ตอนที่ 3 เริ่มแผนการเปลี่ยนบทตัวประกอบ
ตอนที่ 3
บุรุษรูปร่างสง่างามที่กำลังนั่งคิดหลายๆอย่างอยู่ภายในเรือนเล็กๆใจกลางยอดเขาหวนหลง บัดนี้ใบหน้าของลู่หานนั้นเต็มไปด้วยคำตอบ หลังจากที่ไต่ตรองดูพลันครุ่นคิดมาเป็นเวลานานเรื่องเกี่ยวกับร่างกายนี้
ลู่หานเป็นตัวละครที่มีดีอย่างเดียวคือหน้าตาที่หล่อเหลาหาบุรุษผู้ใดเปรียบ โดยคนเขียนเคยบรรยายเอาไว้ว่า เยี่ยหวนศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักอักษรสวรรค์ที่เป็นตัวเอกของเรื่องที่มีใบหน้าและรูปร่างที่หล่อเหลาสง่างามแต่ก็ยังเป็นลองศิษย์น้องแปด
กระนั้นลู่หานก็มีเพียงแค่นั้นจริงๆ ผู้ที่ฝึกฝนพลังบ่มเพาะภายในนิยายเรื่องนี้จะถูกเรียกเอาไว้ว่าผู้ฝึกยุทธ โดยความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธเองก็บ่งบอกได้จากสามสิ่ง
หนึ่งพลังของทักษะบ่มเพาะ สองคุณสมบัติกายา(ร่างกาย) และสามคือ ค่ายกล
พลังบ่มเพาะมันคือระดับที่ผู้ฝึกยุทธ์สามารถบ่มเพาะทักษะของตนเองได้ก้าวหน้าเพียงใด ผู้ฝึกยุทธทุกผู้จะต้องเลือกทักษะบ่มเพาะของตนเองแล้วทำการบ่มเพาะมันให้มีระดับสูงขึ้น โดยทักษะบ่มเพาะเองก็จะมีระดับอยู่ทั้งหมด สิบระดับ และแต่ละระดับก็จะมีขั้นแยกย่อยเป็นสี
- รากฐาน
- กำเนิดพลัง
- เส้นทางแห่งการบ่มเพาะ
- บรรลุพลังบ่มเพาะ
- ก่อกำเนิดสวรรค์
- ฟ้าดิน
- เซียน
- ไร้ขอบเขต
- ราชันย์บรรพกาล
- จักรพรรดินิรันต์
โดยระดับทั้งสิบของทักษะบ่มเพาะก็จะมีขั้นภายในแยกย่อยออกเป็นทั้งหมดห้าขั้นตามสีโดยนี้
- ขาว
- เขียว
- คราม
- แดง
- ทอง
พลังการบ่มเพาะเป็นสิ่งสำคัญหลักในการบ่งบอกพลังของผู้ฝึกยุทธ์ โดยแน่นอนว่าผู้ฝึกยุทธสามารถเลือกทักษะบ่มเพาะในการฝึกตนได้มากกว่าหนึ่งอย่างกระนั้นการที่จะบ่มเพาะทักษะเดียวให้ขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดมันก็แสนจะยากเย็น ผู้ฝึกยุทธบางคนใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะบ่มเพาะทักษะของตนเองให้ขึ้นไปอยู่ในระดับ จักรพรรดินิรันดร์ได้
กระนั้นผู้ที่สร้างชื่อว่าสามารถบ่มเพาะได้มากที่สุดภายในภพดินแดนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นคือมหาปราชญ์แห่งยุคผู้ที่เป็นเจ้าสำนักอักษรสวรรค์
โดยมหาปราชญ์แห่งยุคคือผู้ที่มีทักษะบ่มเพาะระดับจักรพรรดินิรันดร์อยู่ทั้งหมด 10 ทักษะบ่มเพาะ เขาถึงกลายเป็นผู้ที่ทั่วทั้ง 9 ดินแดนยกย่องให้กลายเป็นผู้ที่อยู่สูงเทียมฟ้า
คุณสมบัติกายาเองก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เมื่อคำนึงถึงความแข็งแกร่ง คุณสมบัติของกายาคือคุณสมบัติของร่างกาย ผู้ฝึกยุทธมีร่างกายที่ถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่กำเนิด
คุณสมบัติกายาแบ่งออกเป็นสี่อย่าง
- มนุษย์
- เซียน
- เทพสวรรค์
- จักรพรรดิสวรรค์
คุณสมบัติกายามันคือสิ่งที่จะส่งเสริมระดับการบ่มเพาะ ผู้ที่มีคุณสมบัติกายาระดับจักรพรรดิสวรรค์มีความรวดเร็วในการบ่มเพาะมากกว่าผู้ที่มีคุณสมบัติกายาระดับมนุษย์ถึงหนึ่งร้อยเท่า
โดยการที่นักอ่านทุกคนมองว่าลู่หานเป็นตัวประกอบเพราะแม้ว่าจะเป็นศิษย์ของมหาปราชญ์แห่งยุค แต่เขากลับมีความรวดเร็วในการบ่มเพาะระดับมนุษย์และมีคุณสมบัติกายาระดับมนุษย์ ไม่ได้มีจุดเด่นอันใดมากพอเลยที่จะเป็นศิษย์ของมหาจอมปราชญ์
หลังจากที่ลู่หานนั่งครุ่นคิดอยู่นานเขาเองก็ได้คำตอบ วิธีการเปลี่ยนตัวประกอบตัวนี้ให้กลายเป็นตัวเอก ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่างแล้วปล่อยให้เรื่องมันเป็นไปตามที่เขาอ่านมาเขาจะต้องพบเจอความทุกข์ทรมานอีกมากนักในร่างของตัวประกอบตัวนี้
การโดนพิษของจ้าวอสรพิษเล่นงานในครั้งนี้มันเป็นเพียงแค่การบาดเจ็บเล็กๆเท่านั้นเมื่อเทียบกับสิ่งที่ลู่หานจะเจอในอนาคต
แต่ตอนการได้รับรู้ถึงอาการบาดเจ็บสามารถสามารผ่านพ้นมาได้ลู่หานก็รู้ได้ทันทีว่าเขาต้องทำอันใดสักอย่าง ใครกันที่รู้ว่ากาลข้างหน้าตนเองจะเจออะไรแล้วจะวิ่งเข้าไปหา
เมื่อลองอิงจากนิยายที่เรื่องจ้าวกระบี่สวรรค์สยบฟ้าที่เขาอ่านมันทำให้เขารู้ว่าตอนนี้มันเพิ่งจะเริ่มเรื่องเท่านั้น
ลู่หานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ลุกขึ้นพลางพากายของตนเองเดินออกไปด้านนอก เมื่อย่างกายออกมาด้านนอกเรือนไม้หลังเก่าๆของตนเอง
สายลมมันอ่อนพัดโชยเย้าหยอกต้นหญ้าน้อยใหญ่ที่กำลังปกคลุมพื้นที่บริเวณยอดเขาแห่งนี้ให้เอนเอียงไปตามสายลม อาภรณ์สีน้ำเงินเข้มของบุรุษที่เพิ่งย่างกายออกมาพัดปลิวไสวไปตามสายลมพร้อมเพียงกับเรือนผมสีดำที่รวบมัดเอาไว้เป็นอย่างดี
อย่างแรกที่ลู่หานทำมันคือการออดไปเดินสำรวจพื้นที่บริเวณยอดเขาหวนหลงแห่งนี้ ยอดเขาหวนหลงเขาเคยเพียงแค่อ่านถึงทัศนียภาพของมันเพียงเท่านั้นไม่เคยมาชมด้วยสายตาของตนเอง ลู่หานใช้เวลาช่วงเช้าไปถึงหนึ่งชั่วยามในการเดินสำรวจมันทุกซอกทุกมุม
ยอดเขาลูกใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางหลายหมู่ร้อยทรัพยากรอื่นๆก็มีครบครัน มีถ้ำขนาดที่ไม่ใหญ่มากนักตั้งอยู่บริเวณทางทิศใต้และมีสระน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณทางทิศเหนือและตามข้างทางก็มีต้นผลไม้มากมายตามจุดต่างๆ
ยอดเขาหวนหลงเป็นเขาที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูเขาอักษรที่เป็นเขาแกนกลางของสำนักอักษรสวรรค์ เพราะฉะนั้นตรงทางทิศเหนือมันจะมีสะพานขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงระหว่างยอดเขาหวนหลงไปถึงยอดเขาอักษร
ไม่เพียงแค่นั้นทางสุดด้านทิศตะวันออกจะมีสะพานเชื่อมโยงกับยอดเขาในการดูแลของศิษย์พี่มู่หลานและทางทิศตะวันตกจะมีสะพานเชื่อมโยงกับยอดเขาของศิษย์พี่หก ส่วนทางทิศใต้มันคือทางเดินลงจากเขา
ลู่หานที่เดินสำรวจพื้นที่หลายหมู่บนยอดเขาของตนเองมาถึงหนึ่งชั่วยามก็เหนื่อยล้าจนมานั่งพักใต้ต้นไม้ทางทิศใต้ของยอดเขาหวนหลง
“เฮ้อ!!! เราจะต้องใช้เวลากี่ปีกันเนี่ยกว่าจะสามารถทำมันได้สำเร็จ” ลู่หานกล่าวออกมาอย่างหนักใจ ยามแรกมองดูเหมือนง่ายที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของตัวประกอบผู้นี้แต่เมื่อคิดจะลงมือทำแล้วมันยากเย็นราวกลับวิ่งไปบนเส้นทางที่ไม่รู้จุดหมาย
ลู่หานนั่งมองต้นหญ้าที่กำลังเอนเอียงไปตามสายลมพลางครุ่นคิดบางอย่างอีกครั้ง
ยามนี้ลู่หานกำลังคิดเรื่องที่จะทำอันใดให้พลังบ่มเพาะของตนเองรุกหน้าด้วยคุณสมบัติกายาระดับมนุษย์ของเขา การที่เขาจะเอาชีวิตรอดได้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมีพลังบ่มเพาะที่สูงล้ำกว่านี้
ยามนี้ภายในร่างกายของลู่หานมีทักษะบ่มเพาะที่ชื่อว่า รากฐาน มันไม่ใช่ทักษะที่สูงส่งอันใดเพราะว่าทักษะนี้มันมีอยู่ภายในร่างกายมนุษย์ทุกผู้อยู่แล้ว
รากฐานเป็นทักษะพื้นฐานที่ผู้ฝึกยุทธทุกคนจะต้องบ่มเพาะ เพราะว่ามันเป็นเส้นทางที่ผู้ฝึกยุทธจะต้องเดินผ่านทุกผู้อยู่แล้ว ถ้าไม่สามารถบ่มเพาะจนทักษะบ่มเพาะรากฐาน ขึ้นสู่ระดับ บรรลุพลังการบ่มเพาะ ร่างกายก็จะไม่สามารถเรียนรู้ทักษะบ่มเพาะอื่นๆได้ ถ้าจะให้เปรียบก็คือทักษะบ่มเพาะรากฐานมันคือพื้นฐานของพลังบ่มเพาะที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย
ตอนนี้ตามเนื้อเรื่องแล้วทักษะบ่มเพาะรากฐานของร่างกายนี้มันยังอยู่เพียงแค่ระดับ กำเนิดพลังขั้นสีเขียวเท่านั้น ผิดจากศิษย์ขั้นสองคนอื่นที่ตอนนี้คงจะสามารถเรียนรู้ทักษะบ่มเพาะที่สองหรือมากกว่านั้นเรียบร้อยไปแล้ว
การที่ลู่หานผู้นี้มีคุณสมบัติกายาระดับมนุษย์มันเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้จริงๆ ซึ่งการจะเปลี่ยนคุณสมบัติกายาที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ต่อให้มีทักษะการบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมเพียงใดแต่ถ้าคุณสมบัติกายาเป็นเพียงแค่ระดับมนุษย์มันก็ไม่สามารถเพิ่มความรวดเร็วในการบ่มเพาะให้รุกหน้าได้
เนื้อเรื่องส่วนที่บอกกล่าวไว้ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติกายาได้ มันจะบอกเอาไว้ภายในนิยายเรื่องจ้าวกระบี่สวรรค์ตอนที่ประมาณ 2,000 นิดๆ
สิ่งที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติกายาได้นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า เหรียญสวรรค์
หนึ่งเหรียญทำนายโชคชะตาเมื่อโยนขึ้นไปแล้วจะสามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติกายาของตนเองได้แน่นอนว่าผลของมันคือการสุ่ม ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะได้รับคุณสมบัติกายาระดับอะไร
บางผู้ที่มีคุณสมบัติกายาระดับเทพสวรรค์แต่อยากได้คุณสมบัติกายาระดับจักรพรรดิสวรรค์เมื่อลองใช้เหรียญสวรรค์ทำนายโชคชะตาใหม่อีกครั้งเขาอาจจะได้คุณสมบัติร่างกายระดับมนุษย์ก็ได้ เหรียญสวรรค์ใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งเมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วไม่สามารถย้อนกลับ
ตอนนี้ร่างกายของลู่หานเป็นคุณสมบัติกายาระดับมนุษย์การจะลองสุ่มโยนเหรียญสวรรค์สักครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่การที่จะได้รับเหรียญสวรรค์มันยากเย็นเพราะว่าเหรียญสวรรค์เป็นของวิเศษของเผ่าเทพที่มีไม่มากนัก ถ้าเขาจำไม่ผิดอีกสองปีเหรียญสวรรค์จะถูกจัดประมูลขึ้นที่ดินแดนมู่
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำก็คือการหาเงินให้มากๆแล้วเก็บเอาไว้เพื่อใช้ในการประมูลเหรียญสวรรค์ ถ้าลู่หานจำไม่ผิดตอนนั้นเหรียญสวรรค์จะถูกปิดประมูลไปด้วยราคา 1 ล้านตำลึง สองปีเขาต้องหาเงินให้ได้ถึง 1 ล้านตำลึง
การจะหาเงินหนึ่งล้านตำลึงด้วยเวลาสองปีด้วยทรัพยากรที่มีอยู่ในตอนนี้มันอาจจะยากเย็นไปเสียหน่อยแต่สำหรับเขาที่รู้เรื่องราวที่ยังไม่เกิดขึ้นทั้งหมดมันก็ช่วยได้มาก
ลู่หานที่นั่งพักเอาแรงมาสักพักก่อนลุกขึ้นจากใต้ต้นไม้ใหญ่พลางมุ่งตรงไปยังบันไดขนาดใหญ่ที่อยู่ทางทิศใต้ มันคือทางลงเขาหวนหลง
เมื่อเดินไปถึงบันไดหินขนาดใหญ่ลากยาวกว่าหนึ่งหมื่นขั้นไปสู่ด้านล่าง มันคือบททดสอบแรกของทุกภูเขาที่จะขึ้นมาที่ยอดเขาทั้งแปดที่ล้อมรอบเป็นบริวารของภูเขาอักษรที่เป็นใจกลางของสำนักอักษรสวรรค์
บุคคลทั่วไปก็ต้องเดินขึ้นลงหนึ่งหมื่นขั้นแต่ไม่ใช่สำหรับศิษย์ลำดับที่ 2 ลู่หานยกมือข้างขวาของตนเองขึ้นมา นิ้วกลางข้างขวามีแหวนหยกที่สลักเลขแปดสวมใส่อยู่
“เอาละถึงจะไม่เคยลองทำก็เถอะ” ลู่หานเอ่ยพลางกลั้นใจ มือข้างขวาที่มีแหวนหยกอยู่ยื่นออกไปทันใดนั้นเองพลังบ่มเพาะอันน้อยนิดภายในร่างกายของลู่หานก็ตอบสนอง
เบื้องหน้ามีค่ายกลวิญญาณปรากฏขึ้นเป็นประตูมิติ ดวงตาของบุรุษวัยยี่สิบปีที่สง่างามมองมันด้วยตาเป็นประกายราวกับพบเจอของเล่นใหม่
“ว้าว!!! มันออกมาจริงๆด้วย” ลู่หานอุทานออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจอย่างเห็นได้ชัด เขายืนมองสำรวจมันอยู่ครู่นึงก่อนจะพาร่างของตนเองมุ่งเข้าไปภายในประตูมิติที่กำเนิดขึ้น
จบตอน