Ep.884 - เลเวล A

4/4

Ep.884 - เลเวล A

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสนามรบ ผู้คนไม่มีเวลาให้พูดจา บอกเล่าความในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวันชิชาง ที่เกือบได้รับบาดเจ็บสาหัสหรืออาจถึงชีวิต

หวันชิชางเห็นฉินเฟิงปรากฏตัว จากนั้นสะบั้นศีรษะเลเวล S แทบหักห้ามใจไม่ไหว ปรบมือโห่ร้องเชยชม

“ช่างร้ายกาจ!! หนุ่มน้อยอนาคตไกล! ฉันติดหนี้เธอ จากนี้ไปต้องการอะไร ขอแค่พูดมันออกมา!”

แม้ประโยคนี้จะดูหยาบคาย และมันสั้นๆกระชับเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยของหวันชิชาง

ฉินเฟิงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

เผ่ามังกรตัวเดิมที่สู้กับหวันชิชางตั้งแต่แรก เวลานี้ไม่เพียงถูกมนุษย์นับพันยิงขับไล่ แต่ยังเห็นสหายตกตายต่อหน้าต่อตา มันก็โกรธจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ปรารถนาเข้าไปฉีกทึ้งฉินเฟิงเป็นชิ้นๆ

“ข้าจะฆ่าเจ้า!!”

เลเวล S ระเบิดเสียงคำราม พลังอำนาจอันแข็งกร้าวระเบิดจากตัวมัน

ฉินเฟิงเก็บมีดกษัตริย์คราม ใช้ออกด้วยทักษะหมื่นภูติ ร่างเงานับหมื่นถูดปลดปล่อยออกมา กระจายไปตามซากปรักหักพัง แยกย้ายไปทุกทิศทาง

เผ่ามังกรทิ้งดิ่งตามลงไป เสมือนดั่งระเบิดนิวเคลียร์ พื้นดินในระยะนับพันเมตรเกิดการระเบิดเป็นวงกว้าง กระทั่งโล่ป้องกันยังบุบเป็นหลุมลึก

อย่างไรก็ตาม ร่างของฉินเฟิงได้หายวับไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย

แม้หวันชิชางจะได้รับบาดเจ็บ แต่สองขายังเดินได้ เข้าต่อกรกับเผ่ามังกร มิให้มันอาละวาดอีก

ส่วนฉินเฟิง ตอนนี้ซุ่มซ่อนอยู่ในเงามืด เตรียมหาจังหวะโจมตีอีกครั้ง

ยังไงก็ตาม ปัจจุบันทุกคนตระหนักได้แล้วถึงการดำรงอยู่ของฉินเฟิง ผู้คนจำนวนมากจับตาดูตำแหน่งที่ฉินเฟิงหายตัวไป เผ่ามังกรถึงขั้นพยายามค้นหาร่องรอยของฉินเฟิง เพื่อคำนวณเวลาในการโจมตีครั้งต่อไปของเขา แต่ไม่มีใครสามารถหาฉินเฟิงพบ

กระทั่งผู้ใช้พลังเลเวล S หรือชาวเผ่ามังกรก็ยังหาไม่เจอ

“อ๊าากกกก!!!”

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น ในที่สุดสายตาของผู้คนที่ใช้มองฉินเฟิงก็แปรเปลี่ยนไป

ปรากฏว่ามันดังมาจากอีกตำแหน่ง ถึงจุดนี้ ในที่สุดสายตาของผู้คนก็เปลี่ยนจากฉินเฟิง ไปหยุดลงบนสนามรบอีกจุดหนึ่ง

หอกยาวของหลงถิง แทงทะลุเข้าร่างหนึ่งในสองเผ่ามังกรคู่ต่อสู้

“ตาย!!”

หลงถิงคำรามเกรี้ยวกราด ปลายหอกแหลมปะทุพลังอันน่าสะพรึงกลัว จากนั้นแตกตัวระเบิดออก

เลเวล S จากเผ่ามังกร ถูกอำนาจทำลายระเบิดแยกแขนขากระจัดกระจาย โดนหลงถิงสังหารลงทั้งๆอย่างนั้น

เมื่อทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดนี้ สถานการณ์ในปัจจุบัน พลิกตาลปัตทันใด

แม้ยังคงเป็นการต่อสู้ในรูปแบบห้าคู่ อย่างไรก็ตาม ด้วยความแข็งแกร่งของหลงถิง และฉินเฟิงที่ยังซ่อนตัวอยู่ ส่งผลให้จิตต่อสู้ของเผ่ามังกรเริ่มถดถอย

การมาเยือนมิติแห่งนี้ ปรากฏว่าคู่ต่อสู้ดันไม่ง่ายเหมือนที่พวกเขาคิด และในเวลานี้ ยังมีอีกคนหนึ่งซ่อนอยู่ในเงามืด มือสังหารที่สามารถลอบฆ่าพวกตนได้ทุกเมื่อ

แน่นอนว่าผู้รุกรานจากเผ่ามังกรย่อมไม่ทราบ ว่าจนถึงเมื่อสักครูที่ผ่านมา ฉินเฟิงลอบเร้นอยู่ไม่ไกลเกินกว่า 1,000 จากสนามรบของหลงถิง เฝ้ารอจนกระทั่งมังกรเลเวล S ตาย เข้าดูดซับพลังงานของคู่ต่อสู้

ด้วยประการฉะนี้เอง ส่งผลให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิง พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

ชาวเผ่ามังกรมีชื่อเสียงในด้านความแข็งแกร่งร่างกาย ดังนั้นตัวตนทรงอำนาจตกตายแค่คนเดียว มันก็มากพอให้ฉินเฟิงเติมเต็มเงื่อนไขในการยกระดับ

การเติมเต็มนี้ ยกเขาขึ้นสู่จุดสูงสุดของเลเวล B โดยตรง และกำลังจะไปถึงเลเวล A ในไม่ช้า

กลิ่นอายของฉินเฟิง รั่วไหลออกมาอย่างมิอาจปกปิด

ทันใดนั้นจิตสังหารพลันสะท้อนในแววตาของเผ่ามังกรที่กำลังต่อสู้กับหลงถิง

“เจ้าฆ่าเผ่าพันธุ์ของเรา อย่าหวังเลยว่าจะหนีพ้น ตายซะ!!!”

เสียงคำรามด้วยความโกรธดังกึกก้อง เผ่ามังกรย่ำเท้าลงจากท้องฟ้า

เผ่ามังกรครอบครองพลังงานในร่างกายเช่นเดียวกับกำลังภายในของมนุษย์ ดังนั้นการเหยียบย่ำนี้ ปลดปล่อยอำนาจทำลายล้างกวาดฮือออกไปในคราวเดียว ระเบิดอำนาจมโหฬาร ทิ้งดิ่งลงจากในระยะ 100 เมตรเบื้องบน

ฝ่าเท้าเสมือนดั่งไท่ซานกดทับลงมา อำนาจทำลายยังกลบกลืนทุกหนแห่ง

เมื่อไม่มีทางหลบหนี โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิง กางออกทันใด

หึ่ง!

โล่ปราณกำลังภายลุกฮือ มันทนทานและหนาแน่นอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในฐานะมนุษย์ที่สามารถยกระดับกำลังภายในไปถึงเลเวล S ฉินเฟิงจึงไม่เกรงกลัวฝ่าเท้านี้ของเผ่ามังกร

ปงงงงง!!!

ตึกรามโดยรอบถูกบดขยี้กลายเป็นก้อนกรวดจากแรงปะทะ

ทางฝั่งฉินเฟิง แม้ป้องกันได้ แต่เขากลับไม่รู้สึกสบายใจเอาซะเลย!

เนื่องจากพอปะทะ ก็เกิดพลังงานตลบอบอวลอยู่ในอากาศ พวกมันเหล่านั้นจึงถูกดูดซึมเข้ามาในร่างของฉินเฟิงโดยอัตโนมัติ ซึมซับเข้ามามากขึ้น มากขึ้นจนกล้ามเนื้อตามตัวเขาโป่งพอง

สถานการณ์นี้บ่งบอกว่ากายเนื้อรับพลังงานไม่ไหวแล้ว ฉินเฟิงจำเป็นต้องยกระดับขึ้นเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A ในทันที

แต่ ณ ที่แห่งนี้ มันไม่เหมาะเอาซะเลยที่จะใช้วิวัฒนาการ ทุกการวิวัฒนาการอันยิ่งใหญ่ จำเป็นต้องมาพร้อมสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบ ไม่ต้องกล่าวถึงฉินเฟิงที่คิดเปลี่ยนระดับจักรพรรดิของตน เขาจำเป็นต้องหยิบสมบัติที่มีประสิทธิภาพมากมายออกมาใช้ เพื่อก้าวสู่ประตูซึ่งเป็นอาณาเขตเดียวกันกับสัตว์เทวะ

หากถูกขัดขวางในตอนนี้ การวิวัฒนาการจะไม่มีทางสมบูรณ์แบบอีกต่อไป!

แล้วคนอย่างฉินเฟิง จะยอมทำลายรากฐานของตนได้อย่างไร?

โล่ปราณกำลังภายในต้านทานฝ่าเท้านี้อย่างบ้าคลั่ง เผ่ามังกรก็ไม่คิดหยุด ทุ่มสุดแรงเกิด ระหว่างนั้นหลงถิงแทรกเข้ามา พัวพันกับเผ่ามังกร ไม่ยอมปล่อยฉินเฟิงให้ได้รับอันตราย

เรื่องราวในวันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าฉินเฟิงแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ศึกครั้งนี้ ช่วยให้หลงถิงได้รู้จักฉินเฟิงมากยิ่งขึ้น

เธอไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคนๆหนึ่ง อาศัยเพียงความแข็งแกร่งในเลเวล B8 ทว่ากลับสามารถฆ่าเผ่ามังกรเลเวล S ได้อย่างกะทันหัน แม้นั่นจะเป็นการลอบสังหารก็ตาม

แต่ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว!

“ไป๋หลี!” ฉินเฟิงตะโกนคำหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใด ไป๋หลีเปิดใช้งานอบิลิตี้ของเธอ ชักนำฉินเฟิงออกจากที่นี่ทันที

และไม่ใช่แค่เทเลพอร์ตธรรมดาๆ แต่ทั้งสองออกมาไกลมากกว่า 10,000 เมตร

ช่วงเวลานี้บนท้องถนนรอบข้าง ปรากฏมนุษย์จำนวนมากกำลังอพยพ คนธรรมดาเหล่านี้ กระทั่งแข้งขายังอ่อนแรงเกินกว่าจะเดินไหว แต่ต่อให้ใช้ท้องคลานก็ต้องฉุดลากตัวเองหนีไปให้จงได้ มิฉะนั้นแค่ผลพวงเล็กๆน้อยๆจากการต่อสู้ ก็มากพอแล้วที่จะเปลี่ยนพวกเขาเป็นศพในสภาพไม่มีใครจดจำได้

“ช่วยพาฉันเข้าไปในมิตินั่นของเธอที!” ฉินเฟิงกล่าว ไป๋หลีไม่ชักช้า ลงมือทันใด

ปัจจุบันสถานการณ์ในสนามรบสามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา ดังนั้นฉินเฟิงไม่อาจมัวยกระดับชักช้าอีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้ ฉินเฟิงเลยฉุกคิดถึงมิติประหลาดของไป๋หลีที่กระแสการไหลของเวลาดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

“เข้าใจแล้ว!”

ไป๋หลีเปิดประตูมิติ ฉินเฟิงเอาหัวพุ่งเข้าไปทันที

เมื่อเข้ามาภายใน แม้ฉินเฟิงจะตระหนักว่ากระแสเวลาของที่นี่ไหลเร็วมาก แต่เขาไม่กล้าชักช้า ช่วงเวลานี้กายเนื้อของเขาเหมือนผูกติดด้วยระเบิดเวลา หากไม่ใช่เพราะเขาสะกดมันไว้ เกรงว่าตนคงยกระดับขึ้นเองไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม พลังสมาธิของฉินเฟิงยังไม่ยกระดับถึงเลเวล A ขณะเดียวกัน สมบัติหลายชิ้นที่ฉินเฟิงรวบรวมเอาไว้ ไม่มีอันไหนเหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้เลย

แต่พอลองนึกดูดีๆ ก็เหมือนจะมีอยู่ชิ้นหนึ่ง แต่มันออกจะเสี่ยงสักหน่อย อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงเชื่อ ว่าหากเป็นตัวเขา มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ในมือของฉินเฟิง แก่นคริสตัลสีแดงสดปรากฏขึ้นทันใด

เป็นผลึกโลหิต!

เจ้านี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้วในตอนนี้!

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

ดาวเคราะห์เพชรของฉินเฟิง เริ่มหมุนวนโคจรอย่างบ้าคลั่ง

ทันใดนั้นผลึกโลหิตเริ่มกลายเป็นหมอกจางๆ หลอมละลายเข้ามาในร่างกายของฉินเฟิง เสริมสร้างทุกอนูเซลล์บนตัวเขา!

ท่ามกลางสภาวะเช่นนี้ กายเนื้อของฉินเฟิง เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

เซลล์ทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังอยู่ในสถานะอิ่มตัว เริ่มดูดซับพลังงานสีเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ

พลังงานสีเลือดนี้ เดิมเป็นการช่วยเพิ่มพูนพลังชีวิตรูปแบบหนึ่ง

หลังจากเซลล์อิ่มตัว พริบตาเดียวเซลล์ใหม่ก็เริ่มแยกตัว ส่วนเซลล์เดิม เมื่อไม่อาจดูดซับพลังงานได้มากกว่านี้ ก็ถูกทำลายไป เซลล์ที่ทำให้แก่ชรา ถูกขับออกจากร่างกาย

กระบวนการดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายนอกร่างกายของฉินเฟิง ปรากฏชั้นสะเก็ดผิวหนังผุดขึ้น จากนั้นมีเลือดสดๆไหลออกมา และหากสังเกตดีๆ จะพบว่าทั้งหมดล้วนเป็นเลือดสกปรก!

ขณะที่ภายในร่างของฉินเฟิง มันได้เกิดการเปลี่ยนโฉมปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ราวกับว่ากุญแจมือที่คอยพันธนาการถูกปลดออก

ภายในตัวของฉินเฟิง บังเกิดเสียงคำรามดั่งฟ้าร้องก้องกังวานออกมาคราหนึ่ง ดั่งพลุสัญญาณที่แจ้งเตือนว่า--

--เขาได้เหยียบย่างสู่เลเวล A เป็นที่เรียบร้อย!

ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ในที่สุดก็กลับมายืนอยู่บนขอบเขตเดิมของชีวิตก่อน ทว่าแม้จะเอ่ยว่ายืนบนขอบเขตเดิม แต่มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมนับสิบนับร้อยเท่า!

อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด!

พลังงานจากผลึกโลหิต ยังไม่หมด มันยังคงแทรกซึมเสริมสร้างอย่างต่อเนื่อง