Chapter 11
แวมไพร์อยู่ในจักรวาลมาร์เวล เนื่องจากมีนักฆ่าเบลดอยู่ซึ่งเป็นหนึ่งในฮีโร่ของจักรวาลมาร์เวล.
แต่ซอดก็ไม่คิดว่าเขาจะได้พบกับแวมไพร์ที่นี่.
"ไม่มีทางอื่นที่จะฆ่าแกได้นอกจากกระสุนเงิน?"
ซอดไม่เชื่อ.
"ไอ้โง่."
ดราเคนด่าและพยายามดิ้นรน แต่ก็พบว่ามือที่จับคอของเขาไม่สั่นไหวเลย ราวกับว่ามือของเขานั้นทำมาจากเหล็ก.
ดราเคนก็พบว่าดวงตาของซอดเปลี่ยนเป็นสีแดงและเกิดความรู้สึกอันตรายโดยธรรมชาติที่ทำให้เขาหวาดกลัว.
ตาของเขาปล่อยลำแสงออกมาไปที่ใบหน้าของดราเคน และจากนั้นคราเคนก็หายไปทันที.
"แปลก ตาเลเซอร์นั้นได้ผลกับแวมไพร์?"
ซอดรู้สึกแปลกใจมากในตอนแรก จากนั้นก็ได้สติในไม่ช้า.
เพราะว่าตาเลเซอร์ มันไม่ใช่ว่าคริปโตเนียนดูดพลังจากแสงอาทิตย์สีเหลืองแล้วปล่อยออกมา? พลังงานจากดวงอาทิตย์...ไม่ต่างจากแสงแดด.
เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ จากนั้นเขาก็พบว่ามีเลือดไหลอยู่ข้างนอกและมีสิ่งที่ดูเหมือนหัวฉีดดับเพลิงก็พ่นเลือดออกมามากมาย คนเต้นก็เต้นกันอย่างดุเดือนและมีความสุขกับการกินเลือด.
ซอดจำได้ว่าพล็อตเรื่องนี้คืออะไร นี่มันไม่ใช่ตอนที่เกิดขึ้นใน เบลดภาค 1?
แต่เขาไม่เห็นชายคนนั้น บางทีเขาอาจจะยังไม่ถึงพล็อตของเขา?
ในเวลาเดียวกัน เพราะการปรากฏตัวของซอด แวมไพร์ที่อาบเลือดล้วนต่างมองเข้ามาและพวกเขาแยกแยะได้ว่าซอดไม่ใช่พวกเดียวกันจากกลิ่น.
"มนุษย์!"
"มันดูดีมากๆ มันคงสิ้นเปลืองเกินไปที่จะกิน."
"เปลี่ยนเขาให้เป็นแวมไพร์ด้วย!"
แวมไพร์หญิงในหมู่พวกเขาเห็นซอดที่สูงและหล่อซึ่งสอดคล้องกับสุนทรียภาพของพวกเขาและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหว.
ซอดมีความมั่นใจในกล้ามเนื้อ,รูปร่างและใบหน้าของเขามาก ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเทียบได้กับเฮนรี่ คาวิลล์ ทั้งหมดแต่เขาก็แข็งแกร่งกว่ามาก.
"มีแวมไพร์มากมายในนิวยอร์ก."
ซอดส่ายหัว ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและอุณหภูมิโดยรอบก็เริ่มสูงขึ้น แต่แวมไพร์กำลังสับสนกับอาหารและความปรารถนาเลยไม่ได้สิ่งเกตเห็นสิ่งนี้ขณะที่วิ่งเข้ามา.
แสงสีแดงกวาดผ่านไปทั่วตามการมองเห็นของซอดและความร้อนที่เร็วก็ทะลุร่างกาย แม้ด้วยตาเลเซอร์ของเขาในตอนนี้ของซอดจะสามารถใช้ได้เพียงแค่ย่างเนื้อเท่านั้น แต่สำหรับแวมไพร์มันก็ไม่ต่างจากศัตรูธรรมชาติและมีแต่ความตาย!
แวมไพร์กลุ่มใหญ่ถูกกำจัดทั้งหมด เมื่อพวกเขาสัมผัสกับแสงสีแดง ก่อนที่แวมไพร์ที่เหลือจะตอบสนอง ซอดก็มาอยู่ด้านหลังพวกเขาและปล่อยลำแสงอีกครั้ง.
แวมไพร์ที่เหลืออีกสองสามตัวคลานซ่อนตัวอยู่ใต้โตีะ ซอดเดินไปเตะโต๊ะที่มีน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมออกไป
"มองพระอาทิตย์สิ."
"หา!!!"
หลังจากนั้นไม่นาน ซอดก็เดินออกจากบาร์.
เขาอยู่ในอารมณ์ดี เพราะรู้ว่าตาเลเซอร์ของเขาทำร้ายแวมไพร์ได้ ซอดจึงอยากหาแวมไพร์มาเล่นด้วย.
หลังจากซอดไปที่มิดไนท์โฮลเตลในนิวยอร์ก ชายผิวดำในเสื้อโค้ทเทรนซ์สีดำและแว่นกันแดดก็ผลักประตูบาร์ออกไป เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่ว่างเปล่าและวุ่นวาย เขาก็ขมวดคิ้ว.
"รสชาติที่คุ้นเคย."
เบลดได้กลิ่นไหม้ของแวมไพร์ที่กลายเป็นขี้เถ้าและด้วยการที่มีขี้เถ้ามากมายทั่วพื้นทำให้เขายืนยันมันได้.
"ฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่สามารถฆ่าแวมไพร์ได้มากมาย."
เบลดยักไหล่และช่วยเพือนร่วมงานของเขาจัดการกับที่เกิดเหตุ อย่างเช่น นาฬิกาและกระเป๋าเงินที่ตกอยู่ท่ามกลางกองขี้เถ้าและเลือด.....การเป็นนักล่าแวมไพร์นี้มันน่าสงสารมากๆ!
คนในมิดไนท์โฮลเตลต่างประหลาดใจ ไวท์เดวิลทำภารกิจที่ได้เงินสูงสำเร็จ ท้ายที่สุดแล้วดราเคนมีพลังมากกว่าจิสต์ มือสังหารที่เขาได้ฆ่าไปนั้นหลายร้อยคน จากนั้นนายจ้างก็เปลี่ยนมาเป็นจ้างนักฆ่ามืออาชีพของมิดไนท์โฮลเตล ทำให้มิดไนท์โฮลเตลยังต้องเสียนักฆ่าไปเป็นจำนวนมาก ตอนนี้มันได้จบลงแล้วโดยไวท์เดวิล มันยังทำให้มิดไนท์โฮลเตลเป็นที่รู้จักมากขึ้น องค์กรนักฆ่าขนาดเล็กเหล่านั้นจะเทียบกับมิดไนท์โฮลเตลของเขาได้อย่างไง!
นอกจากไวท์เดวิลก็ดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะออกจาเท็กซัส คนระดับสูงของมิดไนท์โฮลเตล 'เดอะ แบล็กลิส' ตัดสินใจที่จะเลือกผู้จัดการคนใหม่ของโรงแรมในคืนนี้จากนั้นก็ตั้งมิดไนท์โฮลเตลในเมืองเท็กซัส.
ซอดลังเลที่จะออกไปเพราะเขาไม่ต้องการการติดต่อที่รวดเร็ว ตอนนี้เขาอ่อนแอเกินไป ถ้าเขาบังเอิญวิ่งไปเจอฮัลค์ที่วิ่งเข้ามา เขาอาจจะถูกทุบตายทันที
ดังนั้นซอดจึงกลับไปที่เท็กซัสและทำกิจประจำวันของเขาต่อ นั่นก็คือการอาบแดด
ผิวคริปโตเนียนไม่เคยเปลี่ยนสี ไม่อย่างนั้นซอดอาจจะดำจนเป็นถ่านหลังจากการอาบแดดและแสงจันทร์เกือบทั้งวัน
หลังจากช่วงเวลาผ่านไปอย่างสงบสุข วิลล่ากลางฟาร์มปศุสัตว์ก็ถูกสร้างขึ้น มิดไนท์โฮลเตลในเท็กซัสก็เสร็จสมบูรณ์ ผู้จัดการก็เข้ามาทักทายซอด ท้ายที่สุดที่เขาสามารถกลายมาเป็นผู้จัดการมิดไนท์โฮลเตลได้ก็เพราะไวท์เดวิล ผู้จัดการคนนี้เลยทรงอำนาจมาก.
ซอดแปลกใจกับเดอะ แบล็กลิส พวกเขาทำได้ดีทีเดียว เพื่อความสะดวกพวกเขาเลยสร้างโรงแรมมาเพื่อเขา.
แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือเขาสามารถบินได้แล้ว.
หลังจากผ่านการอาบแดดมาเป็นเวลานาน พลังของซอดก็ค่อยๆตื่นขึ้น สนามพลังชีวภาพที่ผิดปกติก็ยังไม่เกิด แต่มันสามารถบินได้แล้ว.
เมื่อเขาบิน ซอดจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่เหนือเมฆเพราะมันเป็นจุดรับแดดที่ดีที่สุด.
มันอาจไม่ดีที่สุดนัก มันเป็นเพราะเขายังบินไม่สูงขนาดนั้น.
ซอดที่อยู่เหนือเมฆรู้สึกว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นตลอดเวลา ความรู้สึกที่ได้บินนั้นยอดเยี่ยมเช่นกันและความรู้สึกในการมองโลกก็มีสีสันมากขึ้น.
"ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมทุกคนถึงอยากจะมีเครื่องบินเป็นตัวเอง"
ซอดมองลงไปที่เครื่องบินพลเรือนที่บินอยู่ใต้ก้อนเมฆและกำลังลงสู่พื้น.
จูดลีย์กำลังย่างเนื้อ เขาเองก็กินเก่งมาก ถ้าไม่ได้กำไรมากพอเขาก็ไม่อาจจ่ายได้มากนัก.
ซอดไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงกินได้มากขนานี้ เขาไม่ใช่ชาวไซย่าและเขาก็ไม่ได้กินมากเมื่ออยู่บนคริปตอน.
ภายในไม่กี่อึดใจ ซอดก็กินวัวแองกัสไปทั่งตัวและดวงตาของจูดลีย์ก็เบิกกว้าง.
และซอดก็ยังคิดถึงแผนการต่อไปของเขาระหว่างกินอาหารเช่นการหาเงินให้มากๆ เพราะเขาต้องการหม้อทองคำอันแรกด้วยการลงทุนในสตาร์กอินดัสทรีย์.
แน่นอน ว่าสตาร์กอินดัสทรีย์ในตอนนี้ยังหายาก มันจะไม่ลงมาจนกว่าโทนี่สตาร์กจะหายไป แต่นั้นไม่ใช่สำหรับกลุ่มผลิตภันฑ์มือถือที่ดีที่สุด กลุ่มผลิตภันฑ์มือถือที่ดีที่สุดคือตอนที่โทนี่สตาร์กกลับมาและประกาศปิดแผนกอาวุธ ในเวลานั้นราคาหุ้นของสตาร์กอินดัสทรีย์จะดิ่งลงเหว ในเวลานั้นซอดจะได้ช้อนหุ้นมากมายเท่าที่เขาต้องการ และหลังจากที่โทนี่สตาร์กประกาศว่าเขาเป็นไอรอนแมน เงินของเขาจะเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่า!
และตั้งแต่นั้น เขาก็ไม่ต้องมาทำงานที่ลำบากพวกนี้ เขาจะมีเงินมากมายขณะที่นั่งเฉยๆ.
"เพราะงั้น เราต้องทำงานให้หนักในตอนนี้."
ซอดทำภารกิจไป 5 ภารกิจที่มีเงินรางวัลมากกว่า 1 ล้านภายในลมหายใจเดียว ทำให้มิดไนท์โฮลเตลตกใจ ไวท์เดวิลมีความมั่นใจมากไปหรือเปล่า?