ตอนที่แล้วตอนที่ 53
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 55 ฉันอยากเป็น CEO ของ UK

ตอนที่ 54 ฉีโย่วประหลาดใจ


“คุณเสียใจเรื่องของเธอเหรอ?”

เหยาซื่อแตะศีรษะฉีโย่ว เธอยังคงงุนงง

“เธอไม่ได้คิดจะทำอะไรแบบนั้น ฉันรู้ แม้ว่าเธอจะไม่ชอบฉันก็ตาม...”

ฉีโย่วถูกทำร้าย เธอโกรธมาก ทว่ามันเจ็บยิ่งกว่าเมื่อคนที่เธอรักใคร่ กลับมาแทงข้างหลังเธอ

สถานการณ์ของจีหมานชิงชัดเจนสำหรับฉีโย่ว เธอไม่ต้องมีจุดจบแบบนี้ หากเธอใช้ชีวิตอย่างปกติ

“น้องสาวของเธอล่ะอยู่ที่ไหนคะ” ฉีโย่วจำเด็กหญิงตัวเล็กร่างผอมได้

“คุณหมายถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่คุณเข้ามากอดคุณนั่นเหรอ? เราพบเธอแล้ว กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงกับเธอดี...”

“อย่านะ!” ฉีโย่วระเบิดเสียงตะโกนออกมา

“ปล่อยเธอไป โอเคไหม”

เหยาซื่อขมวดคิ้วคิดว่าเธอใจดีเกินไป ทว่าเขาไม่รู้ว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นได้เตือนให้ฉีโย่วนึกถึงความสิ้นหวังที่เธอเคยประสบมาก่อน

ตอนนี้จีหมานชิงตายไปแล้ว เธอต้องการที่จะก้าวต่อไป จากเรื่องเลวร้ายเหล่านั้น...

“ได้”

เหยาซื่อพูดเบา ๆ พลางดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นอกหน้าต่าง

“คุณหิวไหม? ผมจะลงไปหาซื้ออาหารเช้าให้คุณ”

ฉีโย่วมองออกไปนอกหน้าต่างและพบว่าข้างนอกสว่างแล้ว นี่เป็นคืนที่ยากลำบากจริง ๆ

“อืม...”

ฉีโย่วตอบอย่างเขิน ๆ และแตะท้องแบนราบของเธอ

เหยาซื่อยืดแขนของเขาออกไปเพียงเล็กน้อย

...

เหยาซื่อซื้ออาหารเช้ามาสองที่ ที่ด้านล่างแล้วรีบกลับขึ้นมา เขาแทบจะวิ่งมาที่ประตูเมื่อเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองของฉีโย่วดังออกมา

“ออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าแตะต้องฉัน ออกไป!”

พยาบาลรีบหยิบยาบนพื้นและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

เหยาซื่อบุกเข้าไปในห้องพัก พบกับพยาบาลสาวที่ถือถาดพร้อมกับยา เธอมองไปที่เหยาซื่ออย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับส่ายหน้าและพยายามถอยหนี

“ให้ผม”

เหยาซื่อรับยาจากพยาบาล วางอาหารเช้าบนโต๊ะและนั่งลงเพื่อปลอบประโลมฉีโย่วที่กำลังโกรธอยู่บนเตียง

“ทำไมถึงโกรธล่ะ? คุณกำลังทำให้พยาบาลกลัวนะ”

“เธอบอกว่าขาของฉันจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้!”

ฉีโย่วสะอื้นอย่างเสียใจ น้ำตาคลอเบ้า

“เหยาซื่อ เธอโกหกใช่ไหม”

เหยาซื่อค่อย ๆ เช็ดน้ำตาของเธอออกด้วยนิ้วที่อ่อนนุ่ม แกะผ้าก๊อซอย่างระมัดระวังและเปลี่ยนผ้าพันแผลให้กับเธอ

“ใช่ไหม? ตอบฉันสิ”

ฉีโย่วเพิ่มเสียงของเธอให้ดังมากขึ้น

“เป็นเด็กดีนะ ไม่งั้นแผลของคุณอาจติดเชื้อ!”

เหยาซื่อไม่ได้ตามใจเธอ เขารั้งเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอดิ้น

“เธอพูดจริงเหรอ”

ฉีโย่วไอและสำลักน้ำตาที่ไหลเข้าปากของเธอ

“ฉันอาจจะตายได้เช่นกัน ถ้าฉันไม่สามารถเป็นแอร์โฮสเตสได้อีกต่อไป”

ฉีโย่วพึมพำกับตัวเอง เหยาซื่อทำความสะอาดบาดแผลของเธออย่างระมัดระวังด้วยความโศกเศร้าเงียบ ๆ

หลังจากทำแผลเสร็จแล้ว เหยาซื่อดึงฉีโย่วออกมาจากเตียงและป้อนอาหารเข้าปากเธอ

จิตใจของฉีโย่วห่อเหี่ยว เธอรู้สึกกระปรี้กระเป่าแม้ว่าเพิ่งได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนี้ความกังวลทำให้เธอหมดกำลังใจและทำให้เธอไม่อยากอาหาร

ช้อนต่อไป เหยาซื่อป้อนซูปข้างฟ่างให้เธอ

ฉีโย่วจ้องมองที่เพดานด้วยอารมณ์ที่หลากหลายถามโถมเข้ามาหาเธอ

ด้วยความสำนึกผิด ในไม่ช้าเธอเลิกบ่นกับเหยาซื่อ

เท่าที่เธอกังวลไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับงานของเธอ งานที่เธอรักเท่าชีวิต

เธอไม่ควรหนีไปไหนมาไหนหรือไว้ใจคนแปลกหน้าได้ง่าย ๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเด็กก็ตาม

ฉีโย่วหลับตาลงอย่างผิดหวัง นึกไม่ออกว่าชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไร หากผู้คนไม่สามารถทำสิ่งที่ชอบได้ ชีวิตจะสูญเสียความหมายไปก็ได้ นั่นคือสิ่งที่ฉีโย่วเชื่อ ดังนั้นเมื่อเธอพบเป้าหมาย เธอจึงพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อเป้าหมายนี้

น้ำตาไหลจากดวงตาของเธออย่างเงียบ ๆ ทำให้หมอนที่มีกลิ่นฆ่าเชื้อเปียก

เหยาซื่อเซมือลงเล็กน้อยเขาไม่ใช่คนที่ไม่สามารถแบกรักความเหนื่อยล้าได้ ทว่าความเจ็บปาดทรมานนั้นสาหันเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้ และมันเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกอาวุธทำร้าย

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาเห็นว่าเป็นสายจางเจียงเฟิงอี้ จึงยืนขึ้นและออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก

เพราะเขาและฉีโย่วไม่ได้เจอเจียงเฟิงอี้ทั้งวัน เธอจึงรู้สึกเป็นกังวลและโทรหาเขา

“ฮัลโลหน่ายน่าย”

เหยาซื่อปรับอารมณ์ของเขาได้ แต่ความเหนื่อยล้าในน้ำเสียงของเขานั้นยากที่จะซ่อน

“ย่าน่ะ ใจคอไม่ดีเลย หลานกับโย่วโย่วอยู่ที่ไหนกัน”

เจียงเฟิงอี้กดหน้าอกของเธออย่างกะทันหัน

“หน่ายน่าย โย่วโย่วมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยและตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

“อะไรนะ? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”

เจียงเฟิงอี้เกือบจะเป็นลมด้วยความกังวล

“หน่ายน่าย!”

เมื่อได้ยินเสียงของเจียงเฟิงอี้ เหยาซื่ออดไม่ได้ที่จะกังวลว่าหน่ายน่ายที่สุขภาพไม่ดีอยู่แล้วจะช็อก หากอาการบาดเจ็บของฉีโย่วไม่ใช่ความลับ เขาอยากจะบอกคุณย่าออกไปเช่นกัน

“อุบัติเหตุเล็กน้อยครับ ไม่ต้องกังวลนะหน่ายน่าย เราจะกลับบ้านกันเร็ว ๆ นี้”

“โอ้ ขอบคุณคุณพระคุณเจ้า ไม่เป็นไรหรอก อยู่ที่นั่นแหละ พักผ่อนให้ดีล่ะ”

เหยาซื่อฟังเจียงเฟิงอี้อย่างอดทนและพูดคุยกับเธอจนกว่าเธอจะโล่งใจ

“เธอดูเหมือนจะมีสถานะสำคัญในครอบครัวของนายนะ”

เหยาซื่อวางโทรศัพท์ลงและเห็นซิงเฉินซี่ยืนพิงกำแพงฝั่งตรงข้าม

“ฉันแปลกใจที่นายแต่งงานเร็วมากแบบนี้”

ซิงเฉินซี่ยิ้มจากใจในขณะที่เหยาซื่อมองเขาด้วยหน้าเฉยเมย

“เจ้าสาวตัวน้อยของนายกระโดดออกจากหน้าต่างห้องฉันและหนีออกไปด้วยความช่วยเหลือของฉันเอง ฉันน่าจะขอให้เธอเรียกฉันว่าพี่เสียด้วยซ้ำ”

ซิงเฉินซี่หัวเราะเยาะและแน่ใจว่าหน้าของเหยาซื่อแย่ลง แม้ว่าเขาจะแต่งกายอย่างสุภาพ แต่เขายังแสดงท่าทางวางท่า

“อยู่ห่างจากเธอซะ นายจะทำอะไรฉันก็ได้ แต่ไม่ใช่เธอ”

ซิงเฉินซี่หัวเราะและมองไปที่อื่นทันที

“นายกำลังพูดอะไร? ฉันไม่ใช่คนเลวร้ายสักหน่อย”

“ฉันมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมภรรยาของนาย แม้ว่าบาดแผลของเธอจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ผลกระทบก็อาจจะร้ายแรงใช่ไหมล่ะ?”

ซิงเฉินซี่เลิกคิ้วและถอยไปสองก้าวทันที เมื่อเขารู้สึกได้ถึงความไม่พอใจที่มากขึ้นของเหยาซื่อ

“แต่ฉันมียาดี ที่ช่วยให้บาดแผลไม่ทิ้งแผลเป็นด้วยนะ”

ซิงเฉินซี่ไออย่างตั้งใจ หลังจากเรียนจบแพทย์ที่ต่างประเทศมาหลายปี

เขาเพิ่งจะกลับมาที่นี่เพราะได้รับการว่าจ้างจากโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมือง A

แล้วฉีโย่วก็ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลเดียวกัน จากรายงานการรักษาของฉีโย่วที่อยู่ในมือของเขา

ซิงเฉินซี่คิดว่า ‘ฉันจะปล่อยให้โอกาสที่สวรรค์ส่งมาหลุดลอยไปได้อย่างไร?’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด