ตอนที่แล้วบทที่ 61 โทร์วแมนริงส์ (6)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 63 โทร์วแมนริงส์ (8)

บทที่ 62 โทร์วแมนริงส์ (7)


วันถัดมา

ในตอนเช้าสมาชิกในเซอร์เคิลทั้งหมดที่อยู่ในเมืองมารวมตัวกันที่หน้าบ้านของเบเนียง

นี่เป็นสิ่งที่จิเซลลันสั่งเมื่อคืนก่อน

"เกิดอะไรขึ้น? มันเช้ามากเลยนะ”

“มีประกาศสำคัญนะสิ”

“ฉันหวังว่ามันจะไม่ใช่การประกาศยุบเซอร์เคิลนะ…”

“เรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้นหรอก”

แม้ว่าพวกเขาจะพูดอย่างนั้น แต่สมาชิกที่มารวมตัวก็รู้สึกไม่สบายใจ

เมื่อมาสเตอร์โอเซลอาร์เจนโต้เสียชีวิตและเซอร์เคิลราวเดอร์ได้ทิ้งพวกเขาไป มันเป็นจุดเริ่มที่ทำให้เกิดการล่มสลายของโทร์วแมนริงส์

หลังจากนั้นแม้แต่สมาชิกที่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของเซอร์เคิลก็ยังลาออก

ตอนนี้มีเพียงคนที่ยังให้ความสำคัญกับความต่อเนื่องของเซอร์เคิลมากกว่าชีวิตของพวกเขาที่ยังคงอยู่

นั่นคือสาเหตุที่พวกเขาวิตกกังวล

ไม่ว่าพวกเขาต้องการที่จะรักษาเซอร์เคิลไม่ให้หลุดออกจากกันมากแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์ถ้าหากเบเนียงประกาศว่าเธอจะสลายเซอร์เคิลทิ้ง

ณ จุดนี้เธอเป็นคนเดียวที่มีความสามารถพอที่จะจัดการกับหน้าที่ของเซอร์เคิลมาสเตอร์ได้

“ภาระอาจจะหนักเกินไปสำหรับมาสเตอร์เบเนียง”

“ไอ้บาซิลิสก์เทลพวกนั้น...เราน่าจะทำลายไอ้พวกนั้นตอนที่เรายังมีอำนาจ”

“ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะสามารถสร้างพันธมิตรได้เร็วขนาดนี้”

“มาสเตอร์เฟลิกซ์เป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ เมื่อถึงเวลาที่เราสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างก็เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว”

ขณะที่สมาชิกสนทนากันประตูหน้าบ้านก็เปิดออกและเบเนียงก็เดินออกมา

เธอยืนอยู่หน้าประตูและค่อยๆสังเกตฝูงชน

“สวัสดีตอนเช้าสมาชิกที่รักของโทร์วแมนริงส์”

เสียงของเธอดังก้องในอากาศยามเช้า

สมาชิกชอบเสียงของเธอเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่แห่งนี้ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยป่าทึบมันไม่เพียงพอที่จะพูดได้ว่าเสียงของเบเนียงนั้นไพเราะราวกับแสงอาทิตย์ยามเช้า

“ฉันมีประกาศสำคัญที่จะต้องทำในวันนี้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันจึงเรียกพวกคุณทุกคนมาที่นี่ตั้งแต่เช้า”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำประกาศสมาชิกในเซอร์เคิลก็เริ่มคุยกันเสียงดังอีกครั้ง

พวกเขายังมองไปที่ใบหน้าของเบเนียงเพื่อดูว่าพวกเขาจะพบคำใบ้เกี่ยวกับลักษณะของการประกาศดังกล่าวหรือไม่

เบเนียงยิ้มเพื่อคลายความวิตกกังวล

“ฉันอยากจะแนะนำเซอร์เคิลราวเดอร์คนใหม่ให้กับเซอร์เคิลของเรา”

"ฮะ?"

“ราวเดอร์?”

“ท…มันกะทันหันเกินไป”

มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดโดยสิ้นเชิง

เซอร์เคิลราวเดอร์เป็นที่สองในการบังคับบัญชาของเซอร์เคิลและในเวลาเดียวกันพวกเขาแบ่งปันความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้บริหารและสมาชิกของเซอร์เคิลมากกว่ามาสเตอร์เซอร์เคิลเสียอีก

นอกจากนี้พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมภายนอกมากกว่าเซอร์เคิลมาสเตอร์ดังนั้นในแง่นี่ถือได้ว่าเขาเป็นหน้าเป็นตาของเซอร์เคิลเลยทีเดียว

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเซอร์เคิลราวเดอร์จึงเป็นสมาชิกที่ต้องมีความสามารถมากที่สุดในเซอร์เคิล

มันคือการแสดงเบื้องหน้าที่แข็งแกร่งให้กับเซอร์เคิลอื่นๆได้เห็น

“เธอกำลังแต่งตั้งออเนอ เอียเซิกหรือเปล่า?”

“เขายังไม่กลับมาเลยเพราะเขายังคงทำภารกิจระยะยาวในจีโอทาบูอยู่”

“ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นออเนอจิเซลลัน”

“อันที่จริง…เขาก็สมควรที่จะได้รับมัน”

จิเซลลันเป็นสมาชิกที่อยู่ในเซอร์เคิลมานานที่สุดและเป็นเหมือนบิดาในเซอร์เคิล

ดังนั้นสมาชิกสามารถยอมรับได้ถ้าหากเป็นเขา

แต่พวกเขาสงสัยว่าจิเซลลันจะมีความสามารถเพียงพอสำหรับบทบาทนี้หรือไม่ก็เท่านั่นเอง

นิสัยและประสบการณ์ของเขาไม่มีที่ติ มีเพียงแต่พรสวรรค์ของเขาที่ฉุดรั้งเขาไว้

‘มาสเตอร์เบเนียงรู้ดี นั่นคือเหตุผลที่เธอรักษาตำแหน่งเซอร์เคิลราวเดอร์ให้ว่างเอาไว้…’

‘เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ?’

พวกเขาทั้งหมดให้ความสนใจกับคำพูดของเบเนียงในขณะที่พวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความคาดหวังของตัวเอง

อีกครั้งประตูบ้านก็เปิดออกและมีคนก้าวออกมา

สมาชิกที่คิดว่าน่าจะเป็นใบหน้าของจิเซลลันแต่ต้องเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

"ผู้ชายคนนี้…"

“เขาไม่ใช่แขกของเราเหรอ?”

“นั่นมันเฟรย์เบลคนิ”

"อย่างไรก็ตามทำไมเขาถึงออกมาจากบ้านของมาสเตอร์เบเนียง?”

เฟรย์ยืนอยู่ใกล้ๆกับเบเนียงโดยไม่สนใจสายตาของคนหลายสิบคนตรงหน้าเขา

จิเซลลันและเฟอานน์ซึ่งติดตามเขาออกจากบ้านได้นั่งประกบข้างของเขา

“…”

การแสดงออกของสมาชิกในเซอร์เคิลดูแปลกใจ

เพราะฉากดังกล่าวทำให้พวกเขาเหมือนเห็นผู้บริหารกำลังติดตามผู้บังคับบัญชาของตน

จากนั้นเสียงของเบเนียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ให้ฉันแนะนำพวกคุณอย่างเป็นทางการ นี่คือเฟรย์เบลค ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาจะเป็นเซอร์เคิลราวเดอร์คนใหม่ของโทร์วแมนริงส์”

“อะไร! นั่นมันอะไร…?”

“จากคนนอกสู่เซอร์เคิลราวเดอร์ …?”

นี่คือสิ่งที่สมาชิกในเซอร์เคิลส่วนใหญ่รวมตัวกันและเริ่มประท้วงทันที

เฟรย์มองเบเนียงที่พยักหน้าเล็กน้อย

“ฉันชื่อเฟรย์เบลคและตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะเป็นเซอร์เคิลราวเดอร์ของพวกคุณ ฉันแน่ใจว่าพวกคุณหลายคนอยากจะร้องเรียนเกี่ยวกับการที่ฉันกลายมาเป็นเซอร์เคิลราวเดอร์ ท้ายที่สุดนี่มันไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะยอมรับกันได้ง่ายๆ”

สมาชิกในเซอร์เคิลส่วนใหญ่จ้องมองเฟรย์ด้วยความไม่พอใจ

แม้ว่าพวกเขาจะแสร้งทำเป็นไม่ แต่ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมรับเจ้าหนูหน้าอ่อนคนนี้ว่าเป็นหัวหน้า

เบเนียงเห็นสิ่งนี้และกำปั้นของเธออย่างเงียบๆ

เธอนึกถึงคำพูดที่เฟรย์เคยบอกเธอเมื่อคืนก่อน

‘สมาชิกในเซอร์เคิลจะไม่เชื่อฟังง่ายๆ ผมมีความคิดดีๆขอผมลองจัดการเองหน่อยนะ '

เบเนียงจิเซลลันและเฟอานน์ต่างมองมาที่เขาอย่างประหม่า

‘คุณต้องพูดให้ดีๆนะเฟรย์’

“พวกคุณสงสัยในคุณสมบัติของผมหรอ?”

"…ฮะ?"

เบเนียงทำเสียงประหลาดใจโดยไม่รู้ตัวขณะที่จิเซลลันจ้องไปที่เฟรย์ด้วยความตกใจ

“เป็นเพราะไม่มีใครมีความสามารถในเซอร์เคิลนี้ มือใหม่อย่างฉันซึ่งเพิ่งเข้าร่วมเมื่อวานเลยได้รับอนุญาตให้เป็นเซอร์เคิลราวเดอร์ยังไงละ”

“เขาพูดว่าอะไรนะ?”

“เขาแค่พูดว่า…”

ใบหน้าของสมาชิกในเซอร์เคิลเปลียนเป็นความโกรธที่น่ากลัว

อย่างไรก็ตามในขณะที่ได้รับสายตาที่ดุร้ายของพวกเขาเฟรย์ยิ้มเพียงเท่านั้น

“หากพวกคุณมีข้อร้องเรียนใดๆ ฉันจะยอมรับมัน ฉันแค่ต้องพิสูจน์ความสามารถของฉัน หากมีใครก็ตามที่มีความสามารถพอที่จะแตะคอเสื้อของฉันได้ฉันก็จะลาออกจากตำแหน่งเซอร์เคิลราวเดอร์และจะให้ของขวัญแก่พวกคุณด้วย”

เขาชี้ไปที่ต่างหูของเขา

“นี่คือต่างหูไต้ฝุ่นเป็นไอเทมที่สร้างขึ้นโดยตรงโดยของลูคัสโทรว์แมนซึ่งพวกคุณเคารพอย่างสุดซึ้ง”

เฟรย์มองตามสายตาที่จับจ้องของสมาชิกในเซอร์เคิล

“ตอนนี้เราจะเริ่มกันเลยไหม?”

* * *

“…คุณคิดว่าเฟรย์กำลังทำอะไรอยู่?”

จิเซลลันพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อถามคำถามของเฟอานน์

“การตัดสินใจครั้งนี้มีโอกาสสูงมากที่จะถูกต่อต้านจากสมาชิกในเซอร์เคิลแต่เฟรย์…ไม่สิราวเดอร์เฟรย์ยืนกรานที่จะทำมัน ฉันคิดว่ามีสองเหตุผลสำหรับเรื่องนี้”

"สอง?"

“อย่างแรกคือการรวบรวมความไม่พอใจของสมาชิกในเซอร์เคิลไว้ที่ตัวเขาเอง นี่อาจจะไม่ได้รับการพิจารณาจากมาสเตอร์เบเนียงและอีกอย่าง…ฉันคิดว่าเขาต้องการทดสอบสมาชิกในเซอร์เคิลด้วยตัวของเขาเอง”

จิเซลลันยักไหล่

“อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการคาดเดาของฉันเราต้องรอดูกันต่อไป อีกอย่างพวกเราทั้งสามได้ตัดสินใจที่จะเดิมพันกับเขาไปแล้วนิ”

เฟอานน์พยักหน้าและหันกลับไปมองเฟรย์อย่างซับซ้อน

* * *

เฟรย์ยืนอยู่ในที่โล่งกว้าง

สมาชิกในเซอร์เคิลที่โกรธแค้นล้อมรอบเขา ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความขุ่นเคืองใจ

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสมาชิกของเซอร์เคิลที่กำลังล่มสลายแต่พวกเขาก็ยังคงมีความภาคภูมิใจ

“ผมขอประลองคนแรก”

"ชื่อ"

“ฟิโอกันทาร์”

“สายอะไร”

“ผมเป็นพ่อมด”

“เริ่มได้ทุกเมือ”

“…คุณจะไม่เตรียมตัวเหรอ?”

เฟรย์ที่เอามือห้อยข้างตัว ทำตัวดูเหมือนเขาไม่จำเป็นต้องป้องกันตัวเองในขณะนั้น

เป็นเรื่องปกติที่ฟิโอจะถามคำถามเช่นนี้ แต่การแสดงออกของเฟรย์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

“ถ้าฉันคิดว่าการโจมตีของคุณรุนแรงพอละก็ ฉันถึงจะป้องกัน”

"…ไฟเออร์บอล!"

มันเป็นคาถาพื้นฐานระดับ 2 ดาว อย่างไรก็ตามมันเป็นคาถาที่ฟิโอถนัดสุดนั้นก็คือเวทย์ไฟ

เฟรย์ไม่ได้ขยับ

เพื่อความแม่นยำเขาไม่แม้แต่จะขยับคิ้ว

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย

เสียงแตก

ก่อนที่ไฟเออร์บอลจะมาถึงตัวเขา เฟรย์ก็โยนลูกไฟออกมา

ลูกไฟที่มีขนาดเดียวและกันพละกำลังเท่ากัน

ลูกไฟทั้งสองชนกันกลางอากาศก่อให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ที่สลายไปอย่างรวดเร็ว

ฟิโอตัวสั่นอย่างเงียบๆ

“เวทมนตร์ที่ไร้ร่าย!”

“อย่างน้อยเขาต้องอยู่ในระดับ 5 ดาว! ไม่สิเขาอาจจะเป็นพ่อมดระดับ 6 ดาวด้วยซ้ำ!”

หากเป็นเช่นนั้นเขาก็เป็นเหมาะสมกับต่ำแหน่งราวเดอร์ในเซอร์เคิลที่กำลังย้ำแย่

แต่จากมุมมองของโทร์วแมนริงส์เขาเป็นชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์ที่พวกเขาต้องการตัวมากแม้ว่าพวกเขาจะต้องขอร้องก็ตาม

ตอนนี้สมาชิกในเซอร์เคิลเข้าใจการตัดสินใจที่แปลกใหม่ของเบเนียงแล้ว

“ฟิโอกันทาร์คาถาไฟเป็นความถนัดของคุณหรือเปล่า?”

“ถูกต้องแล้ว”

ฟิโอเต็มไปด้วยความกังวลใจโดยไม่รู้ตัวความรู้สึกกลัวเข้ามาแทนที่ความขุ่นเคืองที่เขาเคยรู้สึกมาก่อน

นี่คือพ่อมดระดับ 6 ดาว

“บอกลักษณะของคาถาไฟให้ฉันฟังหน่อย”

"ใช่? อา...มันคือพลังทำลายล้างที่สูง”

"ถูกต้อง ลักษณะทั่วไปคือมีพลังทำลายล้างมากกว่าคุณสมบัติเวทมนตร์อื่นๆ แน่นอนว่านั่นหมายความว่ามันควบคุมได้ยากกว่า แต่พลังอำนาจของเวทย์ไฟก็น่าดึงดูดพอสมควรแม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม”

ฟิโอพยักหน้า

คำพูดของเฟรย์เป็นสิ่งที่พ่อมดทุกคนที่เดินตามเส้นทางแห่งเวทมนตร์ไฟรู้ดี

“ไฟเออร์บอลของคุณที่เพิ่งแสดงให้ฉันเห็นว่ามีความสมบูรณ์แบบที่ดีทีเดียว คุณต้องฝึกฝนทั้งวันทั้งคืนแน่ๆ”

“ขอบคุณ ขอบคุณ”

หัวใจของฟิโอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในทันที

ท้ายที่สุดนั่นเป็นพ่อมดระดับ 6 ที่ยกย่องเขาโดยตรง

ฟิโอรู้สึกราวกับว่าการฝึกหนักของเขาได้รับการตรวจสอบแล้ว

“แน่นอนว่ายังมีบางสิ่งที่คุณต้องแก้ไขอยู่บ้าง รู้สึกเหมือนคุณให้ความสำคัญในการรักษารูปร่างมากเกินความจำเป็น คุณควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มพลัง ท้ายที่สุดแล้วการสร้างไฟเออร์บอลที่มีรูปร่างสมบูรณ์ไม่ได้เพิ่มพลังของมันแต่อย่างใด”

เป็นคำแนะนำที่ใช้ได้จริง อย่างน้อยก็ไม่ใช่คำแนะนำที่ใครจะสามารถเรียนรู้ได้แม้กระทั่งจากครูที่ดีที่สุดในสถาบันการศึกษา

เฟรย์รู้ดีว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่การศึกษาแบบในโรงเรียน

“ผมไม่รู้วิธีเพิ่มพลัง…”

“การฝึกด้านจิตภาพต้องมาก่อน จินตนาการเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพ่อมด อย่างน้อยก็ในอดีตที่ผ่านมา…”

เฟรย์ส่ายหัวขณะมองไปที่ฟิโอด้วยสีหน้าค่อนข้างห่างเหิน

“…เพื่อนคนหนึ่งของฉันได้รับบาดแผลไฟลวกทั่วร่างกาย บาดแผลไหม้รุนแรงมากจนไม่สามารถรักษาให้หายได้แม้จะใช้เวทมนตร์ก็ตาม หลังจากเหตุการณ์นั้นเขาก็กลัวไฟแต่ในที่สุดเขาก็เอาชนะมันได้และหลังจากฝึกอย่างหนักเขาก็กลายเป็นผู้มีอำนาจที่ทรงพลังที่สุดในเวทย์มนต์ไฟ”

ฟิโอฟังเฟรย์อย่างตั้งใจ

เสียงของเฟรย์ซึ่งดูเหมือนจะฟังดูเฉยเมยในตอนแรกอยู่ในหูของเขาเบาๆกลายเป็นสายลมอ่อนๆในป่า

ลองคิดดูครั้งสุดท้ายที่เขามีคนสอนคือเมื่อไหร่กัน?

“นี่เป็นไปได้เพราะเขารู้สึกได้ถึงความดุเดือดของไฟกับร่างกายของเขา แน่นอนว่านั่นเป็นกรณีที่รุนแรงแต่สิ่งสำคัญคือต้องนึกถึงภาพในระดับนั้น ตั้งแต่วันนี้คุณควรพยายามสร้างภาพที่เป็นรูปธรรมของไฟในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงความเสี่ยงด้วย”

“ขอบคุณ - ขอบคุณสำหรับการสอนของคุณ”

“เอาละกลับไปได้แล้ว”

ฟิโอก้มศีรษะด้วยความเคารพกับท่าทางของชายหนุ่มอายุ 20 ปีที่อยู่ตรงหน้าเขาและก้าวถอยหลัง

จากนั้นหนึ่งในสมาชิกที่อยู่ด้านข้างก็เข้ามาหาเขาและสะกิดข้างๆเขา

"เมื่อกี้มันอะไรกัน? นายตะโกนออกไปว่านายจะขัดขวางเขาในตำแหน่งราวเดอร์นิ?”

“ไม่นะนั่นคือสิ่งที่ฉันคิดจะทำจริงๆ…”

“เขาแข็งแกร่งแค่ไหน?”

ฟิโอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนกระซิบ

“…ฉันไม่รู้ แต่เขาน่าจะเป็นพ่อมดระดับ 6 ดาวเป็นอย่างน้อย เขาเป็นคนที่มีความสามารถที่เซอร์เคิลของเราต้องการมาก”

“นายสูญเสียความภาคภูมิใจและเริ่มก้มศีรษะของนายแล้วหรือ?”

สมาชิกในเซอร์เคิลดูถูกเขาแต่ฟิโอยังคงส่ายหัว

“มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดให้พวกนายได้ แต่พวกนายควรขอคำแนะนำจากเขา เพราะคำแนะนำจากราวเดอร์เฟรย์จะช่วยพวกนายแน่”

"โอ้ไม่นะ"

ฟีโอเรียกเขาว่าราวเดอร์ไปแล้ว?

สมาชิกในเซอร์เคิลขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ไอ้คนไร้ค่า ฉันนะแตกต่างจากแก ไม่ว่าพ่อมดคนนั้นจะน่าทึ่งแค่ไหนฉันก็ไม่มีวันก้มหัวให้เขา แกอยู่นี่และดูสิ่งที่ฉันจะทำให้ เซอร์เคิลราวเดอร์นั้นหน้าแหกแน่”

หลังจากหัวเราะเขาหันหลังและเดินไปหาเฟรย์

ฟิโอเพียงแค่กอดอก

หลังจากนั้นไม่นาน

“…ราวเดอร์เฟรย์เป็นสมบัติของเซอร์เคิลของเราจริงๆ”

“…”

ฟิโอจ้องมองเขาด้วยสีหน้าเงียบๆแต่สมาชิกคนนั้นไม่ได้สังเกตเห็นฟีโอที่กำลังกำหมัดและจ้องมองเฟรย์ไม่ใช่เพราะแค้นแต่เป็นการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความชื่นชม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด