันหลงเดินนำเนี่ยฟงลัดเลาะไปตามตรอกทางเดิน ไม่ถึงครึ่งเค่อทั้งสองมาเดินมาถึงหน้าโรงตีเหล็กแห่งหนึ่ง ด้านหน้ามีกองอาวุธมากมายกองอยู่
“เจ้าต้องการอาวุธชิ้นใดน้องชาย”
“ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่เลือกใช้อาวุธชนิดใดขอรับ”
“ดาบเป็นส่วนใหญ่ เจ้าถามทำไมรึ”
“เช่นนั้นรบกวนท่านเลือกซื้อดาบชั้นดีให้ข้าสิบเล่มขอรับ”
“เหตุใดเจ้าถึงต้องการมากเพียงนั้น”
“ข้าจะนำดาบทั้งสิบเล่มลงประมูลวันพรุ่งนี้ขอรับ”
หยวนอันหลงถึงกับขมวดคิ้วแต่ก็หาได้กล่าวสิ่งใด เขาเลือกดาบชั้นดีตามที่เนี่ยฟงกล่าวสิบเล่มเป็นเงินสามสิบทอง หลังจากนั้นหยวนอันหลงก็พาเนี่ยฟงกลับโรงเตี๊ยม เมื่อทั้งสองมาถึงหยวนอันหลงก็พาเนี่ยฟงขึ้นไปบนห้องพักชั้นสอง เขาเช่าห้องแยกสองห้องตรงข้ามกัน
“ขอบคุณพี่ชายหยวนอันหลงขอรับ”
“เจ้าจะไปชมการประมูลหรือไม่”
“ข้าเหนื่อยมากแล้วขอรับ พรุ่งนี้รบกวนท่านเรียกข้าไปงานประมูลด้วยขอรับ”
“ได้ขอข้าเองก็อยากพักเช่นกัน พรุ่งนี้เราค่อยไปที่งานประมูล”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ ทันทีที่ปิดประตูห้องพลังปราณถูกแผ่ออกมาจากร่าง เสียงสะบัดมือดังแว่ววงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏบนพื้นเช่นเดียวกับดาบสิบเล่มและแก่นพลังปราณระดับสีแดงและดำอย่างละสิบก้อนไม่นานก็กลายเป็นโดมครองตัวเนี่ยฟงเอาไว้ เขาค่อยๆทำการประทับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ลงไปในดาบแต่ละเล่มพร้อมกับใช้แก่นพลังปราณแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นดาบธาตุต่างๆตามธาตุพลังของแก่นพลังปราณ วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าถูกบีดอันจนมีขนาดพอเหมาะประทับลงไปบนใบดาบ
รุ่งเช้าเสียงเคาะประตูดังลั่นพร้อมกับเสียงเอ่ยวาจาของหยวนอันหลง เนี่ยฟงเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมใส่เป็นชุดสีขาวพร้อมกับผ้าคาดดวงตาสีขาวเช่นกัน เมื่อลงมาด้านล่างเป็นหยวนอันหลงสั่งอาหารสี่ห้าอย่างมารอไว้อยู่แล้ว ระหว่างที่ทานอาหารเช้าเนี่ยฟงไม่ลืมที่จะรับฟังข่าวสารจากผู้คนที่มาทานอาหารในโรงเตี๊ยม ผู้คนส่วนใหญ่กล่าวถึงตระกูลชิงและการประมูลของเมื่อวาน หลังจากทานอาหารเสร็จสิ้นหยวนอันหลงก็พาเนี่ยฟงเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าสู่หอการค้าจือซี ระหว่างทางเนี่ยฟงก็เอ่ยวาจาออกมา
“พี่ชายหยวนอันหลงขอรับ หากข้าต้องการนำของเข้าประมูลต้องไปที่ใด”
หยวนอันหลงรีบกันมามองเนี่ยฟง
“อย่าบอกนะว่าเจ้าจะนำดาบที่ซื้อเมื่อวานเข้าร่วมประมูล”
“แน่นอนขอรับข้าตั้งใจเช่นนั้น แต่จะนำประมูลเพียงแค่แปดเล่มเท่านั้น”
เนี่ยฟงสะบัดมือซ้ายยื่นแหวนวงหนึ่งให้แก่หยวนอันหลง
“ได้เรื่องนั้นข้าจัดการให้เจ้าเองเมื่อถึงหอการค้าจืนซี แต่ข้าไม่รับประกันว่าทางหอการค้าจะรีบดาบของเจ้าร่วมประมูลหรือไม่”